ตอนที่ 217 นับถือคนเลวเป็นพ่อ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 217 นับถือคนเลวเป็นพ่อ
ต๭นที่ 217 นับถือคนเลวเป็นพ่อ ถึงตอนนี้กู้เหยาเจอหน้าโม่ข่ายแค่เพียงไม่กี่ครั้ง จากลักษณะการพูดจาของเขา เธอรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง และเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือเขามีความรู้สึกลึกซึ้งกับภรรยาของเขาอย่างมาก........ดังนั้นเธอจึงไม่อาจคิดเป็นอื่นได้ แต่ว่าตอนนี้เพิ่งจะเจอหน้ากันได้ไม่กี่ครั้ง ก็มานอนอยู่ที่บ้านของเขาแล้ว.......คงจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแน่ๆ รอจนโม่ข่ายกลับมาแล้วค่อยออกห่างหน่อยน่าจะดีกว่า ไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด และไม่อยากให้เหยาเหยาน้อยเข้าใจผิดไปด้วย “คุณสบายใจได้คะ ฉันแค่มาช่วยดูแลเหยาเหยาน้อยเท่านั้น ไม่ล้ำเส้นอย่างแน่นอน ฉันดูออกคะว่าพี่ชายของคุณรักภรรยาของเขามาก” กู้เหยาส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ” พูดจบ กู้เหยาก็โค้งศีรษะก่อนจะหันหลังเดินออกไป เหลือแต่เพียงโม่เสี่ยวเป่าที่ยืนทำหน้างงๆอยู่ นี่? โม่เสี่ยวเป่ายื่นมือออกมา อยากจะคว้าพี่สะใภ้กลับมา! พี่รอก่อนสิคะ! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย! พี่ก็คือพี่สะใภ้ของฉันั่นแหละ! ! ผู้หญิงคนนั้นที่พี่ชายของฉันรักมากที่สุดเลยก็คือพี่นั่นแหละ! ! ขอร้องพี่ช่วยล้ำเส้นหน่อยสิได้ไหม! รีบๆมาอยู่เคียงข้างพี่ชายหน่อยเถอะ! เขาตายอดตายอยากมาสามปีแล้ว สามปีมานี้เขาไม่ได้มีความสุขแบบหนุ่มสาวบ้างเลย พี่ช่วยดับกระหายหัวใจน้อยๆของเขาเร็วหน่อยเถอะ! ! โม่เสี่ยวเป่าได้แต่ร้องตะโกนอยู่ในใจ แต่ว่ากลับไม่กล้าตะโกนออกมาจากปาก....... เธอมีลางสังหรณ์ว่า ถ้าเกิดพี่ชายหัวแข็งของเธอคนนั้นรู้เรื่องนี้เข้า มีหวังเธอคงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ในวันรุ่งขึ้นแน่ๆ ....... เจียงเป่ยเป็นเมืองที่อยู่ในเขตภูมิอากาศมาสุมเขตร้อนของทวีปเอเชีย อากาศในฤดูใบไม้ผลิอบอุ่นอย่างมาก วันนี้เป็นวันที่อากาศดีวันหนึ่ง บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย ห้อมล้อมดวงจันทร์อยู่ ดังคนที่เคยกล่าวไว้ว่า ดาวล้อมเดือน ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามขนาดนี้ โม่ข่ายกลับไม่มีอารมณ์จะชื่นชมเลยสักนิด ในความคิดของเขานึกถึงแต่เพียงกู้เหยาและเหยาเหยาน้อยที่อยู่ในคฤหาสน์ เขาใช้ให้เซียวหนิงอี้ไปสอดส่องดูสถานการณ์ตั้งนานแล้ว เซียวหนิงอี้ก็ยังไม่ออกมารายงานสักที ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ? เขาชะเง้อมองแล้วมองอีก โม่ข่ายไม่ทันได้รอเซียวหนิงอี้ออกมา เขาก็จุดบุหรี่ขึ้นมามวนหนึ่ง สูบเข้าไปอย่างแรง 2 ครั้ง อาศัยนิโคตินมอมเมาตัวเอง ในเวลาทำงาน ใครๆต่างก็พูดว่าโม่ข่ายเป็นข้อมือเหล็ก หมายถึงเป็นผู้นำที่เด็ดขาด แผนกลยุทธ์ของเขายังไม่เคยผิดพลาด ตำแหน่งผู้นำทางการค้าไม่มีใครแย่งชิงเขาไปได้ แต่ว่าสำหรับเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึก ใช้ความงี่เง่ามาจินตนาการแม้แต่โม่ข่ายก็ไม่เว้น อย่าพูดถึงคนอื่นเลย ขนาดหลิงยองและเหลียงฮุ่ยอี๋ที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดก็ยังมาอาจละทิ้งเขาไปได้เลย กู้เหยาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าโม่ข่ายแล้ว อีกอย่างเขาก็คิดหาวิธีให้เหยาเหยาน้อยพากู้เหยากลับมานอนค้างที่บ้านได้ แต่ว่าเขาก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าควรจะดูแลกู้เหยาอย่างไร ถึงจะให้เธอยอมรับเขาง่ายขึ้น อย่าปฏิเสธเขาแบบนั้นเลย เซียวหนิงอี้เดินออกมาจากเขตที่พักอาศัย มองไปไกลๆก็เห็นดวงไฟกระพริบอยู่ข้างนอกนั่น เขาจึงรู้ว่านั่นคือโม่ข่ายกำลังสูบบุหรี่อยู่ “กู้เหยาเป็นอย่างไรบ้าง?” พอเห็นเซียวหนิงอี้ โม่ข่ายรีบดับบุหรี่ลงทันที ถึงแม้เขาจะลดเสียงต่ำลงแล้ว แต่ว่าก็ยังได้ยินความรีบร้อนในน้ำเสียงของเขาอยู่ เซียวหนิงอี้เข้าไปใกล้ๆรถ หยิบบุหรี่ออกมา อาศัยไฟแช็คของโม่ข่ายจุดบุหรี่ สูบไป 2 ครั้ง จึงเอ่ยขึ้นช้าๆว่า : “กู้เหยาจำพวกเราไม่ได้เลย เธอไม่ได้แกล้งลืมพวกเราหรอก” “ลืมพวกเราไปแล้วจริงๆหรือเนี่ย” โม่ข่ายจุดบุหรี่ขึ้นมามวนหนึ่งเช่นกัน ยืนพิงรถสูบไปพร้อมกับเซียวหนิงอี้ด้วยกัน หลังจากสูบไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาถามอีกว่า “รู้ไหมว่าสาเหตุมาจากอะไร?” เซียวหนิงอี้สูบอีกครั้งหนึ่ง ทิ้งขี่บุหรี่ลง พลางกล่าวว่า : “เท่าที่คุยกับเธอไป 2 -3 ประโยค ผมรู้แค่ว่าเธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลย แต่ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? พวกเราคงต้องค่อยๆสืบดูอีกที” “ในเรื่องนี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าผม คุณบอกมาสิว่าจะให้ผมทำอะไร?” ขอเพียงทำให้กู้เหยาดีขึ้น ถ้าจะต้องเปลี่ยนแปลงเซิ่งเทียนไปทั้งหมด โม่ข่ายก็ไม่มีทางคัดค้านอย่างแน่นอน เซียวหนิงอี้เงียบไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า : “เมื่อก่อนผมก็เคยเจอผู้ป่วยที่สูญเสียความทรงจำ ผู้ป่วยเหล่านั้นมีหลายประเภท บางคนก็ถูกทำร้าย บางคนก็เพราะตัวเองได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส จึงเลือกที่จะลืมเรื่องราวในอดีตไปเสีย” “คุณคิดว่ากู้เหยาอาจจะได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ก็เลยเลือกที่จะลืมเรื่องราวในอดีตไปทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?” สายตาของโม่ข่ายจ้องมองไปยังห้องที่เปิดไฟสว่างอยู่ในคฤหาสน์แห่งนั้น หลังจากนั้นสักพัก จึงส่ายหน้า “กู้เหยาที่ผมรู้จักไม่ใช่คนแบบนั้นแน่” หลายปีก่อน กู้เหยาต้องเผชิญกับการถูกทรยศหักหลังหลายรูปแบบ ถูกครอบครัวทอดทิ้ง ภายใต้สิ่งแวดล้อมแบบนั้น เธอยังยืนหยัดอย่างเข้มแข็งผ่านมันมาได้ แถมยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกด้วย เธอเป็นคนที่มีพลังบวกและมองโลกในแง่ดี โม่ข่ายไม่คิดว่ายังมีเรื่องอะไรที่จะสามารถทำให้กู้เหยาเจ็บปวดถึงขนาดนั้นได้ จนต้องทำให้เธอเลือกที่จะปิดกั้นความทรงจำในอดีตทั้งหมด เซีนวหนิงอี้บอกอีกว่า : “การสูญเสียความทรงจำสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทและหลายระดับ การสูญเสียความทรงจำในแบบธรรมดาสามารถรักษาให้หายได้ แต่เท่าที่ผมสังเกตอาการของกู้เหยาไม่เหมือนกับคนไข้ที่ผมเคยเจอมาเลย” โม่ข่ายขมวดคิ้วแน่น : “คุณกำลังจะบอกอะไรผมหรือ?” เซียวหนิงอี้ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยว่า : “ถ้ามีโอกาสสามารถพากู้เหยาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลได้ จะลองตรวจสมองของเธอดูว่าเคยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงหรือไม่? ถ้าสมองไม่มีปัญหาอะไร พวกเราก็จะได้หาสาเหตุไปในทางอื่น ตัดออกไปได้เรื่องหนึ่งก็จะหาสาเหตุได้เร็วขึ้น” โม่ข่าย : “......” เงียบไปครู่หนึ่ง เซียวหนิงอี้จึงพูดอีกว่า “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ตอนนั้นเธอสูญเสียความทรงจำในอดีตไป ผมคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ เท่าที่ผมดู เธอจำเรื่องในอดีตไม่ได้อาจจะเป็นการดีกว่า ขอเพียงพวกเราอยู่เคียงข้างเธอ ให้ความรักความอบอุ่นกับเธอ เธอก็จะยอมรับพวกเราได้ในที่สุด” “ข้างกายเธอมีกู้เจิ้งเต๋ออีกคนหนึ่ง” โม่ข่ายเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมาอย่างเย็นชา สายตาของเขาเต็มไปด้วยแววตาของความอาฆาต ถ้ากู้เหยาไม่ฟื้นคืนความทรงจำ เธอคงไม่มีทางเชื่อว่ากู้เจิ้งเต๋อเคยทำเรื่องอะไรมาบ้างในอดีต พอนึกขึ้นมาได้ว่าสามปีมานี้กู้เหยาอยู่กับกู้เจิ้งเต๋อที่โหดเหี้ยมปานนั้น โม่ข่ายรู้สึกว่าตัวเองเกือบจะหายใจไม่ออก กู้เจิ้งเต๋อเป็นอะไรสักอย่าง เขาจะทำเรื่องอะไรลงไป พวกเขาทุกคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ไม่ใช่ว่าโม่ข่ายไม่เคยคิดที่จะล้มเลิกฟื้นฟูความทรงจำของกู้เหยา เขาเป็นห่วงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนนั้นจะกระทบกระเทือนจิตใจของกู้เหยาอย่างมาก จนเธอเลือกที่จะลืมมันไป คงจะเกินขอบเขตที่เธอจะรับมันไหว จนเขาอยากจะละทิ้งความทรงจำที่สวยงามในอดีตของพวกเขาไปซะ แล้วให้กู้เหยาเริ่มต้นใหม่กับเขา พวกเขาช่วยกันสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่ก็ยังได้ แต่ว่าพอนึกถึงว่ากู้เจิ้งเต๋อใช้ประโยชน์จากข้อด้อยจุดนี้ของกู้เหยา ปล่อยให้กู้เหยานับถือศัตรูว่าเป็นพ่อตัวเอง โม่ข่ายไม่สามารถให้อภัยได้ “กู้เจิ้งเต๋อ เจ้าเล่ห์จะตายไป” พูดถึงชื่อนี้ขึ้นมา สายตาของเซียวหนิงอี้ฉายแววของความโหดเหี้ยม “คุณอย่าเพิ่งวู่วาม ตอนนี้ยังทำอะไรมันไม่ได้หรอก” โม่ข่ายเอ่ย “วางใจเถอะ ผมแยกแยะออก” เซียวหนิงอี้บอก พวกเขารู้อยู่แก่ใจดีว่า ตอนนี้กู้เจิ้งเต๋อเป็นคนเดียวที่กู้เหยาใกล้ชิดที่สุดและพึ่งพาอาศัยอยู่หลังจากที่เธอสูญเสียความทรงจำในอดีตไปทั้งหมด ถ้ากู้เจิ้งเต๋อเกิดอะไรขึ้นมากะทันหัน คนที่แย่ที่สุดก็คือกู้เหยา 
已经是最新一章了
加载中