ตอนที่ 248 หลอกให้เธอไปตรวจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 248 หลอกให้เธอไปตรวจ
ต๭นที่ 248 หลอกให้เธอไปตรวจ โม่ข่ายมองเซียวหนิงอี้อย่างเย็นชาหนึ่งที เตือนเขาว่าอย่าพูดอะไรไร้สาระอีก ให้เซียวหนิงอี้มาทานอาหารที่นี่ร่วมกัน เพื่อให้เขาช่วยพูดให้กู้เหยาฟื้นความทรงจำ เขาดันพูดอะไรไร้สาระก็ไม่รู้ ได้รับสายตาเตือนจากโม่ข่าย เซียวหนิงอี้ก็ไม่กล้าพูดเพ้อเจ้ออีก กระแอมไอเบาๆหนึ่งทีแล้วพูด “น้องเขย ได้ยินมาว่าช่วงนี้โรงพยาบาลเซิ่งเทียนมีอุปกรณ์การแพทย์ชั้นเยี่ยม ให้ฉันไปตรวจสุขภาพฟรีได้ไหม?” โม่ข่ายหยิบถ้วยซุปหนึ่งถ้วยให้กับกู้เหยา ให้เธอทานซุปก่อน ถึงมองไปทางเซียวหนิงอี้แล้วพูด “อยากจะไปก็ไป” “คุณกู้ครับ ไปด้วยกันก็ได้นะ ยังไงก็ฟรีอยู่แล้ว ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย” จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาในวันนี้คืออยากล่อให้กู้เหยาไปโรงพยาบาล ให้เธอทำการตรวจสอบร่างกายทั้งหมด ดูว่าที่สูญเสียความทรงจำเป็นเพราะได้รับบาดเจ็บหนักในบริเวณสมองหรือเปล่า กู้เหยากำลังคิดจะส่ายศีรษะปฏิเสธ โม่ข่ายที่นั่งข้างๆก็ฉวยโอกาสพูดก่อน “ก็ดีเหมือนกันนะ ผมก็อยากไปตรวจร่างกายเหมือนกัน ไปด้วยกันเถอะ” กู้เหยา “……” เซียวหนิงอี้ “ไปเลยไม่ต้องนัดวัน มู่จือ ให้คนเตรียมการล่วงหน้าก่อน ทานอาหารเสร็จแล้วไปเลย” โม่ข่ายพยักหน้า กู้เหยายิ้มอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษนะคะ ตอนบ่ายฉันต้องไปทำงาน” เซียวหนิงอี้ “โทรศัพท์ไปที่บริษัท ขอลาป่วย เดี๋ยวให้คุณหมอออกใบรับรองแพทย์ให้ ได้เงินเดือนเหมือนเดิม” กู้เหยาพูดอย่างประหลาดใจ “แบบนี้ก็ได้หรอคะ?” “มีมู่จืออยู่ ไม่มีอะไรที่ไม่ได้” เซียวหนิงอี้มองโม่ข่าย “นี่มู่จือ ใช่อย่างนั้นไหม?” ดังนั้น กู้เหยาจึงถูกสองหนุ่มหลอกให้เข้าโรงพยาบาล พูดตามตรง เธอไม่ชอบมาที่โรงพยาบาลเลย เมื่อก่อนเธอนอนอยู่โรงพยาบาลมาเกือบหนึ่งปี วันๆได้กลิ่นแต่ยา คิดขึ้นมาก็กลัวแล้ว ช่างเป็นความทรงจำอันมืดมิดจริงๆ ยังดีที่ช่วงนั้นยังมีพ่อเธออยู่ด้วย ถ้ามีแค่เธอคนเดียวล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะทนได้ไหม เห็นกู้เหยาถูกคุณหมอพาเข้าห้องตรวจเอ็มอาร์ทีแสกน โม่ข่ายกับเซียวหนิงอี้ก็มองหน้ากัน เซียวหนิงอี้พูดขึ้น “อย่ากังวลจนเกินไป” จนถึงตอนนี้โม่ข่ายก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมกู้เหยาถึงได้ลืมเรื่องราวในอดีต จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร เพียงแต่เขาซ่อนความกังวลไว้ในใจ ไม่ได้พูดกับใครเลย เรื่องทั้งหมดเขาแบกรับไว้คนเดียว ถ้าไอ้กู้เจิ้งเต๋อนั่นไม่อยู่ โม่ข่ายคงยอมให้กู้เหยาสูญเสียความทรงจำไปเลย เธอจะได้ไม่ต้องไปจำเรื่องราวอันน่าหวาดกลัวเมื่อสามปีก่อน จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกครั้ง “มู่จือ ถ้าการตรวจครั้งนี้ยืนยันออกมาว่าสมองกู้เหยาไม่ได้รับบาดแผลมาก่อน แกจะทำยังไง?” “ไปหาคนคนนั้น” ได้ยินเซียวหนิงอี้พูด นานสักพักกว่าโม่ข่ายจะเอ่ยประโยคนี้ออกมา คนคนนั้นก็คือปู่ของเขา และเป็นคนร้ายที่ “ฆ่า” ภรรยาของเขา ตอนนี้เขาไม่อยากจะเรียกคนคนนั้นว่าปู่ และเขาต้องหาเหตุผลต้นตอที่ทำให้กู้เหยาเสียความทรงจำให้เร็วที่สุด ให้เธอกลับมาข้างกายเขาเร็วๆ เซียวหนิงอี้พูดอีก “ถ้าให้ตายยังไงเขาก็ไม่อมรับ ไม่บอกอะไรแกสักอย่าง จะทำยังไง?” ทำอย่างไรหรอ? ชั่วขณะหนึ่ง โม่ข่ายก็ไม่รู้จริงๆว่าจะทำอย่างไรกับคุณปู่เขา? ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ปู่ของเขา เขาคงกำจัดไปนานแล้ว แต่ไม่มีคำว่าถ้า คนคนนั้นคือปู่ของเขาที่เป็นสายเลือดเดียวกันกับเขา ปู่เขาลงมือกับกู้เหยาได้ ความลบนั้นที่มาจากปากของกู้เจิ้งเต๋อทั้งหมดจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เพียงแต่ความลับนั้นคืออะไรกันแน่? ตอนที่ความลับนั้นเปิดเผยออกมา คนที่จะได้รับบาดเจ็บคือใครกัน? คือเขาหรอ? คือเสียวเป่า? หรือเป็นพ่อแม่ของเขา? บางทีอาจจะมีแค่ผลประโยชน์บางอย่าง? คิดถึงตรงนี้ โม่ข่ายก็คิดถึงจ้านเนี่ยนเป่ย ดูเหมือนว่าต้องหาเวลาไปคุยกับจ้านเนี่ยนเป่ยหน่อยแล้ว เซียวหนิงอี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ปกติก็มองไม่ออกว่าโม่ข่ายกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกู้เหยา เขาก็มักจะแอบสอดแนมได้บ้าง คนที่อยู่เบื้องหลังคือคุณปู่ของโม่ข่าย เรื่องนี้จัดการไม่ง่ายจริงๆ โม่ข่ายตอบไม่ได้ไปชั่วขณะก็สามารถเข้าใจได้ เขาจึงเปลี่ยนหัวข้อทันที “ให้เสียวเป่ากับเช่นเช่นรีบมา ทำไมพวกเธอยังมาไม่ถึงอีกนะ ไม่ใช่ไปเอ้อระเหยที่ไหนแล้วล่ะ?” “ใครแอบนินทาเราลับหลังกันเนี่ย?” น้ำเสียงแสบแก้วหูของโม่เสียวเป่าดังขึ้นมา ขัดจังหวะบทสนทนาของเขาทั้งสอง พวกเขาหันศีรษะมามอง ก็เห็นโม่เสียวเป่าที่สวมชุดทหารทั้งชุดพร้อมแว่นกันแดดและหมวกแก๊ป และหลินเชี่ยนเชี่ยนที่เดิมตามหลังโม่เสียวเป่ามา เซียวหนิงอี้รีบพูด “พูดถึงปีศาจ ปีศาจก็มาเลย คุณหนูสุดสวยทั้งสอง ผมคิดถึงพวกคุณมากเหลือเกิน ถึงได้แอบพูดถึงลับหลัง” โม่เสียวเป่าพูด “พวกผู้ใหญ่บอกว่า ห้ามพูดว่าลับหลังคนอื่น ไม่งั้นตอนกลางคืนจะมีมาเคาะประตู” “เสียวเป่าพูดถูก คุณเซียวคะ ระวังตอนดึกๆจะมีผีสาวไปเคาะประตูนะ” คนพูดคือหลินเชี่ยนเชี่ยน แม้ร่างกายจะเคยโดนไฟคลอกมา แต่ใบหน้าก็ยังสวยอยู่ แต่นิสัยตรงไปตรงมาของเธอนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนเลย ผ่านมาแล้วกี่ปีก็ยังเป็นหลินเชี่ยนเชี่ยนคนเดิม “มีผีสาวก็ดีสิ ฉันขาดผู้หญิงข้างกายพอดี แบบนั้นจะได้ลดปัญหาไปเยอะเลย” เซียวหนิงอี้มักจะมีท่าทางสบายๆอยู่เสมอ พวกเขาสามคนพูดคุยกันอย่างออกรส มีแค่โม่ข่ายคนเดียวที่หดหู่ไม่พูดอะไร ราวกับพวกเขาไม่มีตัวตนอยู่เลย ตาสองข้างจ้องมองไปที่ห้องตรวจเอ็มอาร์ทีแสกนอยู่ตลอดเวลา สมองทั้งหมดกำลังคิดถึงแต่กู้เหยา เขาสั่งให้คนไปเปลี่ยนยาที่กู้เจิ้งเต๋อให้กู้เหยาเป็นวิตามินแทน กู้เหยาหยุดยา จะสามารถผ่านช่วงเวลาเลิกยาได้ไหมนั้นเป็นสิ่งที่โม่ข่ายกังวลมากที่สุดในตอนนี้ โม่เสียวเป่ากุมปากหาวหนึ่งทีแล้วพูด “พี่สะใภ้ฉันล่ะ?” เมื่อคืนโม่เสียวเป่าได้เข้าร่วมงานเลี้ยงปฐมทัศน์ของหนังเรื่องใหม่ จากนั้นก็รับประทานอาหารที่งานเลี้ยง ยุ่งอยู่ค่อนคืนกว่าจะได้กลับมาพักผ่อนที่อพาร์ทเมนต์ ตอนนี้เธอยังไม่ตื่นเลย หาวน้ำตาไหลไม่หยุด ถ้าไม่ติดว่าต้องไปเดิน shopping ด้วยกันกับกู้เหยา ให้ตายยังไงเธอก็ไม่ออกมาจากรังหรอก เซียวหนิงอี้พูด “มีพี่ใหญ่สุดหล่ออยู่ตรงหน้าพวกเธอสองคนแท้ๆ พวกเธอกลับไม่สนใจ น่าเจ็บปวดใจจริงๆ” หลินเชี่ยนเชี่ยน “เรามีเจ้าของแล้ว พวกคุณจะหล่อแค่ไหนก็เป็นของคนอื่น ดังนั้นจุดประสงค์เดียวที่เรามาที่นี่มีอย่างเดียว คือพากู้เหยาไปเดินเล่น” โม่เสียวเป่าออกแรงพยักหน้าเห็นด้วยกับหลินเชี่ยนเชี่ยน “ฉันชอบจ้านเนี่ยนเป่ยของฉันเท่านั้น ชายอื่นนอกจากพี่ฉัน ก็ไม่มีใครเด่นในสายตาฉัน” เซียวหนิงอี้ทำสีหน้าท่าทางเจ็บปวดอย่างหมดหนทางมาก “พวกเธอสาวสวยสองคนไม่มาหาฉัน งั้นฉันต้องไปหาเหยาเหยาน้อยที่สวยที่สุดแล้ว” โม่เสียวเป่าพูด “ช่วงนี้เหยาเหยาน้อยติดพี่ใหญ่ คุณพ่อไม่เอาแล้ว เธอถึงได้มีเวลามาสนใจลุงคนนี้” เซียวหนิงอี้หยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ แกล้งทำเป็นพูดอย่างเจ็บปวด “เอาเถอะ ให้พวกเธอได้ทารุณฉันอย่างโหดเหี้ยมแล้วกัน ใครใช้ให้ฉันเป็นหนุ่มโสดไม่มีคนรักมาถึงตอนนี้ล่ะ” 
已经是最新一章了
加载中