ตอนที่ 71 ละเมิดเจ้านายใหญ่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 71 ละเมิดเจ้านายใหญ่
ต๭นที่ 71 ละเมิดเจ้านายใหญ่ ช่วงเวลาสุดสัปดาห์ โม่ข่ายทำงานอยู่ห้องหนังสือ เธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียง ถึงดูแล้วจะน่าเบื่อ แต่กู้เหยาชอบชีวิตที่สงบสุขแบบนี้มาก ราวกับเป็น——ช่วงเวลาที่เงียบสงบ! วันนี้โม่ข่ายจู่ๆก็บอกว่าอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก เพื่อขอโทษเรื่องเมื่อคืนวานหรอ? ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ กู้เหยาก็คิดว่าเขาคิดแบบนี้แล้วกัน บังคับยิ้มออกมาแล้วพูด “ตอนเที่ยงฉันมีนัดคุยธุระ ออกไปเดินเล่นกับคุณสายหน่อยได้ไหม?” “อืม” โม่ข่ายพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมาก จากนั้นก็หันศีรษะมองนอกหน้าต่าง เห็นแผ่นหลังโดดเดี่ยวของเขา กู้เหยาจู่ๆก็ใจอ่อน แล้วพูดเสริมว่า “ฉันแค่ออกไปคุยกับคนนั้น ใช้เวลาไม่นานหรอก” สัญญาว่าจะไปเจอกู้ซิน จุดประสงค์ที่ง่ายมากของกูเหยาก็คือไปถามคุณแม่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ไม่ได้อยากคุยกับกู้ซินมากนัก โม่ข่ายหันศีรษะกลับมา ภายในดวงตาลึกซึ้งเกิดประกายเล็กน้อย “ผมจะไปทานข้าวเป็นเพื่อนคุณได้ไหม?” เขาถามคำถาม รอเธอตอบ กู้เหยาไปเจอกู้ซิน คนคนนั้นเป็นความทรงจำที่แย่มากในชีวิตเธอ สัญชาตญาณกู้เหยาไม่อยากให้โม่ข่ายไปกับเธอ โม่ข่ายคือปัจจุบันของเธอ คืออนาคตของเธอ เรื่องในอดีตของเธอจะจัดการให้สะอาดหมดจด ไม่อาจลากเขาเข้าไปสกปรกเปรอะเปื้อนได้ แต่เธอก็ใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธโม่ข่าย คิดอยู่นานไม่รู้ว่าควรพูดว่าอย่างไร ได้ยินโม่ข่ายพูดขึ้นอีก “คุณไปล้างหน้าแปรงฟัน ผมจะไปรอคุณทานข้าวเที่ยงก่อน” เขาเดินมา อุ้มเหมียนเหมียนเดินไปถึงห้องนั่งเล่น ตอนเขาวางเหมียนเหมียนไว้บนโซฟา สายตาก็จ้องมันอย่างเร่าร้อน “บ๊อกๆๆ......” เหมียนเหมียนฉลาดมาก รู้สึกถึงสายตาที่ไม่ค่อยดีของโม่ข่ายและใช้วิธีตัวเองมาขัดขวางเขา แต่เห่าไปเห่ามา เสียงของเหมียนเหมียนก็อ่อนลง ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป เพียงแค่มองเขา บรรยากาศรอบตัวเขาก็มีอำนาจกดดันมัน ถ้ามันพูดได้ล่ะก็ จะร้องเรียกแม่ให้พาออกไปไกลๆอย่างแน่นอน ไม่อยากเล่นกับผู้ชายเย็นชาสันโดษแบบนี้ โบ๋วๆ—— ผู้ชายคนนนี้น่ากลัวเกินไป ทำไมต้องใช้สายตาน่ากลัวแบบนี้มองมันด้วยนะ? ช่างเถอะ สู้เขาไม่ได้ มันวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากแม่ แต่พอวิ่งไป โม่ข่ายก็ยื่นมือออกไปจับเหมียนเหมียนกลับมา และลูบหัวมันที่เลียนแบบท่าทางมาจากกู้เหยา “เป็นเด็กดีนะ” โบ๋วๆ—— เหมียนเหมียนนอนอยู่ไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าเจ้าบ้านี่จะหักคอมันเสีย โม่ข่ายลูบหัวมันอีกครั้ง สำหรับคนที่เป็นโรครักความสะอาดคนหนึ่งแล้ว เขาไม่เคยสัมผัสสัตว์ตัวน้อยประเภทนี้มาก่อน รับเจ้าตัวน้อยนี่มาเพราะว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่กู้เหยาให้ความสำคัญมาก เธอปฏิบัติกับมันเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่คบกัน เขาก็พบว่า ที่จริงเขาก็ไม่ได้เกลียดมันอย่างที่จินตนาการไว้ บางครั้งก็น่ารักมาก โดยเฉพาะตอนที่มันทำให้กู้เหยามีความสุข มันทำให้กู้เหยายิ้มง่าย แต่ผู้ชายอย่างเขาทำไม่ได้ กู้เหยาล้างหน้าแปรงฟันออกมา ได้เห็นภาพแบบนี้ เหมียนเหมียนขดตัวอยู่ข้างกายโม่ข่ายอย่างไม่ค่อยสบายตัว โม่ข่ายกำลังลูบหัวมันเบาๆ ตอนแรกเธอก็ยังเป็นห่วงมากว่าโม่ข่ายจะรับเหมียนเหมียนไม่ได้ แต่ผ่านระยะเวลาการสังเกตมา โม่ข่ายแค่ไม่ชอบแสดงออกเท่านั้น ที่จริงแล้วเขาก็ชอบเหมียนเหมียนนั่นแหละ แต่อย่างไรก็ตาม เหมียนเหมียนของเธอน่ารักขนาดนี้ จะมีใครไม่ชอบมันได้อย่างไรกัน? “เหมียนเหมียน หนูเล่นอะไรกับคุณลุงโม่น่ะ?” กู้เหยาเดินมาข้างพวกเขา และลูบหัวเหมียนเหมียน คุณลุงโม่? โม่ข่ายไม่พอใจสามพยางค์นี้มา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพูด “นี่กู้เหยา ผมเป็นสามีคุณนะ” ไม่รูว่าทำไมจู่ๆเขาถึงเน้นเรื่องนี้อีก กู้เหยามองเขาอย่างสับสนแล้วพยักหน้า “ฉันรู้” เธอเลยกำลังเน้น เรื่องเมื่อคืนที่เขาทับเธอมันถูกกฎหมายไหม? ทำไมถึงนึกถึงเรื่องเมื่อคืนวาน ตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่คิดอีก ตกลงกันไว้แล้วว่าจะใช้ชีวิตด้วยกันอย่างดี กู้เหยาอยากจะตบหน้าตัวเองสักทีนึง โม่ข่าย: “……” โม่ข่ายไม่ได้บ่นแล้ว กู้เหยาอุ้มเหมียนเหมียนขึ้นมา “ไป แม่เอาอะไรให้หนูกิน กินอิ่มแล้วเราไปเดินเล่นกัน” มื้อกลางวันป้าเฉินเป็นคนเตรียมและส่งมาให้ เป็นกับข้าวในครัวเรือนง่ายๆ แต่รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว กู้เหยาทานอย่างมีความสุข โม่ข่ายไม่ได้ขยับตะเกียบมาก บางครั้งสายตาก็มองไปที่ใบหน้าของกู้เหยา หลายครั้ง เธอก็ยิ้มออกมาบางๆ พูดอย่างอ่อนโยน ให้ความรู้สึกเหมือนล่องเรืออยู่ในความสงบ ราวกับว่าไม่มีใครและเรื่องใดๆสามารถมาทำลายทะเลสาบในใจเธอได้อีกต่อไป “นี่กู้เหยา เดี๋ยวผมขับรถไปส่งคุณดีกว่า” ทนอยู่นาน โม่ข่ายก็พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป “อ๋อ โอเค” โม่ข่ายทานข้าว ตอบรับโดยที่ศีรษะไม่ยกขึ้น …… งานเลี้ยงการกุศลเมื่อคืนวาน สามารถบอกได้ว่าเป็นการรวมตัวคนดังทั้งหมดในเจียงเป่ย แต่เหชียวหนานจิ่งกลับถูกไล่ออกมา ถึงจะไม่ได้เชิญให้สื่อมาปรากฏตัว เรื่องนี้ก็แพร่สะพัดไปในวงการบันเทิงอย่างรวดเร็ว และได้ยินถึงหูของเหชียวหนานจิ่ง มันไม่ได้มาถึงหูของเขาหรอก แต่เขาสั่งให้คนไปสืบมา เขาอยากจะรู้ว่าคนคิดกับเขาอย่างไรกับเรื่องมื่อคืนวาน พอไปสืบก็ได้ยินข่าวที่ไม่ดีมาจริงๆ บอกว่าเขาไม่มีคุณสมบัติ ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ไม่มีมารยาท ที่สำคัญที่สุดคือบอกว่าเขาทำให้ LeoMo ของเซิ่งเทียนไม่พอใจ เมื่อคืนวาน นั่นเป็นครั้งแรกที่เหชียวหนานจิ่งเสียหน้าตั้งแต่เกิดมายี่สิบกว่าปี แถมยังเสียหน้าต่อหน้าคนมากมายอีกด้วย ภาพเหตุการณ์นั้นอย่าว่าแต่เหชียวหนานจิ่งเลย แค่คนธรรมดาก็ถือว่าเสียหน้ามาก เหชียวหนานจิ่งยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ทั้งร่างเหมือนลูกบอลไฟ ดูเหมือนจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ หงหลินเจียงรีบวิ่งเข้ามา วิ่งไปด้วยตะโกนไปด้วย “ท่านเหชียว เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ” เหชียวหนานจิ่งพูดอย่างไม่พอใจ “ตื่นตระหนกอะไร ยังมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นอีก?” หงหลินเจียงส่งหนังสือพิมพ์รอบเช้าของเจียงเป่ยถึงมือเหชียวหนานจิ่ง “ดูสิครับ บริษัทเย่ซื่อจะร่วมมือกับช่วงซิน” “บริษัทเย่ซื่อ?” เหชียวหนานจิ่งหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านอย่างรวดเร็ว แล้วพูดอย่างขุ่นเคือง “ไอ้เย่กูเฉิงมันคิดจะทำอะไรกันแน่?” บริษัทเหชียวซื่อเป็นผู้ประกอบการอันดับหนึ่งในปักกิ่ง บริษัทเย่ซื่อเป็นตัวแทนของทางตอนใต้ สำหรับเหชียวหนานจิ่งแล้ว ถ้าเซิ่งเทียนเลือกที่จะเป็นหุ้นส่วนก็เป็นไปได้มากที่สุดที่จะเลือกจากพวกเขาสองบริษัทนี้ ช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทเหชียวซื่อก็มีร่วมงานกับบริษัทเย่ซื่อเหมือนกัน ทั้งสองบริษัทไม่ถือว่ามีความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน แต่เป็นความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วน เย่กูเฉิงทำไมตอนนี้ถึงได้ไปติดต่อกับคนพรรคนั้น บริษัทเล็กๆอย่างช่วงซินมีอะไรดี? หรือเย่กูเฉิงคิดจะแสดงถึงความใจกว้างของเขาในเวลานี้ ให้ LeoMo ของเซิ่งเทียนได้เห็น ได้เพิ่มโอกาสให้เซิ่งเทียนกับบริษัทเย่ซื่อร่วมงานกัน? กำลังคิดอยู่ โทรศัพท์ของเหชียวหนานจิ่งก็ดังขึ้นมา เพียงได้ยินเสียงเรียกเข้า เขาก็รู้ว่าเป็นตาเฒ่าที่บ้านโทรมา เขาหายใจเข้าลึกๆก่อนรับ “ครับพ่อ......” “ไอบ้าเอ๊ย แกไปทำบ้าอะไรที่เจียงเป่ย? ไม่มีอะไรทำเลยก่อปัญหาให้ฉันหรอ? รีบไสหัวกลับมาเดี๋ยวนี้......” เหชียวหนานจิ่งกำลังจะพูดพ่อเขาก็ด่าเขาซะเละเลย
已经是最新一章了
加载中