ตอนที่ 49 เปิดเผย
1/
ตอนที่ 49 เปิดเผย
ชายาเกิดใหม่ของข้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 49 เปิดเผย
ตนที่ 49 เปิดเผย หลี่เฉินเย่นถอนหายใจ “หากเจ้าให้เปิ่นหวางเป็นภัยพิบัติของเจ้า เช่นนั้นเปิ่นหวางก็ยอมแต่โดยดี” ชูเซี่ยงุงงง เขาพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน จู่ๆความเศร้าก็โหมเข้ามาในจิตใจนาง นางคงไม่ได้เผลอตกหลุมรักเขาเข้าแล้วใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นนางก้ต้องกลายเป็นมือที่สามของผู้อื่นไม่ใช่หรือ แทรกเข้าไประหว่างเขาและหลิวมี่เหอ นี่เป็นเรื่องที่นางสมควรทำงั้นหรือ ทว่าเมื่อนึกถึงยามที่เขามอบจุมพิตหวานซึ้งให้นาง นางก็อดรู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจตนเองได้ หลังจากที่ชูเซี่ยกลับมาทานมื้อค่ำที่เรือนหรูอี้เรียบร้อยดีแล้ว หญิงสาวก็นั่งเหม่อรอยอยู่ที่ขอบหน้าต่างและมองดูดอกโบตั๋นอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือบางของนางเด็ดใบไม้ของเจ้าต้นโบตั๋นเล่นอย่างไม่รู้ตัวและโยนมันทิ้งลงกับพื้น เสี่ยวจี๋ที่คาดผ้าเช็ดหน้าปิดบังใบหน้าไว้และมามายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องบรรทมลอบสังเกตอาการแปลกประหลาดของชูเซี่ย ก่อนที่เสี่ยวจี๋จะเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “พระชายาเป็นอันใดไปหรือ ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่เหม่อลอยอยู่ที่ขอบหน้าต่างไม่ไปไหน ไม่ใช่ว่านางถูกท่านอ๋องตำหนิมากระมัง” มามาเองก็ไม่ได้อยู่ในห้องบรรทมของท่านอ๋องกับนายของตนจึงไม่รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร นางเพียงนึกถึงยามที่อยู่ประตูจวนท่านอ๋องมีท่าทีโมโหพระชายาอย่างยิ่ง พระชายาจะต้องโดนดุด่าอย่างรุนแรงมาแน่นอน มามาถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ “ความจริงแล้วนายหญิงของพวกเราเพียงต้องการออกไปทำรถเข็นให้ท่านอ๋องก็เท่านั้น วันนี้นางเจอเรื่องอยุติธรรมมามากมายเหลือเกิน” ในสายตาของมามา นายหญิงของนางเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ วันนี้นางสู้อุตส่าห์ยอมลดตัวเอ่ยวาจาอ่อนโยนต่อเสี่ยวฉิงและครอบครัวทั้งยังเอ่ยขอโทษ สำหรับนางนั่นก็ถือว่าเป็นการลดตัวให้มากแล้ว นางหันกลับมามองเสี่ยวจี๋ก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจมาสักพัก “จริงสิ ไฉนวันนี้เจ้าจึงใส่ผ้าคลุมหน้าเล่า หรือว่าวันนี้เกิดเรื่องขึ้น ท่านอ๋องและพระชายามาที่นี่หรือ” เสี่ยวจี๋ตกใจจนหน้าซีด “ไม่มี ไม่มีผู้ใดมา” มามาเองก้รู้จักเสี่ยวจี๋มานาน การโกหกของนางมีหรือมามาจะดูไม่ออก นางจ้องมองเสี่ยวจี๋อยากจับผิด “ดี หากเจ้าไม่ยอมพูดข้าจะไปถามพวกสาวใช้เอง” เสี่ยวจี๋รีบห้ามนางไว้ทันที นางห้ามเสียงเบาเกรงว่าพระชายาจะได้ยิน “มามา อย่าไปถามพวกนางเลย เดี๋ยวพระชายาจะตกใจเอาได้” มามาลากนางเข้ามาใกล้ “งั้นเจ้าก้พูดมาให้หมด วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ ท่านอ๋องลงโทษเจ้าหรือ ข้าก็แปลกใจอยู่ว่าเหตุใดท่านอ๋องจึงมารอนายหญิงอยู่ตรงหน้าประตูจวนเสียได้ เขาสั่งลงโทษเจ้าใช่หรือไม่” เสี่ยวจี๋ดึงมามาไว้ก่อนจะยอมปลอดผ้าคลุมหน้าในที่สุด น้ำตาของนางค่อยๆไหลลงมาอาบแก้มก่อนจะสะอื้นอย่างน่าสงสาร “ไม่ใช่ท่านอ๋อง แต่เป็นโหร่วเฟย” มามาเห็นใบหน้าของเสี่ยวจี๋ถึงกับกลั้นหายใจ ใบหน้าของนางยามนี้บวมแดงจนน่ากลัวทั้งยังช้ำไปหมด จากใบหน้าที่น่ารักสกใสบัดดนี้กลับไม่ต่างอะไรกับหัวหมู มามาเอ่ยเสียงเข้ม “นางกล้าดีถึงเพียงนี้เชียวหรือ อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นถึงสาวใช้คนสนิทของพระชายา นางยังกล้ารังแกเจ้า หรือนางไม่กลัวท่านอ๋องลงโทษนางกัน” เสี่ยวจี๋เอ่ยเสียงเบา “นางเคยกลัวเสียที่ไหนกัน ท่านอ๋องรักใคร่นางถึงเพียงนี้ อีกอย่างครั้งนี้พวกเราเป็นผู้กระทำผิดจริงถึงนางจะลงโทษก็ไม่ใช่ความผิดนาง อีกทั้งวันนี้พระชายาแอบหนีออกจากจวนไปก่อน นางจึงสบโอกาสเล่นงานพวกเราได้” “บัดนี้เรื่องราวไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ท่านอ๋องหาได้มีนางอยู่ในสายตาเพียงผู้เดียวอีกแล้ว” มามารักใคร่เอ็นดูเสี่ยวจี๋มาตลอด มาวันนี้นางเห็นเสี่ยวจี๋ถูกตบตีก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม นางก็ปวดใจเหลือเกิน เสี่ยวจี๋ดึงมามาไว้ “เบาเสียงลงหน่อยเถิด หากพระชายาได้ยินเข้าคงต้องรีบออกหน้าแทนข้าเป็นแน่ ยากนักที่ท่านอ๋องและพระชายาจะมีความสัมพันธ์อันดีถึงเพียงนี้ หากพวกเรามากเรื่อง อีกอย่าง วันนี้ท่านอ๋องก็ดุด่าพระชายามาไม่น้อย นางต้องเสียใจมากพออยู่แล้ว พวกเราก็อย่าหาเรื่องให้นางลำบากใจมากกว่าเดิมอีกเลย” มามาจ้องมองเสี่ยวจี๋อย่างเวทนาก่อนถอนหายใจออกมาอย่างหนักอึ้ง “เจ้ารู้ความถึงเพียงนี้เชียวหรือ ขอเพียงพวกเราทุกคนในเรือนหรูอี้ไม่แสดงท่าทีอะไรก็ใช่ว่าผู้อื่นจะไม่กล้ามารังแกพวกเราถึงถิ่น” ”ยามที่เราอาศัยอยู่ที่จวนอุปราชก็ใช่ว่าจะไม่มีการกลั่นแกล้งกันเสียที่ไหน ทว่าเมื่อก่อนนายหญิงของเราเป็นคนสู้คนยอมให้ใครรังแกเสียที่ไหน แต่ครั้นออกเรือนมายังจวนอ๋องแห่งนี้กลับเอาแต่อดทนอยู่ร่ำไป บางครั้งที่ข้าเห็นว่าโหร่วเฟยมารังแกพระชายาถึงถิ่นข้าก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน” เสี่ยวจี๋กล่าว เดิมทีโหร่วเฟยยามที่อยู่จวนอุปราชก็เป็นเพียงคุณหนูรองเท่านั้น เสี่ยวจี๋และมามาเองก็ดูแลหลิวหยิงหลงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อหลิวหยิงหลงอายุได้เพียงสามขวบก็ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้เป็นถึงองค์หญิงอี้ฮุย ส่วนหลิวมี่เหอกลับไม่ได้ตำแหน่งอะไรเลย ดังนั้นสำหรับพวกนางแล้วหลิวมี่เหอก็เป็นเพียงแค่คุณหนูรองจากจวนอุปราชหาใช่นายหญิงของพวกนางทั้งสองคนไม่ ผู้ที่พวกนางจะยอมรับย่อมมีเพียงหลิวหยิงหลงหรือชูเซี่ยเท่านั้น แต่ในใจของพวกนาง ผู้ที่พวกนางรักและย่องยกที่สุดก็เห็นจะมีเพียงชูเซี่ยผู้เดียวเท่านั้น ยามนี้พวกนางทั้งสองก็ยังเอาตัวเองแทบไม่รอด แม้จะอยากช่วยเหลือผู้เป็นนายมากเพียงใดก็จนปัญญา ท่านอ๋องเองก็ทรงแสดงท่าทีรักใคร่ชอบพอต่อโหร่วเฟยมาโดยตลอด แท้จริงแล้วสตรีเยี่ยงหลิวมี่เหอนั่นน่ะหรือที่สามารถใช้คำว่าอบอุ่นอ่อนหวานได้ ชูเซี่ยยืนฟังอยู่ข้างหลังพวกนางมาได้สักพัก ยามนี้นางรู้สึกโรธจนร่างกายสั่นไปทั้งตัว พอดีกับที่เสี่ยวจี๋หันหน้ามาเจอนางเข้า พอดี ทำให้นางได้เห็นว่าใบหน้าของเสี่ยวจี๋ยามนี้ทั้งน่ากลัวและน่าสงสารมากเพียงใด ใบหน้าที่น่ารักน่าชังกลับถูกตบตีจนกลายเป็นแบบนี้เสียได้ เสี่ยวจี๋รีบร้อนนำผ้าเช็ดหน้ากลับมาปิดที่หน้าเช่นเดิม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเถียงข้างๆคูๆ “พระชายาออกมาตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ วันนี้หม่อมฉันไม่ระวังสะดุดก้อนหินทำให้ล้มลงใบหน้ากระแทกกับพื้นเข้า ดังนั้นหน้าหม่อมฉันจึงเป็นแผลเต็มไปหมด” เสี่ยวจี๋และมามาไม่รู้มาก่อนว่าชูเซี่ยยืนฟังพวกนางสนทนากันมาตั้งแต่ต้นแล้ว แม้ว่าระยะห่างจากหน้าต่างและบานประตูจะค่อนข้างห่างกันมาก ทว่าบทสนทนาของพวกนางทั้งคู่กลับลอยเข้าหูนางจนหมด เริ่มแรกที่นางได้ยินเสียงลอยเข้าหูมานั้นนางก็ไม่ได้ตั้งใจฟังนักเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของหลี่เฉินเย่น แต่นานเข้านางก็รู้สึกว่าเรื่องราวมันไม่ถูกต้องจึงรีบร้อนออกมาฟังใกล้ๆ นางกัดฟันพูด “ดีนัก กล้ามารังแกคนของข้างั้นหรือ ก่อนหน้านี้ที่ทำมาห่วงใยข้ารักใคร่ดุจพี่น้องก็ล้วนเสแสร้งแล้งทำสินะ ข้าก็นึกว่านางปรับปรุงนิสัยแล้วเสียอีก นึกไม่ถึงว่านางกลับกล้ามาหาเรื่องข้าอีก หากจะหาเรื่องมาหาเรื่องตรงๆข้าไม่เคยว่า แต่นี่นางกลับมารังแกคนของข้างั้นหรือ” กล่าวจบนางก็กระฟัดกระเฟียดจะไปหาหลิวมี่เหอ เสี่ยวจี๋และมามารีบมารั้งตัวของชูเซี่ยไว้ เสี่ยวจี๋พยายามอ้อนวอน “พระชายาอย่าไปเลยเพคะ เรื่องมันแล้วก็ให้มันแล้วไปเถิด ครั้งนี้เสี่ยวจี๋ก็เป็นฝ่ายกระทำผิดจริง กฎของจวนอ๋องแห่งนี้เข้มงวดกวดขัน เสี่ยวจี๋เป็นเพียงสาวใช้ต้อยต่ำจะขึ้นไปนอนเตียงของพระชายาเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องไม่สมควร ถูกลงโทษก็สมควรแล้วเพคะ อีกอย่างหากเรื่องนี้ไปถึงหูท่านอ๋องฝ่ายเราก็เป็นผู้กระทำผิดอยู่ดีเพคะ” ชูเซี่ยกระทืบเข้าอย่างขัดใจ “ใครบอกว่าพวกเจ้าต้อยต่ำกัน ข้าเองก็ไม่ใช่ผู้สูงส่งมาจากไหน ทุกคนก็เป็นคนด้วยกันทั้งนั้น ยืนอยู่แผ่นดินเดียวกัน มีคุณค่าความเป็นคนเทียบเท่ากัน ข้ามีแขนมากกว่าพวกเจ้าหรืออย่างไร ข้าไม่สน ข้าเองก็ไม่ใช่คนมีมโนธรรมถึงเพียงนั้น เมื่อครั้งก่อนข้ายอมอ่อนข้อให้นางก็เพราะไม่อยากให้พวกเจ้าต้องลำบากใจ ทว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะกลัวนางเสียหน่อย ว่ากันตามจริงแล้วข้าเองก็เป็นผู้ที่บอกให้เจ้าขึ้นไปนอนบนเตียงเอง หากกฎของจวนอ๋องเข้มงวดจริงก็ควรจะลงโทษข้าไม่ใช่เจ้า หากนางอยากตีก็ต้องตีข้าสิถึงจะถูกต้อง นางย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่อาจทำอะไรข้าได้จึงมาหาเรื่องพวกเจ้าเพื่อระบายอารมณ์ก็เท่านั้น ข้าจะยอมให้เจ้าเจ็บตัวเปล่าๆได้อย่างไรกัน” เสี่ยวจี๋ได้ยินที่นางกล่าวออกมาเช่นนั้นก็ซาบซึ้งจนน้ำตาร่วง นางพยายามออกแรงดึงชูเซี่ยมากกว่าเดิม “พระชายาดีต่อเสี่ยวจี๋ถึงเพียงนี้ต่อให้เสี่ยวจี๋ถูกตีหรือทรมานมากกว่านี้ก็ไม่รู้สึกเจ็บหรอกเพคะ แต่ทว่าอย่างไรซะหม่อมฉันก็ถูกตีไปแล้ว หากนำเรื่องนี้ไปทูลต่อท่านอ๋อง ทำให้ความสัมพันธ์ของพระชายาและท่านอ๋องที่เพิ่งจะดีกันเพียงไม่นานต้องจบลงแล้วล่ะก็ เสี่ยวจี๋จะต้องรู้สึกผิดบาปไปตลอดชีวิต ต่อให้ตายก็ไม่อาจตายตาหลับได้นะเพคะ” ชูเซี่ยเห็นว่าเสี่ยวจี๋ร้องไห้ราวกับฟ้าจะถล่ม ใบหน้าของเสี่ยวจี๋ยามนี้ยิ่งน่าสงสารมากขึ้นกว่าเดิม เด็กสาวอายุน้องเพียงเท่านี้หากอยู่ในยุคของนางก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวมัธยมเท่านั้น ควรจะได้รับความรักและรู้จักที่จะรักถึงจะถูก แต่ยามนี้เด็กสาวคนนี้กลับต้องมาคอยติดตามดูแลนาง ต้องทนความอัปยศอดสู ต้องอดทนต่อการทารุณ นางก็รู้สึกอึดอัด ความรู้สึกเช่นนี้ระบายก็ไม่ได้ นางได้แต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ทรมานนัก ยามนี้การแก้แค้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญที่สุดคือการปลอบใจเสี่ยวจี๋ไม่ให้นางหดหู่ไปมากกว่านี้ต่างหากเล่า นางถอนหายใจออกมาหนักๆ “วันหน้าหากข้าไม่อยู่จวน นางมาหาเรื่องรังแกพวกเจ้า เจ้าก็ปิดประตูลงกลอนไม่ต้องออกมารับหน้านางเสียก็สิ้นเรื่อง รอให้ข้ากลับมาค่อยจัดการทีหลัง เห็นเจ้าถูกทารุณเช่นนี้ข้ารู้สึกปวดใจเหลือเกิน” เสี่ยวจี๋ร่ำไห้สะอึกสะอื้น “นายหญิง ท่านช่างดีต่อเสี่ยวจี๋เหลือเกิน” ชูเซี่ยพยุงให้นางลุกขึ้น เอ่ยจริงจัง “ทุกคนในเรือนหรูอี้แห่งนี้ ไม่แม้แต่สาวใช้ทำความสะอาดก็ล้วนเป็นคนของข้า ไม่ว่าใครก็ห้ามรังแก” บรรดาสาวใช้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังชูเซี่ยต่างก็ถูกคำพูดของของพระชายาทำให้ซาบซึ้งประทับใจ หลังจากให้เสี่ยวจี๋กลับไปพักผ่อน ชูเซี่ยก็นอนอยู่บนเตียงบรรทมยิ่งนึกก็ยิ่งอึดอัด ต่อให้หลิวมี่เหอจะเกลียดขังนางมากเพียง ใดมาตีนางเสียก็สิ้นเรื่อง เหตุใดจึงต้องมารังแกเด็กสาวตัวเล็กๆด้วยเล่า เสี่ยวจี๋เพิ่งจะอายุสิบห้าปีเท่านั้น นางยังเยาว์วัยนัก นางผุดลุกขึ้นมา ด้านนอกเรือนไม่มีผู้ใดเฝ้าอยู่เพราะค่อนข้างดึกมากแล้วทั้งนางยังไม่อนุญาติให้ผู้ใดอยู่เฝ้าจนดึกดื่น ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปนอนหมดแล้ว นางค่อยๆเปิดประตู ย่องออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ เมื่อพ้นเขตเรือนหรูอี้ นางก็รีบวิ่งตรงไปยังเรือนเฟยหลิงของหลิวมี่เหอทันที โคมไฟหน้าเรือนเฟิงหลิงถูกหรี่จนสลัวไปแล้ว หลิวมี่เหอคงเข้านอนแล้วกระมัง นางเดินตรงเข้าไป สาวใช้ในจวนก็รีบร้อนมาห้ามนางไว้แต่นางก็ยกเท้าถีบประตูเข้าไปเสียก่อน นางตะโกนเสียงดัง “หลิวมี่เหอ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!” บ่าวรับใช้ในเรือนต่างรีบร้อนจุดตะเกียงไฟเพื่อให้บรรยากาศในห้องบรรทมสว่างขึ้น สิ่งแรกที่เข้ามาอยู่ในครรลองสายตานางก็คือรถเข็นที่นางมอบให้หลี่เฉินเย่นด้วยมือของนางเอง ร่างทั้งร่างของนางแข็งค้าง มือไม่เย็นเฉียบ! ผ้าม่านถูกเลิกขึ้น ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ด้านหลังผ้าม่านปรากฎขึ้น เขาสวมใส่เพียงชุดนอนสีขาวเนื้อบางเห็นแผงอกรำไร ดวงตาคมที่จ้องมองมายังผู้มาใหม่เปร่งประกายวาบ เขาชะงักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเบาออกมา “ค่ำมืดดึกดื่น เจ้ามาทำอะไรที่นี่” ชูเซี่ยรู้สึกกระบอกตาของนางร้อนผ่าว นางไม่อาจปกปิดความตื่นตระหนกกับภาพตรงหน้าได้เลยแม้แต่น้อย จากความโกรธในใจค่อยๆกลายเป็นความเศร้าหมองในที่สุด ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงในค่ำคืนนี้ในที่สุดนางก้ได้คำตอบให้ตัวเองแล้ว จริงสิ เป็นแค่โรคระบาดเท่านั้น เขาเป็นของนาง เป็นโรคระบาดของนาง ชุดคลุมผ้าไหมสีฟ้าของหลิวมี่เหอเปิดอยู่เผยให้เห็นเนินอกสล้างรำไรและไหปลาร้าสวยงามของหญิงสาวบนเตียง นางไม่ได้สวมเอี้ยมไว้ ท่าทางที่หลิวมี่เหอมองมายังนางดูสับสนงงงวยทั้งยังตกตะลึง บนเตียงสภาพดูยุ่งเหยิง บรรยากาศแห่งรักเร่าร้อนอบอวนไปทั่วทั้งห้อง ไม่ต้องเสียเวลานึกนาน นางก็พอจะนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในนี้ ราวกับว่ามีเข็มทิ่มแทงเข้าตรงกลางใจทำให้นางเจ็บจนหายใจไม่ออก อาจจะเป็นเพราะความทุกข์ใจที่นางได้รับทำให้จู่ๆบาดแผลที่ขาของนางที่ไม่เคยรู้สึกเจ็บกลับกลายเป็นเจ็บขึ้นมาจนแทบจะยืนไม่อยู่ แผลที่ไม่เคยเจ็บยามนี้กลับเจ็บจนหัวใจนางแทบทนไม่ไหว นางรับหันกายวิ่งหนีออกไป นางรู้เพียงว่านางไม่อาจรั้งอยู่ที่นี้ได้อีก นางกลัวเหลือเกินว่าหากอยู่ในห้องนี้นานขึ้นอีกหน่อยนางอาจเผลอทำเรื่องไร้สาระออกมาได้ นางวิ่งออกมาเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งยิ่งไกลก่อนจะทรุดลงนั่งที่ลานกว้างแห่งหนึ่งภายในจวน นางหายใจอย่างเหนื่อยหอบนึกไปถึงฉากรักหวานซึ้งที่เห็นเมื่อครู่ ศีรษะของนางเต้นตุบๆจนแทบระเบิดออกมา นางรู้ดีว่ายามนี้ขาของนางไม่ไหวแล้วแต่นางก็ยังสามารถใช้มันได้อยู่ เวลาผ่านไปยาวนาน ในที่สุดนางก็เริ่มใจเย็นและตั้งสติได้ในที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องอะไรกับนางกัน พวกเขาเป็นสามี ภรรยากันจะทำอะไรกันมันก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล จากนั้นพวกเขาก็ยังต้องสร้างครอบครัว คลอดบุตรอีกด้วย นางเป็นแค่ผู้ที่เพิ่มมาอยู่อาศัยด้วยอีกคนเพียงเท่านั้น เป็นเช่นนี้มาตลอด แต่ทว่าเมื่อในใจเขามีเพียงหลิวมี่เหอก็ไม่ควรมาทำเช่นนั้นกับนาง เพียงแค่จุมพิตเดียวจากเขาก็ทำให้นางใจไม่อยู่กับร่องกับรอยทั้งคืน แต่จะโทษเขาผู้เดียวได้อย่างไร นางเองก็รับรู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขาทั้งสองรักใคร่กันมากเพียงใด เป็นนางที่โง่เขลาไปเอง หากจะโทษใครสักคน คนคนนั้นก็ควรจะเป็นนางถึงจะถูก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 49 เปิดเผย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A