ตอนที่ 118 กลับมาด้วยความชัยชนะ
1/
ตอนที่ 118 กลับมาด้วยความชัยชนะ
ชายาเกิดใหม่ของข้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 118 กลับมาด้วยความชัยชนะ
ตนที่ 118 กลับมาด้วยความชัยชนะ ฮองเฮาใช้สายตามองไปยังหรงเฟย หรงเฟยทรงเข้าใจจึงลุกขึ้นโอบกอดอันหลัย เอ่ยกับฮ่องเต้ว่า “ฝ่าบาทเพคะ อย่างนั้นคืนนี้ไปค้างที่ตำหนักของหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ ฝ่าบาททรงให้อานเหยียนอยู่ในวัง แค่คืนแรกก็คงร้องไห้เสียงดังเป็นแน่เพคะ ฝ่าบาทซึ่งเป็นเสด็จปู่ย่อมมิอาจเพิกเฉยได้ ” ฮ่องเต้ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา ฮองเฮาก็หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “หรงเฟย เจ้าวางใจเถิด ฝ่าบาททรงรักใคร่เอ็ดดูอานเหยียน คงทำใจไม่ได้หากอานเหยียนร้องไห้เสียใจหรอก ใช่หรือไม่เพคะฝ่าบาท ” นางหันหน้าที่มีรอยยิ้มมองฮ่องเต้ จุดประสงค์ของฮ่องเต้ในค่ำคืนนี้ล้วนสำเร็จแล้ว ในใจล้วนมีความสุขอย่างมาก เมื่อฟังคำพูดของหรงเฟยและฮองเฮาก็ไม่ได้มีข้อโต้แย้ง ยกยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ได้ คืนนี้ข้าจะเป็นคนดูแลอานเหยียนอันเอง” เสี่ยวเต๋อจื่อรีบตะโกนขึ้นว่า “เตรียมรถม้าไปที่ตำหนักซูหยาง” หรงเฟยอุ้มอานเหยียนเดินออกไปพร้อมกับฮ่องเต้อย่างเบิกบานใจ ทุกคนจึงลุกคนส่ง หลินกุ้ยเฟยและซินเฟยก็ลุกจากที่นั่งประจำตำแหน่ง ละครฉากนี้พวกนางสองคนเป็นเพียงผู้ชม และไม่สามารถดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง ทำเพียงเป็นฉากงานเลี้ยงของครอบครัวธรรมดา หลี่เฉินเย่นรอให้ทุกผู้คนจากไป สายตาก็มองยังใบหน้าของ ชูเซี่ย ชูเซี่ยก็มองไปที่เขาเช่นกัน คนสองคนมองสบสายตากันไม่มีคำพูดใดเอ่ยเอ่ยออกมา ฮองเฮาเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก็เอ่ยกับ เฉินอวี่จู๋ว่า “อวี่จู๋ เจ้าติดตามข้าไปที่ตำหนักจาวหยาง ข้ามีเรื่องที่จะพูดกับเจ้า” เฉินอวี่จู๋จึงรีบลุกขั้น เอ่ยรับว่า “เพคะ” ฮองเฮาเอ่ยกับหลี่เฉินเย่นว่า “เจ้ารออยู่ที่นี่เถอะ ห้ามเดินสะเปะสะปะไปทั่ว เฉินอวี่จู๋จะได้ไม่หาเจ้าไม่พบ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยว่า “ลูก ท่านอาและเสด็จพี่จะดื่มกันต่ออีกสักหน่อย เสด็จแม่เชิญเสด็จเถิดพะย่ะคะ” ฮองเฮาอืมรับคำ มองที่ ชูเซี่ย สายตาอ้อนวอนนั้นแฝงไปด้วยความคลุมเครือบางส่วน ชูเซี่ยเข้าใจความหมายของนาง ฮองเฮาต้องการให้นางเยียวยาความไม่สมัครใจและโมโหของเขา นำอารมณ์ที่มีในตอนนี้ออกรบ ซึ่งง่ายที่จะไตร่ตรองผิดพลาดได้ เมื่อถึงตอนที่รบชนะ เขาสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่ก็มิอาจทราบได้ ในใจของนางจึงถูกกรีดด้วยความเจ็บปวด คนผู้นี้เหมือนกับแม่ของตนเลยทีเดียว เพื่อหลี่เฉินเย่น พูดได้ว่าลงแรงความคิดมากมาย ไม่ขอให้เขาขึ้นถึงจุดสูงสุด กลับหวังให้เขาสามารถใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยไร้การเจ็บป่วย ครึ่งชีวิตต่อจากนี้สงบสุขเบิกบานใจ ฮองเฮาและ เฉินอวี่จู๋เดินจากไปพร้อมกัน หลี่เฉินเหยียนจึงรวมความสนใจไปที่ ชูเซี่ย รีบเอ่ยถามว่า “เขาสร้างความยุ่งยากให้แก่เจ้าหรือไม่ เจ้าอยู่ในวังมีความสุขใช่หรือไม่” ชูเซี่ยจ้องมองเขา แสงเทียนที่สะท้อนมาทำให้ว่าใบหน้าของเขามีอารมณ์ที่หลากหลายทั้งร้อนรน กระวนกระวาย ปวดร้าวใจ เห็นอกเห็นใจ ไม่เต็มใจมากมาย ล้วนประทับลงในใจของนางอย่างรุนแรง นางเอ่ยเบาๆ ว่า “เจ้าวางใจเถิด ข้ามีวิธีปกป้องตนเองของข้า เจ้าออกรบครั้งนี้ จะต้องปลอดภัยกลับมาเท่านั้น” หลี่เฉินเย่นเอ่ยอย่างทุกข์ใจว่า “ตอนนี้เขาอยากให้ข้าและเสด็จพี่ออกจากเมืองหลวง ข้างกายของเจ้าจะได้ไม่มีคนให้พึ่งพา ถ้าเกิดเรื่องขึ้น ใครจะสามารถช่วยเจ้าได้ ข้าไม่วางใจ ไปครั้งนี้เป็นห่วงอย่างมากว่า... ” ชูเซี่ยเอ่ยขึ้นเพื่อหยุดคำพูดของเขาว่า “ไม่จำเป็นต้องห่วงข้า ข้าเคยพูดไปแล้วว่าข้ามีวิธีปกป้องตนเอง อีกอย่างเจ้าออกรบกับ เจิ้นหยวนอ๋อง ยังมีอ๋องเก้าที่อยู่ที่นี่ หากพึ่งพาไม่ได้ ก็ยังมีฮองเฮามองอยู่ วางใจเถอะ วันนี้เขามองว่าข้าเป็นหญิงที่สูงค่า ไม่ใช้กำลังบีบบังคับข้าหรอก ข้าเป็นคนที่ทำหน้าที่เพียงรับผิดชอบตำแหน่งหวงกุ้ยเฟยนี้เท่านั้น ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยอย่างโกรธเคืองว่า “เป็นหวงกุ้ยเฟยเพียงในตำแหน่ง เขาอาศัยอะไรถึงทำเช่นนี้ได้” ชูเซี่ยเอ่ยด้วยท่าทางที่สงบว่า “อาศัยที่ตอนนี้เขาคือฮ่องเต้ที่ถ่อมตัว เจ้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นจึงจะสามารถปกป้องตนเองได้ เขาไม่เพียงแต่เป็นบิดาของเจ้า ยังเป็นจักรพรรดิ ไม่ว่าด้วยสถานะของบิดานั้นมีเมตตาเพียงไร แต่ถ้าเกี่ยวข้องถึงอำนาจจักรพรรดิ ความเมตาที่มีก็อาจถูกปกคลุมไปได้ ถ้าหากเจ้าแข็งแกร่งไม่มากพอ วันข้างหน้าก็อาจเกิดเรื่องราวที่เหมือนกับในวันนี้ขึ้นอีก” หลี่เฉินเย่นจึงคิดบางอย่างขึ้นมาได้ในใจ วันนี้ได้ฟัง ชูเซี่ยพูดเช่นนี้ ต้นกล้าเติบโตได้รวดเร็วเมื่อลงสู่พื้นดินแล้วแตกรากแล้วกิ่งและใบยังเจริญงอกงาม เขาเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่คือครั้งสุดท้าย ข้ารับประกัน” อ๋องเก้าที่ฟังทั้งสองคนพูดคุยอยู่ตลอดเวลา สายตากลับมองไปรอบๆ ทุกทิศทาง เมื่อเขามองเห็นว่ามีสายตาคู่หนึ่งแอบมองอยู่หลังต้นดอกกุ้ยหัว จึงรีบลุกยืนขึ้นพร้อมเอ่ยว่า “เอาละ ล้วนแยกย้ายกันไปเถอะ คืนนี้ดื่มไปพอสมควรแล้วละ ” เขาพูดไป พร้อมทั้งส่งสายตาตักเตือนไปยังหลี่เฉินเย่น หลี่เฉินเย่นเข้าใจทันที เขาพยักหน้าพร้อมกับส่งสายตากลับไปยัง ชูเซี่ย คำพูดมากมายถูกจำกัดอยู่ในสายตานี้ ค่ำคืนนี้ ชูเซี่ยนอนไม่หลับทั้งคืน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ฝนก็เริ่มตกประปรายลงมา ค่อยๆ แรงขึ้น เสียงฝนนั้นช่างให้ความรู้สึกที่แจ่มใส จากเสียงติต๊ะติต๊ะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซ่าซ่า นางนอนไม่หลับจึงพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ในหัวก็คิดไปคิดมาถึงสายตาของหลี่เฉินเย่นที่จนใจก่อนจากกันนั้น เชียนซานได้เข้าวังมาตั้งแต่เช้ามืด ชูเซี่ยหยิบกริชออกมา มอบให้กับเชียนซานพร้อมเอ่ยว่า “วันนี้เขาออกรบ เจ้าไปส่งเขา นำกริชเล่มนี้มอบให้กับเขา จักต้องพูดกับเขาว่าต้องกลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น” เชียนซานรับคำสั่งแล้วจากไป กองทัพใหญ่พร้อมออกเดินทาง ผู้นำทัพสองท่านล้วนนำพาความไม่เป็นธรรมไม่เต็มใจที่พูดออกมาไม่ได้และไม่ออกจากเมืองหลวงออกเดินทางไปด้วย หลี่อวิ่นกังไม่มีวิธีอื่นใด เพราะอานเหยียนอยู่ในวัง จึงออกไปก่อน หากมีความผิดพลาดใดเกิดขึ้น เขาล้วนต้องสูญเสียบุตรชายของตนไป หลี่เฉินเย่นเปลี่ยนเป็นต้องชนะแพ้ไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เขามีประสบการณ์ไม่มากพอ เพียงสามารถผ่านบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้เพื่อปูเส้นทางของตนเอง ทีละนิดทีละนิดให้ตนเองเติบโตเข้มแข็ง เขารู้ดีว่าศึกนี้ต้องรบชนะกลับมา จึงจะเพียงพอต่อการที่เขาจะได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักทั้งบนและล่างรวมถึงราษฎร แม้ว่าสิ่งที่เขาต้องการจะไม่ใช่สิ่งนี้ แต่สิ่งเหล่านี้กลับมากพอที่จะทำให้อนาคตของเขาอยู่อย่างมีข้อได้เปรียบที่จะไม่ทำให้พ่ายแพ้ผู้ใด มือของหลี่เฉินเย่นกุมกริชที่เชียนซานนำมามอบให้เอาไว้ กริชคืออาวุธยุทโธปากรณ์สามารถทำร้ายคนได้และก็สามารถปกป้องตนเองได้ หลี่เฉินเย่นเข้าใจความหมายของ ชูเซี่ย นางต้องการให้ตนปลอดภัยไร้ปัญหาใดๆ กลับมา นี้คือการรอคอยของนางและความหวังของนาง วันที่สามเดือนห้า ชูเซี่ยถูกแต่งตั้งเป็นหวงกุ้ยเฟย ประทานให้พำนักที่ตำหนักฉ่ายเหว่ย วันที่แปดเดือนหก ข่าวชัยชนะจากชายแดนก็มาถึง จอมพล หลี่อวิ่นกังได้รับบาดเจ็บจากลูกธนูที่ศัตรูได้ลอบโจมตี แนวหน้าแม่ทัพพญาอินทรีย์ หลี่เฉินเย่นพร้อมทหารม้าสองพันนาย แอบเข้าโจมตีศัตรูทางด้านหลัง เผาฉางข้าวและจุดไฟเผากรโจมที่พัก แคว้นหนานจ้าวจึงยอมจำนน และเซ็นสนธิสัญญาสงบศึกเป็นเวลาห้าสิบปีกับหลี่เฉินเย่น ทุกปีหนานจ้าวต้องส่งมอบของบรรณาการให้กับแคว้นเหลียง ยอมสวามิภักดิ์เป็นขุนนาง ข่าวชัยชนะที่ส่งมาครั้งนี้ ราชสำนักและราษฎรต่างพากันเฉลิมฉลองอย่างคึกคัก ทุกคนล้วนพูดถึงคาวมกล้าหาญและสติปัญญาของแม่ทัพพญาอินทรีย์ ในพระราชวังก็ปิติยีนดีอย่างคึกคัก มีเพียงแคว้นหนานจ้าวที่เป็นดั่งหอกข้างแคร่ ที่วันนี้ต้องยอมสวามิภักดิ์เป็นขุนนาง อย่างน้อยห้าสิบปีนี้ก็ไม่มีสงครามเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่น่ายินดีอย่างยิ่งของราชสำนักและราษฎร ครั้งนี้ผู้มีความดีความชอบมากที่สุด คือแม่ทัพพญาอินทรีย์ที่เป็นแนวหน้าอย่าง หนิงอานอ๋อง เซียวโหยวจึงกราบทูลหนังสือ ร้องขอให้ฮ่องเต้มอบความดีความชอบให้กับหลี่เฉินเย่น แต่งตั้งเขาเป็นจอมทัพ ขนานนามว่าฮู่กั๋วกง จิ้งกั๋วโฮ่วและกลุ่มขุนนางในราชสำนักก็เขียนหนังสือกราบทูลขอให้ฮ่องเต้แต่งตั้งหลี่เฉินเย่นเป็นรัชทายาท ในราชสำนักตอนนี้กำลังเคารพนับถือในความดีความชอบครั้งใหญ่ของคนผู้นี้อย่างมากเหมือนกับรู้สึกถึงความสดใหม่ของอาหารที่เพิ่งออกจากเตา หากเขาถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ผู้คนทั่วทั้งแคว้นล้วนเห็นว่าเป็นเรื่องราวที่น่าปิติยินดี ฮ่องเต้อยู่ในท้องพระโรงก็ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง เขาเอ่ยว่า “ความคิดเห็นของทุกท่าน ข้าจะพิจารณาไตร่ตรองเป็นอย่างดี แต่ว่าจะสถาปนาพี่หรือน้อง ตอนนี้ข้ายังไม่ได้คิดวางแผนออกมา ข้าจะกลับไปคิดอีกครั้งก่อน” เซียวโหยวเดินออกมาจากแถวขุนนางเอ่ยว่า “ทูลฝ่าบาท หนิงอานอ๋องถือเป็นอัจริยะจากสวรรค์ที่ฉลาดกล้าหาญ การปกครองการทหารยอดเยี่ยม ทั้งซื่อสัตย์จิตใจอ่อนโยน ที่ถูกเลือกว่าเป็นจักรพรรดิในอนาคต ฝ่าบาทควรที่จะถือโอกาสในตอนนี้แต่งตั้งรัชทายาท แสดงถึงการยอมรับในคุณงามความดี ของท่านอ๋อง พร้อมเรียกความนับถือและความไว้วางใจจากราษฎร” สายตาอันสงบนิ่งของฮ่องเต้มองไปยังเซียวโหยวแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “คำพูดของเจ้าช่างดูไม่ยุติธรรม หากเฉินเย่นและอวิ่นกังทั้งสองคนมีความห่างไกลกันมาก ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่ต้องพิจารณาไตร่ตรองด้วยตนเองแล้ว แต่อวิ่นกังตั้งแต่อายุสิบหกก็ออกรบเพื่อแคว้น สร้างคุณงามความดีที่มีต่อแคว้นและประชาชนทั้งใหญ่และเล็กนับไม่ถ้วน ครั้งนี้ก็เป็นเขาที่เป็นผู้นำทัพ เฉินเย่นสามารถได้รับชัยชนะ ความดีความชอบของเจาไม่มีเลย แม้ว่าทั้งสองพี่น้องจะออกรบ แต่จะสามารถมีเพียงผู้เดียวที่มีความดีความชอบเช่นนั้นหรือ ฮู่กั๋วกงข้าคิดว่าตอนนี้เฉินเย่นเป็นถึงแม่ทัพพญาอินทรีย์ เขาออกรบเพื่อแคว้นเป็นภาระหน้าที่อันพึงกระทำของเขา ไม่จำเป็นต้องชมเชยหรือให้รางวัล จะได้ไม่ให้เขาหยิ่งยะโสจองหอง กลับมีเสียด้วยซ้ำไป เซียวโหยวตะลึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “แต่ฝ่าบาทพะย่ะคะ ผู้บัญชาการทหารเคลื่อนทัพกลับมาด้วยความมีชัย หากไม่มีการเพิ่มยศตำแหน่ง ไม่สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัตินะพะย่ะคะ ” ฮ่องเต้เอ่ยว่า “ข้าเองไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย เรื่องนี้ก็วางลงไว้ก่อนแล้วกัน” เงียบงันไปครู่หนึ่ง เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “วันนี้กองทัพใหญ่ก็ถอนกำลังกลับมาแล้ว คาดว่าครึ่งเดือนให้หลังน่าจะถึงเมืองหลวง ถึงตอนนั้นก็ให้การต้อนรับทหารที่เคลื่อนทัพกลับมาพร้อมชัยชนะให้แม่ทัพกุยรับผิดชอบ และให้เจ้าไปจัดการ” แม้เซียวโหยวมีความไม่พอใจ แต่อำนาจของจักรพรรดิคือสูงสุด เมื่อได้รับราชโองการ เขาก็ไม่อาจคัดค้าน เพียงรับคำสั่งดำเนินการ หลังจากที่ฮ่องเต้ทรงว่าราชกิจแล้ว ก็รีบเร่งตรงไปที่ตำหนักฉ่ายเวย ชูเซี่ยกำลังอ่านตำราแพทย์อยู่ในตำหนัก นางก็ได้รับข่าวชัยชนะมาก่อนแล้ว เป็นธรรดาที่ในใจจะเบิกบาน แต่ลมหายใจมีบางอย่างที่กังวลใจ เพียงกลัวว่าการได้รบชนะในครั้งนี้ ต้องเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นเป็นแน่ จริงอย่างที่คิด นางเห็นฮ่องเต้ทรงเดินมาด้วยความโกรธ ในใจจึงรู้ดีว่าคืออะไร นางวางตำราแพทย์ลง ลุกขึ้นแสดงคารวะด้วยความนอบน้อม “ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ” ฮ่องเต้สายสายตาที่ดุดันเพ่งมองนาง ยื่นมืออกมาจับที่คางของนาง “คนรักเก่าของเจ้ากำลังจะเคลื่อนทัพกลับมาพร้อมชัยชนะ เจ้ามิใช่ดีใจเป็นอย่างยิ่งหรือ” ชูเซี่ยยิ้มอย่างไม่สนใจ “เป็นธรรมดาที่จะดีใจเพคะ ข้าคือกุ้ยเฟยของต้าเหลียง ท่านอ๋องทำหน้าที่ออกรบแทนต้าเหลียง ต่อสู้จนได้รับชัยชนะ ไม่ควรที่จะดีใจเป็นอย่างยิ่งหรือเพคะ ฝ่าบาททรงถามเช่นนี้ช่างเป็นคำถามที่ประหลาดมากเพคะ” ฮ่องเต้เอ่ยอย่างเย้ยหยันและประชดว่า “คือเรื่องจริงหรือ ตอนนี้เขายิ่งสูงยิ่งหนาว อีกไม่นานความดีความชอบของเขาก็จะเกินหน้าข้าไปแล้ว ตอนนี้ทั่วราชสำนักทั้งทหารขุนนางล้วนส่งหนังสือกราบทูลให้ข้าแต่งตั้งเขาเป็นรัชทายาท” ชูเซี่ยเอ่ยว่า “ฝ่าบาท เรื่องราวในราชสำนัก สตรีเช่นหม่อมฉันไม่เข้าใจหรอกเพคะ รู้เพียงว่าท่านอ๋องออกรบคราวนี้เป็นเพราะได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ สามารถรบชนะแคว้นศัตรู อ้างว่าเป็นความสุขครั้งใหญ่ของฝ่าบาท และท่าน หนิงอานอ๋องคือบุตรที่ฝ่าบาททรงรักใคร่ เพื่อแคว้นเพื่อบิดาเขาจึงจงรักภักดีอย่างถึงที่สุด นี่คือความกตัญญูกตเวทีและความภักดี คำพูดที่แสดงออกมาของฝ่าบาท คล้ายกับว่ามีบางอย่างที่ไม่ยุติธรรมกับท่านอ๋องทั้งสองนะเพคะ ” ฮ่องเต้เพ่งมองนาง เอ่ยอย่างกดดันว่า “จริงอย่างที่คิดว่าในใจของเจ้ายังคิดถึงเขา เจ้าถูกแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟยมาหนึ่งเดือนแล้ว ไม่ร่วมหลับนอนกับข้า และไม่อนุญาตให้ข้าค้างคืนที่ตำหนักของเจ้า รักษาตนให้บริสุทธิ์เช่นนี้ เจ้ากล้าพูดว่าไม่ใช่เพื่อเขา ตอนนี้ต่อหน้าของข้า เจ้าก็ยังกล้าที่เข้าข้างและปกป้องเข้าเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าจริงอย่างที่คิดเจ้ามีความรักและเกลียดชังลึกซึ้งต่อเขาแล้ว” คางของ ชูเซี่ยถูกเขาจับคนรู้สึกเจ็บ นางเงยหน้าขึ้น เอ่ยด้วยจิตใจสงบไร้กังวลว่า “อยากลงโทษใคร ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอมิใช่หรือ ฝ่าบาทไม่เชื่อหม่อมฉันเช่นนี้ ทำไมจึงยังแต่งตั้งหม่อมฉันเป็นหวงกุ้ยเฟย ก่อนหน้านี้หม่อมฉันได้เคยพูดไปแล้ว ข้าไม่ได้มีความรู้สึกเช่นชายหญิงต่อฝ่าบาท กับฝ่าบาทหม่อมฉันกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมา หรือว่าเรื่องอื่นหม่อมฉันก็ต้องยึดมั่นในจิตสำนึกที่รู้บาปรู้คุณไปพูดด้วยหรือไม่เพคะ หนิงอานอ๋องเป็นบุตรชายของฝ่าบาท อีกทั้งยังเพิ่งจะสร้างความดีความชอบให้กับแคว้น คำพูดทั้งหมดของหม่อมฉันเมื่อครู่ ไม่มีตรงไหนที่ไม่เหมาะสม ฝ่าบาทเพียงนำเอาความรู้สึกส่วนตัวของตนไปทบทวนและทำความเข้าใจคำพูดของหม่อมฉัน ก็จะได้บทสรุปออกมาห่างไกลจากที่หม่อมฉันได้แสดงออกไปทั้งหมด เพราะหากว่าการที่หม่อมฉันพูดแทนท่านอ๋องเพียงไม่กี่ประโยคที่เป็นธรรม ก็ตัดสินชี้ขาดว่าหม่อมฉันไม่ลืมความรู้สึกที่มีต่อท่านอ๋อง ฝ่าบาทก็ทรงขาดความเชื่อมั่นในตนเองเกินไปเพคะ” ฮ่องเต้ปล่อยมือจากนาง แต่สายตากลับดุดันเช่นเดิมจับจ้องนาง “เคยเป็นสามรภรรยา ข้าไม่เชื่อว่าความรู้สึกสักนิดหนึ่งเจ้า ก็ล้วนไม่คำนึงหา” ชูเซี่ยคิดว่าน่าขันสิ้นดี ในเมื่อเขาไม่ยอมรับความจริงที่ว่านางและหลี่เฉินเย่นเป็นสามีภรรยากัน แต่กลับชอบใช้ความรู้สึกระหว่างสามีภรรยานี้มาเตือนนาง นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “ฝ่าบาท หากท่านไม่เชื่อหม่อมฉัน ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันพูอะไรท่านก็ไม่เชื่อ ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันทำไมต้องพูดอีกหรือเพคะ ท่านก็ทำไมต้องถามอีกหรือเพคะ” ฮ่องเต้เพ่งมองนาง เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ทางที่ดีเจ้าเจียมตัวซะบ้าง เก็บหัวใจของเจ้าไว้ให้ดี อย่าทำให้ข้าเห็นแม้นิดเดียว มิฉะนั้นเจ้าและเขา ล้วนต้องตกอยู่ในไม่สามารถกัมาที่พื้นดินได้อีกเลยตลอดกาล” เอ่ยพูดจบ ก็โยนหนึ่งประโยคที่แข็งทื่อมาว่า “เจ้าเตรียมตัวให้ดี คืนนี้ข้าจะเข้าหอกับเจ้า” เอ่ยจบก็สะบัดเสื้อจากไป ประโยคนี้ เหมือนกับท้องฟ้าที่แจ่มใสมีอสนีบาต อากาศของเดือนหกที่ร้อนระอุ ชูเซี่ยรู้สึกถึงเพียงน้ำแข็งที่หนาวเหน็บ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 118 กลับมาด้วยความชัยชนะ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A