ตอนที่ 326 ตะโกนจับขโมย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 326 ตะโกนจับขโมย
ต๭นที่ 326 ตะโกนจับขโมย LeoMo ผู้นำแห่งเซิ่งเทียนถูกวางยาพิษหมดสติไม่ฟื้น อาจมีอันตรายถึงชีวิต ข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วราวกับจรวดติดปีก พาดหัวข่าวหน้าแรกในทุกๆเว็บไซต์ ยอดเข้าชมในทุกที่พุ่งสูงเป็นอันดับหนึ่ง หลังจากข่าวแพร่ออกไป ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ ระดับความดังของข่าวสูงยิ่งกว่าข่าวลือเรื่องความรักของโม่เสี่ยวเป่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่าตัว กู้เหยาเพิ่งกลับมาถึงโรงพยาบาล ก็พลันได้ยินข่าวนี้ เซียวหนิงอี้มองเธอด้วยความกังวล : “เหยาเหยา เรื่องนี้ดังกระฉ่อนในชั่วพริบตา เธอคงปิดมันไว้ไม่อยู่แน่ นอกเสียจากโม่ชิจะฟื้นขึ้นมาโดยเร็ว” “ยังไม่ทันลงมือทำเลย พี่รู้ได้อย่างไรว่าฉันปิดไว้ไม่ได้” กู้เหยากัดริมฝีปากแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัดสินใจทันทีว่า “พี่คะ พี่ช่วยรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยอยู่ทางนี้ก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าปล่อยให้นักข่าวพวกนั้นเข้ามาได้ อย่าให้พวกเขามารบกวนโม่ข่ายได้เป็นอันขาด” เซียวหนิงอี้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ กล่าวว่า : “เหยาเหยา ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากรับผิดชอบหรอกนะ แต่ว่าคนพวกนั้นที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของโม่ชิต่างก็ฟังเขาทั้งนั้น พี่จะมีปัญญาไปทำอะไรได้ล่ะ” “ถ้างั้นพี่อยู่ที่นี่คอยเฝ้าโม่ข่ายก็แล้วกัน ห้ามใครเข้ามาในห้องทั้งนั้น ห้ามใครเข้ามารบกวนเขา” กู้เหยาก็เข้าใจที่เซียวหนิงอี้ทำอะไรลูกน้องของโม่ข่ายไม่ได้ เรื่องนี้ต้องฝากให้หลิวยงเป็นคนจัดการ หลิวยงตอนนี้อยู่ที่เซิ่งเทียน สถานการณ์ทางนั้นก็ต้องให้เขาควบคุมไว้ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง กู้เหยากัดริมฝีปากแน่นครุ่นคิดอย่างหนัก โทรไปหาหลิวยง หลังจากโทรติดแล้ว ไม่รอให้หลิวยงพูดก่อน กู้เหยารีบเอ่ยขึ้นทันที : “ผู้ช่วยหลิวคะ รบกวนคุณช่วยติดต่อนักข่าวที่เชื่อถือได้สักสองสามคนให้หน่อยคะ เอาแบบที่มีความสัมพันธ์ดีเยี่ยมมาโดยตลอดนะคะ และเครดิตดีมากๆ และเป็นนักข่าวที่มีหน้ามีตาในแวดวงธุรกิจด้วยนะคะ ถ้าติดต่อพวกเขาได้แล้ว พวกเราจะจัดแถลงข่าวทันทีเลยคะ” หลิวยงยังไม่ค่อยเข้าใจ : “คุณนายครับ คุณคิดจะทำอะไรครับ?” กู้เหยาบอกว่า : “ผู้ช่วยหลิวคะ อย่าเพิ่งถามฉันตอนนี้เลยคะ คุณรู้ไว้เพียงว่าตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องหาทางหยุดผลกระทบเลวร้ายจากข่าวนี้โดยเร็วที่สุด” กู้เหยากำลังลองใจว่าหลิวยงยังจงรักภักดีต่อโม่ข่ายหรือเปล่า ถ้าหลิวยงยังคงไม่เปลี่ยนใจจากโม่ข่าย เขาน่าจะฉลาดพอที่จะคิดได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้ ถ้าเขาคิดออก เขาก็จะทำตามที่เธอร้องขอ หลิวยงพูดต่อว่า : “ตอนนี้น่าจะมีนักข่าวจำนวนไม่น้อยรีบไปที่โรงพยาบาล ผมได้แจ้งคนของผมไว้แล้วให้กันนักข่าวเอาไว้ให้ดี ห้ามใครเข้าไปได้ แต่ว่าน่าจะมีปลาลอดแหไปได้บ้าง รบกวนคุณช่วยปกป้องท่านประธานไว้ให้ดี อย่าให้นักข่าวเข้าไปรบกวนท่านได้ ผมจะรีบไปพบคุณทันทีครับ” “คะ ได้คะ” กู้เหยามีเรื่องจะปรึกษาหลิวยงอยู่พอดี เขามาที่โรงพยาบาลก็ดีเลย วางสายแล้ว กู้เหยาหันกลับไปมอง เห็นโม่ข่ายยังคงหลับตาอยู่ทั้งสองข้าง นอนนิ่งอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้หรือไม่ เธอหวังให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอตอนนี้ มองเธอยิ้ม แล้วบอกเธอว่า : “กู้เหยา คุณมันเด็กโง่ ผมล้อคุณเล่นเท่านั้นเอง” ถ้าเขาล้อเธอเล่นอยู่จริงๆ ก็คงจะดีน่ะสิ! “เหยาเหยา ทำใจสบายๆเถอะ” เซียวหนิงอี้ตบไหล่ของกู้เหยาเบาๆ “โม่ชิล้มป่วยลง เธอยังมีพี่ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง” กู้เหยาหันกลับไปยิ้มให้เขา : “พี่คะ ขอบคุณพี่มากๆเลยนะคะ” เซียวหนิงอี้ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย ขอเพียงเขาคอยอยู่เคียงข้างเธอ เธอก็ใจชื้นแล้ว รอไม่นาน หลิวยงก็มาถึง ไม่รอช้ารายงานสถานการณ์ให้กู้เหยาได้ทราบทันที : “คุณนายครับ รอบๆโรงพยาบาลจัดเตรียมกำลังคนของพวกเราไว้พร้อมแล้ว นักข่าวพวกนั้นไม่มีทางลอดเข้ามาได้ครับ” กู้เหยาพยักหน้า : “ผู้ช่วยหลิว รบกวนคุณด้วยนะคะ ต่อไปพวกเรามาเตรียมการเรื่องการเปิดแถลงข่าวกันดีกว่าคะ” หลิวยงไม่ค่อยเข้าใจ : “คุณนายครับ เรื่องเปิดแถลงข่าวให้ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์จัดการได้นะครับ พวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านนี้มากกว่าพวกเราเป็นไหนๆนะครับ” กู้เหยาบอกว่า : “พูดกันตามเหตุผล พอเรื่องนี้แพร่ออกไป ฝ่ายประชาสัมพันธ์ควระออกเอกสารโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันข่าวลือ แต่ว่าพวกเราคอยอยู่ตั้งนานแล้ว ฝ่ายประชาสัมพันธ์อะไรนั่นก็ไม่เห็นประกาศอะไร คุณคิดว่าเพราะอะไรคะ?” หลิวยงเข้าใจแล้ว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ทางนั้นคงจะถูกคนควบคุมไว้ได้แล้ว คนที่มีความสามารถยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ นอกจากคุณปู่โม่แล้ว หลิวยงคิดไม่ออกว่ายังมีใครอีก แต่ว่าเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หลังจากที่ข่าวโม่ข่ายหมดสติไม่ยอมฟื้นแพร่ออกไปแล้ว ย่อมส่งผลกระทบอย่างมากต่อเซิ่งเทียนแน่นอน คุณปู่ท่านโกรธหลานของตัวเอง ก็ไม่ควรเอาเซิ่งเทียนมาล้อเล่นสิ กู้เหยาพูดต่อว่า : “พวกเราต่างก็อยากให้เรื่องนี้เงียบโดยเร็ว อย่าปล่อยให้คนที่ไม่หวังดีฉวยโอกาสนี้ไปได้ รู้ไหมคะ?” หลิวยงยังสงสัย : “คุณนายครับ คนที่ไม่หวังดีคนนี้ตกลงเป็นใครกันแน่ครับ?” หลิวยงคิดว่าอาจจะเป็นคุณปู่โม่ก็ได้แต่ว่ายังไม่อยากปักใจเชื่อ “หลิวยง จนป่านนี้แล้ว เธอยังไม่รู้อีกหรือว่าข่าวที่แพร่ไปว่าท่านประธานป่วยหนักลอดออกไปได้อย่างไร?” ได้ยินเสียงเหลียงฮุ่ยอี๋ดังขึ้น ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องหันมาพร้อมกัน มองเหลียงฮุ่ยอี๋ยืนอยู่ที่ปากประตู หลิวยงชิงถามขึ้นก่อนว่า : “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรครับ?” “ฉันหมายความว่าอย่างไรนะหรือ?” เหลียงฮุ่ยอี๋จ้องเขม็งมาที่กู้เหยา “เธออยากรู้ละสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอก็ถามนังผู้หญิงคนนี้ดูสิ เธอเสแสร้งทำเป็นดีกับท่านประธานโม่ ลับหลังไม่รู้ว่าวางแผนลอบทำร้ายท่านประธานอยู่หรือเปล่า” หลิวยงเอ่ยขึ้นว่า : “ไม่มีหลักฐาน อย่ามากล่าวหาลอยๆสิครับ” เหลียงฮุ่ยอี๋บอกว่า : “เรื่องที่ท่านประธานล้มป่วยไม่ยอมฟื้นก็มีพวกเรารู้แค่เพียงไม่กี่คน แม้แต่ผู้อาวุโสของครอบครัวโม่ก็ยังไม่กล้าบอกพวกเขา เธอเองก็คงไม่กล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ฉันเองก็ด้วย แล้วเธอว่าจะมีใครกล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปได้อีกล่ะ?” ได้ยินเหลียงฮุ่ยอี๋พูดแบบนี้ หลิวยงปลายตาไปมองกู้เหยา แล้วเลยไปมองเซียวหนิงอี้ ด้วยสายตาสงสัยเล็กน้อย เหลียงฮุ่ยอี๋พูดถูก พวกเขารับใช้ท่านประธานมานานสิบกว่าปี ถึงจะพูดไม่ได้ว่าเข้าใจกันถ่องแท้100%เต็ม แต่ว่าก็เข้าใจกันได้ถึง 80-90%เลยทีเดียว ท่ามกลางพวกเขา2-3คนนี้ ถ้าจะให้เขาประเมินคนที่น่าจะทำความลับรั่วไหลได้ เขาคงเทน้ำหนักไปทางกู้เหยา เป็นครั้งแรกที่กู้เหยาเห็นคนที่ทำผิดเอาเรื่องที่ตัวเองทำป้ายสีคนอื่นอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ถ้ากู้เหยาไม่ใช่ผู้เสียหาย เธอคงจะอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการแสดงของเหลียงฮุ่ยอี๋ว่ายอดเยี่ยมไปแล้ว กู้เหยายิ้มอย่างเย็นชา : “ผู้ช่วยเหลียงคะ ไหนๆคุณก็มาถึงที่แล้ว ถ้างั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ” “ไม่เกรงใจ? ไหนลองดูสิว่าคุณจะมีหน้าทำอะไรฉันได้?” เหลียงฮุ่ยอี๋ไม่เชื่อว่ากู้เหยาจะกล้าทำอะไรเธอ สายตาเฉียบคมของกู้เหยาจ้องมองเหลียงฮุ่ยอี๋อยู่ พูดต่อว่า : “ถ้าฉันจำไม่ผิด คุณน่าจะทำงานกับโม่ข่ายมานานสิบกว่าปีแล้ว สิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาปฏิบัติต่อพวกคุณอย่างไรบ้าง พวกคุณคงจะรู้ดีกว่าฉันแน่นอน แต่ว่าตัวคุณล่ะ? คุณตอบแทนเขาอย่างไร?” เหลียงฮุ่ยอี๋พูดว่า : “คุณกู้คะ ตัวคุณเองอยู่ในสถานะอะไรคุณยังไม่รู้แน่ชัดเลย คุณยังกล้าสาดโคลนใส่ฉันอีกหรือ? ขอโทษนะคะ มันไม่สำเร็จหรอกคะ” 
已经是最新一章了
加载中