ตอนที่ 18 จ้าวซิ้วที่เลวร้ายขึ้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 18 จ้าวซิ้วที่เลวร้ายขึ้น
ตอนที่ 18 จ้าวซิ้วที่เลวร้ายขึ้น อยู่ๆ วันหนึ่งแฟนหนุ่มของจางเจียเย่นก็ควงแขนเดินมากับจ้าวซิ้วด้วยท่าทีโอ่อ่า ก่อนจะพูดขึ้นกับจางเจียเย่น : “จางเจียเย่น พวกเราเลิกกันเถอะ ตอนนี้จ้าวซิ้วเป็นแฟนของฉันแล้ว” ในช่วงมัธยมปลาย เรื่องการคิดเล็กคิดน้อยของเด็กผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องที่เด็กผู้ชายไม่อาจจะเข้าใจ แต่ว่าจางเจียเย่นเพียงมองไปที่จ้าวซิ้วเล็กน้อย เธอก็เข้าใจได้ในทันที ที่แท้จ้าวซิ้วก็เพียงแค่ต้องการให้เธออับอายเท่านั้นเอง พวกเด็กสาวต่างก็รู้ว่า จ้าวซิ้วอดทนการถูกทำให้อับอายลับหลังไม่ไหวแล้ว ถึงได้ทำอะไรแบบนี้ออกมา และอยากจะสร้างความอับอายให้กับจางเจียเย่นสักหน่อยเท่านั้น แต่ว่าเธอทำได้แล้ว วันนั้นจางเจียเย่นยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เจ้าหญิงที่เคยสูงศักดิ์กลายเป็นคนที่น่าอับอายจนไม่รู้จะไปซ่อนตัวที่ไหน แน่นอนว่าจางเจียเย่นที่อับอายจนกลายเป็นความโมโหไม่อาจจะใจดีปล่อยเธอไป หลังจากนั้นไม่กี่วัน เธอก็ได้ติดต่อกับพวกอันธพาลแถวนั้น และหาโอกาสตอนที่จ้าวซิ้วกลับบ้านคนเดียวลากเข้าไปในอุโมงค์เล็กและพลัดกันข่มขืนเธอ เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ฉันก็อดที่จะสั่นสะท้านขึ้นมาไม่ได้ เด็กสาวที่อายุเพียงสิบกว่าปีสามารถคิดแผนการที่โหดร้ายขนาดนี้ขึ้นมาได้ เมื่อเทียบกับจ้าวซิ้วแล้ว เขาก็เพียงแค่ถูกผู้ชาย......ไม่สิ เพียงแค่เคยนอนกับผีตนหนึ่งเท่านั้น พอมองแบบนี้แล้ว ฉันถือว่าโชคดีกว่าเยอะเลย....... เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อยู่ๆ ในหัวของฉันก็นึกถึงเสียงหัวเราะหยอกล้อหนึ่งขึ้นมา ฉันหลับตาแน่น พร้อมกับรีบเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา เพื่อฟังสิ่งที่ไป๋เวยเวยเล่าต่อ เพราะฉันรู้อย่างชัดเจนว่า เสียงหัวเราะเมื่อสักครู่นั้น แม้ว่าจะฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ยังคงจำได้ มันเป็นของ___เทียนปูหยู่...... ส่วนจางเจียเย่นก็มองดูจ้าวซิ้วถูกข่มขืนอยู่แบบนั้น และหลังจากนั้นก็ยังยืนสงบนิ่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับถ่ายภาพที่น่าเกลียดเอาไว้ทีละใบ...... “จ้าวซิ้ว ถ้าเธอกล้าเข้ามาอ่อยแฟนของฉันอีก เธอก็ลองดู เธอเชื่อไหมว่าต่อจากนี้ไป ในอินเตอร์เน็ตก็จะเต็มไปด้วยภาพโป๊ของเธอและยังเป็นตอนที่เธอถูกข่มขืนด้วย!” จ้าวซิ้วถูกทำให้ตกใจไปไม่น้อย เธอคุกเข่าด้วยร่างเปล่าเปลือยตรงหน้าจางเจียเย่นพร้อมกับร้องไห้ขอให้เธอยกโทษให้ หลังจากนั้น แม้แต่ไป๋เวยเวยก็ไม่รู้ว่าจ้าวซิ้วใช้วิธีการอะไรถึงได้ไปปรากฏตัวอยู่บนเตียงของจางไป๋ชู____พ่อของจางเจียเย่นได้ ในวินาทีที่จางเจียเย่นเปิดประตูห้องนอนของพ่อตัวเองออก เสียงกรีดร้องของจางเจียเย่นดูราวกับจะพุ่งทะลุออกไปนอกหลังคาบ้าน มันเสียดหูจนน่าตกใจ แต่สิ่งเดียวที่ไป๋เวยเวยจำได้ก็คือ ท่าทางหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูกของจางไป๋ชู และความภาคภูมิใจที่ปกปิดไม่มิดบนใบหน้าของจ้าวซิ้วในตอนที่เปลือยกายขี่อยู่บนร่างของจางไป๋ชู พวกเด็กสาวต่างก็รู้ได้ว่า จ้าวซิ้วไม่พอใจและกำลังเริ่มแก้เค้นจางเจียเย่นแล้ว เพียงแต่ในตอนนั้นจางเจียเย่นทำเรื่องที่ร้ายแรงเกินไปกับจ้าวซิ้ว และการแก้แค้นของจ้าวซิ้วนั้น มันกลับโหดร้ายและเลวทรามเสียยิ่งกว่าที่จางเจียเย่นทำ หลังจากนั้น จางเจียเย่นก็ดูเหมือนต้องการจะประนีประนอม เธอโทรศัพท์ไปหาจ้าวซิ้วเพื่อเรียกให้ออกมาพบ ให้เงินจำนวนหนึ่งกับเธอ และขอร้องไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับพ่อของตัวเองอีก แต่ว่าเมื่อเห็นจางเจียเย่นที่ถ่อมเนื้อถ่อมตัวลง จ้าวซิ้วที่ภาคภูมิใจจนลืมตัวก็รักษาสัญญาอยู่ฝ่ายเดียว สุดท้ายเธอก็ถูกคนที่จางเจียเย่นเรียกมาทำร้ายจนแทบสิ้นลมหายใจ และนำไปทิ้งไว้ที่บ่อน้ำแห้งนอกเมือง จากนั้นสุดท้ายเป็นอย่างไรบ้าง ไป๋เวยเวยเองก็ไม่รู้เช่นกัน เพียงแต่ตั้งแต่ตอนนั้น พวกเธอก็ไม่เคยได้พบกับจ้าวซิ้วอีกเลย ไม่จำเป็นต้องพูด เมื่อจ้าวซิ้วไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาอีก นั่นก็หมายความว่าเธอน่าจะตายไปในบ่อน้ำแห้งแล้ว เมื่อไป๋เวยเวยเล่าเรื่องออกมาจบ เธอก็ถอนหายใจออกมาราวกับได้ระบายภาระหนักอึ้งที่แบกรับมานาน แต่ว่าที่น่าแปลกใจคือ เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวเล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวฉันเอง แต่ภายในใจของฉันกลับรู้สึกราวกับถูกหินกดทับ ไม่ว่าอย่างไรก็หายใจไม่สะดวก และเพียงรับรู้ได้ถึงความกดดันที่มากล้น ดูเหมือนว่า เด็กสาวทั้งสามคนนี้จะทำชั่วจนถึงขีดสุดจริงๆ ในตอนที่จางเจียเย่นโยนจ้าวซิ้วลงไปในบ่อน้ำแห้ง จ้าวเซียวและไป๋เวยเวยจะต้องอยู่ที่นั่นด้วยแน่ ไม่อย่างนั้นจ้าวซิ้วคงจะไม่เปลืองแรงตามหาคนพวกนี้ แต่ว่า เมื่อได้ฟังเรื่องของไป๋เวยเวยจบแล้ว ซูหลินกลับเข้าสู่การใช้ความคิด ฉันรู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ตัวเองมองข้ามไป แต่ว่าไป๋เวยเวยยังคงสะอื้นอยู่ที่ข้างหู อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าหญิงสาวที่ตัวเองกำลังกอดอยู่นั้นเป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ เพราะว่าตอนนี้ใจของฉันอ่อนลงราวกับถูกยาชา ไม่ว่าจะคิดอะไรก็คิดไม่ออกเลยสักนิด ในตอนนั้นเอง อยู่ๆ ซูหลินก็เงยหน้าขึ้นมา และถามไป๋เวยเวยด้วยความจริงจัง : “ถ้าแบบนั้นแล้ว การตายของจ้าวซิ้วเกี่ยวอะไรกับไป๋หย่าถิงล่ะ? ทำไมแม้แต่ไป๋หย่าถิงก็มาตายด้วย? เรื่องที่คุณเล่ามา ไม่ได้มีไป๋หย่าถิงปรากฏอยู่ด้วยนี่ครับ” ใช่แล้ว เมื่อได้ยินที่ซูหลินพูด ฉันก็รับรู้ได้ในทันทีว่านี่คือเรื่องที่ฉันคิดไม่ออก! ฉันเองก็ตั้งตามองไปยังไป๋เวยเวยเพื่อรอคำตอบของเธอ แต่ว่าไป๋เวยเวยกลับทำเพียงขมวดคิ้วเข้าหากัน หลังจากนั้นก็ส่ายหน้าเบาๆ : “ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้จักไป๋หย่าถิง และไม่รู้ด้วยว่าทำไมจ้าวซิ้วถึงต้องการฆ่าทำร้ายคนอื่น” ฉันก้มหน้าลงด้วยความท้อแท้ เดิมทีฉันคิดว่าความจริงของเรื่องนี้จะปรากฏออกมาตรงนี้แล้ว แต่กลับไม่คิดเลยว่า เบาะแสที่มีมาทั้งหมดจะมาติดอยู่ที่ตัวละครที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยอย่าง___ไป๋หย่าถิง หรือว่าเดิมทีการตายของไป๋หย่าถิงจะไม่ใช่การกระทำของจ้าวซิ้ว แต่เป็นเพียงอุบัติเหตุจริงๆ? หรือสามารถบอกได้ว่า เพราะว่าไป๋หย่าถิงได้รับความตกใจหวาดกลัวมากเกินไป สติของเธอก็เลยไม่มั่นคง และหลอกทำร้ายตัวเอง? เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ก็ไม่มีตรงไหนที่ไร้จุดประหลาด ฉันไม่กล้าจะสรุปอะไรด้วยตัวเอง และทำได้เพียงปลอบประโลมไป๋เวยเวย จากนั้นก็ส่งเธอกลับห้องพักผู้ป่วยไปเท่านั้น หลังจากที่เล่าทุกอย่างออกมาแล้ว แน่นอนว่าไป๋เวยเวยก็ได้รู้อีกตัวตนหนึ่งของซูหลินด้วย และเข้าใจแล้วว่าซูหลินเป็นคนที่มีความสามารถในการปกป้องเธอทั้งสองได้ หลังจากที่ประตูห้องพักผู้ป่วยปิดลง ซูหลินก็ประสานมือทั้งสองกุมเอาไว้ที่หัวเข่า และแสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา “ดังนั้นแล้ว ตอนนี้พวกเราควรจะไปดูศพของไป๋หย่าถิงกันเสียหน่อยไหมคะ?” “ไม่ พวกเราควรจะไปดูขบวนรถที่เกิดเหตุเสียก่อน” ซูหลินเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของเขาแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะเขาเสียใจ แต่เป็นเพราะเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนมาทั้งคืน และถ้าหากว่ายังหาสาเหตุไม่พบ ดูเหมือนว่าแม้แต่คนที่มีนิสัยอย่างซูหลินก็อาจจะล้มพับไปได้ ไม่ต้องพูดอะไรมาก ฉันเหลือบมองไปที่โทรศัพท์เล็กน้อย ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลา 9 โมงเช้า ยังห่างจากช่วงบ่ายนานนัก พวกเราจึงรีบทำเวลาขับรถมายังสถานที่เกิดเหตุ ขบวนรถส่วนนั้นถูกถอดออกมาจากตัวรถไฟ และปิดกั้นเป็นสถานที่เกิดเหตุ บริเวณข้างทางรถไปเป็นพื้นที่ร้างที่เต็มไปด้วยเศษหิน ในบริเวณที่ห่างออกไปอีกก็เป็นพวกหญ้ารกที่สูงเกือบถึงเอว และเริ่มจะกลายเป็นสีเหลืองบ้างแล้วเหล่านั้น ไป๋หย่าถิงกระโดดออกมาจากขบวนรถส่วนนี้ และเพราะว่ารถไฟมีความเร็วสูงมาก ทำให้ไป๋หย่าถิงตกลงมากระแทกหินข้างทางเสียชีวิต ซูหลินมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่านอกจากพวกเราแล้วก็ไม่มีคนอื่นอยู่ เขาจึงนำผ้ายันต์ออกมาจากภายในอกอย่างวางใจ หลังจากที่ท่องมนต์ออกมา อยู่ๆ ผ้ายันต์ก็เผาไหม้ตัวเองลอยขึ้นไปในอากาศ มันหมุนวนรอบสถานที่นั้น ก่อนที่สุดท้ายจะกลับมาตกอยู่ที่มือของซูหลิน และเผาสลายตัวเองไป ซูหลินปัดมือไปมาเพื่อสลัดเศษขี้เถ้าออก เขาเงยหน้าขึ้นมามองที่ฉัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ ราวกับจะรู้อะไรขึ้นมาแล้ว ฉันร้อนรนขึ้นมาทันที และจ้องมองไปที่เขาโดยไม่ขยับเขยื้อนเพื่อรอผลลัพธ์ที่เขาจะบอกออกมา สุดท้ายราวกับว่าซูหลินจะจัดการหาคำพูดอธิบายได้ในที่สุด เขาจึงเปิดปากพูดออกมา เพียงแต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะพูดออกมาเพียงสั้นๆ เท่านั้น : “จ้าวซิ้วไม่เคยมาที่นี่”
已经是最新一章了
加载中