ตอนที่ 273ฮีโล่ผู้ช่วยหญิงสาว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 273ฮีโล่ผู้ช่วยหญิงสาว
ต๭นที่ 273 ฮีโล่ผู้ช่วยหญิงสาว “สาวน้อย เธอก็อยู่ที่เจียงเป่ยนานแล้วนะ ไม่รู้หรอว่าใครที่ห้ามยั่วโมโหที่เจียงเป่ย?” เห็นว่าโม่เสียวเป่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ ต้องมีคนใจดีเตือนเธอหน่อย ไม่เช่นนั้นอาจจะตายตั้งแต่ยังสาวก็ได้ “ใครเป็นคนที่ยั่วโมโหไม่ได้ที่เจียงเป่ย?” โม่เสียวเป่าไม่เคยคิดจริงๆว่าใครเป็นคนที่ยั่วโมโหไม่ได้ที่เจียงเป่ย ยังไงเธอก็ทำอะไรตามใจชอบมาโดยตลอด เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไร ไม่ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าจะจัดการไม่ได้ ก็มักจะมีคนคอยจัดการเรื่องวุ่นวายอยู่เบื้องหลังเธอ เธอเลยไม่รู้จักการควบคุมอารมณ์ตัวเอง คนหวังดีพูดขึ้นอีก “คนดูแลบริษัทเซิ่งเทียน LeoMo จ้านเนี่ยนเป่ยตระกูลจ้านที่ดูแลกองบัญชาการเขตเจียงเป่ย แล้วก็มีคุณชายเผยลูกชายของนายกเทศมนตรีของพวกเรา” จ้านเนี่ยนเป่ยยั่วโมโหไม่ได้หรอ? โม่เสียวเป่ายั่วโมโหเขาทุกวันเลย เขายังไม่ทำอะไรเธอสักแอะ คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าครั้งล่าสุดที่เขาให้ลูกน้องอัดจนเป็นก้อน สุดท้ายจ้านเนี่ยนเป่ยก็ดูแลอยู่ข้างกายเธอ ดูแลให้เธอสะดวกสบาย พี่ชายท่อนไม้ของเธอ นอกจากจะดีมากๆกับเหยาเหยาน้อยและเหยาเหยาคนโตแล้ว เขาก็ดีกับเธอมากเช่นกัน ถึงจะยุ่งเรื่องของเธอมากไปหน่อย แต่อย่างไรก็หวังดีกับเธอ ท่ามกลางคนที่ยั่วโมโหไม่ได้สามคนนี้ในเจียงเป่ย ก็ยังมีสองคนที่โม่เสียวเป่าคุ้นเคยสุดๆ อยู่ในวงโคจรด้านหลังพวกเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่สิ ต้องเรียกว่าถูกพวกเขาดูแลอยู่ในอุ้งมือมาตั้งแต่ยังเล็ก สำหรับลูกชายนายกเทศมนตรี สูงหรือเตี้ย อ้วนหรือผม น่าเกลียดหรือหล่อ โม่เสียวเป่าไม่รู้จริงๆ ในช่วงปีนี้ นอกจากการถ่ายภาพยนตร์ของเธอแล้วก็ใช้เวลาไปกับการจีบจ้านเนี่ยนเป่ย ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย ในสายตาไม่มีชายอื่น สมองโม่เสียวเป่าคิดอย่างรวดเร็ว หลังจากคิดความเกี่ยวข้องนี้แล้วหนึ่งรอบ ก็เดาได้อย่างรวดเร็วว่าชายตรงหน้าที่ถือว่าหน้าตาดีผู้นี้น่าจะเป็นคุณชายเผยลูกชายนายกเทศมนตรีที่พวกเขาพูด โม่เสียวเป่ามองเขาแล้วพูด “คุณชายเผยคือหนึ่งในสามคนที่ยั่วโมโหไม่ได้ที่เจียงเป่ย เห็นใจหญิงสาวผมบลอนด์ที่หาเงินอย่างยากลำบากเถอะค่ะ” “พวกแกทำอะไรกัน? ให้สาวสวยออกเงินได้ยังไง?” ชายที่ถูกคนรุมล้อมมองโม่เสียวเป่า สุดท้ายก็พูดขึ้นมา ลูกน้อง “คุณชายเผย......” เขาโบกมือให้ลูกน้องหยุด เขาพูดขึ้นอีก “เอาเงินคืนสาวสวยคนนี้ไป หนึ่งล้านแปดหมื่นหยวน ห้ามขาดแม้แต่นิดเดียว” “ครับ” บัญชีธนาคารของโม่เสียวเป่าก็ได้รับเงินที่ใช้ไปทั้งหมดในวันนี้อย่างรวดเร็ว เธอมองจำนวนเงินที่เข้ามาในบัญชีในข้อความโทรศัพท์ ยิ้มแล้วพูด “คุณชายเผยสมกับเป็นหนึ่งในสามคนที่ยั่วโมโหไม่ได้ในเจียงเป่ยจริงๆ จัดการได้อย่างเด็ดขาด ต่อไปก็อย่าติดต่อกับคนชั่วพวกนี้นะคะ มีอะไรก็ให้ฉันช่วย มาหาฉันได้ตลอดค่ะ” “ผมก็ชอบเป็นเพื่อนกับคนที่เด็ดขาดเหมือนกัน” เขามองเธอ ยิ้มเบาๆแล้วพูด “งั้นชนกับผมสักแก้ว ขอโทษแทนคนพวกนี้ด้วย ถือว่าเรื่องแย่ๆในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน” เขาพูดอย่างจริงใจ แล้วยกเบียร์ขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วภายในอึกเดียวแล้วพูด “ผมดื่มหมดแก้วเพื่อแสดงความเคารพ” โม่เสียวเป่าก็เป็นคนที่มีนิสัยเด็ดขาด รับแก้วเบียร์มาจากลูกน้องเขาก็ยกดื่มหมดแก้วแล้วพูด “เมื่อก่อนฉันไม่ได้ให้อภัยใครง่ายๆขนาดนี้นะคะ วันนี้เห็นว่าคุณชายเผยหล่อมาก เลยยอมแหกกฎสักครั้ง” เขาพยักหน้า ราวกับว่ากำลังรับคำชมเชยจากโม่เสียวเป่า “ได้เงินคืนแล้ว ดื่มเบียร์แล้ว ฉันไปก่อนนะคะ” โม่เสียวเป่าโบกมือให้กับเขา “คุณชายเผย มีโอกาสไว้เจอกันใหม่!” เขามองโม่เสียวเป่าแล้วยิ้มโดยที่ไม่พูดอะไร สายตาลุ้มลึกยากที่จะเข้าใจ พอโม่เสียวเป่าหันร่างไป จู่ๆขาสองข้างก็หนักเหมือนมีตะกั่วมาถ่วงไว้ หนักจนขยับไม่ได้ ไม่เพียงแต่ขาสองข้างหนึ่งเท่านั้น ศีรษะก็มึนมาก ภาพตรงหน้าค่อยๆเลือนราง คนพวกนี้ตรงหน้าส่ายไปมา “เชี่*! แกวางยาฉัน” โม่เสียวเป่ากัดฟัน เรื่องพวกนี้ได้ยินมาบ่อย ไม่เคยคิดว่าจะเจอกับตัว นึกถึงตอนที่เธอตามจ้านเนี่ยนเป่ยตั้งแต่เล็ก ใช้ชีวิตกับโม่ข่ายทุกที่ ไม่คิดว่าวันนี้จะมาติดกับน้ำมือของคนชั่วพวกนี้ หนึ่งในนั้นพูดขึ้น “คุณชายเผย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อารมณ์ร้อนเหมือนปกติจริงๆ ถึงตอนนี้แลวก็ยังสงบไม่เปลี่ยน” “วางยาฉัน พวกแกรอฉันก่อนนะ ดูฉันถลกหนังพวกแก” โม่เสียวเป่าเบิกตากว้างโกรธจัด พยายามทำให้มีสติอยู่ “ฮ่าๆๆ......” รอบๆมีแต่เสียงหัวเราะเยาะของคนพวกนั้น เทียบกับเสียงหัวเราะของโม่เสียวเป่าก่อนหน้านี้ทะลึ่งกว่า “ถึงเวลาแล้ว เธออยากจะถลกหนังพวกเรา ให้เราถลกเสื้อผ้าเธอออกก่อนดีกว่า” “ถลกเสื้อผ้าฉันออกหรอ? พวกแกรู้ไว้ซะนะว่านิ้วไหนที่มันสัมผัสฉัน นิ้วนั้นมันจะไม่เหลือทิ้งไว้แน่” โม่เสียวเป่าพูดอย่างดุเดือดมาก แต่ภายในใจกลับค่อนข้างกังวล เธอไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และไม่รู้ด้วยว่าไอ้คนชั่วพวกนี้มันวางยาอะไรเธอ? สมองเธอยิ่งมึนขึ้นเรื่อยๆ มึนจนใกล้จะไม่มีสติแล้ว เสียงพวกมันอยู่ใกล้มาก เธอฟังไม่ออกว่าพวกมันพูดว่าอะไร เธอเผลอจับโทรศัพท์ในกระเป๋า และไม่รู้ด้วยว่าเมื่อครู่ได้โทรหาจ้านเนี่ยนเป่ยหรือไม่ ไม่รู้ว่าจ้านเนี่ยนเป่ยได้รับโทรศัพท์หรือไม่ และไม่รู้วยว่าจ้านเนี่ยนเป่ยจะรีบมาช่วยเธอไหม...... ตอนที่โม่เสียวเป่ากำลังคิดถึงจ้านเนี่ยนเป่ยอยู่ สมองก็ค่อยๆกลายเป็นสีขาว ร่างกายอ่อนปวกเปียกล้มลงที่พื้น เธอไม่รู้อะไรอีกแล้ว แค่สาปแช่งไอ้พวกคนชั่วพวกนี้ภายใต้จิตสำนึกอย่างรุนแรง รอให้เธอฟื้นขึ้นมาก่อน เธอจะต้องถลกหนังพวกมัน เห็นโม่เสียวเป่าล้มลงไป เสียงหัวเราะคนอื่นก็เงียบลง ทุกสายตามองไปที่ผู้ชาย “คุณชายครับ จัดการผู้หญิงคนนี้ยังไงดี?” เขาลุกขึ้นเดินไปย่อตัวลงมาข้างโม่เสียวเป่า เอื้อมมือไปบีบคางเธอแล้วยกศีรษะเธอขึ้นมาเล็กน้อย จ้องมองเธอไปมา ราวกับว่าอยากจะมองอะไรจากใบหน้าของโม่เสียวเป่า มองอยู่นานมาก เขาถึงได้ออกคำสั่ง “เอาไปส่งที่ห้องฉัน” ชายสองสามคนส่งสายตาให้กัน แล้วเดินออกมาแบกโม่เสียวเป่าไป ในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกคนถีบทะลุเข้ามา ขาเดียวทำให้บานประตูหนาเป็นรูสองสามรู และร่างสูงใหญ่ของจ้านเนี่ยนเป่ยก็ปรากฏสู่สายตาพวกเขา จู่ๆจ้านเนี่ยนเป่ยก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้คนที่รู้จักเขาในที่เกิดเหตุตัวแข็งทื่อ ถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างไม่รู้ตัว “ผู้บัญชาการจ้าน ที่แท้คุณนี่เอง” ชายคนที่เป็นผู้นำยิ้ม แล้วพูด “ได้ยินมาว่าไม่ชอบมาที่แบบนี้นี่ ทำไมวันนี้สนใจขึ้นมาล่ะ?” จ้านเนี่ยนเป่ยแย่งโม่เสียวเป่ามาแบกไว้บนไหล่ สายตาแหลมคมเหมือนเสือชีตาห์กวาดตามองภายในห้องหนึ่งรอบ เพียงรอบเดียว จ้านเนี่ยนเป่ยก็จำหน้าได้ทุกคน คนที่มีอำนาจก็จำไว้ในสมองเขาเรียบร้อย 
已经是最新一章了
加载中