ตอนที่ 5 หนังสือการ์ตูนกับศพผู้หญิง
1/
ตอนที่ 5 หนังสือการ์ตูนกับศพผู้หญิง
วิวาห์ร้าย แต่งกับผี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 5 หนังสือการ์ตูนกับศพผู้หญิง
ตอนที่ 5 หนังสือการ์ตูนกับศพผู้หญิง รอฉันได้สติมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกลับมาที่ถนนคนเดินนั้นอีกแล้ว รอบๆมีผู้คนมากมาย ถนนหยินและเกี้ยวเจ้าสาวนั้นก็ไม่เห็นมีสะที่ไหน ฉันลองจับที่บนศีรษะของตนเองก็พบว่ามีเหงื่อเต็มเลย เมื่อกี้มันเหมือนจริงมากและฉันไม่ได้ฝันไปแน่ๆ ฉันยืนพักเหนื่อยหายใจเข้าดั่งคนที่ไม่ได้หายใจมานาน และพบว่าช่วงท้องน้อยคล้ายว่าเต้นตุบๆ ฉันเลยลองเอามือไปจับดูก็พบว่าเริ่มเป็นปกติอีกครั้ง ไม่ได้เต้นตุบๆแล้วและยังราบเรียบเหมือนเดิม ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกว่าของในท้องฉันนั้นเหมือนกำลังดีใจมาก เป็นเพราะได้เห็นพ่อที่ไม่มีความรับผิดชอบนั้นหรือ....ฉันส่ายหน้ายิ้มอย่างขมขื่น เดี๋ยวนะ สภาพฉันเมื่อกี้เหมือนผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ถูกสามีทิ้งงั้นหรือ ทำไมเป็นงี้ไปได้ละเนี่ย ฉันรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งสะ และบอกตัวเองว่าไอเจ้าสิ่งนี้เดี๋ยวเราก็ไปทำแท้งออกแล้วเดี๋ยวก็จบกันแล้ว จะทำให้ยุ่งยากทำไมละเนี่ย ช่างมันเถอะ ฉันเลยตัดสินใจไปร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อกาแฟซองกลับไปด้วย จะออกมาซื้อกาแฟข้างนอกทุกวันไม่ได้หรอกต้องหาอะไรทดแทนไปก่อน ฉันล้วงกระเป๋า แต่ทว่านอกจากกระเป๋าสตางค์แล้วยังมีอย่างอื่นอีก เลยลองเอาออกมาดู เป็นกระดาษแผ่นนึง ซึ่งเป็นลายมือเขียนสั้นๆง่ายๆแต่ดูมีพลัง ไปร้านหนังสือที่มุมถนน ซื้อหนังสือการ์ตูนแถวที่สองนับจากข้างล่าง อ่านให้จบภายในวันนี้ก่อนเที่ยงคืนและเผาทิ้งสะ จากเทียนปูหยู่ เทียนปูหยู่..เทียนปูหยู่ งั้นเหรอ ชื่อของนายคนนั้นเหรอ แปลกคนแหะ ชื่อก็แปลกไม่ต่างกัน อ่านเสร็จฉันเลยพับเก็บเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม แต่ก็คิดถึงข้อความในกระดาษนั้น ตาบ้านี่รู้จักคำว่าการ์ตูนด้วยเหรอ ผีมีการอัพเดตในโลกมนุษย์ด้วยหรอเนี่ย ไม่สิ แต่ทำไมตาบ้านี่ถึงต้องให้ฉันไปซื้อการ์ตูนอ่านกันนะ ฉันเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูร้านอยู่พอสมควร จนเจ้าของร้านจะโทรแจ้งตำรวจอยู่แล้วฉันจึงค่อยๆเดินเข้าไปในร้าน ร้านทั้งเล็กทั้งแคบ มีแต่หนังสือเก่าๆทั้งนั้นเลย เป็นสถานที่ที่หาพวกหนังสือเรียนหรือหนังสือเก่าๆได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย แต่ชั้นหนังสือสูงจนถึงเพดานเลยแหนะ จนทำให้บังแสงจนทำให้ทั้งร้านค่อนข้างมืดเลยทีเดียว โคตรน่ากลัวเลย ฉันเริ่มกลัวร้านนี้แล้วละ แค่เข้ามาก็ขนลุกแล้ว แต่เดินเข้ามาก็พบกับหนังสือรับรองต่างๆนานา ร้านไม่ได้น่ากลัวหรอกแต่ที่น่ากลัวคืออีตาบ้าเทียนปูหยู่ให้ฉันซื้อหนังสือการ์ตูนนี่สิ ฉันยืนอยู่ชั่วขณะ แต่ในที่สุดก็ควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ ฉันรีบซื้อหนังสือที่เทียนปูหยู่สั่งให้ไปซื้อจ่ายเงินละรีบวิ่งกลับหอ ก้มมองนาฬิกาก็ใกล้จะสองทุ่มแล้ว แต่ตาบ้านั่นก็ให้เวลาแค่ถึงเที่ยงคืนเอง เวลานิดเดียวเองแต่เอาเถอะหนังสือก็ไม่ได้หนาอะไรคงใช้เวลาแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็อ่านจบ แต่ใครจะรู้ละ แค่เปิดหน้าแรกเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คนที่โทรมาก็คืออาจารย์ที่ปรึกษาของฉันเอง เพราะฉันไม่ได้ไปเรียนหลายวันแล้วเลยโทรมาถามไถ่ว่าเป็นอะไร ทำไมถึงไม่ไปเข้าเรียน ฉันเลยโกหกไปว่าเพราะเป็นหวัดไม่สบายเลยไม่ได้ไป ฉันเลยบอกอีกว่าเดี๋ยวฉันเอาใบลาไปส่งให้เพื่อตบตาให้เพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น หลังวางสายฉันได้แต่ถอนหายใจ หมดทนทาง อาจารย์ที่ปรึกษาดูจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าใดเลยเรียกให้ฉันไปพบ อีกอย่างเหตุผลนี้นักเรียนส่วนใหญ่ก็ใช้โกหกอาจารย์กันทั้งนั้น ฉันเลยเก็บหนังสือการ์ตูนนั้นเข้าใต้โต๊ะ เพราะจะรีบเขียนใบลาให้เสร็จ ห้องของอาจารย์ที่ปรึกษาอยู่คนละตึกกับหอพัก อยู่ชั้นหนึ่งมุมทางเดินในสุด ตึกนี้ชั้นหนึ่งเป็นหอพักเหมือนกันแต่ไม่ใช่ของนักเรียน ห้องว่างพวกนี้โดยปกติเขาจะใช้เป็นห้องพักอาจารย์ ห้องกิจกรรมต่างๆของนักศึกษาโดยปกติจึงล็อคเอาไว้ นี้ก็มืดแล้วละ ทางเดินก็มืดมากเพราะปกติก็ไม่ค่อยจะมีคนอยู่อยู่แล้ว แต่ยังโชคดีหน่อยที่ห้องของอาจารย์ที่ปรึกษายังเปิดไฟอยู่ ประตูก็ไม่ได้ล็อค ฉันจึงเคาะประตูเบาๆ ป๊อก ป๊อก .. ไม่มีคนตอบรับเลยถือวิสาสะเดินเข้าไป แต่ทว่าในห้องพักอาจารย์กลับไม่มีคนอยู่เลยสักคนเดียว บนโต๊ะมีเอกสารวางไว้ คอมพิวเตอร์ก็ยังเปิดเอาไว้อยู่ ฉันเลยคิดถึงหนังสือเล่มนั้นยังรอให้ฉันกลับไปอ่านอยู่เลยนี่นา ฉันเลยตัดสินใจวางใบลาไว้บนโต๊ะ แต่ใครจะรู้เล่าว่าขณะที่ฉันเดินใกล้ถึงประตูแล้ว ประตูกลับตีเข้ามา ปัง ! ในห้องมีแค่เครื่องปรับอากาศ หน้าต่างก็ปิดสนิท ไร้ซึ่งลมพัดด้วย ฉันชักงักด้วยความงงชั่วครู่ เลยกำลังจะเปิดประตูออก แต่ประตูเปิดไม่ออกเหมือนถูกล็อคเอาไว้เรียบร้อย ห้องพักอาจารย์เงียบมาก ฉันค่อยๆถอยหลังออกจากประตู เหงื่อเริ่มซึม ฉันได้ยินเสียงน้ำ ติ๋ง ติ๋ง เบาๆลอยมาในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงเด็กคล้ายว่ากำลังกังวล หรือไม่สบายใจอะไรสักอย่างคล้ายว่าให้ฉันทำอะไรสักอย่าง แต่ฉันฟังไม่รู้เรื่องว่าเขากำลังจะสื่ออะไร แต่ฉันรู้สึกว่าเป็นเสียงของอะไรสักอย่างที่ทำให้เกิดเสียงติ๋ง ติ๋ง เสียงมาจากไหนกันนะ ห้องพักอาจารย์จริงๆก็ไม่ใหญ่หรอก แต่เพราะว่าเป็นห้องพักรวมของอาจารย์ทุกคณะ ทุกคนจึงมีโต๊ะแยกเป็นของตัวเอง อีกทั้งโต๊ะก็ยังบดบังทัศนียภาพทำให้ไม่รู้ว่าเสียงตรงมุมห้องนั้นคือเสียงอะไร ด้วยความใคร่อยากรู้ที่ยากจะควบคุม และเสียงร้องนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ฉันเลยตัดสินใจค่อยๆเดินเข้าไปหาเสียงนั้นที่มุมห้อง ฉันเดินไปอย่างช้าๆ จนเริ่มเห็นชายกระโปรงของเด็กผู้หญิงคนนึง แต่เมื่อเห็นอย่างชัดเจน ทำให้ตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง จนอยากจะร้องตะโกนออกมาแต่ทว่ากลับไร้ซึ่งเสียงใดๆ เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าของฉันคือ ศพของผู้หญิง เป็นเด็กสวมชุดกระโปรงสีแดง แต่ทว่ารูปร่างบิดเบี้ยวไปอย่างมาก มือข้างนึงชี้ขึ้นบนเพดานแต่ข้อมือเปิดจนเห็นกระดูก และมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลหยดลงพื้นจนเกิดเป็นเสียงติ๋ง ติ๋ง ลูกตาของศพเบิกกว้างคล้ายกับกำลังกลัว ผิดหวัง โกรธแค้นแสดงอยู่บนใบหน้าของเธอ ทำให้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวจนไม่เหลือเค้าโครงความน่ารักใดๆ ฉันสับสนไปหมด ทำไมในห้องพักอาจารย์จึงมีศพเด็กคนนี้อยู่ได้ สมองฉันว่างเปล่าไปหมด ในหูก็ได้ยินเสียงเด็กร้องอีกแล้ว ครั้งนี้ร้องไห้หนักกว่าครั้งเก่าจนทำให้ฉันตัวแข็งไปหมด ทันใดนั้นศพเด็กคนนั้นก็ขยับตัว ศีรษะค่อยๆหมุนมาอย่างช้าๆ จนได้ยินเสียงกร๊อกแกร๊ก สมองของฉันตอนนี้ไม่รับรู้สิ่งใดแล้ว ดวงตาของเธอก็ยังคงเบิกกว้างเหมือนเดิม ปากบิดเบี้ยวจนคล้ายว่ากำลังแสยะยิ้มให้ฉันอยู่ “ช่วย..ฉัน..ด้วย..ช่วย ..ด้วย” เสียงของเธอเหมือนถูกบังคับให้พูดทีละคำ “อ๊ากกกกกกกกกก” ในที่สุดฉันก็ควบคุมสติไม่อยู่จนต้องร้องออกมา พลันหมุนตัวไปที่ประตูแต่ทว่าสายตาเริ่มพล่ามัว จนฉันค่อยๆล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ครั้งนี้ ตาบ้าเทียนปูหยู่คงไม่สามารถมาช่วยฉันได้หรอก นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่จำได้ก่อนสติจะเลือนหายไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 5 หนังสือการ์ตูนกับศพผู้หญิง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A