ตอนที่ 72 ใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์

ต๭นที่ 72 ใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยถูกคุณพ่อด่าแบบนี้มาก่อน กลืนความโกรธไม่ลง เขาต้องจัดการโม่ข่ายกับกู้เหยาอย่างแน่นอน ถ้าไอนามสกุลโม่นั่นไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอยู่เบื้องหลังนะ จู่ๆบริษัทเย่ซื่อจะไปร่วมมือกับช่วงซินได้อย่างไร และเขาคงไม่วุ่นวายแบบนี้ในงานเลี้ยงการกุศลของเซิ่งเทียนหรอก เหชียวหนานจิ่งกำหมัดแน่น ให้หนังสือพิมพ์ในมือเป็นโม่ข่าย อยากจะเฉือนลำคอโม่ข่าย “อาจิ่ง เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กู้ซินแกล้งทำเป็นไม่รู้ พวกผู้ชายชอบผู้หญิงโง่ไม่ใช่หรือไง ดังนั้นเมื่ออยู่กับเหชียวหนานจิ่ง กู้ซินจะทำตัวให้กลายเป็นผู้หญิงโง่ที่เชื่อฟังและเอาอกเอาใจ เดิมทีเหชียวหนานจิ่งเต็มไปด้วยไฟที่กำลังปะทุ ตอนที่เห็นใบหน้าของกู้ซิน เขาดูเหมือนจะเจอความหวังนิดหน่อย เลยบังคับตัวเองให้ยิ้มออกมาพลางถาม “เธอนัดเหยาเหยาไว้เมื่อไหร่หรอ?” “อืม นัดแล้ว ไปทานข้าวกับเธอวันนี้ตอนเที่ยง” กู้ซินยิ้มหวาน ราวกับว่าไม่ให้เหชียวหนานจิ่งได้คิดถึงผู้หญิงคนอื่นแม้แต่นิดเดียว “เธอเก่งมาก เหมาะจะเป็นภรรยาดีที่ของเหชียวหนานจิ่งคนนี้” เหชียวหนานจิ่งยื่นมือไปกอดกู้ซิน “ไปเถอะ เราไปด้วยกัน” กู้ซินดึงเขาไว้ “อาจิ่ง บางเรื่องต้องมีฉันกับเธอเท่านั้น เธอถึงจะฟัง แต่ถ้ามีคุณด้วยล่ะก็......” กู้ซินต่อรองเหชียวหนานจิ่งข้างกาย ตอนนี้ทุกการกระทำของเขาตกอยู่ในการควบคุมของเธอ เธอชัดเจนมาก เหชียวหนานจิ่งจีบกู้เหยาไม่ติด กู้เหยาเย็นชากับเขาเหมือนคนแปลกหน้าด้วย และเธอนัดกู้เหยา จุดประสงค์จริงๆมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ จะให้เหชียวหนานจิ่งไปทำลายเรื่องดีๆของเธอได้อย่างไรกัน กู้ซินไปถึงสถานที่นัดก่อนเวลา สั่งอาหารที่กู้เหยาชอบมาหลายอย่าง ระหว่างที่รอ กู้ซินก็คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมานานแล้ว ในปีนั้น เธออายุแปดขวบ กู้เหยาหกขวบ พวกเธอย้ายไปบ้านใหม่ตามคุณพ่อไป และได้เจอกับเหชียวหนานจิ่งที่อายุเพียงสิบขวบ คุณพ่อได้เร่งพวกเธอสองพี่น้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้พวกเธอไปเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับคุณชายตระกูลเหชียว ทุกอย่างจะต้องตามใจเขา ไม่อนุญาตให้ทำให้เขาไม่พอใจเด็ดขาด กู้ซินจำคำของคุณพ่อไว้ในใจอย่างแน่วแน่ จากนั้นตราบใดที่คุณชายตระกูลเหชียวอยู่ เธอก็จะดูแลอย่างดีและพิถีพิถัน แต่กู้เหยาที่อายุยังน้อยไม่ได้สนใจมากมาย เพราะไม่รู้เรื่อง ไม่เคยเก็บคำพูดคุณพ่อไว้ในใจ ถึงขั้นเคยกัดเหชียวหนานจิ่งด้วย จะมีใครคาดคิด หลังจากที่กู้เหยากัดเหชียวหนานจิ่งแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองนั้นกลับค่อยๆดีขึ้นมา เหชียวหนานจิ่งถึงขึ้นพูดจาหยาบคายออกไป ต่อจากนี้ถ้าใครกล้ารังแกกู้เหยา จะต้องเสียใจแน่ จากนั้นก็ปฏิบัติกับกู้เหยาดีมากๆ ในตอนนั้น กู้ซินไม่เข้าใจว่าทำไมเหชียวหนานจิ่งต้องดีกับกู้เหยาด้วย เธอยืนต่อหน้าเขา ทำไมเขาไม่เคยเห็นเธอเลย? คุณพ่อตั้งใจให้เธอเข้าใกล้เหชียวหนานจิ่งเหมือนกัน หวังให้เธอคว้าหัวใจของเหชียวหนานจิ่งมา จากนั้นจะได้กลายเป็นคุณหนูในตระกูลเหชียว แต่ในสายตาของเหชียวหนานจิ่งมองเพียงกู้เหยาเท่านั้น ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะพากู้เหยาไปด้วย ไม่เคยมีตำแหน่งของเธอกู้ซินคนนี้เลย วันเวลาผ่านหลายปี พวกเขาก็โตแล้ว คุณพ่อเพื่อเลี้ยงให้เธอโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่ ไม่ใช่เพื่อให้เลี้ยงให้เธอโดดเด่นมากขึ้น แต่อยากให้เธอสามารถช่วยเหชียวหนานจิ่งในภายภาคหน้าได้ ดังนั้น คุณพ่อเลยเตรียมการให้เธอไปเรียนต่อที่อเมริกา ไปเรียนเศรษฐศาสตร์ เพื่อต่อไปเธอจะได้พร้อมที่สุดในการช่วยงานตระกูลเหชียว แต่ตอนที่เธอไปเรียนอเมริกาในปีที่สอง ก็ได้รับข่าวมาจากในประเทศว่าเหชียวหนานจิ่งจะแต่งงานกับกู้เหยา นั่นเป็นผู้ชายที่เธอต้องการมาตลอดนะ และคุณพ่อก็ได้บอกเธอมาตลอด ว่าต่อไปเธอจะได้เป็นเจ้าสาวของเหชียวหนานจิ่ง เขาจะแต่งงานกับกู้เหยาได้อย่างไร? รอเธอสำเร็จการศึกษา กลับประเทศไปเป็นเจ้าสาวที่สวยงามของเหชียวหนานจิ่ง แต่เธอที่อยู่ต่างแดนไกล กลับได้รับข่าวที่เจ็บปวดใจแบบนั้น ในตอนนั้น เธอรู้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมา ดูเหมือนว่าจะถึงวันสิ้นโลกแล้ว จะถึงวันสิ้นโลกแล้ว ความเจ็บปวดในใจสูงยิ่งกว่าคลื่นเสียอีก ความเจ็บปวดในใจเธอ จนกระทั่งการปรากฏตัวขึ้นของผู้ชายอีกคนเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี เธอไม่เคยเจอผู้ชายที่มีคลาส ได้รับการอบรม และใบหน้าที่สมบูรณ์แบบมาก่อน เพียงแค่เหลือบมอง เธอก็ถูกผู้ชายคนนั้นดึงดูดสายตาไว้อย่างลึกซึ้ง ผ่านกระบวนการสอบถามและการสืบมามากมายทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นจบปริญญาเอกคณะการเงินจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ชื่อฉินมู่จือ เรื่องอื่นเกี่ยวกับเขา เธอก็ไม่รู้อะไรอีกเลย ต่อมาเธอได้เจอเขาในห้องโต้วาที เธอได้สร้างโอกาสให้ตัวเอง ให้เขาสังเกตการมีอยู่ของเธอ ในที่สุด เธอก็มีโอกาสได้พูดคุยกับเขา เธอจีบเขาก่อน ส่งอีเมลหาเขา จนถึงขั้นได้กลายเป็นแฟนเขา พูดออกมาก็น่าขำ เขายุ่งมากเหลือเกิน บ่อยครั้งยุ่งจนไม่ได้เจอใคร หลังจากได้เป็นแฟนเขา เธอก็เคยเจอเขาแค่สองครั้งเท่านั้น หนึ่งครั้งเจอในกิจกรรมมิตรภาพในโรงเรียน อีกครั้งคือเธอนัดเจอเขาคือเธอนัดเจอเขา แต่กาแฟแก้วเดียวยังดื่มไม่ทันหมด เขาก็มีธุระต้องไปก่อน พวกเขาเป็นแฟนกันได้สองเดือน แม้แต่มือเธอเขายังไม่เคยจูงเลยด้วยซ้ำ บางทีในใจเขา จำไม่ได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตแบบเธออยู่ ในเมื่อไม่สนใจเธอ แล้วเขาจะยอมเป็นแฟนเธอทำไมตั้งแต่แรก? บางที ได้กลายเป็นแฟน เป็นเพียงความคิดของเธอฝ่ายเดียว ที่จริงแล้วเขาไม่ได้มีความคิดนี้เลย จนกระทั่งต่อมาเธอกลับประเทศ เธอก็ไม่เจอเขาอีก แต่เมื่อเทียบกับผู้ชายที่หน้าตานิสัยโดดเด่น เธอชอบอำนาจมากกว่า เหชียวหนานจิ่งตระกูลเหชียวคือคนที่เธอจีบอย่างแท้จริง เป็นคนที่เธออยากแต่งงานด้วยมาโดยตลอด วันที่กลับประเทศมา เพราะกู้เหยายุ่งกับงานออกแบบ เลยให้เหชียวหนานจิ่งมารับเธอ ครั้งนั้นเธอได้เรียนรู้จากปากของเหชียวหนานจิ่ง หนึ่งวันของกู้เหยานอกจากยุ่งกับการเรียน การทำงาน การเรียนและการทำงาน ก็มีเวลาออกมากับเข้าน้อยมาก อย่าพูดถึงเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์เลย เหชียวหนานจิ่งได้แต่บ่นกับเธอ แต่กู้ซินรู้ว่าโอกาสเธอมาถึงแล้ว ตราบใดที่ระหว่างเขากับกู้เหยามีรอยร้าว เธอก็สามารถเห็นผ่านรอยร้าวนั้น ดังนั้น เธอก็คิดหาวิธีทันที ในฤดูร้อนที่แผดเผา เป็นลมแดดได้ง่ายดายที่สุด เธอจึงฉวยโอกาสนี้ แกล้งเป็นลมในอ้อมกอดของเหชียวหนานจิ่ง ร่างกายผู้ใหญ่ของหญิงชายได้บังเอิญสัมผัสกัน จึงเกิดประกายไฟเป็นธรรมดา ในวันนั้นก่อนพวกเขากลับบ้านก็ได้ไปโรงแรมก่อน เหชียวหนานจิ่งทุกครั้งที่ได้เธอ ปากกลับร้องเรียกแต่ชื่อของกู้เหยา แต่เธอกลับไม่สนใจ คนที่นอนอยู่ข้างเขาก็คือเธออยู่ดี กู้เหยาอยากยุ่งกับการเรียน การทำงาน ก็ให้กู้เหยายุ่งไป เขาเป็นพี่สาว สามารถทำแทนเรื่องที่น้องสาวไม่เต็มใจทำได้ เรื่องบางเรื่อง ถ้าลองมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อไปเกิดขึ้นอีก มันก็คือเรื่องที่บรรลุผลเมื่อเงื่อนไขต่างๆสุกงอมนั่นเอง