ตอนที่ 144 คนที่เธอรอคอย
1/
ตอนที่ 144 คนที่เธอรอคอย
ยัยตัวดี เอาหัวใจมาชดใช้หนี้ฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 144 คนที่เธอรอคอย
ตนที่ 144 คนที่เธอรอคอย ดำเนินชีวิตไปด้วยกัน เพียงแค่ใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันเท่านั้น มีความรักให้กันหรือไม่ก็ไม่เป็นไร หรือว่าไม่มีความรักก็ดีเหมือนกัน คงจะตัดปัญหาไปได้หลายอย่าง นี่เป็นแนวคิดเมื่อตอนที่โม่ข่ายมาขอกู้เหยาแต่งงาน แต่ว่าวันนี้ โม่ข่ายกลับไม่คิดแบบนี้แล้ว สิ่งที่เขาต้องการมันมากกว่าในตอนแรกมากมาย ไม่เพียงแต่ตัวของกู้เหยาเท่านั้น เขาต้องการเอาชนะใจของเธอด้วย แต่หัวใจของเธอดวงนั้นที่เคยได้รับความทุกข์มาก่อน ยินดีที่จะเปิดรับเขาอีกครั้งหรือไม่? เพราะเขาเดาใจของกู้เหยาไม่ออกเลยว่าเธอคิดอะไรอยู่ โม่ข่ายรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นเปราะบางมาก แค่โดนลมพายุเล็กน้อยก็อาจจะพังทลายอย่างราบคาบลงได้เลย “ทำไมไม่พูดอะไรบ้างละคะ? คุณคิดอะไรอยู่หรือคะ?” กู้เหยาดึงชายเสื้อของเขา ถามอย่างอ่อนโยน “ผมกำลังคิดอยู่ว่า คุณจะยอมเปิดใจคบกับผมหรือเปล่าน่ะครับ?” แต่ว่าประโยคอ่อนไหวแบบนี้ โม่ข่ายไม่กล้าพูดออกไป ได้แต่มองหน้าเธออย่างเงียบๆ “เห็นคุณ ไม่อยากเดินต่อแล้ว พวกเรากลับกันเถอะคะ” โม่ข่ายไม่อยากพูดอะไรอีก กู้เหยาเองก็ไม่มีอารมณ์จะเดินเล่นต่อไป “ไม่ใช่ไม่อยากเดินครับ” โม่ข่ายดึงแขนเธอหยุดไว้ เอาเธอหันกลับมา ก้มหน้าลงจูบเธอเข้าอย่างดูดดื่ม สิ่งที่ไม่ยอมพูดออกมา เขาใช้ภาษากายพูดแทน กู้เหยาออกแรงตีที่หน้าอกของเขา พยายามผละออกจากอ้อมแขนเขา หยุดเพื่อพูดว่า : “โม่ข่าย อย่าทำอย่างนี้เลยคะ มีผู้ใหญ่อยู่ในบ้านนะคะ” ถ้าเกิดปล่อยให้ผู้ใหญ่ในบ้านเห็นพวกเขาทำแบบนี้เข้า รู้สึกว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “ขอโทษครับ!” เขาบอก “ไม่ใช่อย่างนั้นคะ เราจะทำอะไรก็กลับเข้าห้องก่อนค่อยทำก็ได้นี่คะ” เมื่อเอ่ยคำพูดแบบนี้ สีหน้าของกู้เหยาก็แดงขึ้นทันที แต่เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้นหมอกควันที่อยู่ในใจของโม่ข่ายก็สลายไปในพริบตา เขายิ้มอย่างมีเลศนัยออกมาทันที เธอเนี่ยนะ ทำเป็นเหนียมอายขนาดนั้น แต่ว่าพูดจากลับช่างกล้าหาญ 2 -3 วันต่อมา โม่ข่ายก็งานยุ่งอีกแล้ว ทุกคนในบ้านโม่ต่างเริ่มชุลมุนกันอีกครั้ง ครอบครัวโม่อยู่ที่อเมริกานานหลายปี เพื่อนสนิทที่อยู่ในประเทศก็ไม่ได้มีมากมายนัก ปกติก็ไปมาหาสู่กันอยู่บ้าง ต่างก็เป็นเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อกันอยู่แล้ว วันนี้อายุครบ 27 ปี ครอบครัวโม่จัดงานเลี้ยงเล็กๆขึ้นมางานหนึ่ง แขกที่เชิญมาก็มีแต่เพื่อนสนิทกันทั้งนั้น แต่ท่ามกลางคนเหล่านี้ ไม่มีครอบครัวใดที่สนิทสนมที่สุดเท่ากับ------ครอบครัวจ้าน ของคุณแม่โม่อีกแล้ว ครอบครัวจ้านเป็นครอบครัวที่มีอำนาจทางทหารยิ่งใหญ่ที่สุดในเจียงเป่ย คุณแม่โม่มีชื่อเดิมว่าจ้านเยน คุณตาของเธอเคยเป็นทหารฮีโร่ผู้ก่อตั้งประเทศ ปีนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพลจากผลงานอันยิ่งใหญ่ พ่อของเขาเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นมาตั้งแต่เล็ก ทีแรกทำงานอยู่ในหน่วยงานกลางของรัฐบาล ต่อมาถูกมอบหมายให้มาดูแลกองกำลังที่เจียงเป่ย จากนั้นอีกหลายสิบปี ครอบครัวจ้านก็ยืนหยัดมั่นคงอยู่ที่เจียงเป่ย ตำแหน่งหน้าที่การงานมั่งคงไม่มีเปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่าอำนาจอยู่ที่เขาฝ่ายเดียว ส่วนน้องชายของจ้านเยนที่อายุห่างกันราว 20 ปีนั้น-----ชื่อจ้านเนี่ยนเป่ย ทุกวันนี้เขาผ่านลมพายุฝนมามากมาย ใครๆก็อยากจะมีตำแหน่งใหญ่โตด้วยกันทั้งนั้น จ่านเนี่ยนเป่ยอายุเพียงแค่ 30 ปี แต่ด้วยความสามารถของตัวเขาเอง เขาสามารถช่วงชิงตำแหน่งที่คนมากมายถึงแม้ต่อสู้แย่งชิงกันมาตลอดชีวิตก็ไม่อาจเป็นได้มาครอบครอง นั่นคือผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทุกวันนี้ เขามีหน้าที่ดูแลเขตทหารภาคพื้นดินในเจียงเป่ยทั้งหมด พ่อแม่ของครอบครัวจ้านเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จ้านเยนที่เป็นลูกสาวก็แต่งงานออกเรือนไปแล้ว ทุกวันนี้บ้านจ้านนับว่าเหลือเพียงแค่จ้านเนี่ยนเป่ยเพียงแค่เดียว วันนี้เขาอายุ 30 ปีแล้ว และยังไม่ได้แต่งงาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทายาทสืบทอดตระกูลจ้านเลย เมื่อเห็นตระกูลจ้านเหลือเพียงจ้านเนี่ยนเป่ยคนเดียวแบบนี้ คุณแม่โม่ก็รู้สึกร้อนใจ แต่ว่าร้อนใจไปแล้วมีประโยชน์อะไรล่ะ? น้องชายของเธอคนนั้นมีโลกทัศน์เป็นของตัวเอง การแต่งงานเพื่อสืบทอดตระกูลจ้านต่อไป ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเท่ากับความเป็นพี่น้องของเขา ทุกๆครั้งในวันขึ้นปีใหม่ คุณแม่โม่มักจะส่ายหน้าพลางถอนหายใจ ทำให้คุณพ่อโม่เดือดร้อนแทนภรรยา เพราะว่าภรรยาเขาสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ไม่ควรกังวลใจในเรื่องใดๆอีก วันนี้ ทั้งโม่ข่ายและกู้เหยาต่างแต่งตัวกันอย่างเป็นทางการ โม่ข่ายใส่สูทเต็มยศสวมรองเท้าหนัง ดูแล้วช่างหล่อเหลาเป็นสง่า กู้เหยาสวมกระโปรงยาวลายปัก แถมใส่รองเท้าบูทยาว ด้านนอกสวมเสื้อคลุมสีแดงไว้หนึ่งตัว รวบผมเป็นหางม้ายาวสูง ดูแล้วยิ่งสดใสและดึงดูดสายตา โม่ข่ายพาเธอออกไปที่หน้าประตูบ้านด้วยกันคอยตอนรับแขกเหรื่อที่มาในงาน ถือเป็นการแนะนำตัวกู้เหยาอย่างเป็นทางการให้ทุกคนได้รู้จักไปด้วยในตัว แขกทุกคนที่มาในงาน โม่ข่ายจะแนะนำอย่างตั้งอกตั้งใจ : “นี่คือภรรยาของผมครับ ท่านนี้คือ.......” เขากล่าวคำพูดในลักษณะนี้เกือบจะตลอดเวลาในช่วงเช้า แต่เขากลับไม่มีทีท่าว่าเบื่อหน่ายเลยสักนิด แถมสีหน้ายังยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา มองดูเขา กู้เหยาอดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เขาพูดออกไปตลอดเช้าวันนี้ น่าจะมากกว่าสิ่งที่เขาพูดมาตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โม่ข่ายที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ผู้ชายที่เย็นชาคนนั้นที่ทำให้ทุกคนไม่กล้าเข้าใกล้เลย กู้เหยาชอบที่เขาเป็นแบบนี้มากเลย อดไม่ได้ที่จะแนบชิดเขาใกล้ขึ้นอีก “เจ็บที่ขาตรงไหนหรือเปล่าครับ?” โม่ข่ายถือโอกาสช่วงที่ว่าง มองไปทางเธอ แล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เปล่าคะ” เธอส่ายหน้า เอามือจับไว้ที่กลางมือเขาแน่น “วันนี้ฉันมีความสุขจังเลยคะ” พาภรรยาของเขามาต้อนรับเพื่อนสนิทอย่างเป็นทางการ ทำไมจะไม่ดีใจไม่มีความสุขได้ล่ะ ไม่มีอารมณ์มัวเสียเวลากับแผลที่ขาว่าเจ็บหรือไม่หรอก “ถ้าเหนื่อยก็ไปนั่งพักก่อนก็ได้นะครับ ตรงนี้ผมดูแลเอง” ตอนกลางวันก็ยังต้องแนะนำกู้เหยาให้ทุกคนรู้จักอย่างเป็นทางการอีก ไม่รู้ว่าต้องการให้เธอยืนรับลมหนาวเป็นเพื่อนเขาอยู่ที่นี่หรือไม่ “ไม่เหนื่อยคะ” กู้เหยาส่ายหน้า แล้วเอ่ยเบาๆว่า “ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนข้างๆคุณคะ อยู่กับคุณคะ” “ได้ครับ” เขาบอก เพียงแค่คำคำเดียวนี้ กลับพูดได้อย่างหนักแน่นขนาดนั้น กู้เหยายิ้มด้วยตาเป็นประกาย โม่เสี่ยวเป่าเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่สดใสของตัวเองภายในวันเดียว เธอแต่งตัวสวยตั้งแต่เช้า แล้วลงมาเฉิดฉายอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ เธอเฉิดฉายอยู่ตลอดช่วงเช้า จนแขกเหรื่อที่เชิญมาในงานมากันครบหมดแล้ว เธอยังคงชะเง้อคอยาว แต่ว่าคนคนนั้นที่เธอรอคอยยังไม่มาสักที เธอชอบช่วงเวลาปีใหม่ที่สุด แต่ว่าไม่ได้ชอบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ สิ่งที่เด็กคนอื่นๆคาดหวังในเทศกาลนี้ก็คือ ได้รับเงินอั่งเปาให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่เธอคาดหวังจากงานนี้คือ มีเวลาอยู่กับคนคนนั้นถึง 2 วันเต็มๆ ปีที่แล้วในวันขึ้นปีใหม่ เขารับปากเธอไว้อย่างดีว่าปีนี้จะต้องมาถึงเร็วขึ้น แต่ว่าทำไมงานเลี้ยงใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาสักที? รออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งแขกของพ่อแม่พี่ชายพี่สะใภ้ที่เชิญมางานกลับไปกันหมดแล้ว แขกที่รับปากว่าจะมาก็จะมาถึงแล้ว หรืออาจจะเรียกได้ว่า คนคนนั้นที่เธอรอคอยคงไม่มาแล้วล่ะ “แม่คะ จ้านเนี่ยนเป่ยปีนี้คงไม่มาแล้วหรือคะ?” โม่เสี่ยวเป่าวิ่งเข้าไปเกาะแขนคุณแม่โม่ รบเร้าถามขึ้น “เด็กโง่เอ๋ย นั่นเป็นคุณอาของลูกนะจ้ะ เรียกชื่อเฉยๆได้อย่างไรกัน ไม่น่ารักเลยเรา” คุณแม่โม่ดึงจมูกของโม่เสี่ยวเป่า ถึงแม้ว่าคำพูดจะตำหนิเธอ แต่ว่าน้ำเสียงกลับอ่อนโยนมาก ไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวโทษเธอเลยแม้แต่น้อย “เขาตกลงจะมาไหมคะเนี่ย?” “มีงานด่วนเข้ามาในเขตทหาร วันนี้เขาคงมาไม่ได้แล้วละจ้ะ” คุณแม่โม่พูด น้องชายคนนั้นของเธอเก่งหลายด้าน ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเทศกาลอะไรก็ไม่มีวันหยุดทั้งนั้น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 144 คนที่เธอรอคอย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A