ตอนที่ 78 ช่วงเวลาที่คลุมเครือ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 78 ช่วงเวลาที่คลุมเครือ
ต๭นที่ 78 ช่วงเวลาที่คลุมเครือ ตอนนี้กู้เหยาก็เข้าใจในที่สุดว่าทำไมตอนโม่ข่ายทำงานส่วนมาใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของเซิ่งเทียน ประธานบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วงซินสามารถทำให้เซิ่งเทียนมอบหมายหน้าที่ได้ ความสามารถของเขาจะต้องได้การอนุมัติ และจากการทำงานของโม่ข่ายทุกวันนี้ เขามีความสามารถเป็นพิเศษจริงๆ ดูไปคิดไป สายตาของกู้เหยาก็จ้องใบหน้าโม่ข่ายโดยไม่ขยับไปไหน เขาสวมแว่นตากรอบทองเสมอ นอกจากเวลานอน น้อยครั้งมากที่จะเห็นเขาถอด เขาที่สวมแว่นตาดูแล้วเป็นผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด เขาที่ไม่สวมแว่นตา ดูแล้วสุภาพอ่อนโยนขึ้นมาหน่อย ไม่ว่าจะสวมหรือไม่สวมแว่นตา ก็ไม่สามารถบดบังความสง่างามสูงส่งและใบหน้าราวกับพระเจ้าอันดูดีของเขาได้ ทันใดนั้น กู้เหยาก็คิดถึงเรื่องหนึ่งที่แพร่หลายในอินเตอร์เน็ต ผู้ชายที่สวมแว่นตาดูเหมือนจะสุภาพอ่อนโยน ใช้ภาพลักษณ์อ่อนโยนภายนอกหลอกตาคนอื่น จริงแล้วเขาเป็น “สัตว์ร้ายในคราบมนุษย์” ในหัวกู้เหยานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงการกุศล โม่ข่ายในวันนนั้นทำให้เธอกลัว เขาดูเป็น “สัตว์ร้ายในคราบมนุษย์” จริงๆ ไม่ กู้เหยารีบส่ายศีรษะ แล้วตบใบหน้าตัวเอง เธอคิดแบบนี้กับเขาได้อย่างไรกัน ในเมื่อเลือกที่จะลืมเรื่องราวในวันนั้น เธอก็ไม่ควรเอามาคิดเพ้อเจ้ออีก กู้เหยาคิดอย่างหมกมุ่น ไม่ได้สังเกตสายตาอ่อนโยนของโม่ข่ายที่มองมายังตัวเองนานแล้ว สักพักเธอส่ายศีรษะ สักพักเธอตบหน้า สักพักก็ขมวดคิ้ว สักพักทำปากยู่ สีหน้าเปลี่ยนไปหลายรอบ เธอกำลังอยู่ในโลกส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัด โม่ข่ายมองเธอ อยากรู้อย่างอดไม่ได้ โลกภายในใจของเธอเป็นยังไงกันแน่? เธออนุญาตให้เขาเข้าไปดูได้ไหมนะ? บางทีสายตาของโม่ข่ายอาจจะร้อนแรงเกินไป สุดท้ายกู้เหยาก็มีสติกลับมา เงยหน้าก็สบตาเข้ากับสายตาโม่ข่าย เธอรีบเบนศีรษะออก อยากจะเลี่ยงการจ้องมองของเขา “คิดอะไรอยู่?” “ไม่ ไม่ได้คิดอะไร” ได้ยินเธอบอกว่าไม่ได้คิดอะไร โม่ข่ายก็ไม่ได้ถามต่อ แล้วหันมาสนใจงานอีกครั้ง โม่ข่ายยุ่งกับการทำงาน กู้เหยาก็ไม่ไปรบกวนเขา นั่งอย่างเงียบสงบ แต่ก็ไม่นาน เหลียงฮุ่ยอี๋ก็นำกล่องติ่มซำและนมเข้ามาให้ มองกู้เหยาแล้วยิ้มกว้างพูด “คุณนายโม่ ประธานโม่ให้ผมเตรียมให้คุณครับ” กล่าวขอบคุณเหลียงฮุ่ยอี๋ กู้เหยาก็ยกติ่มซำขึ้นมาไว้ข้างโต๊ะทำงานโม่ข่าย ยิ้มพลางถามเขา “ทานหน่อยไหมคะ?” “อืม” โม่ข่ายทำเสียงขึ้นจมูกธรรมดา กู้เหยาผลักจานไปใกล้เขา “งั้นทานก่อนค่อยทำงาน เครื่องจักรห้ามทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่หยุดพัก ยิ่งไปกว่านั้นคุณเป็นคน” “ป้อนผม” โม่ข่ายพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา อึก...... ป้อนเขา? โม่ข่ายผู้ชายคนนนี้ตอนที่พูดจากคลุมเครือ ทำไมพูดด้วยใบหน้าจริงจังแบบนี้ตลอด ทำให้คนไม่เข้าใจว่าตกลงเขารู้ไหมว่าการป้อนนี่มันคลุมเครือมากแค่ไหน หรือว่าเขาอยากจะแกล้งเธอ? หัวใจดวงน้อยของกู้เหยาเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่พอมองโม่ข่ายอีกครั้ง เขากำลังยุ่งกับการทำงาน ไม่แม้แต่จะมองเธอ คงไม่ได้มีความคิดอื่นอย่างแน่นอน สองมือเขาไม่ว่างเท่านั้นเอง ก็ได้ กู้เหยายอมรับว่าตัวเองคิดมากไป เธอคีบขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วส่งไปทางปากโม่ข่าย “เอ้า อ้าปาก” ดวงตาโม่ข่ายกำลังมองไปที่ข้อมูลบนจอคอมพิวเตอร์ ก็ยังอ้าปากกัดไปหนึ่งคำอย่างเชื่อฟัง เขากัดไปคำโต กัดไปเกินกว่าครึ่งหนึ่ง รอเขาทานเสร็จ กู้เหยาก็ป้อนเขาอีก โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งใจ เขากัดลงไปหนึ่งคำ แม้แต่นิ้วมือของกู้เหายังถูกเขากัดไปด้วย เขาไม่ได้ออกแรงมาก เขาดูดเบาๆเหมือนเด็กทารกกินนม ความรู้สึกเสียววาบก็พลันแล่นทั่วร่างของกู้เหยาในพริบตา ตกใจจนกู้เหยาหดมือกลับมา ใบหน้าแดงก่ำอีกครั้ง สายตาของโม่ข่ายผละออกมาจากคอมพิวเตอร์ในที่สุด มองไปที่กู้เหยา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่เบาไม่ดัง “เธอกำลังแหย่ลิงหรอ?” กู้เหยา “……” อึก—— หรือว่าเธอคิดมากไปอีกแล้ว ที่จริงเขาไม่ได้คิดแบบนั้นกับเธอ? เธอหยิบขึ้นมาป้อนอีกชิ้น “งั้นทานอีกชิ้นสิ” “มาอยู่เป็นเพื่อนผมเบื่อไหม?” โม่ข่ายไม่ได้อ้าปาก แต่กลับถามเธอหนึ่งคำถาม “ไม่เบื่อ” กลับบ้านไปก็อยู่คนเดียว อยู่ที่นี่ก็คุยกับเขาได้ กู้เหยาคิดว่าไม่มีอะไรแย่ ที่สำคัญที่สุดก็คือการเพิ่มเงินเดือนสองเท่าที่เขาเพิ่งพูด “กู้เหยา” โม่ข่ายเรียกชื่อเธออีกครั้ง น้ำเสียงดึงดูดเต็มไปด้วยเสน่ห์ เธอคบกับเขามาสามเดือนแล้ว เธอยังคิดว่าตอนเขาเรียกชื่อเธอมันน่าฟังมากๆ “หืม?” “หืม” หนึ่งคำพูดออกมา โม่ข่ายก็ยื่นแขนยาวดึงเธอมานั่งบนตัก กู้เหยาตกใจจนยื่นมืออกไปกันไว้ตรงหน้าอกเขา ร่างกายแข็งทื่อเหลือเกิน ตอนพูดออกไปเสียงก็เริ่มสั่น “โม่ข่าย อย่าทำที่นี่” “อย่าทำอะไรที่นี่?” เขายื่นมือไปปัดผมที่ปรกตรงหน้าผาก สายตามองเธออย่างแน่วแน่ แล้วถามอย่างเข้มงวดและจริงจัง กู้เหยา “......” เมื่อครู่เธอนึกว่าเขาจะเหมือนในคืนวันนั้น ตกใจจนพูดออกไปแบบนั้นโดยสัญชาตญาณ แต่ตอนนี้เห็นท่าทางของโม่ข่าย เขาไม่ได้อยากทำอะไรกับเธอ คิดมากไปเองอีกแล้ว เธอจะกล้าบอกเขาได้ที่ไหนกัน——ว่าอย่าทำอะไรที่นี่ เมื่อก่อนเวลาที่เธอไม่อยากตอบคำถาม อยากเลี่ยง โม่ข่ายก็จะเห็นใจอยู่เสมอ ไม่ถามเธออีก “หืม?” วันนี้โม่ข่ายไม่เปล่อยเธอไป ต้องรู้จากปากเธอให้ได้ว่าอะไรคืออย่าทำที่นี่ ร่างกายถูกเขากอดไว้ เป็นครั้งแรกที่กอดกันแน่นขนาดนี้ ศีรษะของกู้เหยายุ่งเหยิงไปหมด แม้แต่ข้ออ้างก็หาไม่เจอ ในตอนนี้ เธออยากจะมีเปลือกเป็นของตัวเอง ตราบใดที่ซ่อนไว้ในเปลือกตัวเอง เธอก็ไม่ต้องตอบคำถาม สายตาของโม่ข่ายจ้องเธออยู่ตลอดเวลา ทั้งตั้งใจและจริงจัง ราวกับจะใช้สายตาบอกเธอว่า ถ้าไม่ได้รับคำตอบ เขาจะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด กูเหยาอยากหนี แต่หนีไม่ได้ แขนของเขา ดูเหมือนโอบรอบเอวเธอเบาๆ แต่ก็มากพอที่จะไม่มีทางดิ้น หลังจากดิ้น กู้เหยาก็ยอมแพ้แล้ว และไม่รู้เหมือนกันว่าสมองได้ตายไปแล้วหรือเปล่า ขณะที่ถูถูกโม่ข่ายจ้องอยู่ เธอยื่นมือไปจับลำคอของโม่ข่ายไว้ แล้วจูบเขาก่อน ไม่ เธอไม่ได้จูบเขา แต่กัดเขา ราวกับว่าเป็นศัตรูในคืนนั้น อยากเอาคืนที่เขาเคยทำเธอไว้ทั้งหมด ในด้านอารมณ์ความรู้สึก โม่ข่ายไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก แต่ในด้านธุรกจเขาน่ะเป็น BOSS ใหญ่ระดับสูงที่เรียกลมเรียกฝนได้ เพียงลังเลเล็กน้อยในพริบตา เขาก็ขโมยอำนาจนั้นมา——แล้วจูบเธออย่างรุนแรง ก๊อกๆ—— จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หลิวยองผลักประตูเข้ามา “ประธานโม่......” ทั้งสองที่ไม่อยากพรากจูบออกจากกันก็รีบแยกกันในพริบตาเดียว กู้เหยาอยากจะหนีออกมา แต่ถูกโม่ข่ายกดไว้ในอ้อมกอด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม “มีเรื่องอะไร?”
已经是最新一章了
加载中