ตอนที่ 110 ตอกตรึงใจคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 110 ตอกตรึงใจคุณ
ต๭นที่ 110 ตอกตรึงใจคุณ ตอนนี้สำหรับเหชียวหนานจิ่งและกู้เจิ้งเต๋อ LeoMo แห่งเซิ่งเทียนเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตของพวกเขา ขอเพียงเขายอมรับปาก วิกฤตของเหชียวซื่อก็จะสามารถขจัดไปได้ทันที ส่วนคนที่จะสามารถช่วยพวกเขายึดเอาฟางเส้นสุดท้ายนี้มาได้ก็คือกู้ซิน พวกเขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ในมือของกู้ซินคนเดียว กู้ซินที่หลบอยู่ในมุมมืดได้ยินบทสนทนาที่ผู้ชายสองคนนั้นคุยกัน เธอเบ้ปาก แสยะรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ผู้ชายสองคนนั้นที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก คนหนึ่งเป็นพ่อแท้ๆของเธอเอง อีกคนหนึ่งเป็นผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต แถมยังเป็นพ่อของเด็กคนนั้นที่ตายไปแล้วด้วย ผู้ชายสองคนนี้ ว่ากันตามเหตุผลก็เป็นผู้ชายที่เธอรักและสนิทสนมที่สุดมาตลอดชีวิต แต่ว่าตอนนี้พวกเขากำลังวางแผนที่จะส่งเธอออกไปด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง มือที่อยู่ข้างลำตัวของเธอสั่นเทา พยายามทำให้ตัวเองยิ้มออกมาแบบไม่น่าเกลียด แล้วก้าวเดินเข้าไปหาพวกเขาเบาๆ เธอมองเหชียวหนานจิ่ง พลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “อาจิ่ง คุณมาแล้ว” “อืม” เหชียวหนานจิ่งเงยหน้ามองไปทางกู้ซิน วันนี้กู้ซินสวมเสื้อตัวใหญ่สีชมพู ภายใต้เสื้อตัวใหญ่นั้นเธอสวมกระโปรงฤดูหนาวที่ยาวถึงพื้นอีกตัวหนึ่ง เอวอันบอบบาง ทำท่าเขินอาย ทำให้ใครบางคนหัวใจเต้นแรง เขาลุกขึ้นยืน มือหนึ่งโอบเข้าที่เอวของกู้ซิน กระซิบเข้าที่ข้างหูของเธอว่า “เรือนร่างของคุณนี้สวรรค์ได้ส่งมาเพื่อผู้ชายอย่างผม” “อาจิ่ง.....” มือของกู้ซินวางลงที่หน้าอกของเขา พลางหยอดเสียงหวานเรียกเขา “มาให้คุณชายคนนี้ทำโทษซะดีดี” ไม่รอให้กู้ซินพูดจบ เหชียวหนานจิ่งก็อุ้มเธอพาดบ่า ก้าวอาดๆขึ้นไปยังชั้นบน ไม่ได้สนใจกู้เจิ้งเต๋อที่นั่งเป็นหัวหลักหัวตออยู่เลย ....... ณ ห้องทำงานชั่วคราวในโรงแรม เหลียงฮุ่ยอี๋ในมือถือเอกสารอยู่ กำลังรายงานเรื่องราวทางฝั่งตะวันตกให้โม่ข่ายทราบ “ท่านประธานโม่คะ ทางฝั่งตะวันตกส่งข่าวมาว่า......” “เธอกินข้าวแล้วหรือยัง?” เหลียงฮุ่ยอี๋ยังไม่ทันพูดจบ โม่ข่ายเหลือบมองไปทางป้าเฉินที่ถือถาดอาหารเดินเข้ามา ป้าเฉินส่ายหน้า “คุณชายคะ คุณผู้หญิงทานโจ๊กไปได้แค่ 2 คำ ก็อาเจียนออกมาหมดเลยคะ” โม่ข่ายไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจฟังที่เหลียงฮุ่ยอี๋พูดเลย ลุกขึ้นยืนทันที พูดไปพลางเดินไปว่า “ป้าช่วยไปเตรียมอาหารอย่างอื่นมาอีก แล้วค่อยส่งเข้าไปใหม่อีกที” เหลียงฮุ่ยอี๋มองเบื้องหลังของเขา ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเสียมิได้ ท่านประธานโม่ของพวกเขา สืบทอดกิจการของเซิ่งเทียนมา 6 ปีกว่า ให้ความสำคัญกับงานมาเป็นอันดับหนึ่งมาโดยตลอด แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเพราะเรื่องอะไรก็แล้วแต่มาทำให้เสียงานเลย แต่วันนี้ เป็นเพราะกู้เหยาคนเดียวทำให้เขาไม่สนใจเรื่องงานเลย หรือว่าเพื่อผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่งเขาจึงไม่ต้องการที่จะเป็นจักรพรรดิทางการค้าของภูเขาเจียงนั้นแล้ว? แต่ก็ยังดีที่หลายปีมานี้ เขาจัดวางคนได้อย่างเหมาะสม เขารวบรวมลูกน้องที่มีความสามารถไว้หลากหลาย บังเอิญเขาเปิดช่องว่างเล็กๆเอาไว้ให้คนอื่นสามารถจัดการเรื่องราวต่างๆให้สำเร็จได้ โม่ข่ายก้าวเข้ามาในห้อง เห็นกู้เหยานั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง สายตามองออกไปยังที่ใดที่หนึ่ง เงียบสงบราวกับว่าจะหายลับไปเมื่อไรก็ได้ “กู้เหยา......” เขาเดินเข้าไปหา กอดเธอจากทางด้านหลัง แต่เธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเขาเลย ยังคงจ้องมองออกไปตรงที่นั้นอย่างเงียบๆ โม่ข่ายจึงหันหัวเธอกลับมา ให้เธอมองมาที่เขา “กู้เหยา คุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ บอกผมหน่อยได้ไหม?” “อา......” กู้เหยาเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้ ส่งยิ้มที่มุมปากให้เขา “คุณกลับมาแล้ว” “คิดอะไรอยู่ครับ?” เขาถามต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เปล่าคะ” กู้เหยามองเขาแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่น 2 วันแล้วที่เธอยังไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรกับเขา นี่ทำให้โม่ข่ายรู้สึกร้อนใจ แต่ว่าไม่รู้จะทำอย่างไรกับเธอดี เขาเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยไปหาอะไรทานเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหมครับ?” กู้เหยาส่ายหน้า “ฉันไม่หิวคะ” สองวันนี้เธอได้แต่พูดว่าไม่อยากทานอะไร ถ้าบังคับให้เธอทาน เธอก็จะอาเจียนออกมาทุกครั้ง เขาคิดหาวิธีหลายอย่าง แต่เธอกลับปิดประตูในใจเธอ ไม่ยอมให้เขาเข้าไป “ถ้าอย่างนั้นไปทานเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ เสร็จแล้วผมจะพาคุณไปหาคนคนหนึ่ง” โม่ข่ายกำลังจะขยับอุ้มเธอไปที่ร้านอาหาร “ฉันไม่อยากออกไปไหนเลยคะ” เธอยังคงจ้องมองเขาพลางส่งยิ้มอันอบอุ่นให้ แต่ว่าครั้งนี้โม่ข่ายกลับไม่ยอมฟังเหตุผลไร้สาระของเธออีกต่อไป เขาจำเป็นต้องหาทางออกให้เธอยอมระบายมันออกมาให้ได้ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป จะต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่ๆ โม่ข่ายพากู้เหยาไปพบเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนคนนี้เป็นจิตแพทย์ชื่อมีชื่อเสียงมากในเมืองจิงตู เขาชื่อ เซียวหนิงอี้ เซียวหนิงอี้อายุ 30 ปี สูงราวๆ 180 เซนติเมตร เพราะความที่เธอผอมมาก ทำให้เธอยิ่งดูสูงขึ้นไปอีก “มู่จือ ไม่ได้เจอกันนานเลย!” ทันทีที่ได้รับสายของโม่ข่าย เซียวหนิงอี้ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมาก เห็นโม่ข่ายพาผู้หญิงคนหนึ่งมา นี่กลับทำให้เขารู้สึกแปลกใจมากกว่า โม่ข่ายโค้งศีรษะให้ “สวัสดีครับ” สายตาของเซียวหนิงอี้เหลือบมองกู้เหยาที่อยู่ข้างๆเขา ประกายในดวงตาลึกลับซับซ้อนจนยากที่จะคาดเดา “ในที่สุดคุณก็มีแฟนแล้วสิ” โม่ข่ายพูดแบบจริงจังว่า “ไม่ใช่แฟนครับ ภรรยาผมเอง” “ภรรยาของคุณ?” เซียวหนิงอี้ตกตะลึง “ผมคิดว่าชีวิตนี้คุณจะมีแต่เรื่องธุรกิจอย่างเดียวซะแล้ว ไม่รู้ว่าแต่งงานแล้วนะเนี่ย คิดไม่ถึงเลยว่าจะไวปานนี้” โม่ข่ายไม่ได้พูดอะไรอีก เซียวหนิงอี้มองไปทางกู้เหยา กล่าวว่า “สวัสดีครับ! คุณนายโม่” กู้เหยาพยักหน้า ยิ้มอย่างอ่อนโยน “สวัสดีคะ! คุณหมอเซียว” “ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหมอหรอกครับ ผมก็เป็นแค่คนขายซุปไก่น่ะ” เซียวหนิงอี้ส่งยิ้มให้ ท่าทางและคำพูดของเขาน่าขำมาก ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกันมากขึ้น “ถ้าอย่างนั้นคุณนายโม่อยากจะเข้าไปคุยกับผมเป็นการส่วนตัวสักหน่อยไหมครับ?” โม่ข่ายเล่าเหตุการณ์ให้เซียวหนิงอี้ฟังทางโทรศัพท์คร่าวๆแล้ว เขาก็รู้ว่าเวลาของโม่ข่ายมีค่ามากแค่ไหน จึงไม่อยากดึงเกมส์ กู้เหยาหันไปมองโม่ข่ายโดยไม่รู้ตัว โม่ข่ายจึงพยักหน้าให้เธอ ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องเป็นห่วง เธอพยักหน้ารับ แล้วเดินตามเซียวหนิงอี้เข้าไปในห้องทำงาน เซียวหนิงอี้ให้กู้เหยานั่งลง แล้วเทน้ำเปล่าลงในแก้วให้เธอดื่ม “คุณนายโม่ครับ คุณทำเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยนะครับ พูดคุยกับผมตามสบายเลยครับ พูดอะไรก็ได้ครับ” “เมื่อกี้คุณเรียกโม่ข่ายว่า มู่จือ?” กู้เหยาบังเอิญสังเกตว่าเซียวหนิงอี้เรียกโม่ข่ายเมื่อครู่ คำเรียกขานนี้ทำให้กู้เหยารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะว่ากู้ซินก็เรียกโม่ข่ายแบบนี้เหมือนกัน “ตัวอักษรของชื่อเขา เมื่อก่อนสมัยเรียนเราก็เรียกเขาแบบนี้แหละครับ” เซียวหนิงอี้ยิ้มให้พลางกล่าวว่า “คุณนายโม่ครับ ถ้าผมจำไม่ผิด พ่อของคุณน่าจะชื่อกู้เจิ้งเต๋อใช่ไหมครับ” พูดถึงกู้เจิ้งเต๋อขึ้นมา กู้เหยาถอนหายใจยาวทันที มือทั้งสองข้างที่วางอยู่บนตักกำหมัดไว้แน่น สายตาส่องประกายความเหี้ยมโหด ในสมองของเธอคิดถึงแต่เรื่องแม่ คิดถึงแต่กู้เจิ้งเต๋อ คิดถึงแต่คนคนนั้นของบ้านเหชียว แม่ของเธอตายไปแล้ว แต่ว่าคนพวกนั้นที่คอยบีบบังคับเธอยังคงเสวยสุขอยู่ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย บ้านเหชียว กู้เจิ้งเต๋อ ทำไมเธอจึงปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุข แล้วแม่ของเธอที่ต้องตายอย่างอนาถล่ะ เธอจะต้องหาทางทำให้พวกเขาพังพินาศให้จงได้ เซียวหนิงอี้จ้องมองท่าทางการตอบสนองของกู้เหยา พลางกล่าวว่า “คนบางคน เรื่องบางเรื่อง ถ้าคุณไม่ปล่อยวางเขา เขาก็จะยังคงติดอยู่ในใจของคุณไปตลอด” กู้เหยาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถามว่า “ปล่อยมันไป? ทำไมฉันต้องปล่อยมันไปด้วย?” 
已经是最新一章了
加载中