ตอนที่153 มือที่สาม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่153 มือที่สาม
ต๭นที่153 มือที่สาม หลี่เฉินเย่นมาหาชูเซี่ยที่ตำหนักทุกวันและมากินข้าวแต่ว่าเขาไม่เคยมาค้างคืนเลย เริ่มต้นชูเซี่ยนึกว่าเขาจะพักที่ตำหนักเจิ้งโหล่ง ต่อมานางได้ยินข้ารับใช้พูดกระซิบกันเงียบๆถึงรู้ว่าหลายวันมานี้เขาไปพักค้างคืนที่ตำหนักของโหร่วยเฟย ในสมองก็มีภาพเมื่อสามปีก่อนผุดขึ้นมาเรื่อยๆเป็นภาพตอนที่นางไปจวนและพบว่าเขาอยู่กับโหร่วยเฟยในใจนางตอนนั้นเจ็บปวดมากจนแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆและในวันนั้นเขาก็เห็นว่านางอยู่กับจูเก๋อหมิงเขาน่าจะรู้สึกอย่างนี้?ตอนนี้เขาไปค้างคืนที่ตำหนักของโหร่วยเฟยเป็นเพราะว่าเขาอยากแก้แค้นข้าหรือเขาชอบโหร่วยเฟยกันแน่? ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ตามนางก็มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงได้แต่ว่ายกเว้นแค่โหร่วยเฟยเท่านั้นที่นางไม่มีสิทธิ์เพราะส่าโหร่วยเฟยเป็นชายารองที่แต่งเข้ามา นางคิดตลอดเลยว่าตัวเองนั้นแย่งคนรักของโหร่วยเฟยมา ไม่ว่านางจะคิดหรือไม่คิด ระหว่างนางกับหลี่เฉินเย่นก็มีระยะห่างกันแล้ว ช่วงเวลานี้ นางก็กินอะไรไม่ลงกระเพระไม่ค่อยสบาย กินอะไรนิดหน่อยก็คลื่นไส้อาเจียนแล้ว คนที่เหมือนชูเซี่ยที่ตอนนี้กำลังเสียใจอยู่ก็คือเชียนซาน! ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนางจะเป็นคนไร้ความรู้สึกแต่บางครั้งก็มีรอยยิ้มบ้าง ตอนนี้นางกลายเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกโดยสมบูรณ์แบบตลอดทั้งวันนางทำหน้าบึ้งตลอดเวลา เวลาทำงานอะไรก็รู้สึกไม่มีแรง ชูเซี่ยรู้ว่านางคงกำลังเศร้ากับความรัก นางตกหลุมรักหลวี่หนิงเข้าอย่างจริงจังและคนที่นางรักตอนนี้ก็อยู่ที่ตำหนักของฉ่ายเวินทุกวัน รักแรกของเชียนซานนางไม่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้เลยถึงแม้ว่าจะไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นแต่นางก็ทนไม่ได้ที่จะส่งคนไปสืบความจากทางนั่นมา ทุกๆวันก็จะมีเรื่องมาทุลว่าวันนี้อวีกงจือกับฉ่ายเวินไปเที่ยวเล่นน้ำตกไปชมดอกไม้ไปชิมชาและกินขนมด้วยกัน ความสัมพันธ์ทั้งสองนั้นใกล้ชิดกันมากและยังมีครั้งหนึ่งที่คนกลับมาทุลว่าอวีกงจือกำลังหวีผมให้ฉ่ายเวินเสียวเจ่อยู่ ทุกครั้งที่เชียนซานได้ยินนางห็จะเงียบอื้มครึ้มหันหลังและเดินเข้าห้องไปเลยจนกระทั่งตอนเย็นๆนางถึงจะออกมา เวลาสั้นๆสิบวันเชียนซานผอมโทรมลลไปเยอะมากทีเดียว หน้านางเล็กลงและคางก็แหลมขึ้น ในคืนนี้นางออกวังไปพบท่านแม่และไปกินข้าวที่บ้านพร้อมกับดื่มมาเล็กน้อยพอกลับมาก็กอดชูเซี่ยและร้องไห้ ชูเซี่ยรู้ว่าต้องมีสักวันที่นางทนไม่ไหวและร้องไห้ปลดปล่อยมันออกมาทีานางอดทนมาได้นานขนาดนี้ก็ทำให้ชูเซี่ยแปลกใจมากแล้ว นางไม่ได้พูดอะไรและให้เชียนซานร้องไห้ออกมาให้หมดพอนางร้องไห้จนเหนื่อยแล้วถึงจะเงยหน้าขึ้นมาและสูดขี้มูกอย่างอายๆพร้อมกับพูดว่า: “ข้าแค่ไม่ค่อยสบายน่ะตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ!” ชูเซี่ยจับไหล่นางเบาๆและพูดปลอบนางว่า: “เชียนซานถ้าเจ้าดูเรื่องราวนี้อย่าดูแค่ภายนอกให้วิเคราะห์เรื่องราวให้ออกเรื่องบางเรื่องอาจจะไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดก็ได้!” เชียนซานเช็ดน้ำตาตัวเองและตอบว่า: “ถ้าสิ่งที่เราเห็นมันไม่เป็นความจริงแล้วอะไรล่ะที่เป็นความจริง?เจ้านายท่านไม่ต้องมาปลอบใจข้าหรอกเจ้าค่ะ ข้าขอพักสักพักก็ไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ” ชูเซี่ยเช็ดน้ำตาที่หางตาให่นางและพูดว่า: “เชียนซาน เจ้าคงหลงเข้าไปอยู่ในเกมที่เขาวางไว้แล้วล่ะมีบางเรื่องที่เจ้าดูไม่ออกข้าขอถามเจ้าหน่อย ในใจเจ้าหลวี่หนิงเป็นคนเช่นไร?” เชียนซานรีบตอบกลับไปอย่างโกรธๆว่า: “ขี้หมา เศษขยะ ขี้แพ้ เจอสาวงามเป็นไม่ได้……” ชูเซี่ยขมวดคิ้วประโยคนี้นางคงด่าเขาในใจตลอดแบะนางก็ถามไปเชียนซานเลยทนไม่ได้และด่าออกมาในที่สุด นางยิ้มและพูดว่า: “เขาเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอแล้วทำไมเจ้าถึงไปชอบเขาล่ะ?งั้นข้าเปลี่ยนคำถามล่ะกัน ก่อนที่เขาจะเจอฉ่ายเวินเขาเป็นคนเช่นไร?” เชียนซานขมวดคิ้วและคิดจากนั้นนางก็พูดว่า: “ถ้าก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่ดีมีเมตตากตัญญูรู้คุณเป็นคนที่ฉลาดเป็นคนมีความรับผิดชอบและยังรู้จักเป็นห่วงคน นับว่าเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง” ชูเซี่ยหัวเราะ: “เจ้าก็บอกว่าเขาเป็นคนฉลาด ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เขาทำทั้งหมดพวกเราก็ไม่ต้องไปกังวลใช่หรือไม่?” “ข้าเป็นห่วงเขาเมื่อไหร่กัน?เขาโดนคนอื่นหลอกยังจะดีกว่าอีก!”เชียนซานก็ฟังไม่ออกที่ชูเซี่ยพูดอยู่ดี ชูเซี่ยถอนหายใจยาว “ยัยเด็กโง่ ลองสมมุติว่าตัวเองเป็นคนนอกและลองพิจารณาเรื่องนี้ดีๆสิ!” เชียนซานทำหน้าตาสงสัยชูเซี่ย “เจ้านายเจ้าค่ะท่านอยากบอกอะไรข้ากันแน่?รู้ทั้งรู้ว่าเชียรซานความรู้น้อย ท่านก็ยังพูดอ้อมไปอ้อมมา จ้าคิดไม่ออกจริงๆเจ้าค่ะ?”เห็นว่าชูเซี่ยขมวดคิ้วนางก็เลยพูดต่อว่า : “เจ้าค่ะๆๆๆถ้าสมมุติว่าเราเป็นภายนอกและลองพิจารณาเรื่องนี้ดูงั้นสิ่งที่เขาทำก็มีเหตุผลอยู่!” ชูเซี่ยอึ้งสักพักและคิดว่าเข้าใจเร็วขึ้นนะเนี่ย? นางยังไม่ทันพูดอะไรเชียนซานก็พูดต่อเลยว่า “ที่จริงฉ่ายเวินก็สวยดีนะเจ้าค่ะถ้าข้าเป็นผู้ชายข้าก็คงหลงรักหญิงผู้นี้ด้วย ดังนั้นข้าเข้าใจ ใครบอกว่าข้าไม่เข้าใจ?โบราณว่าไว้ว่านักรบย่อมรักหญิงงาม ขี้หมานั้นถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนนักรบแต่หมียักษ์ก็ยังรักหญิงงามเลยและยังรักนานกว่านักรบเสียอีก คนอย่างเขาถึงตายแล้วกลายเป็นขี้เถ้าเขาก็ตายไม่สาสม”พูดถึงตอนสุดท้ายสีหน้าที่โกรธอยู่ก็หายไปแต่กลายเป็นสีหน้าที่โศกเศร้าแทน ชูเซี่ยส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ เชียนซานเป็นคนที่นิสัยตรงไปตรงมามีบางเรื่องที่ต้องปิดบังนางไว้ก่อน ชูเซี่ยมองดูสีหน้าที่ทรุดโทรมของนางและพูดว่า: “ต้องมีสักวันที่เรื่องทุกอย่างกระจ่างแจ้ง ถ้าถึงเวลาแล้วหลวี่หนิงต้องรู้ว่าเจ้ามีความดีอะไรบ้าง!” เชียนซานตอบว่า: “เขานึกว่าข้าเป็นอะไรกันแน่?ถึงเขาจะกลับมาแล้วข้าก็จะไม่เหลียวแลเขาอีก!” วันที่สอง ชูเซี่ยพาเชียนซานไปเก็บดอกบัว วันนี้สีท้องฟ้าสดใสมีสีแดงดั่งพระอาทิตย์สีชมพูสีส้มแสดตัดกัน ทำให้ท้องฟ้าวันนี้สวยงามมาก พอผ่านไปสักพัก สีแดงก็เริ่มจางลงไปเหลือแต่สีชมพูและสีส้มแสดที่ผสมกันอยู่ ทั้งสองนั่งข้างริมแม่น้ำมองดูสีท้องฟ้าที่จางหายไปช้าๆ ในใจก็รู้สึกสงบกว่าปกติ เป็นเวลานานมากชูเซี่ยก็ลุกขึ้นยืนแต่ทันใดนั้นเชียนซานก็ลากมือของนางให้นั่งลงเหมือนเดิม: “นายหญิงเจ้าค่ะ ไม่เด็ดแล้วค่ะกลับกันเถอะ!” ชูเซี่ยเห็นว่าสีหน้านางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและยังเอาตัวมาบังหน้านางไว้ นางก็รู้ทันทีเลยว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ นางยื่นมือไปผลักหัวนางออกมองเห็นทางเดินสวนดอกไม้นี้มีคนเดินมาหมู่หนึ่ง ถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะเริ่มมืดลงแล้วก็ตามแต่ว่านางก็เห็นได้ชัดแม้จะดึกเพียงใด หลี่เฉินเย่นจับมือโหร่วยเฟยตลอดทางพวกเขาพูดและหัวเราะอย่างสนุกสนาน บรรยากาศนี้ทำไมมันช่างคุ้นเคยเหลือเกิน!เขาก็เคยจับมือนางเดินมาทางนี้แล้วหลายครั้ง และบรรยากาศของวันนี้เหมือนวันนั้นเลยแต่ว่าคนที่ยืนเคียงข้างเขาคนนั้นกลับไม่ใช่ข้า! ในใจเหมือนโดนกระชากออกมาและบดขยี้ซ้ำหลายๆรอบเจ็บจนหัวใจโดนบีบและแตกเป็นเสี่ยงๆ หัวใจนางตอนนี้มีเลือดท่วมอาบออกมาแล้ว ใจรู้ว่าเขาพีกอยู่ที่ตำหนักของโหร่วยเฟยนางทั้งปวดใจและโศกเศร้า เจ็บปวดเพราะนางคงคิดไปเองบ้างแต่ตอนนี้พอมาเห็นกับตาตัวเองแล้วถึงรู้ว่าตัวเองเจ็บปวดเช่นนี้เลยเหรอ นางเตือนตัวเองในใจและข่มใจตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมา อย่าร้องไห้ ตอนนี้ที่นางยังอยู่ในวังนี้มีเหตุผลเดียวเท่านั้น นางจะสืบหาความจริงให้ได้ว่าเฉินอวี่จู๋ตายได้ยังไงขอแค่สืบเรื่องทุกอย่างได้แล้วนางก็จะไปจากที่นี้ทันที ถ้าเป็นเช่นนั้นนางก็ไม่ต้องอยู่ที่นี้อีกและไม่ต้องมาทุกข์ทรมาณใจแบบนี้อีก! แต่ว่านางคิดว่าตัวเองจะเข้มแข็งและอดทนกว่านี้ ยิ่งนางทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรแต่ก็ยังเก็บอารมณ์ที่แสดงผ่านสีหน้าไว้ไม่อยู่ เมื่อก่อนนางคิดว่านางมีความรักที่จรองใจและบริสุทธิ์ที่เขาไปพักที่ตำหนักของโหร่วยเฟยคงเป็นเพราะเขาอยากจะทำให้นางหึง นางคงจะสำคัญตัวเองผิดไป หลี่เฉินเย่นกับโหร่วยเฟยมองเห็นนางโหร่วยเฟยก็อึ้งสักพักและรีบสะบัดมือของหลี่เฉินเย่นออกไปจากนั้นก็ยืนนึ่งอยู่กับที่ไม่ขยับ หลี่เฉินเย่นมองชูเซี่ยอย่างเย็นชาและเดินมาสีหน้าตอนนี้ของเขาเหมือนสีหน้าที่แก้แค้นมากและเขาก็ถามนางเบาๆว่า: “เจ้ามาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?” ชูเซี่ยคิดว่าตอนนี้สีหน้าตัวเองคงจะดูแย่มากเพราะว่าตอนนี้นางคลื่นไส้อาเจียนอยากจะอ้วกมากข้าวกลางวันที่พึ่งกินไปเหมือนจะอ้วกออกมาแล้วแต่ว่านางก็ยังคงอดทนไว้และฝืนยิ้มออกมาทำเหมือนว่าไม่สนใจแต่ว่าปากและน้ำเสียงที่สั่นเคืองของนางมันได้ฟ้องทุกอย่างไปหมดแล้ว “ใช่ ข้ามาเดินเล่นน่ะ!” นางมองผ่านหลี่เฉินเย่นและมองไปที่หน้าของโหร่วยเฟยและนางก็ยืนตัวตรงไม่กล้าสบตากับชูเซี่ย จากนั้นชูเซี่ยก็เริ่มมีอาการคลื่นไส้โหร่วยเฟยในตอนนั้นปากกล้าขนาดไหนหลังจากนั้นนางก็โดนทำโทษโดยการกักบริเวณนอสัยของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ถึงแม้ว่านางจะยืนเคียงข้างหลี่เฉินเย่นในฐานะโหร่วยเฟยแต่กลับทำท่าทางเหมือนเด็กที่ทำอะไรผิดแต่ที่จริงแล้วชูเซี่ยควรจะเป็นคนพูดขอโทษเสียมากกว่า คนโบราณว่าไว้ว่าความรักของคนสองคนมันกำหนดมาให้มีกันแค่สองคนที่เดินไปด้วยกันถ้าหากมีคนที่สามเข้าไปต้องมีใครสักคนโดนเบียดออกไปเมื่อก่อนโหร่วยเฟยโดนเบียดออกไปตอนนี้เหมือนฟ้าลงโทษกลับเบียดชูเซี่ยออกไปแทน เชียนซานจับมือชูเซี่ยไว้และบอกว่า: “พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ!” ชูเซี่ยพยักหน้าเบาๆ “ได้สิ!”พูดจบ นางก็เดินออกมาตัวแข็งพร้อมกับพูดว่า : “กราบบังคมลาพ่ะย่ะค่ะ!” นางไม่ได้เงยหน้ามองหลี่เฉินเย่นเลยแต่เหมือนจะรู้สึกว่าหลี่เฉินเย่นตกใจกับสีหน้านางมาก นางเดินออกไปช้าๆและไม่เห็นสีหน้าที่ขาวซีดของหลี่เฉินเย่นเลย ตลอดทางเชียนซานกับชูเซี่ยไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อก่อนเชียนซานไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้นางไม่อยากรู้แต่รู้และเข้าใจแล้ว ความอดทนของชูเซี่ย ตอนนี้นางเห็นแล้วว่าหัวใจของนางตอนนี้เหมือนมีมีดมากรีดตลอดเวลาแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมาได้ ถึงแม้นางจะทุกข์เพียงใดนางก็ยังอดทนอยู่ในวังแห่งนี้เพียงเพราะว่ากำลังสืบหาความจริงที่มันไม่ได้เกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด เฉินอวี่จู๋ ข้าหวังว่าเจ้าคงอยู่ที่สวรรค์แล้วโปรดคุ้มครองเจ้านายข้าและรีบหาตัวคนร้ายออกมาให้โดยเร็วที่สุดอย่าให้นางได้เสียใจเช่นนี้อีกเลย เชียนซานขอร้องในใจเบาๆ! คืนนี้ชูเซี่ยกับเชียนซานไม่ได้กินข้าว คนมาส่งข้าวและนำออกไปต่อพวกนางไม่ได้แตะต้องเลย เชียนซานไม่รู้ว่าเหล้าสองขวดนั้นมากจากไหนและมองไปทางชูเซี่ยและพูดว่า: “ถ้าไม่อยากกินเร่ก็มาดื่มกันเถอะ ดื่มจนตายกันไปข้างเลย!” ชูเซี่ยไม่อยากดื่มเหล้าเพราะหลายวันมานี้นางรู้สึกว่ากระเพาะไม่สบายน่าจะมียาพิษที่ออกมาเรื่อยๆเมื่อก่อนถ้ามีอาการแบบนี้นางก็จะกลัวมากนางกลัวว่าจะตายแต่ตอนนี้นางเริ่มไม่กลัวแล้วแต่แค่หวังว่าเวลาที่เหลือของนางนี้จะหาคนร้ายเจอ ถ้าอย่างนั้นนางก็จะตายอย่างสงบสุขและกลับไปที่บ้านเกิดตนเอง! แต่ว่าคืนนี้นางเสียใจมากสมองต้องการพักผ่อนไม่อยากคิดเรื่องอะไรทั้งนั้นดังนั้นพอได้ฟังที่เชียนซานพูดนางก็ตอบกลับไปว่า: “อื้มเอาสิวันนี้พวกเราดื่มให้เมากันไปข้างเลย!” เหล้านี้แรงมากเชียนซานเป็นคนดื่มหนักดังนั้นนางดื่มไปแล้วตั้งครึ่งขวดสีหน้าก็ยังไม่เปลี่ยน ชูเซี่ยดื่มไปแค่ไม่กี่แก้วก็เมาแล้ว เชียนซานขมวดคิ้ว: “คนอื่นบอกว่าถ้าเราดื่มมากๆเราก็สามารถลืมเรื่องราวที่ทุกข์ใจได้แต่ว่าสมองของข้านี้ก็หยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย เชียนซาน ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี้!”พอพูดจบนางก็เอามือทุบหัวตัวเอง ชูเซี่ยจับมือนางไว้อย่างเมาๆและพูดอย่างจริงจังว่า: “นั่นเป็นเพราะว่าเจ้ายังดื่มไปพอถ้าเจ้าดื่มพอแล้วความรู้สึกเสียใจนั้นก็จะหายไปเอง” “จริงเหรอเจ้าค่ะ?”เชียนซานหัวเราะ “ท่านอย่าโกหกข้าเชียวนะ!” “ข้าจะหลอกเจ้าทำไมกัน?ถ้าไม่เชื่อเจ้าก็ดื่มไปทั้งขวดเลยสิชูเซี่ยแค่พูดท้าเชียนซานเล่นๆไม่รู้ว่าเชียนซานจะทำจริงๆนางเปิดขวดมาและดื่มเข้าไปอย่างรวดเร็ว!” ชูเซี่ยมนางอย่างอึ้งๆ “โอ้โห เจ้าดื่มเข้าไปจริงเหรอเนี่ย เหล้านี้มันแรงเจ้าควรดื่มช้าๆหน่อย!” นางพูดจบเชียนซานก็กลอกเหล้าเข้าปากไปหมดแล้วสีหน้าแดงๆมองไปทางชูเซี่ยและยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า: “เจ้านายเจ้าค่ะ ทำไมท่านมีจมูกหลายอันมากเลย!”พูดจบนางก็ฟุบลงไปนอนทันที
已经是最新一章了
加载中