ตอนที่ 61 สิ่งที่เธอชอบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 61 สิ่งที่เธอชอบ
ต๭นที่ 61 สิ่งที่เธอชอบ แต่ว่า กู้เหยายังคงไม่มีความกล้า ก็แค่ยังขาดอีกนิดหน่อย “คุณไปที่นั้นก่อนเถอะ ฉันยังมีงานอีกนิดหน่อย” โปรดให้เวลาฉันอีกสักพัก ให้ฉันได้ยอมรับมัน เกิดความเงียบที่ปลายสายเป็นเวลานาน กู้เหยาถึงจะได้ยินเสียงตอบกลับมา “ได้” กู้เหยาถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอตอบกลับโม่ข่ายอย่างง่ายๆ แล้ววางสายลง ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว คนที่สำนักงานก็เตรียมจะออกไปกินข้าวแล้ว กู้เหยาวางโทรศัพท์ลง เตรียมเก็บของแล้วออกไป คนที่ตั้งใจเก็บของอย่างเธอ แน่นอนว่าคงมองไม่เห็นโม่ข่ายที่อยู่ข้างนอกแผนกธุรกิจ สำนักงานนวัตกรรมเทคโนโลยีมักจะมีช่องกระจก จากข้างนอกก็สามารถมองข้ามไปถึงอีกแผนกได้ ณเวลานี้เอง โม่ขายยังยืนอยู่ด้านนอกของแผนกธุรกิจ เขามองกู้เหยาอย่างเงียบๆ เขายืนอยู่ตรงนี้อย่างเงียบๆ เขามองกู้เหยาที่กำลังนั่งอยู่ในสำนักงานและก้มหัวอย่างครุ่นคิด ใบหน้าเห็นได้อย่างชัดเจน เขาเองก็อดคิดไม่ได้ เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ เกี่ยวกับเขาหรือเปล่า คิดอยู่เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหาเธอ เธอสะดุ้งขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ แล้วหัวเราะออกมาเหมือนดอกไม้ฤดูร้อนที่เบ่งบาน ในชีวิตของเขาพบเจอหญิงสาวมากมาย สวยกว่ากู้เหยาก็มีมากมาย แต่กู้เหยานั้นยิ้มสวยมากที่สุดแล้ว ยิ้มสดใส ทำให้คนหลงใหล แค่เพียงวินาที นั้นทำให้เขาเหม่อลอย โม่ข่ายอยากจะได้รอยยิ้มนั้นเป็นของตัวเอง อยากจะบอกทุกคนว่า เธอคือของเขา เขาถามเธอด้วยความสุภาพ ด้านนอกกระจกนั้น เขามองเธอด้วยความสงสัย ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกอึดอัด ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้ปฏิเสธเขาปฏิเสธความสัมพันธ์ของพวกเขา จู่ๆ เขาก็อยากจะจับมือเธอขึ้นมาไม่สนใจคำสัญญาใดๆและตะโกนออกมาดังๆ เธอคือภรรยาของเขา แต่เขาก็อดที่จะเสียใจไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะเสียใจแทนเธอ แล้วเขาก็พูดว่า “ได้” จากนั้น เธอที่ดูเหมือนโล่งใจนั้นก็เข้าไปอยู่ในสายตาของเขา เหลียงฮุ่ยอี๋ที่ทำงานเสร็จแล้วเดินเข้ามาข้างๆโม่ข่าย พูดด้วยเสียงต่ำ “ประธานโม่ จะให้เรียกคุณนายท่านไปด้วยกันไหมครับ” ในสำนักงานนั้น กู้เหยายังคงเก็บของอยู่ โม่ข่ายมองอย่างเงียบๆ เขาหันหน้ามาสบตากับเหลียงฮุ่ยอี๋ และพูดว่า“ไปกันเถอะ ไม่ต้องรอแล้ว” ในขณะที่รอกู้เหยามาถึงห้องรับรองของโรงแรมปั่ยเหอนั้น โม่ข่ายก็ได้รอเธอนานแล้ว พอเปิดประตู เธอก็มองเห็นโม่ข่ายที่นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง เขาดูเหมือนกำลังมองอะไรอยู่นั้น แดดที่อยู่ข้างนอกนั้นสาดเข้ามาที่หน้าผากและลงมาที่ด้านขางของใบหน้าเขา ความชัดเจนเด็ดเดี่ยวยิ่งทำให้ผู้พบเห็นใจเต็นแรง ภาพที่เห็นตรงหน้านั้น ทำให้กู้เหยารู้สึกได้ถึงความโดดเดี่ยวของเขา อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหา และโอบกอดเขาจากข้างหลัง เพียงแต่ กู้เหยายังไม่ได้ขยับตัว โม่ข่ายกลับรู้แล้วว่าเป็นเธอ เขาเอียงไปด้านข้าง พร้อมกับพูดว่า “คุณมาแล้วหรอ” แสงแดดตกกระทบเข้าไปในนัยน์ตาของเขาเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน กู้เหยารู้สึกถึงใบหน้าของเธอออกร้อน รีบร้อนหลีกเลี่ยงสายตาที่สดใสของเขา แล้วกระแอ้มออกมาเบาๆ และนั่งลงตรงหน้าของโม่ข่าย วันนี้กินอาหารทะเล หอยเชลล์นึ่ง แกงกะหรี่ปู ผัดเต้าหู้สด กุ้งยัดไส้มะระ กุ้งโรยพริกไทย ผัดผัก รสชาติมีอ่อนมีเข้ม เหมาะสมกับพวกเขาสองคน กู้เหยาชอบกินอาหารทะเลมาก แต่น่าเสียดายที่บ้านเกิดของเธออยู่ในเมืองจิงตู ของทะเลไม่เยอะมาก ภายหลังมีเรือเข้ามาที่เจียงเป่ย เธอก็มีของทะเลกินสม่ำเสมอ เธอมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะ รู้สึกแปลกใจแล้วมองไปที่โม่ข่าย แต่ก็ไม่รู้ด้วยความบังเอิญหรืออะไร โม่ข่ายรู้อยู่เสมอว่าเธอชอบกินอะไร เหมือนคนที่รู้จักกันมานานแล้ว “ทำไม” มู่ข่ายโดนเธอมองอย่างสงสัย “ไม่มีอะไร” กู้เหยากัดเต้าหู้เข้าไปในปาก รสชาติหอมอร่อย เธอพอใจและยิ้มออกมา “เพียงแค่สงสัยว่า ทำไมคุณถึงรู้นักว่าฉันชอบกินอะไร” “เพราะว่า” ผมไปสืบข้อมูลของคุณมาแล้ว คำข้างหลังนั้น หยุดอยู่ที่คอของเขา โม่ข่าอยากจะพูดอย่างไรก็ไม่ออกมาจากปาก เขาเคยทุ่มแรงกายแรงใจสืบประวัติกู้เหยา รู้ดีว่าเธอผ่านอะไรมา เคยชอบอะไร แต่ว่าพวกนี้เป็นเหตุผลจริงๆหรือ เขาทำไมต้องยอมเสียแรงกายแรงใจมาทำให้เธอมีความสุขด้วยหละ “อืม” พอเห็นโม่ข่ายหยุดพูด กู้เหยากระพริบตา “ไม่มีอะไร คุณชอบก็พอ” โม่ข่ายพูด เขานึกไม่ออกว่าตัวเองไม่สามารถตอบคำถามได้ ดังนั้นเขาจึงตัดการสนทนา มันเป็นคำตอบที่เป็นทางการ ในเวลานี้เองกู้เหยาก็ไม่รู่ว่าจะตอบกลับอย่างไร ได้แค่พูดออกมาว่าขอบคุณ แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อไป สองคนนั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ และก็ไม่รู้ว่าเงียบไปนานเท่าไร โม่ข่ายพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันออกมาด้วยความสงสัย “คุณไม่ชอบกุ้งโรยพริกไทยหรอ” กู้เหยาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับ ตัวเองกินอาหารทุกอย่าง ยกเว้นแต่กุ้งโรยพริกไทย เขาทานเข้าไปด้วย สังเกตเธอไปด้วยอย่างนั้นหรือ แม้แต่จุดเล็กๆนี้ยังสังเกตเห็น “ชอบสิ” เธอยิ้มออกมา เธอชอบกินกุ้งโรยพริกไทยมาก ปกติทานคนเดียวสามารถทานได้ทั้งจาน เพียงแค่ กุ้งโรยพริกไทยแม้จะอร่อย แต่แกะออกมาทานนั้นเป็นเรื่องยาก อีกอย่างท่าทางตอนเธอกินมันคงน่าจะเกลียด ดังนั้น เธอเลือกที่จะไม่ทานต่อหน้าโม่ข่าย แต่โม่ข่ายกลับไม่คิดอย่างนั้น กุ้งโรยพริกไทยแกะยากนั้น เขาเองก็ใช่จะไม่รู้ ทุกครั้งที่ไปทานกุ้งโรยพริกไทยกับเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่ามักจะออดอ้อนให้คุณพ่อแกะกุ้งให้เสมอ เพราะว่าเธอแกะเองไม่เป็น แกะเองทีไรก็จะทำให้ตัวเองเจ็บตัวเสมอ คุณแม่ก็เอาใจเธอเหลือเกิน ทุกครั้งจะแกะกุ้งทั้งจานให้เธอ กู้เหยาพูดว่าชอบ แต่กลับเลือกที่จะไม่กิน คงเป็นเพราะเหตุผลนี้หละมั้ง ช่างเถอะ โม่ข่ายหยิบถุงมือพาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งขึ้นมาใส่แล้วแกะกุ้งให้เธอ แล้วนึกย้อนไปตอนคุณแม่แกะกุ้ง เขาไม่ชอบกินกุ้ง แน่นอนว่าไม่เคยแกะกุ้ง ดังนั้นพอได้แกะกุ้งขึ้นมากลับดูเหมือนแกะไม่เป็น กู้เหยามองเขาที่กำลังยุ่งอยู่กับการแกะกุ้ง เธอเองก็หยิบกุ้งขึ้นมา “แกะอย่างนี้ต่างหาก” เธอพูดด้วย แกะไปด้วย เธอใช้มือแกะไปที่หัวของกุ้ง ก่อนที่จะใช้ตะเกียบลอกตัวกุ้งออกมา เรียบร้อย เนื้อกุ้งที่แสนอร่อยก็ออกมาสำเร็จ โม่ข่ายมองอย่างแปลกใจ เขาเองก็อยากจะลอง อยากจะลองทำตามกู้เหยาดูบ้าง หยิบตะเกียบขึ้นมา แต่ลอกแล้วลอกอีก ก็ไม่สามารถลอกเปลือกกุ้งออกได้ กู้เหยามองเขาที่กำลังตั้งใจเหมือนเด็กอยู่นั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่กลับโดนโม่ข่ายมองกลับ “มาช่วยฉันสิ” โม่ข่ายพูด กู้เหยาหยิบกุ้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่กลับได้ยินโม่ข่ายพูดว่า “มือประกบมือ” เขาพูดอย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นเรื่องปกติ กู้เหยามองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาว ทันใดนั้นหน้าเธอก็แดงก่ำขึ้น แค่แกะกุ้งแค่นั้นเอง เธอจะหน้าแดงทำไมนะ เธอพยักหน้า ละทิ้งความคิดแปลกๆนั้น แล้วลุกขึ้น เดินเข้าไปข้างๆโม่ข่าย โม่ข่ายนั่งอยู่ กู้เหยายืนอยู่ เธอก้มลงไป และมือของเธอก็ประกบเข้าที่มือของโม่ข่าย และสอนแบบมือประกบมือ
已经是最新一章了
加载中