ตอนที่ 192 น้ำตาไหล   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 192 น้ำตาไหล
ต๭นที่ 192 น้ำตาไหล หลวี่หนิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทุบไปที่หน้าอกของจูฟางหยวน ดีที่หลายปีมานี้จูฟางหยวนก็ไม่ธรรมดา ขยับขาทั้งสอง แล้วเคลื่อนตัวไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว โยกหลบหมัดนี้ไปได้ จูฟางหยวนร้องขึ้นอย่างตกใจ “อะไรกัน ชูเซี่ย ในเมืองหลวงไม่มีใครต้องรับพวกเราเลย พวกเรารีบไปกันเถอะ” เชียนซานหยุดหลวี่หนิง ถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง “อย่าเพิ่งลงไม้ลงมือสิ ไม่ได้ยินที่นายหญิงเจ้าหรือไงว่าเด็กๆ กำลังหลับ กลับไปกันก่อน....” นางพูดพลันถลึงตาใส่จูฟางหยวนอีกครั้ง “เกรงว่าเดี๋ยวจะไม่มีเวลาคิดบัญชีกับคนสกปรกอย่างเจ้า” จูฟางหยวนรู้สึกถูกสถานการณ์ตรงหน้าบีบจนทำอะไรไม่ถูก “นี่มันอะไรกัน พวกเจ้าไม่ได้จำคนผิดใช่ไหม ข้าคือเหล่าจูยังไงล่ะ ข้าออกจากเมืองหลวงได้ไม่นานนี่เอง เมื่อก่อนพวกเจ้าเคยมีน้ำใจกว่านี้ไม่ใช่รึ” เชียนซาน ‘หึ’ ในลำคอ “หลวี่หนิง เจ้าพาเจ้าคนสกปรกนี่ไป ข้าจะขึ้นรถม้าไปกับนายหญิง เรากลับบ้านเดิมกัน” หลังจากที่เชียนซานมอบหมายหน้าที่เรียบร้อย นางเดินขึ้นรถม้าอย่างระมัดระวัง ชูเซี่ยนั่งอยู่ในรถม้า โอบลูกสองคนไว้ เด็กๆ หลับกันแล้ว ชูเซี่ยพูดเสียงเบา “ถนนขรุขระเกินไป ข้าเลยฉีดยานอนหลับให้พวกเขาหลับไป” เชียนซานมองเห็นใบหน้าที่คล้ายกันของฉองเหลาและจิงโม่ เอามือปิดปาก ลดเสียงลงและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฝาแฝดรึนายหญิง” “ใช่ แฝดชายหญิง” ชูเซี่ยยิ้ม “นี่มันฝ่าบาทย่อส่วน”เชียนซานอุทานเบาๆ “เหมือนพ่อของพวกเขา” ชูเซี่ยยิ้มอีกครั้ง เชียนซานร้องขึ้น ‘ห๊ะ’ มองไปที่ชูเซี่ย ทันใดนั้น ยื่นมือไปกอดชูเซี่ย แล้วร้องไห้งอแงอย่างกับเด็กน้อย “เจ้าเด็กงี่เง่า จวนจะแต่งงานแล้ว ทำไมยังทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้” ชูเซี่ยพูดอย่างนุ่มนวล พลันตบหลังนางเบาๆ เชียนซานสะอึกสะอื้น “ข้าคิดว่านายหญิงลืมพวกเราไปแล้วสักอีก” “ก็อยากจะลืมนะ แต่เชียนซานของเราสวยขนาดนี้ จะลืมได้อย่างไรล่ะ น่ะ ไม่ร้องแล้ว นั่งดีๆ มีอะไรกลับไปค่อยคุยกัน” ชูเซี่ยหลับตาลง พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า “ข้าก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน” ขณะเดียวกันจิงโม่ขยับตัวเล็กน้อย พึมพำว่า “แม่จ๋า ถึงหรือยัง” ชูเซี่ยรีบยื่นมือออกไปกอดลูก “ใกล้แล้ว ใกล้ถึงแล้วล่ะ นอนเถอะยอดยาหยีของแม่” จิงโม่ขดตัว กอดหมอนข้าง แล้วนอนต่อ เชียนซานไม่กล้าส่งเสียงอีก นางค่อยๆ นั่งลง และมองไปที่ชูเซี่ยและจิงโม่กับฉองเหลาสลับไปมา ความตื้นตันท่วมท้นอยู่ในใจของนาง ถ้าหว่านเหนียงรู้ว่านายหญิงมีลูกที่น่ารักแบบนี้ ต้องดีใจจนร้องไห้แน่ๆ ฮองไทเฮาก็คงดีใจไม่ต่างกัน บางทีอาจทรงดีพระทัยจนพระอาการดีขึ้นเลยก็ได้ คนที่ดีใจที่สุดน่าจะเป็นฝ่าบาท นี่เป็นลูกของฝ่าบาทนะ นายหญิงมีลูกแฝดให้ฝ่าบาท พระเจ้า ทำไมคล้ายกันขนาดนี้ แล้วใครเป็นพี่ใครเป็นน้องล่ะ ทั้งขนคิ้ว จมูก และปาก ยังไงก็เหมือนฝ่าบาท ดูยังไงก็ลูกของฝ่าบาท ไม่เหมือนนายหญิงเลยสักนิด ถ้าเหมือนนายหญิงน่าจะสวยกว่านี้ เจ้านายตัวน้อยของนางนี่น่ารักจริงๆ เลย นางก็อยากมีลูกแฝด รถม้าแล่นเข้าตัวเมือง พุ่งตรงไปที่บ้านเก่า เชียนซานได้ให้คนทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้นางคิดว่าชูเซี่ยจะไปพักที่บ้านของจูฟางหยวน ดังนั้นจึงทำความสะอาดแค่เพียงง่ายๆ แต่ก็ได้เปลี่ยนเครื่องเรือนเรียบร้อยแล้ว จุดที่ชำรุดและทรุดโทรมไปก็ได้ซ่อมแซมแล้ว ถ้าจะอยู่จริงก็สามารถอยู่ได้ “ใช่แล้ว นายท่านเหมากับเจ้าถ่านล่ะ” ก่อนถึงบ้าน จู่ๆเชียนซานก็ถามขึ้น ชูเซี่ยตอบ “อยู่ข้างหลัง นายท่านเหมากับเจ้าถ่านขี่อูฐตามมา พวกเขาช้า แต่ว่าก็น่าจะถึงวันนี้เหมือนกันแหละ” เชียนซานยิ้มพลันพูดว่า “อ้อ พวกเขามากันเองสองคนหรอ” ความสามารถของนายท่านเหมาและเจ้าถ่านเชียนซานก็ร็ดี แต่คิดไม่ถึงว่านายหญิงจะให้พวกเขามากันเอง สารถีหยุดรถม้า เปิดม่านคลุมออก พูดด้วยความเคารพว่า “ถึงแล้วครับ นายหญิง” เชียนซานมองสารถี แล้วถอดหมวกของเขาออก “เจ้าเป็นคนที่ไหน ทำไมข้าไม่เคยเห็นเจ้า” “คุณเชียนซานครับ คนในพรรคมังกรเหินเยอะขนาดนี้ คุณเคยเห็นสักกี่คนล่ะ” สารถีพูดพลันหัวเราะ “แล้วคุณเป็นคนที่ไหนล่ะ ชื่ออะไร” “ข้าเป็นคนสอดแนม” สารถีหัวเราะ “คนสอดแนมไม่มีชื่อ มีเพียงรหัสเท่านั้น รหัสของข้าคือ เบอร์สามสิบหก” “หลายปีมานี้พวกเจ้าติดตามนายหญิงตลอดเลยรึ”เชียนซานถามอย่างสงสัย “ครับ ตั้งแต่นายหญิงออกจากเมืองหลวง พวกข้าก็เริ่มติดตามตั้งแต่นั้นมา” เบอร์สามสิบหกกล่าว “ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเจ้าไม่กลับมารายงานล่ะ” “หากไม่มีคำสั่งจากนายหญิง พวกข้าก็ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้” สารถีพูดอย่างเป็นการเป็นงาน เชียนซานมองไปทางชูเซี่ย “นายหญิงคะ นักบวชบอกว่าท่านลืมพวกเราไปแล้วไม่ใช่หรอ” ชูเซี่ยอุ้มจิงโม่ลงจากรถ “เจ้าอุ้มฉองเหลานะ เรื่องนั้นข้าจะบอกเจ้าทีหลังนะ” เชียนซานตอบรับ พลันยื่นมือไปโอบฉองเหลา และอดไม่ได้ที่จะก้มลงมาหอมแก้มฉองเหลาทีนึง “น่ารักจริงๆ เลย” ฉองเหลาตื่นแล้ว พลันลืมตาขึ้น กระพริบตาหนึ่งที ดูเหมือนแปลกใจนิดหน่อย “พี่สาวคนนี้เป็นใครรึ” เชียนซานอุทาน “เจ้านายตัวน้อย ข้าทำให้เจ้าตื่นรึ” “ลงมาเร็วฉองเหลา” ชูเซี่ยออกคำสั่ง ฉองเหลาดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจ “แม่จ๋า ข้าปวดขาทั้งสองข้างเลย น่าจะเดินไม่ไหวแล้วล่ะ ให้พี่สาวคนสวยคนนี้อุ้มข้าเข้าไปได้ไหม” “งั้นหรอ ขามีไว้เดิน ถ้าเจ้าเดินไม่ได้แล้วต้องตัดทิ้งนะ” ชูเซี่ยพูดเรียบๆ ฉองเหลาจึงจำใจลงเดิน แต่หันไปมองจิงโม่อย่างไม่พอใจ “พี่จิงโม่ตื่นได้แล้ว ถึงแล้ว” จิงโม่นอนนิ่งในอ้อมกอดของชูเซี่ย ราวกับว่ากำลังฝันหวาน “ข้าเห็นขนตาของเจ้าขยับ เลิกแกล้งหลับได้แล้ว”ฉองเหลาพูดดังขึ้น จิงโม่จำใจลืมตาขึ้น และถลึงตาใส่เขาหนึ่งที “เจ้าคนนิสัยไม่ดี” จิงโม่ลงยืน ขยี้ตาไปมาและมองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ “ที่นี่สวยกว่าเมืองหนานซานที่เราอยู่เยอะเลย” ความจริงแล้วรอบๆ นี้ก็ไม่มีอะไรมากนัก มีแต่ตึกที่มีความสูงแตกต่างกันไป นานๆ จะเจอกุหลาบยื่นออกมาจากสนามหญ้าในบ้าน ซึ่งได้เพิ่มเสน่ห์ให้ช่วงต้นฤดูร้อนได้เล็กน้อย ชูเซี่ยมองจิงโม่ด้วยสายตาเอ็นดู ตลอดทางนี้ พวกเขาคงเหนื่อยกันแล้วล่ะ “คนขี่ม้าทำไมช้ากว่าพวกเราล่ะ”เชียนซานยืดคอและมองไปทางปากทาง “ยังมาไม่ถึงเลย” “เข้าไปกันก่อนเถอะ” สารถีเริ่มขนสัมภาระ ของไม่มากนัก นอกจากกล่องยาของชูเซี่ยแล้ว ที่เหลือก็เป็นเพียงเสือผ้า ชูเซี่ยจูงมือจิงโม่และฉองเหลาเดินเข้าไปในบ้าน มองดูภาพเก่าๆ ในใจของชูเซี่ยมีหลายสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ วันเวลาผ่านไป หลายสิ่งอย่างไม่เหลือร่องรอย มีแต่คนที่เปลี่ยนไป “ตื้นตันใจน่ะสิ”เชียนซานยืนอยู่ข้างหลังนางพลันกระซิบขึ้น ชูเซี่ยหันไปมองเชียนซาน น้ำตาคลอเบ้า “เชียนซาน ห้าปีมานี้ เจ้าสบายดีไหม” เชียนซานกลั้นน้ำตาไว้ “บ้างดี บ้างไม่ดี” “ถ้าอย่างนั้นจำแต่สิ่งดีๆ ก็พอ สมองของคนไม่จำเป็นต้องไปจำอะไรมากมาย” ชูเซี่ยปล่อยมือเด็กๆ แล้วกางแขนออก “มา ขอกอดหน่อยเชียนซานของข้า” เชียนซานกอด ชูเซี่ย กอดแน่นมาก น้ำตาจากสองข้างแก้มไหลย้อยลงบนไหล่ของชูเซี่ย เพียงครู่เดียว เสื้อช่วงไหล่ของชูเซี่ยก็เปียกชุ่มเป็นวงกว้าง ชูเซี่ยก็รู้สึกตื้นตันอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ นางไม่รู้ว่าตนคิดผิดหรือคิดถูกที่กลับมา แต่ว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นถึงความซาบซึ้งใจของเชียนซาน ได้เห็นความรักและอาลัยของเชียนซานที่มีต่อตน การกลับมาครั้งนี้ก็ถือว่าไม่เสียเปล่า เสียงกีบม้าดังขึ้น ชูเซี่ยคลายกอดเชียนซานอย่างช้าๆเชียนซานรีบเช็ดน้ำตา ไม่อยากให้ผู้คนเห็นว่านางเคยร้องไห้ “พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของพ่อเลี้ยง บวมมากเลยล่ะ” จิงโม่ตะโกนขึ้นอย่างตกใจ “อะไรกัน รู้ได้อย่างไรว่าเป็นพ่อเลี้ยง”ฉองเหลาถามอย่างสงสัย
已经是最新一章了
加载中