ตอนที่ 10 ผีสิง
1/
ตอนที่ 10 ผีสิง
วิวาห์ร้าย แต่งกับผี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 10 ผีสิง
ตอนที่ 10 ผีสิง จริงๆแล้วฉันอยากจะปฏิเสธไปแต่ฉันก็โดนหลอกมาเหมือนกัน แต่จ้าวเซียวคิดว่าฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่สุดท้ายฉันก็ทนกับบรรยากาศที่แสนอึดอัดนี่ไม่ไหว เลยพูดอย่างจริงจังว่า “โอเค ก็ได้ๆ แต่ฉันขอบอกก่อนเลยนะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งต่อไปไม่ต้องมาหาฉันอีกนะ” “ได้เลย ได้เลย” จ้าวเซียวดีใจจนออกนอกหน้าแต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเอาสะเลย เยนหนานรู้สึกเป็นห่วง ฉันรู้สึกได้ถึงมือของเธอที่จับไหล่ฉันไว้ พวกเรามากันที่ห้องพักชั้นหกที่มีคนพักอาศัยอยู่ไม่ถึงครึ่ง จ้าวเซียวพาพวกเรามาที่ห้องด้านในสุด ไม่รู้ว่าเธอมีกุญแจห้องได้อย่างไร ฉันเห็นไป๋หย่าถิงเอาอะไรออกมาจากกระเป๋าก็ไม่รู้ เลยถามว่ามันคืออะไร เธอบอกว่านี่คือกล้องวิดิโอเอาไว้ถ่ายตอนกลางคืน เพราะว่าจ้าวเซียวให้เธอเอามา อยากเอามาถ่ายขั้นตอนเชิญวิญญาณหน่ะ ฉันช็อคไปครู่หนึ่ง จ้าวเซียวบ้าไปแล้วเหรอ ใครจะไปรู้ว่าสามารถเชิญวิญญาณมาได้ แล้วจะถ่ายติดวิญญาณได้เหรอเนี่ย ไป๋หย่าถิงบอกว่า หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับจางเจียเย่นขึ้น จ้าวเซียวก็ดูแปลกๆไป แต่ด้วยความที่เธอเป็นเพื่อนสนิทจึงได้แต่ตามมาด้วยความเป็นห่วง มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ลางสังหรณ์บอกฉันอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะขัดขวางเรื่องนี้ยังไง จ้าวเซียวจัดเตรียมการเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว หล่อนปิดไฟและนำเทียนออกมาสามเล่มเพื่อจุดไฟ แสงไฟพริ้วไหวไปตามแรงลม และจ้าวเซียวนั่งอยู่ตรงกลาง แต่ทว่าฉันกลับรู้สึกประหลาดๆ “มันจะได้ผลจริงเหรอ ” เยนหนานถามด้วยความสงสัย “พวกเราเริ่มกันเถอะ” จ้าวเซียวไม่สนใจที่เยนหนานพูด และนั่งลงเพื่อจะเริ่มพิธี ฉันมองตาเยนหนาน แล้วก็นั่งลงตามจ้าวเซียว ตรงหน้าของทุกคนมีกระดาษอยู่ปึกนึง และปากกาหนึ่งด้ามเพื่อเอาไว้ให้วิญญาณตอบกลับมา ก่อนหน้านี้ฉันก็สงสัยนะว่ามันจะได้ผลจริงเหรอ ก็มีลองหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตอ่านดูบ้าง แต่ตอนนี้วิธีที่จ้าวเซียวใช้ดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่ได้ผลก็ได้ แต่เรื่องมันก็ขั้นนี้แล้ว ฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดอะไรให้เกิดการทะเลาะได้แต่มองว่าสุดท้ายแล้วเธอต้องการจะทำอะไร สี่คนนั่งล้อมวงโดยมีเทียนอยู่สามเล่มวางไว้ตรงกลาง และด้านหลังมีกล้องวิดิโอถ่ายไว้อย่างเงียบๆ และลางสังหรณ์ร้องอยู่เตือนในใจ จ้าวเซียวพูดอะไรคนเดียวอยู่ตลอดเวลา ชั่วแวบเดียวเปลวเทียนที่อยู่ตรงหน้าฉันก็สั่นระริกพร้อมทั้งดับไป จ้าวเซียวนิ่งไปชั่วขณะ พร้อมทั้งพูดเบาๆว่า “เธออยู่ที่นี่แล้วละ” ฉันได้ยินมาว่า การเชิญวิญญาณต้องมีบุคคลที่ดวงไม่ดีอยู่ในวงด้วย เป็นฉันงั้นเหรอ คิดถึงตรงนี้ฉันก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรงเลย ได้แต่ฟังจ้าวเซียวพูดภาษาแปลกๆว่า “จางเจียเย่นตายแล้วจริงหรือไม่” ฉันรู้สึกว่าข้างหลังมีใครยืนอยู่ก็ไม่รู้ หลังจากจ้าวเซียวพูดประโยคนั้นออกมา ก็ทำให้มือฉันสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เพราะว่าในกระดาษนั้นมีตัวอักษรค่อยๆโผล่มา จังหวะนั้นหัวใจฉันเหมือนจะหยุดเต้นเอาดื้อๆ ฉันรู้สึกได้ว่าวิญญาณเข้ามาในร่างฉัน แต่ฉันก็ยังไม่กล้าก้มลงไปมองว่ามันเขียนว่าอะไร ทำไมต้องเป็นฉันตลอดเลยเนี่ย !! จ้าวเซียวถามคำถามที่ไม่สำคัญอีกประมาณสองสามคำถามเช่นสอบปลายภาคข้อสอบจะยากไหม แต่สุดท้ายเสียงเธอก็เปลี่ยนไปจนยากจะเข้าใจ มันยากที่จะเอ่ยปากถาม “ขอถามหน่อยว่า คนต่อไปคือใคร” แต่ที่แปลกก็คือ พอถามคำถามนี้จบ มือของฉันหยุดสั่นและพวกเราสี่คนต่างก็กลั้นหายใจพร้อมกันไม่มีใครกล้าหายใจออกมาดังๆเลยสักคน แต่ทว่า คนที่นั่งอยู่ข้างฉันคือไป๋หย่าถิง อยู่ดีก็ตัวสั่นขึ้นมา หล่อนจ้องมองไปที่ปากกากำลังเขียนด้วยมือที่มองไม่เห็นดั่งมายากล บนกระดาษเขียนเป็นลายมือหวัดๆเขียนได้ไม่เท่าไหร่ก็โดนโยนทิ้ง กลายเป็นรอบๆตัวเต็มไปด้วยกระดาษที่เธอโยนทิ้ง ฉันมองไปที่เธอด้วยความตะลึง สายตาชำเลืองไปเจอจ้าวเซียวที่นั่งตรงข้ามกับฉัน สีหน้าของจ้าวเซียวเต็มไปด้วยความกลัวมองไปที่ไป๋หย่าถิงที่ไม่สามารถควบคุมสติตัวเองไว้ได้ ส่วนฉันเกือบจะหยุดหายใจเพราะว่าหลังจ้าวเซียวอยู่ดีๆก็มีมือโผล่มา ทั้งขาวซีดและแห้งเหี่ยว บนมือมีบาดแผลที่ดูน่ากลัวอีกทั้งยังมีเลือดไหลออกมาแต่มือนั้นวางอยู่บนไหลของจ้าวเซียวโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ฉันอยากจะร้องออกมา แต่ทว่าไร้ซึ่งเสียงใดๆ อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเหมือนเข็มนับพันกำลังทิ่มอยู่ก็มิปาน แต่เวลานั้นเยนหนานก็ตัวสั่นขึ้นมา อยู่ดีๆเธอก็ลุกขึ้นยืน แล้วยกเก้าอี้ขึ้นแล้วก็ฟาดไปที่จ้าวเซียวหมายเอาชีวิต อ๊ากกกกกกก !! แต่ยังดีที่จ้าวเซียวไหวตัวทันกลิ้งหลบก่อนที่จะเกิดการปะทะขึ้น ยากที่จะเชื่อกับภาพตรงหน้าว่าเกิดขึ้นจริงๆอยู่ดีๆสถานการณ์ก็พลิกเป็นอย่างนี้ ไม่ทันได้ระวังตัวเทียนเล่มที่สองก็ดับลง “ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วยย” จ้าวเซียวเอ่ยด้วยเสียงที่เหมือนจะขาดใจ อีกทั้งเยนหนานคล้ายกับคนบ้าก็มิปานเพราะเที่ยวเอาเก้าอี้ไล่ตีจ้าวเซียวอย่างไม่หยุดยั้ง และไป๋หย่าถิงก็คล้ายกับไม่แยแสในสิ่งที่เกิดขึ้นเอาแต่เขียนข้อความลงในกระดาษอย่างเดียว “เยนหนาน ใจเย็นๆลงหน่อยสิ !” ฉันกำลังจะลุกขึ้นเพื่อไปห้ามเยนหนาน แต่กลับพบว่าเธอสวมชุดกระโปรงสีแดงอีกทั้งใบหน้าของเธอก็มองไม่เห็นเนื่องจากความมืด เดี๋ยวนะ กระโปรงสีแดง !! แต่ทว่าสมองของฉันคล้ายกับจะระเบิดออก อยู่ดีๆความทรงจำก็ไหลมา ห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษา ศพที่บิดเบี้ยวนั่น ฉันลืมอะไรไปเนี่ย !! “อย่าทำอย่างนั้น !” จ้าวเซียวตะโกนออกมาเสียงแหลมจนดึงสติฉันขึ้นมาสู่ความเป็นจริง เยนหนานทำให้จ้าวเซียวไปขดตัวอยู่ตรงมุมห้องแล้วตอนนี้ และกำลังจะฟาดเก้าอี้ลงไป ! จ้าวเซียวกุมหัวด้วยความเจ็บปวด ไม่นานนัก เสียงก็หายไป เพราะเยนหนานกระหน่ำตีไม่ยั้ง ฉันกระวนกระวาย จ้าวเซียวอาจจะโดนตีจนตายได้ แต่โชคยังเข้าข้างเพราะไป๋หย่าถิงมีสติขึ้นมา เธอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตกใจรีบวิ่งไปหาจ้าวเซียวจนทำให้เทียนเล่มสุดท้ายดับลง เทียนเล่มสุดท้ายดับลง ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในสภาพเงียบสงัด ไม่กี่วินาทีต่อมาฉันก็รู้สึกว่าร่างกายสามารถขยับได้เป็นปกติ ไป๋หย่าถิงหายใจเข้าออกลึกมาก แล้วก็เดินไปที่ประตูพร้อมทั้งเปิดไฟ เมื่อแสงไฟสว่างขึ้น ทำให้พวกเราสองคนเสียสติไปครู่หนึ่ง ภาพตรงหน้าทำเอาพูดอะไรไม่ออกเลย เยนหนานล้มฟุบไม่ได้สติลงไปอยู่บนพื้น ส่วนจ้าวเซียวนอนขดตัวอ่อนแรงอยู่ตรงมุมห้องมีเลือดท่วมตัว ดูไม่ออกเลยว่ายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือบนกระดาษสีขาว อีกทั้งบนฝาผนัง ทุกที่ที่สามารถเขียนได้ล้วนเต็มไปด้วยอักษรที่เขียนด้วยเลือดว่า “ช่วยฉันด้วย !”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 10 ผีสิง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A