ตอนที่ 7 ไม่ได้ตั้งครรภ์แล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 7 ไม่ได้ตั้งครรภ์แล้ว
ตอนที่ 7 ไม่ได้ตั้งครรภ์แล้ว วันที่สองฉันตื่นเช้ามากวันนี้ เลยตัดสินใจว่าจะไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง เพื่อไปตรวจดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ผลที่ออกมาทำให้ฉันงุงงและสับสนเป็นอย่างมาก เพราะหมอบอกว่า “คนไข้ ไม่ได้กำลังตั้งครรภ์นะ” “อะไรนะ ! ” ฉันถามด้วยความตกใจ “หมอคนไหนบอกคุณว่าคุณตั้งครรภ์เหรอ” คุณหมอขมวดคิ้วถาม หรือว่าผลการตรวจเกิดความผิดพลาดกันแน่นะ “ฉัน..เอ่อ..ฉัน” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี หรือนี่คือการหยอกเล่นเหรอ สิ่งนี้ทรมานใจฉันมาตั้งนาน แต่วันนี้หมอกลับมาบอกว่าไม่ได้ตั้งครรภ์งั้นเหรอ ทำไมโกหกสะเหมือนจริงขนาดนั้นกันเลยละ ฉันค่อยๆลูบที่หน้าท้อง มันก็ยังคงราบเรียบเหมือนเดิม “ไม่นะคะ คุณหมอ ลองดูดีๆก่อนสิคะ หนูตั้งครรภ์จริงๆนะ” ฉันรีบแย้ง วันนี้ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องเอาเด็กนี่ออกให้ได้ กาแฟก็อร่อยดีนะแต่ฉันจะไม่ยอมดื่มทั้งชีวิตหรอกนะ “นี่ หนูพูดไม่รู้เรื่องหรือไง” หมอเริ่มมองฉันด้วยสายที่หาว่าฉันเป็นบ้า “ทีหลังก็พยายามมากกว่านี้สักหน่อยละกัน” เดี๋ยวนะ อะไรคือพยายามมากกว่านี้ กับอีตาบ้าเทียนปูหยู่เหรอ อยู่ดีๆหน้าฉันก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา คุณหมอยังบอกอีกว่าให้กลับไปสังเกตุประจำเดือนดู แต่ถึงแม้ว่าจะประจำเดือนจะไม่มาหรือล่าช้าก็ยังเป็นปกติอยู่ ฉันเดินออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความโกรธ ตรวจไม่พบว่าตั้งครรภ์ เลยทำแท้งให้ไม่ได้ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย อยู่ดีๆชีวิตก็กลับมาปกติแบบงงๆ อะไรกันเนี่ย ฉันไม่เชื่อฉันเลยไปร้านขายยาเพื่อซื้อชุดตรวจมาตรวจใหม่ มีอะไรก็จะซื้อมาให้หมดทุกยี่ห้อเลย ผลสรุปคือ ฉันไม่ได้ตั้งครรภ์ มันยากที่จะเชื่อจริงๆ พยายามทำใจให้สงบลง ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่าวันแล้ววันเล่าที่ผ่านมา ฉันไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องมานานแล้ว ปกติจะได้ยินเสียงทุกวันหลังตื่นนอนคล้ายว่ากำลังทักทายฉันในยามเช้าของทุกวัน แต่ตอนนี้เสียงนั้นมันหายไปแล้ว เด็กนั้น ไม่มีแล้ว ฉันลูบท้องไปมา มันก็ยังราบเรียบเหมือนเดิม ไม่มีความนูนอะไรออกมาเลย ฉันลองกัดคุ้กกี้เข้าปากดู ก็ไม่มีความรู้สึกพะอืดพะอมอะไรแล้ว ทั้งหมดล้วนบ่งชี้ว่า ฉันไม่ได้ท้องอีกแล้ว เด็กนั้นไม่ได้อยู่ในท้องของฉันแล้ว อยู่ดีๆฉันก็ร้องออกมา ในสมองเอาแต่คิดไม่ใช่เพราะว่าในที่สุดฉันก็มีชีวิตปกติเสียที แต่เพราะฉันไม่ได้ตั้งท้องอีกต่อไป ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันทิ้งตัวลงบนพื้น ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี บนใบหน้าก็มีแต่คราบน้ำตา และน้ำตาก็ยังคงไหลอยู่ ฉันต้องดีใจสิ ! ความเป็นจริงมันชัดเจนอยู่แล้ว ฉันหลุดพ้นแล้ว มันดีแล้วนี่ ถึงมันจะประหลาดแต่ก็ไม่ท้องแล้วนี่ มันก็แค่ท้องลมแหละ แต่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนี่ทั้งหมดนี่ก็เพราะฉันคนเดียว ที่ไม่มีความรับผิดชอบของความเป็นแม่เอาสะเลย ตั้งใจจะทำแท้งตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ตอนนี้มีความคิดยุ่งเหยิงตีกันไปหมด จนสมองจะระเบิดอยู่แล้ว ในที่สุดฉันก็ปีนขึ้นเตียงเพื่อสงบสติอารมณ์และเผลอหลับไป ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว แต่ทว่า ฉันฝันถึงเทียนปูหยู่อีกแล้ว มันเป็นห้องโถงใหญ่สีขาว เทียนปูหยู่ก็อยู่ที่นั่น ฉันเลยเดินเข้าไปหา เขามีดวงตาสีแดงข้างหนึ่งและอีกข้างเป็นสีเขียว และฉันก็ไม่ได้กลัวเขาเท่าตอนแรกแล้วด้วย “ฉัน..เอ่อ..ฉันขอโทษ” ฉันลังเลที่จะพูดออกมานาน ฉันคิดว่าเขาคงรู้แล้วว่าฉันไม่ได้ตั้งครรภ์อีกต่อไปแล้วเลยทำให้ฉันพูดออกไปแต่มันก็ดีกับตัวฉันแล้วนี่ แต่แน่ละมันคงไม่ใช่ข่าวดีสำหรับคนเป็นพ่อหรอก เขาเพียงแค่มองฉันแต่แค่นั้นก็ทำให้ฉันรู้ตกใจกลัวได้แล้ว จนรู้สึกอยากจะหันหลังแล้ววิ่งหนีเสียจริงๆ แต่จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา ฉันงุนงงเลยทีเดียวเพราะเขาไม่ใช่หัวเราะแบบเย็นชา แต่เขาหัวเราะออกมาจริงๆคล้ายว่ากำลังตลกอะไรอยู่บางอย่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ดูดีมากจนใครๆก็ต้องอิจฉา รอยยิ้มช่างมีเสน่ห์เสียจริง อยู่ดีๆเขาก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าฉันแล้วยื่นหน้ามา พร้อมทั้งยื่นมือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันพร้อมทั้งยื่นหน้าเข้ามาพูดข้างหูว่า “ไม่ต้องห่วงนะ เด็กยังอยู่ เขาเป็นเด็กดีเชียวละ” “อะไรนะ !” ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แม้เทียนปูหยู่จะเดินจากไปแล้วและหันกลับมามองด้วยสีหน้าราบเรียบและพูดว่า “เด็กแข็งแรงดี แค่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อยเลยกำลังพักผ่อนอยู่หน่ะ” “ช่วงนี้ทำอะไรก็ระวังหน่อยนะ” “แต่ ..” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรออกมา และไม่รู้ว่าจะดีใจหรือจะโมโหดี ได้แต่ตอบกลับไปว่า “ระวังอะไรนะ” เทียนปูหยู่มองมาที่ฉันสักครู่แล้วถามว่า “หนังสือเล่มนั้นยังไม่ได้อ่านอีกเหรอ” “หะ” ตอบกลับไปด้วยความงุนงง เขาจ้องมองมาที่ฉันเนิ่นนานและสุดท้ายเขาก็พูดว่า “ช่างมันเถอะ” “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ใครทำอะไรก็ได้สิ่งนั้นไม่มีใครหนีพ้น” เขาพูดด้วยสีหน้าเขร่งขรึม “ไม่ช้าก็เร็วคนนั้นก็จะได้รับผลจากการกระทำเอง” “เดี๋ยวนะ นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่” ฉันไม่เข้าใจที่เขาพูดเลยสักนิด “ไม่มีอะไรหรอก” เขาส่ายหัว แล้วก็บอกกับฉันอีกว่า “หลังจากนี้เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ” “ถ้าหากรู้สึกว่ากำลังเผชิญอันตรายให้ไปที่ร้านหนังสือนั้น ไปหาชั้นหนังสือสุดท้าย หาหนังสือเล่มดำ หรือถ้าหากหมดหนทางจะแก้ไขปัญหาให้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ข้างโรงเรียน หยดเลือดสามหยดพร้อมทั้งตะโกนชื่อฉันสามครั้ง แค่นั้นก็สามารถมาเจอฉันได้” ฉันได้แต่คิดในใจว่า เลือดก็คงสำคัญแหละ แต่ทำไมต้องตะโกนเรียกชื่อด้วยละ นี่มันเอาเปรียบกันชัดๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันคืออะไรกัน เขาเป็นผี สุดท้ายแล้วฉันจะมีสามีเป็นผีเหรอ ไม่ได้นะ “กลับไปสะ” แต่ครั้งนี้ที่เจอกัน เขาไม่ได้มีท่าทีเป็นปรปักษ์กับฉันเลย อีกทั้งสายตาที่มองมาที่ฉันยังอบอุ่นมากขึ้นด้วย มันยากที่จะเชื่อจริงๆเพราะเราสองคนเจอกันทีไรต้องมีการปะทะกันทุกที แต่ทำไมคราวนี้กลับมีแค่การคุยกันธรรมดาได้ละ เขาค่อยๆเดินจากไปพร้อมทั้งพูดว่า “อย่าลืมคิดถึงฉันด้วยละ” นั้นคือประโยคสุดท้ายที่เขาพูดกับฉัน
已经是最新一章了
加载中