ตอนที่ 132 ปฏิเสธที่จะสื่อสาร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 132 ปฏิเสธที่จะสื่อสาร
ต๭นที่ 132 ปฏิเสธที่จะสื่อสาร โม่ข่ายยังคงสวมสูทสีเทาเงินตามปกติ เขายืนตัวตรงคอยอยู่ที่ประตู สายตาที่อยู่ภายใต้แว่นตากรอบสีทองนั้นตะลึงเล็กน้อย เขาจ้องมองมาที่กู้เหยาด้วยสายตาลึกซึ้งและซับซ้อน หลินเช่นเช่นเห็นแล้วว่าโม่ข่ายมา จึงเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้มว่า : “คุณโม่คะ คุณคงมารับคุณนายโม่ใช่ไหมคะ พอดีเลิกงานแล้วคะ คุณรับเธอกลับไปได้เลยคะ” “อืม” โม่ข่ายพยักหน้าอย่างสุภาพและมีมารยาท ส่งเสียงตอบรับออกไปเบาๆ “คุณไปต่างจังหวัด 3 วันไม่ใช่หรือคะ ทำไมถึงกลับมาก่อนได้ละค่ะ?” กู้เหยามองเขาแล้วยิ้มให้ แต่ว่ารู้สึกกลัวนิดหน่อยที่จะเข้าใกล้เขา สีหน้าของเขาดูเหมือนเรียบเฉย เหมือนกับก่อนหน้านี้ ที่ดูเย็นชาตามปกติ แต่ว่าพอสบตาเขาเข้า กู้เหยารู้สึกได้ถึงความไม่พอใจ โม่ข่ายไม่ได้พูดอะไร มองกู้เหยาเงียบๆอยู่อย่างนั้น สายตาลุ่มลึกและจดจ้องมา ราวกับว่าคนที่อยู่รอบข้างไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย หลินเช่นเช่นดึงชายเสื้อของกู้เหยาเบาๆ พลางพูดเสียงเบาว่า : “สามีภรรยาก็อาจจะมีปากเสียงกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงๆเขาก็มารับเธอถึงที่แล้ว เธอก็กลับไปกับเขาดีๆเถอะ” “เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันนะ ขัดยงขัดแย้งที่ไหนกัน” กู้เหยาไม่ได้โกรธอะไรเขา ดูแล้วกลับเหมือนว่าโม่ข่ายโกรธเธอเสียมากกว่า ที่สำคัญคือเธอไม่รู้ตัวว่าทำอะไรให้เขาไม่พอใจเข้า “อีกอย่างยังมีวันหยุดอีก 2 -3 วัน ฉันจะกลับไปจิงตูสักหน่อย ช่วงนั้นเธอก็อยู่ที่บ้านทำงานได้นะ ไม่ต้องมาที่นี่หรอก” หลินเช่นเช่นกวักมือให้กู้เหยา แล้วพูดเบาๆว่า “เออนี่ Evan น่าจะกลับอิตาลีไปแล้ว เรื่องเรียนต่อเอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ” “ไหนว่าเย็นนี้จะไปกินหม้อไฟด้วยกันไงเล่า” กู้เหยาเอ่ย “เธออยากกินอะไรก็ให้ผู้ชายของเธอพาไปกินสิจ้ะ ฉันยังไม่อยากถูกหมายหัวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ” หลินเช่นเช่นรีบส่งกระเป๋าของกู้เหยายัดใส่มือ ดันกู้เหยาไปทางโม่ข่าย พลางกล่าวว่า “คุณโม่ รีบพาภรรยาของคุณกลับไปเถอะคะ อย่าให้เธอทำตัวติดกับฉันทั้งวันแบบนี้เลย” ท่าทีของโม่ข่ายเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่เออออ ไม่พูดไม่จา ดูไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ กู้เหยากำลังจะก้าวถอยหลัง แต่กลับถูกโม่ข่ายโอบเอวกอดไว้ ควบคุมเธอไม่ให้ไปไหน เธอขยับตัวพลางพูดเบาๆว่า : “คุณให้ฉันอุ้มเหมียนเหมียนก่อนได้ไหมคะ” เหมียนเหมียนวิ่งมาคอยอยู่นานแล้ว เพียงแต่ตัวของมันเล็กมาก ถ้ามันไม่ส่งเสียงก็คงไม่มีใครสนใจมัน กู้เหยาอุ้มมันขึ้นมา แล้วบอกกับหลินเช่นเช่นว่า : “งั้นฉันไปก่อนนะ” หลินเช่นเช่นรีบโบกมือ : “รีบไปเถอะ” เดินมาได้สักพัก โม่ข่ายก็ยังคงเงียบอยู่ กู้เหยาเหลือบตามองเขาอย่างระแวดระวัง : “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? มีปัญหาเรื่องงานหรือคะ?” โม่ข่ายยังคงทำหน้าบึ้งตึง ไม่พูดไม่จา เพียงแต่ออกแรงโอบเอวของเธอด้วยมือใหญ่ๆให้แน่นขึ้นอีก กู้เหยาเม้มปาก แล้วถามอีกว่า : “ตกลงคุณโมโหใครอยู่กันแน่คะ? คุณบอกมาเถอะคะ ฉันจะไปจัดการให้เอง” ไม่ว่ากู้เหยาจะพูดอย่างไร โม่ข่ายก็ยังคงทำหน้าบึ้งตึง ไม่พูดไม่จาอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาโอบเอวของเธอเอาไว้ เธอคงคิดว่าคนคนนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง พูดไปตั้งหลายคำแล้ว เขาก็ยังคงไม่สนใจ กู้เหยาจึงไม่พูดอะไรอีก ลูบหัวของเหมียนเหมียนที่อยู่ในอ้อมแขนแทน พลางถอนหายใจอย่างเสียมิได้ เขาอยากจะเฉยชาก็ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ ฤดูหนาวที่หนาวเย็นขนาดนี้ หนาวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว จนกระทั่งขึ้นรถ กู้เหยานั่งที่ข้างคนขับด้านหน้า โม่ข่ายนั่งลงที่ตำแหน่งคนขับ ขณะที่เธอกำลังเตรียมจะรัดเข็มขัด โม่ข่ายยื่นมือออกมาโน้มศีรษะของเธอมาใกล้เขา แล้วจูบเธออย่างเร่าร้อน ท่าทางของเขารุนแรงและป่าเถื่อน ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังบ้าคลั่ง กู้เหยารู้สึกว่าเจ็บที่ริมฝีปาก เขากัดปากของเธอจนแตก เลือดสดๆไหลจากริมฝีปากของเธอเข้าไปยังช่องปากของทั้งสองคน กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่วปากของคนทั้งสอง กู้เหยาไม่ได้ดิ้นรนอะไร ถ้าในใจของเขาเร่าร้อน เธอก็จะปล่อยให้เขาระบายมันออกมา ขณะที่ใจเธอยังไม่พร้อม ก็นึกถึงที่เธอเคยระบายมันออกมาครั้งแรกกับเขาเหมือนกัน เวลาเธอเจอเรื่องไม่สบายใจ ก็ระบายใส่เขา เพราะว่าเขาเป็นคนที่เธอรักมากที่สุด เวลาโม่ข่ายทำแบบนี้ กู้เหยาก็จะคิดแบบเดียวกัน แต่ว่าการยินยอมของกู้เหยา ไม่เพียงแต่ไม่ได้ดับไฟในตัวโม่ข่ายลงเท่านั้น แต่ยังทำให้ความร้อนในร่างกายเขาปะทุมากขึ้นอีก แผนการณ์เดิมของโม่ข่ายคือไปทำงานต่างจังหวัด 3 วัน แต่ว่าวันนี้เขาโทรหากู้เหยาหลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง ติดต่อเธอไม่ได้เลย เพราะว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ เขาจึงตัดสินใจทันทีว่าจะเอางานที่จะต้องสะสางในบ่ายวันนี้เลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้แทน เขาจะต้องกลับมาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยดี ความกังวลใจที่มีทั้งหมดของเขา เมื่อเห็นว่าเธอสบายดีอยู่ เขาจึงโล่งอก ขณะเดียวกันในใจก็พลันรู้สึกโกรธขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขาโทรมาหาตั้งหลายรอบ ถ้าเธอใส่ใจเขาสักนิด สละเวลาโทรกลับมาหาเขาสักหน่อยก็ยังดี แต่ว่าเธอเปล่าเลย เขาโกรธมาก โกรธที่เธอไม่ยอมรับสายเขา โกรธที่ในหัวใจเธอไม่มีสามีอย่างเขาคนนี้อยู่เลย โม่ข่ายกัดกู้เหยาแรงๆอีกครั้ง แล้วจึงปล่อยเธอลง มองดูริมฝีปากของเธอที่ถูกเขากัดจนแตกอย่างขุ่นมัว แล้วย้ายสายตาออกไป ขับเคลื่อนรถยนต์ เส้นทางที่รถขับเคลื่อนไปนั้นไม่ใช่เส้นทางที่กลับบ้านพวกเขา กู้เหยาจึงเอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า : “โม่ข่าย คุณมาผิดทางหรือเปล่าคะ?” โม่ข่ายเอาแต่ขับรถ ไม่มองเธอเลยสักนิด เหมือนไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย กู้เหยาจึงไม่สนใจเขาอีกต่อไป ลูบหัวเหมียนเหมียนที่อยู่ในอ้อมแขน หันมองออกไปทางนอกหน้าต่าง ดูวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ก็เห็นคู่รักเดินจับมือกันอยู่บนถนน บางคู่ก็กอดกันอยู่...... เธอหันกลับมา มองไปที่โม่ข่าย เขายังคงทำหน้าบึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่พูดไม่จากับเธอ และไม่คิดจะสนใจเธอเลย “จอดรถ” เธอเอ่ยขึ้น เขาไม่สนใจ “ฉันบอกให้คุณจอดรถไงคะ” เธอพูดอีก ในที่สุดโม่ข่ายก็หันมามองเธอ แต่ว่าเขาก็ยังไม่คิดจะหยุดรถ “โม่ข่าย คุณจอดรถก่อนได้ไหม เรามาคุยกันดีๆดีกว่า” พูดไปพลางยื่นมือออกไปดึงพวงมาลัยของเขา ตอนนี้ บังเอิญติดไฟแดงพอดี โม่ข่ายจึงต้องหยุดรถลง สายตายังคงมองไปข้างหน้า ยังไม่สนใจเธออีก “โม่ข่าย ตกลงคุณโกรธฉันเรื่องอะไรคะ? ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่สบายใจหรือ คุณก็พูดออกมาสิคะ?” ถ้าหากว่าเธอทำผิดจริงๆ เธอก็ยินดีที่จะแก้ไข แต่ว่าเขากลับไม่พูดอะไรเลย ไม่ยอมเปิดปากคุยกับเธอ สามีภรรยามีอะไรก็ควรพูดคุยกันดีๆ ทำแบบเขาไม่ยอมพูดอะไรเลย เอาแต่โกรธท่าเดียว หรือว่าอยากจะทำสงครามเย็นกับเธอ? เธอพอจะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้โกรธ? เมื่อเขาได้ยินที่เธอพูด สีหน้าของโม่ข่ายยิ่งบูดบึ้งขึ้นไปอีก เขาหันมามองหน้าเธอ แล้วหันกลับไปขับรถต่อ ตลอดทางกู้เหยาไม่พูดอะไรกับเขาอีก จนกระทั่งรถเข้ามายังเขตเซิ่งเทียนหยู้จิ๋นวัน และมาถึงเขตวิลล่าส่วนตัวที่ชื่อว่าโน่เยียน ประตูใหญ่เปิดเองอัตโนมัติ รปภเข้ามาหาทันที โม่ข่ายลงจากรถ เอากุญแจส่งให้รปภ แล้วหันมามองทีหนึ่ง กู้เหยายังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน สายตาของโม่ข่ายมองออกไป กู้เหยาก็มองเขากลับ เธอเม้มปาก ดวงตากลมโตใสซื่อมองเขาด้วยความเวทนา : “แผลที่ขาของฉันท่าทางจะอาการกำเริบอีกแล้วคะ”
已经是最新一章了
加载中