ตอนที่ 121 ไม่ต้องการให้เธอเจ็บ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 121 ไม่ต้องการให้เธอเจ็บ
ต๭นที่ 121 ไม่ต้องการให้เธอเจ็บ โม่ข่ายพูดแบบนี้ กู้เหยาก็ไม่รู้จะตอบอะไรจริงๆ เธออยากเข้าห้องน้ำ เรื่องแบบนี้จะให้เขาช่วยได้อย่างไร กระอักกระอ่วนมาก เขินอายมากโอเคไหม! โม่ข่ายราวกับมองความกระอักกระอ่วนเธอไม่ออก อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ ใบหน้ากู้เหยาเห่อร้อน “โม่ข่าย มันไม่ได้” โม่ข่ายก็ยังไม่สนใจเธอ วางเธอไว้บนโถส้วม พูดไปพูดมาจะช่วยเธอถอดกางเกง...... “โม่ข่าย——” กู้เหยาจับมือเขาไว้ แล้วพูดอย่างสับสน “ฉันทำเอง คุณไม่ต้องช่วยจริงๆ” หรือว่าผู้ชายอีคิวต่ำอย่างไม่รู้จักเรื่องน่าอายหรืออย่างไร? ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง เรื่องกระอักกระอ่วนแบบนี้จะให้เขาทำได้อย่างไร มันทำลายภาพลักษณ์นะโอเคไหม? “คุณทำได้จริงๆหรอ?” โม่ข่ายถามกลับด้วยใบหน้าจริงจัง เขาแค่อยากช่วยเธอ ไม่ได้คิดในเรื่องอื่นเลย แต่พอเห็นใบหน้าเห่อแดงของสาวน้อยแบบนั้น ก็เดาว่าเธอกำลังคิดอะไรไร้สาระอีกแล้ว “ฉันทำได้จริงๆ” กู้เหยายกมือขึ้นสาบาน ถึงตัวเองจะทำไม่ได้ เธอก็ไม่อยากให้เขาช่วย ได้ยินกู้เหยายืนยันแบบนี้ โม่ข่ายก็มองเธอ แล้วหันร่างออกไป แถมยังหันร่างออกไป แล้วปิดประตูตามใจชอบ “เสร็จแล้วเรียกผมนะ” น้ำเสียงเขาทุ้มต่ำเซ็กซี่เป็นปกติ ใบหน้าเรียบเฉย ไม่ได้จริงจังกับเรื่องที่ช่วยเธอเข้าห้องน้ำ แต่กู้เหยากลับซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำไม่อยากออกไป ชายคนนี้นี่นะ! หลังจากกู้เหยาทำธุระเสร็จแล้ว ก็กระแอมไอเบาๆ เสียงโม่ข่ายก็ดังเข้ามาจากนอกประตูทันที “เสร็จแล้วใช่ไหม?” “อืม” กู้เหยาตอบด้วยเสียงที่เบามาก นึกถึงตอนตัวเองเข้าห้องน้ำ โม่ข่ายยืนเฝ้าหน้าประตู ความร้อนบนใบหน้าเธอทำยังไงก็เอาออกไม่ได้ โม่ข่ายผลักประตูเข้ามา อุ้มเธอไปล้างมืออย่างอ่อนโยน แล้วอุ้มเธอกลับไปวางบนเตียง เขาพูดอีก “ไม่มึนหัวแล้วใช่ไหม?” กู้เหยาพยักหน้า “นิดหน่อย แต่ไม่มึนมาก” โม่ข่ายลูบศีรษะเธอเบาๆ “งั้นทานอะไรนิดหน่อยก่อน ทานแล้วค่อยพักผ่อน” บนร่างกายเธอมีบาดแผลอยู่มาก แต่แผลที่ขาซ้ายหนักที่สุด บริเวณศีรษะได้รับการสั่นสะเทือนเบา ต้องอยู่โรงพยาบาลตรวจสอบสองสามวัน ถ้าเมื่อวานรถคันนั้นไม่ได้ชนไปที่แปลงดอกไม้ข้างถนน แต่ชนไปอีกทาง ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์...... นึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวาน โม่ข่ายก็กอดกู้เหยาแน่น จากนี้ไปเขาจะไม่ให้กู้เหยาบาดเจ็ดอย่างนี้อีก หลังจากทานอาหารเสร็จ กู้เหยาก็นอนหลับ เหลียงฮุ่ยอี๋เคาะประตูเข้ามา กำลังอยากจะพูดอะไร โม่ข่ายก็ทำท่าห้ามส่งเสียงดังทันที ออกไปนอกห้องผู้ป่วยกับเหลียงฮุ่ยอี๋แล้วถึงให้เขาพูดได้ “ประธานโม่ คุณเดาไว้ไม่ผิด เหชียวหนานจิ่งเป็นคนสั่งการจริงๆ” เหลียงฮุ่ยอี๋พูดไปพลางมองโม่ข่ายไป เห็นว่าสีหน้าเขาไม่เปลี่ยนแปลง ก็พูดต่อ “คนที่เป็นเป้าหมายเขาคือคุณ ไม่ใช่คุณนาย” ได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นทองก็หรี่ลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยออกมาเสียงเย็น “มันรนหาที่ตาย งั้นก็ช่วยสงเคราะห์มัน” เหลียงฮุ่ยอี๋พูดอีก “ทางตำรวจ......” “เรื่องนี้ไม่ต้องถึงตำรวจ” ทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ โม่ข่ายก็หันกลับเข้าห้องผู้ป่วยไป โม่ข่ายไม่พูดก็เข้าใจ แต่เหลียงฮุ่ยอี๋เข้าใจจุดประสงค์ของเขา ส่งเหชียวหนานจิ่งให้ตำรวจ อย่างมากก็ถูกจับไม่กี่ปี นั่นเป็นการลงโทษที่เบามากที่สุด ในเมื่อเหชียวหนานจิ่งต้อการเล่นสกปรก งั้นพวกเขาก็จะเล่นเป็นเพื่อน ปีที่ผ่านมานี้ โม่ข่ายควบคุมบริษัทเซิ่งเทียนทั้งหมด และไม่ได้กำจัดการใช้วิธีการพิเศษในการทำเรื่องต่างๆ สำหรับไอ้เหชียวหนานจิ่งที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เขาจะเป็นคนทำให้บริษัทเหชียวซื่อล้มละลายเสียหายเป็นกระแสน้ำวน …… กู้เหยาคิดว่าโม่ข่ายพูดจาน่าฟังไม่ได้ แต่เป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่นมากจริงๆ บาดแผลขาเธอเริ่มดีขึ้นมาก ไม่ต้องให้คนช่วยก็สามารถเดินได้อย่างช้าๆแล้ว แต่เขาก็ยังคอยช่วยเธออยู่ข้างๆ ในตอนนี้ เขานั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โซฟาข้างๆ สีหน้าท่าทางใจจดใจจ่อและตั้งอกตั้งใจ ว่ากันว่าผู้ชายตอนทำงานมีเสน่ห์มากที่สุด โม่ข่ายของเธอก็ไม่ยกเว้น ทุกครั้งที่เห็นเขาตั้งใจ เธอมักจะละสายตาไปไม่ได้ เธอมองเขาอยู่นาน สุดท้ายเขาก็ยกศีรษะขึ้นมา นัยน์ตาลุ่มลึกสบเข้ากับนัยน์ตาสุกใสของเธอ เขาเอ่ยถามเสียงทุ้ม “ทำไมหรอ?” กู้เหยาคิดแล้วพูด “ฉันอยากออกจากโรงพยาบาล อยากกลับเจียงเป่ยแล้ว ฉันคิดถึงเหมียนเหมียน......” มาปักกิ่งเกือบจะครึ่งเดือนแล้ว เธอคิดถึงอากาศของเจียงเป่ยมากจริงๆ คิดถึงเหมียนเหมียนที่เจียงเป่ย คิดถึงอาหารของเจียงเป่ย คิดถึงทุกๆอย่างของเจียงเป่ย แต่ให้เธอรีบหาเหตุผลในการออกจากปักกิ่งเร็วหน่อย เพราะตระกูลเหชียวมีอำนาจสูงสุดอยู่ทุกที่ เรื่องอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อสองสามวันก่อน โม่ข่ายไม่ได้พูดกับเธอ แต่ไม่ได้แสดงว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เรื่องนั้นจะต้องเกี่ยวกับคนพวกนั้นแน่นอน สิ่งเดียวที่ดีใจคือคนที่เจ็บเป็นเธอ—— “เหมียนเหมียนมีคนดูแล” โม่ข่ายวางเอกสารในมือลงแล้วเดินมานั่งข้างเธอ ลูบศีรษะเธอเบาๆ “ตอนบ่ายทำการตรวจอีกรอบ ยืนยันว่าสมองไม่มีปัญหาอะไรเรากลับบ้านกัน” “โอเค” กู้เหยายิ้มพลางพยักหน้า เขาบอกว่าเรากลับบ้าน ไม่แปลกใจที่ตอนนี้เธอจะอยากกลับเจียงเป่ย ที่แท้เธอมองว่าที่นั่นเป็นบ้านของเธอ บ้านของเธอและเขา ก๊อกๆ—— เสียงเคาะประตูดังขึ้น เหลียงฮุ่ยอี๋ผลักประตูเดินเข้ามา “ประธานโม่ คุณชายเซียวมาแล้วครับ” “ให้เขารอก่อน” โมข่ายดึงผ้าห่มมาห่มให้กู้เหยาเสร็จ “พักผ่อนให้ดี ฉันไปแล้วเดี๋ยวมา” “อืม” กู้เหยาพยักหน้า โม่ข่ายเดินออกไป เซียวหนิงอี้ยืนอยู่ทางเดินนอกห้องผู้ป่วย ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มอย่างเคย มองโม่ข่ายด้วยสายตาลุ่มลึก โม่ข่ายไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้าให้กับเขา แล้วเดินไปข้างๆด้วยตัวเอง พยายามให้ห่างจากกู้เหยาให้มากที่สุด เซียวหนิงอี้เข้าใจความหมายของโม่ข่าย ต้องมองห้องผู้ป่วยอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเดินตามไป “ตอนนี้เธอเป็นไงบ้าง?” ยืนนิ่ง เซียวหนิงอี้ถึงได้แกล้งถามออกไปอย่างผ่อนคลาย โม่ข่ายมองเขาหนึ่งที จากนั้นก็เบนศีรษะไปมองนอกหน้าต่าง “ยังดี” ความเย็นชาของโม่ข่าย เซียวหนิงอี้เห็นอยู่ในสายตา พวกเขาเป็นเพื่อนนักเรียนกันมาหลายปี สนิทกันไม่เลว โม่ข่ายคนนี้แม้ว่าจะพูดน้อย แต่สำหรับเพื่อนนักเรียนแล้วก็ยังค่อนข้างโอเค ตอนนี้จู่ๆก็เย็นชาแบบนี้ หรือว่ามีอะไรข้ามเส้นตัวเอง หรือว่า......เขารู้อะไรบางอย่าง คิดถึงตรงนี้ เซียวหนิงอี้จึงยิ้มอย่างหมดหนทาง “นายรู้แล้วหรอ?” โม่ข่ายพยักหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “ซ่อนอะไรกับนายไม่ได้จริงๆ” เซียวหนิงคลายมือออกอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดอีก “แล้วคิดจะทำยังไง?” โม่ข่ายจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบหนึ่งที แล้วเอ่ยอย่างช้าๆ “ถ้านายอยากให้เธอรู้ ฉันก็ห้ามไม่ได้ แต่ฉันหวังว่าไม่อยากให้เธอรู้เรื่องนี้” กู้เหยาเพิ่งหายเสียใจจากการสูญเสียคุณแม่ ถ้าให้เธอรู้เรื่องราวยี่สิบปีกว่านั้นอีก เขาไม่อยากจะจินตนาการว่าเธอจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเขาจะพยายามปกป้องเธอให้ดีที่สุด ไม่ให้เธอโดนทำร้ายอีก 
已经是最新一章了
加载中