ตอนที่ 251 ไม่มีอะไรเลย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 251 ไม่มีอะไรเลย
ต๭นที่ 251 ไม่มีอะไรเลย แต่ก็ไม่มีประโยชน์สักนิด กู้เหยาหมดแรงเหมือนจะล้มลงได้ตลอดเวลา ความรู้สึกเหมือนตอนป่วยเมื่อก่อนอย่างไรอย่างนั้น อาจจะป่วยก็ได้มั้ง ป่วยร้ายแรงกว่าปกตินิดหน่อย ยาที่ทานครั้งหนึ่งจำนวนเดิมก็ไม่ได้ผลอะไร คิดถึงตรงนี้แล้ว กู้เหยาก็มาถึงห้องรับแขก รินน้ำหนึ่งแก้ว และทานยาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากทานเสร็จ กู้เหยาก็กลับไปนอนบนเตียงที่ห้อง หลับตาลง หวังว่ายาจะสามารถรีบออกฤทธิ์เร็วๆ เธอจะได้ไม่รู้สึกแย่แบบนี้ กู้เหยารออยู่นานมาก ความรู้สึกในร่างกายไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้นมาสักนิด แต่นอนอยู่เหงื่อก็ท่วมร่าง หลังออกจากโรงพยาบาลสองปีก่อนเมื่อสองปีก่อน เพียงแค่ทานยาต่อเนื่อง เธอก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะสม ทำไมจู่ๆวันนี้เป็นแบบนี้? กู้เหยาคิดไปก็ไม่เข้าใจ กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างรู้สึกแย่ เดิมทีอยากจะโทรศัพท์หาคุณพ่อ แต่ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง จึงวางโทรศัพท์ลงไป โทรศัพท์ยังอยู่ในมือ มีโทรศัพท์โทรเข้ามา เธอยกโทรศัพท์มองหนึ่งที เป็นโม่ข่ายที่โทรมา ใจก็อ่อนยวบเกินบรรยาย รับแล้วก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของโม่ข่าย “ทำอะไรอยู่?” “ฉัน......” กู้เหยาสูดน้ำมูก จู่ๆก็รู้สึกน้อยใจอยากร้องไห้ แต่ก็กดความน้อยใจกลับไป แล้วพยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ฉันเหมือนจะป่วย” “อย่าวางสายนะ รอผม” จากนั้น กู้เหยาก็ได้ยินสียงปิดประตูรถลางๆ เธอถือโทรศัพท์แล้วซุกศีรษะลงในหมอน รู้สึกแย่เหมือนกับมดหมื่นตัวกำลังกัดหัวใจเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น ไม่นานมาก ในโทรศัพท์ก็มีเสียงโม่ขายดังขึ้นมาอีกครั้ง “เปิดประตู” “เปิดประตูอะไร?” กู้เหยาไม่ได้โต้ตอบกลับอย่างมึนงง สมองอันมึนตึ๊บของเธอไม่คิดว่าโม่ข่ายจะมาปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านเธอ “เปิดประตูบ้านคุณ” เสียงโม่ข่ายดังขึ้นมาจากโทรศัพท์อีกครั้ง ฟังแล้วค่อนข้างร้อนใจ “หะ?” กู้เหยาส่งเสียงหะอย่างทึ่มๆ แล้วใช้สมองมึนตึ้บคิดสักพัก จึงมีปฏิกิริยาโต้กลับว่าโม่ข่ายกำลังให้เธอเปิดประตูบ้าน เธอปีนขึ้นมา ดึงร่างกายโคลงเคลงอันไร้เรี่ยวแรงเดินออกไปข้างนอก ขณะที่เดินไปถึงประตู เธอก็ยื่นมือไปจับลูกบิดประตู ทั้งๆที่เห็นชัดว่าจับได้แล้ว แต่ก็จับได้แต่อากาศ “กู้เหยา——” เสียงโม่ข่ายดังจากนอกประตูเข้ามา “ฉันกำลังเปิดประตู รอสักครู่นะคะ” กู้เหยาจับอยู่นานกว่าจะเปิดประตูออก หลังจากเปิดประตูได้ แม้แต่โม่ข่ายเธอก็มองไม่ชัดเจนอย่างมาก “คุณคือโม่ข่ายหรอคะ?” “ผมเอง ผมโม่ข่าย โม่ข่ายของคุณ” โม่ข่ายโอบเอวเธออุ้มขึ้นแล้วเดิน “โม่ข่าย คุณทำอะไร?” กู้เหยาผลักเขา แต่ร่างกายไม่มีแรงจริงๆ ร่างกายอ่อนปวกเปียกพิงในอ้อมอกเขา “ผมจะพาคุณกลับบ้าน” กลับบ้านของพวกเขา เขาไม่อาจทิ้งให้เธออยู่ข้างนอกคนเดียวอีกต่อไป และไม่ให้เธอรับความเจ็บปวดและความโดดเดี่ยวคนเดียวอีก “บ้าน? บ้านใคร?” กู้เหยาพึมพำเงียบๆ “ที่ที่คุณพ่ออยู่คือบ้านของฉัน เขาไม่อยู่แล้ว ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน?” เธออาจจะป่วย หมดหนทาง หวาดกลัว จะต้องเป็นเพราะคุณพ่อไม่อยู่กับเธอ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน สามปีนี้ คุณพ่อไม่เคยห่างจากเธอมาก่อน จู่ๆวันนี้คุณพ่อก็จากเธอไป เธอถึงได้หมดหนทางแบบนี้ ได้ยินกู้เหยาพูด โม่ข่ายก็กระชับแขน กอดเธอในอ้อมอกให้แน่นขึ้น แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “กู้เหยา ผมไม่ให้คุณพูดเพ้อเจ้อ” จะโทษก็โทษเขา โทษที่เขาดูแลเธอไม่ดี ถึงทำให้เธอพบเจอกับเรื่องเจ็บปวดพวกนั้น ถึงทำให้เธอลืมอดีตของตัวเองหมดเลย “โม่ข่าย? คุณคือโม่ข่ายหรอ? โม่ข่ายคือใครกันล่ะ?” กู้เหยาพูดอย่างมึนงงไม่ชัดเจน “ฉันเหมือนไม่รู้จักคุณ บางทีก็เหมือนรู้จักคุณมานานแล้ว ความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดจริงๆ” “กู้เหยา......” นอกจากเรียกชื่อเธอแล้ว โม่ข่ายก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้อีก กู้เหยาพูดอีก “นอกจากฉันไม่รู้จักคุณแล้ว ตัวฉันเองคือใครฉันก็ไม่รู้ คุณพ่อบอกว่าฉันชื่ออะไรฉันก็ชื่อนั้น แต่ฉันก็คิดไม่ออกว่าตัวเองคือใคร อดีตของฉันเกดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ หลายครั้งที่ฉันรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะหายไปตอนไหนก็ได้ เหมือนกับตัวเองไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ยังไงยังงั้น” “ในใจฉันกลัว แต่ฉันไม่กล้าพูดกับคุณพ่อ ฉันไม่อยากให้เขาเป็นห่วงฉัน เขาก็อายุเยอะแล้ว เป็นญาติคนเดียวของฉัน เขาไม่อยากบอกอดีตที่ผ่านมาของฉัน เพราะหวังดีกับฉันแน่ๆ ให้ฉันเข้าใจว่าเรื่องในอดีตนั้นต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน” “ฉันไม่ให้ตัวเองไปนึกถึงเรื่องอดีตตลอดเวลา แต่ก็ยังอดไม่ไหวที่จะไปนึกถึงมัน ฉันไปเจอเรื่องราวอะไรน่ากลัวกันแน่ ถึงไม่อยากนึกถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง?” “ฉันจะพูดอะไรกับคนแปลกหน้าอย่างคุณเยอะแยะทำไมเนี่ย? ฉันบอกแล้วว่าคุณไม่รู้หรอกว่าในใจฉันรู้สึกแย่แค่ไหน คุณยิ่งไม่เข้าใจเลยว่าในใจฉันหวาดกลัวมากแค่ไหน” ตัวเธอมักจะแกล้งทำเป็นสุขุมมาก ราวกับว่าไม่เก็บใครหรือเรื่องอะไรไว้ในจิตใจ และไม่มีเพื่อนที่ไหนทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากมีเพื่อน แต่เธอกลัวที่จะมีเพื่อน ถ้าวันไหนมีคนถามเธอว่าเมื่อก่อนเธอเรียนมหาลัยที่ไหน เมื่อก่อนทำงานที่ไหน เมื่อก่อนเธอ...... ตอนที่คนอื่นถามเธอเรื่องง่ายๆ คำถามพื้นฐานที่สุดแบบนี้ เธอควรตอบว่าอย่างไร? ถ้าตอบตามตรง บอกคนอื่นว่าเรื่องราวในอดีตฉันลืมไปไหมแล้ว คนพวกนั้นจะมองเธอแปลกๆไหม? “กู้เหยา ผมเข้าใจ ที่คุณพูดผมเข้าใจทั้งหมด” โม่ข่ายบอกเธอไม่หยุด เจ็บหัวใจเหมือนแตกสลายอย่างไรอย่างนั้น หายใจอย่างยากลำบาก เธอคือกู้เหยาของเขา ไม่ว่าจะเมื่อไร เธอมักจะยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอปกคลุมความกังวลและความหวาดกลัวในใจ แสร้งว่าตัวเองเข้มแข็งมาก เหมือนกับว่าใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้ เขาเกลียดตัวเองที่ทำเธอหายไป และทิ้งเธอจากไปยาวนานมาก สามปีนี้เธอผ่านอะไรมากันแน่? “ฮ่าๆ......” เธอหัวเราะเย็นชาพลางส่ายศีรษะ ยิ้มแหยที่ดูแย่ยิ่งกว่าร้องไห้อีก “แม้แต่พ่อฉันยังไม่เข้าใจเลย คุณจะเข้าใจได้ยังไง?” ไม่รู้ว่าเพราะสมองมึนงง และไม่รู้ว่าเพราะคนป่วยจะอ่อนแอเป็นพิเศษหรือเปล่า เรื่องราวและความหวาดกลัวพวกนี้ที่ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน กู้เหยาพูดออกไปหมดเลย บางทีอาจจะเพราะโดดเดี่ยวมานานมากจริงๆล่ะมั้ง นานมากแล้วที่ไม่มีเพื่อน ถึงได้เข้าไปในแหของโม่ข่ายปล่อยไว้ ไม่มีทางเป็นอิสระอีกต่อไป รู้ดีว่าเขามองภรรยาที่เสียไปของเขาผ่านเธอ แต่เธอก็ยังคงยอมพุ่งเข้าไปหาเขาเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ หลายครั้งมากที่กู้เหยาชื่นชมและอิจฉา “กู้เหยา” คนนั้นของโม่ข่าย ถึงกู้เหยาคนนั้นจะไม่ได้อยู่ข้างกายโม่ข่ายแล้ว แต่พวกเขาก็มีความทรงจำอันงดงามร่วมกัน และยังมีคนที่รักเธออย่างลึกซึ้ง แคร์เธอ และยังมีลูกสาวที่น่ารักมาก แล้วเธอล่ะ? เธอมีเพียงคุณพ่อ นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีใครอีก แม้แต่ความทรงจำที่ทุกคนควรมีก็ไม่มีเลย 
已经是最新一章了
加载中