ตอนที่ 289 ความรักช่างน่าพิศวง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 289 ความรักช่างน่าพิศวง
ต๭นที่ 289 ความรักช่างน่าพิศวง ฤดูหนาวดูหิมะ ฤดูร้อนชมดอกไม้ นักท่องเที่ยวที่มาชมดอกไห่ถังที่ภูเขาซีก็ยังคงเยอะมาก ฝูงชนมากมายไม่น้อยไปกว่าช่วงฤดูหนาวเลยสักนิด ไม่รู้ว่าความทรงจำของโม่ข่ายนั้นดีเป็นพิเศษ หรือเพราะว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ที่กู้เหยาเคยพาเขามา เขาเลยจำได้เป็นพิเศษ เพียงแค่เดินผ่านถนน ผ่านมาสองสามปีแล้ว เขาก็ยังจำได้ว่าตรงไหนมีหลุม ตรงไหนมีเลี้ยว เขาจูงมือกู้เหยานำเธอไปที่ถนนเล็กสายนั้นที่เมื่อก่อนเธอเคยพาเขาไป มาถึง “ทะเลแห่งรัก” ที่เมื่อก่อนพวกเขาเคยมา ฤดูร้อนหิมะและน้ำแข็งละลาย น้ำฝนเยอะ ฤดูหนาวกับทะเลสาบน้ำแข็งก็ละลายหมด น้ำในทะเลสาบเอ่อล้นออกมา ราวกับเป็นไข่มุกเม็ดหนึ่งที่อยู่ระหว่างเขา โม่ขายกอดเธอ จูบหน้าผากเธอ แล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน “กู้เหยา ชอบที่นี่ไหม?” “ชอบ” กู้เหยาพยักหน้าอย่างแรง ส่งยิ้มสดใสให้เขาแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ชอบจริงๆ! ขอบคุณที่พาฉันมาที่ที่สวยแบบนี้นะคะ” ได้ยินเธอพูดแบบนี้ โม่ข่ายก็ยิ้มขมขื่น แล้วลูบศีรษะเธอ ที่ที่สวยแบบนี้เธอเป็นคนพาเขามาต่างหาก ไม่ใช่เขาพาเธอมา เพียงแต่เธอจำไม่ได้ “ฤดูหนาในปีนั้นคุณเป็นคนพาผมมา” โม่ข่ายจูงกู้เหยาไปที่ต้นไม้เก่าแก่ต้นนั้น เดินไปด้วยพูดไปด้วย “คุณยังบอกผมอีกด้วยว่าทะเลสาบนั้นเรียกว่า ทะเลแห่งรัก” เขารู้ว่าเธอจำไม่ได้ เขาค่อยๆเล่าให้เธอฟัง หลังจากได้ฟังแล้วเธอจะจำได้ไหมก็ไม่เป็นอะไร อดีตระหว่างพวกเขา เธอจำไม่ได้ไม่เป็นอะไร เขาจะบอกเธอทีละอย่าง ที่แท้ที่นี่ก็เรียกว่าทะเลแห่งรัก! ทะเลสาบไม่ใหญ่ น้ำใสมาก เหมือนกับความรัก ความรักที่แท้จริงโอบอุ้มคนสองคนเหมือนกับความหวานใสของน้ำแร่ ระหว่างที่พูดอยู่ โม่ข่ายก็นำกู้เหยามาที่ด้านหน้าต้นไม้เก่าแก่ต้นนั้น ดึงเธอมาย่อตัวลงด้วยกัน “ในตอนนั้นคุณยังมาขุดแหวนวงหนึ่งออกมาแล้วให้ผม” พูดจบ โม่ข่ายก็มองกู้เหยาเงียบๆ หวังมากว่าเธอจะโต้ตอบเขา บอกเขาว่าเธอจำได้ ที่แห่งนี้ ในวันที่ทะเลสาบเป็นน้ำแข็ง เธอขุด ขุมสมบัติ ที่คุณแม่เธอฝังไว้แล้วเอาให้เขากับมือ กู้เหยาก็พยายามอยู่ พยายามนึกถึง คิดไปคิดมาเธอก็เห็นภาพบางภาพ นั่นก็คือเธอกับคุณแม่มาฝังแหวนแต่งงานวงนี้ด้วยกัน เธอมองไปที่มือข้างซ้ายของโม่ข่าย นิ้วกลางข้างซ้ายเขาสวมแหวนแต่งงานวงหนึ่ง เป็นแหวนแต่งงานที่เก่าแก่มาก ซึ่งในความทรงจำของเธอคุณแม่พาเธอมาฝังมันไว้ที่นี่ เธอยังจำคำพูดที่คุณแม่เคยพูด——ให้เธอเจอคนที่รักเธอจริงๆ คนที่อยากใช้ชีวิตร่วมกันตลอดชีวิต แล้วนำแหวนวงนี้ให้กับเขา กู้เหยาจำไม่ได้ว่าตัวเองเอาแหวนวงนี้ให้โม่ข่าย แต่ในเมื่อแหวนสวมอยู่บนมือโม่ข่าย ถ้าเช่นนั้นก็พิสูจน์ได้ว่าตอนที่เธอให้แหวนกับเขา เธอต้องรักเขาอย่างแน่นอน เมื่อก่อนเคยสงสัย เคยกังวล เคยหวาดกลัว หลังจากผ่านเรื่องราวมาสองวันนี้ ความรู้สึกทั้งหมดพวกนั้นก็หายไปแล้ว ในตอนนี้ กู้เหยารู้แค่ว่าโม่ข่ายคือสามีของเธอ เป็นคุณพ่อของลูกเธอ เป็นผู้ชายที่เธอเคยรักเมื่อก่อน เป็นผู้ชายที่เธอตกหลุมรักอีกครั้ง ความรักเป็นสิ่งที่น่าพิศวง มันไม่ได้หายไปตามกาลเวลา แต่มันเป็นพลังที่ไร้รูปเคยดึงเข้าหากันอย่างเหนียวแน่น กู้เหยาซบอกโม่ข่าย เอื้อมมือไปโอบเอวผอมของเขา แล้วพึมพำ “คุณชายโม่ ต่อไปฉันจะจับคุณไว้แน่นๆ ไม่จากคุณไปอีก” ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำ ไม่ว่าอิทธิพลเบื้องหลังจะน่ากลัวมากเพียงใด เธอจะสู้กับพวกมันจนถึงที่สุด ครั้งนี้เธอต้องจับมือโม่ข่ายไว้แน่นๆ ไม่จากเขาไปอีกแล้ว “คุณชายโม่จะจับคุณนายโม่ไว้แน่นๆเหมือนกัน จับแน่นๆเลย ไม่ปล่อยมือเธออีกต่อไป” โม่ข่ายพูด โม่ข่ายเอื้อมมือไปถอดแหวนเก่าแก่ที่นิ้วกลางข้างซ้ายที่เขาไม่เคยถอดออกเลยให้กู้เหยาดู “คุณเคยบอกว่าผมใส่วงนี้ก็แสดงว่าผมเป็นคนของคุณแล้ว ทั้งชีวิตนี้ห้ามเสียใจ” “ฉ-ฉันพูดแบบนี้จริงๆหรอ?” กู้เหยาจำไม่ได้ว่าตัวเองพูดจาเถื่อนแบบนี้จริงๆ? หรือว่าโม่ข่ายกำลังแกล้งให้เธอดีใจ? “คุณไม่อยากรับผิดชอบหรอ?” โม่ข่ายเลิกคิ้ว ราวกับว่าถ้าเธอพูดว่าใช่ เขาจะกระโดดลงไปในทะเลสาบข้างๆเลย “เปล่านะ” พวกเขามีเหยาเหยาน้อยแล้วไม่ใช่หรอ นี่ก็เป็นการรับผิดชอบทั้งชีวิตแล้ว เธอจะเสียใจได้อย่างไร? โม่ข่ายจับมือกู้เหยาไว้ จูบลงบนหลังมือของเธอ ราวกับเล่นมายากล ในมือจู่ๆก็มีแหวนแต่งงานวงหนึ่งขึ้นมา “กู้เหยา แหวนวงนี้คือแหวนแต่งงานของพวกเรา คุณยอมใส่มันอีกครั้งเพื่อผมไหม?” โม่ข่ายถามอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ กลัวว่ากู้เหยาจะปฏิเสธ ในปีนั้นที่เขากลับมาจากการทำงานนอกสถานที่ กู้เหยาก็ไม่อยู่แล้ว เหลือเหยาเหยาน้อยไว้ เหลือแหวนแต่งงานของพวกเขาไว้ แล้วก็เหลือเถ้ากระดูกกล่องหนึ่งไว้ แหวนวงนี้ที่เป็นของกู้เหยา เป็นแหวนที่สลักคำว่า ข่าย เล็กๆอยู่ โม่ข่ายอยากให้เธอสวมมันอีกครั้ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ “ยอมสิ” ยังต้องถามอีกหรอ? โม่ข่ายสวมแหวนที่นิ้วนางข้างขวาของเธออย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เธอผอมลงไปหน่อยเมื่อเทียบกับสามปีที่แล้ว แหวนจึงหลวมนิดหน่อย โม่ข่ายพูดอีก “มันใหญ่ไปนิดหน่อย ผมจะเอากลับไปให้คนปรับให้” กู้เหยาจับมือไว้ทันที ไม่ให้เขาถอดแหวนออก “แหวนวงนี้เป็นของฉัน คุณห้ามถอดตามใจชอบ” หลวมนิดหน่อยไม่เป็นอะไร ต่อไปถ้าเธอทานให้เยอะขึ้น อ้วนขึ้นอีกหน่อยก็พอแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อของเธอ หลังจากสวมแหวนแต่งงานแล้วห้ามให้เขาถอดออกอีกเด็ดขาด กู้เหยายกมือขึ้นมาดู ถอนหายใจอย่างประทับใจ แกล้งทำเป็นพูดอย่างผ่อนคลาย “แต่งงานใหม่ แต่ต้องแต่งกับคนเดิม ดูแล้วค่อนข้างน่าเสียดายจัง” กู้เหยาพูดล้อเล่น แต่คุณชายโม่จริงจัง ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แล้วจูบเธออย่างแรงอีกครั้ง จนกระทั่งจะหายใจไม่ออกเขาถึงปล่อยเธอ แล้วพูดอย่างเคร่งเครียด “ชีวิตนี้ นอกจากผม อย่าหวังว่าจะคิดถึงคนอื่น” “เอาแต่ใจมาก!” เอาแต่ใจจริงๆ แต่ดูเหมือนเธอจะชอบเขาที่เอาแต่ใจและไร้ความอ่อนโยนนี้มาก พูดไปพูดมา จู่ๆกู้เหยาก็คิดอะไรได้ขึ้นมา เธอเอ่ยถามอย่างตกใจ “โม่ข่าย วันนี้วันที่เท่าไร?” “วันที่สอง” “วันที่สองแล้วหรอ?” พอได้ยินว่าวันที่สองแล้ว กู้เหยาก็ขมวดคิ้วแล้วหงุดหงิดเป็นที่สุด บอกว่าจะไปอยู่กับเหยาเหยาน้อยในวันเด็ก แต่พวกเขาดันมาที่ปักกิ่ง เด็กน้อยคนอื่นมีพ่อแม่อยู่ด้วย แต่เหยาเหยาน้อยไม่มี เธอต้องเสียใจมากแน่ “ผมมั่นใจว่าเหยาเหยาน้อยต้องสนใจเรื่องที่คุณแม่กลับมามากกว่า เมื่อเทียบกับวันเด็ก” คำพูดนี้ โม่ข่ายหวังว่ากู้เหยาจะได้กล้ารู้จักกับเหยาเหยาน้อยขึ้นอีกนิด แต่กู้เหยายังไม่ได้เตรียมใจเลย แม้ว่าเธอจะสนิทกับเหยาเหยาน้อยได้ไม่เลว เหยาเหยาน้อยก็เคยพูดว่าให้เธอเป็นคุณแม่ แต่ความรู้สึกพวกนั้นมันไม่เหมือนกัน ตอนนี้เหยาเหยาน้อยยังเด็กอยู่ อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างของแม่แท้ๆกับแม่เลี้ยง เธออยากให้เหยาเหยาน้อยเข้าใจอย่างแน่นอนว่าเธอคือแม่แท้ๆของเหยาเหยาน้อย ไม่ใช่แม่เลี้ยงที่พ่อหามา 
已经是最新一章了
加载中