ตอนที่ 150 ฝีมือสุดยอด
1/
ตอนที่ 150 ฝีมือสุดยอด
ชายาเกิดใหม่ของข้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 150 ฝีมือสุดยอด
ตนที่ 150 ฝีมือสุดยอด หลังจากที่ชูเซี่ยอาบน้ำออกมาร่างทั้งร่างของนางก็แดงก่ำห้อเลือดและมีแผลเต็มไปหมด หลี่เฉินเย่นช่วยหญิงสาวใส่ยาให้อย่างเบามือ ชายหนุ่มทายาให้ตลอดทั้งร่างด้วยความรู้สึกสงสารจากนั้นก็สวมใส่เสื้อผ้าให้นางจนเรียบร้อย “เจ้าพักผ่อนก่อนเถิด ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ!” ชูเซี่ยเอื้อมมือไปรั้งร่างของเขาไว้จากนั้นก็เงยหน้าถาม “เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลี่เฉินเย่นหันกลับมามองนาง “เรื่องคืนนี้ เจ้ามีความสุขหรือไม่” ชูเซี่ยชะงักไป นางไม่เข้าใจความหมายของเขา หลี่เฉินเย่นยกมือหนาขึ้นปิดตาของนางไว้จากนั้นก็ก้มลงจุมพิตที่กลุ่มผมของนาง “เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถิด เรื่องที่ไม่มีความสุขก็ปล่อยให้มันผ่านไป พวกเราก็ลืมๆมันไปเถิด” ชูเซี่ยจ้องชายหนุ่มตาเขม็ง “คืนนี้ข้าถูกคนวางยา!” หลี่เฉินเย่นยิ้มออกมาบางเบา ดวงตาคมมองนางด้วยประกายบางอย่าง “เจ้าถูกวางยามีหรือคนอย่างเจ้าจะไม่รู้ตัว” “ข้าไม่รู้ก็ไม่แปลก...” “ข้าเห็นกับตาของตนเองว่าเจ้าใช้เข็มพิสูจน์พิษแล้วแต่ทว่าสีเข็มก็ไม่ได้เปลี่ยน เจ้าไม่ได้ถูกพิษ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงว่างเปล่าราวกับเป็นเรื่องธรรมดา “สุราในวันนี้ไม่ใช่มีเพียงเจ้าที่ดื่ม สำรับในวันนี้ก็ไม่ใช่มีเพียงเจ้าที่กิน” ชูเซี่ยพูดอะไรไม่ออก นางจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา หัวใจดวงน้อยๆรู้สึกผิดหวัง เขาไม่เชื่อนาง! ชายหนุ่มมองหญิงสาวนิ่งๆ “เช่นนั้นแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าถูกวางยาพิษอย่างไรเล่า” ดวงตาคมเป็นประกายจริงจัง น้ำเสียงของชายหนุ่มทุ้มนุ่มราวกับสายน้ำ เชายหนุ่มพยายามอย่างยิ่งที่จะทำเหมือนไม่สนใจภาพที่เขาเห้นในค่ำคืนนี้ เขาบอกกับนางว่าเขากับนางทุกอย่างจะเป็นเหมือนกับที่ผ่านๆมา แต่ทว่านางก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นนักแสดงที่ไม่ได้เรื่อง เพราะทุกอย่างมันฟ้องออกมาจากการกระทำของเขาหมดแล้ว ความโกรธ ความเสียใจ ความทรมาน และการทรยศ... หากชูเซี่ยไม่รู้จักและเข้าใจในตัวชายหนุ่มดีก็คงจะถูกท่าทีของเขาหลอกเข้าแล้ว แต่ทว่าเพราะนางรู้จักเขาดีกว่าใครดังนั้นจึงรู้ว่าแท้จริงเขากำลังเจ็บปวดอยู่ แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรเพราะนางเองก็ไม่รู้จริงๆว่าผู้ใดเป็นคนวางแผนการครั้งนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเขานางจึงแย้มยิ้มออกมาและเอ่ยอย่างหนักแน่น “เจ้าให้เวลาข้าหน่อยนะ ข้าจะสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจน!” ชายหนุ่มมองนางด้วยแววตาขุ่นเคืองก่อนเอ่ยตะคอกออกมาเสียงดัง “เราบอกไปแล้วว่าไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ไม่ต้องสืบอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้มันผ่านๆไปเถิด!” ชูเซี่ยมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง จากนั้นเหมือนจะรู้สึกตัวดวงตาคมค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดและลนลานคว้าร่างนางเข้ามาในอ้อมกอด “ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจตะคอกเจ้า!” ชูเซี่ยนิ่งอึ้งอยู่ในอ้อมกอดของเขา นับตั้งแต่ที่ชายหนุ่มก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ ชายหนุ่มก็ยังแทนตนเองว่า ‘ข้า’ ยามที่อยู่กับนางตลอดแต่มาตอนนี้เขากลับใช้อำนาจของกษัตริย์มาพูดกับนาง ทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดและขุ่นเคือง “เจ้าไม่เชื่อข้า!” “ไม่ ไม่ใช่!” ชายหนุ่มรีบเอ่ยแก้ตัว “ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่เรื่องนี้พูดขึ้นมาไม่ว่าข้าหรือเจ้าก็ไม่มีความสุขแล้วเหตุใดจึงต้องพยายามเอ่ยถึงมันขึ้นมาอีกเล่า” “เจ้าไม่เชื่อว่ามีคนคิดจะใส่ร้ายข้า!” หลี่เฉินเย่นทำสีหน้าไม่แยแสและเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ช่างเถิด เรื่องนี้ก็ปล่อยผ่านมันไป ต่อจากนี้ไปห้ามเจ้าเอ่ยถึงมันอีก!” ชูเซี่ยจนคำพูดแล้ว เขาไม่เชื่อนางเพราะว่าเขาเห็นกับตาว่านางตรวจพิษในสุราด้วยเข็มเงินไปแล้ว เขาไม่คิดว่าจะมีคนวางยาพิษนาง ต่อให้มีคนวางยานางจริงแล้วตัวจูเก๋อหมิงเล่า ชายหนุ่มอยู่ในสายตาของผู้อื่นตลอดเวลาทั้งยังดื่มกินร่วมโต๊ะกับผู้อื่น หากว่าเขาถูกผิดผู้อื่นก็ต้องถูกไปด้วย หลี่เฉินเย่นก้มลงจุมพิตหน้าผากของนางทีหนึ่งจากนั้นก็เดินออกไปจากตำหนักฉ่ายเหว่ย เหล่านางกำนัลและบ่าวรับใช้ในตำหนักฉ่ายเหว่ยหายไปจนหมดตอนที่ชายหนุ่มกลับออกไป ชูเซี่ยรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เกรงว่าชายหนุ่มอาจจะฆ่าปิดปากพวกเขาไปจนหมดแล้ว ยามที่นางกำลังจะเดินออกไปก็พบว่าจูฟางหยวนเดินเข้ามาภายในตำหนักและเอ่ยถามนางอย่างตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้น ฝ่าบาททรงรับสั่งให้องครักษ์จับคนในตำหนักของเจ้าส่งออกไปนอกวังจนหมด!จูฟางหยวนเป็นหัวหน้าองครักษ์ในวังก็จริงแต่ค่ำคืนนี้เขามีหน้าที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยภายในงานเลี้ยงดังนั้นจึงไม่รู้ว่า เกิดเรื่องอะไรที่ตำหนักฉ่ายเหว่ย รู้เพียงว่าฝ่าบาททรงรับสั่งให้ทุกคนในตำหนักฉ่ายเหว่ยเก็บข้าวของและออกจากวังหลวงไปทันที! ชูเซี่ยค่อยวางใจลงมาที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เป็นฮ่องเต้ที่เหี้ยมโหด ดูท่าแล้วชายหนุ่มก็คงใช้วิธีในแบบของตนเองในการปิดปากพวกเขาและรักษาความลับนี้ไว้กระมัง เรื่องเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้จูฟางหยวนฟัง หลังจากที่จูฟางหยวนฟังจบก็เบิกดวงตากว้างขึ้น “ทำไมจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ เจ้าถูกวางยาหรือ” ชูเซี่ยขมวดคิ้ว “ข้าเองก็มั่นใจว่าถูกวางยาแต่เขากลับไม่เชื่อข้า เพราะว่าเขาเห็นเองกับตาว่าข้าใช้เข็มตรวจยาพิษในสุราไปแล้ว” หญิงสาวหยุดไปจากนั้นก็เอ่ยขึ้นอีก “เจ้ารีบออกจากวังไปตามจับสาวใช้เสี่ยวหว่านกลับมาและส่งไปที่พรรคมังกรเหิน ข้าจะสอบปากคำนาง!” จูฟางหยวนมองหน้าชูเซี่ยอย่างไม่สบายใจนัก“คนที่เจ้าพูดถึงใช้สาวใช้รูปร่างผอมบางหน้าตากลมๆหน่อยใช่หรือไม่” ชูเซี่ยหันมาจ้องเขาอย่างตกใจ “เกิดเรื่องกับนางหรือ” จูฟางหยวนสูดลมหายใจลึกๆ “ใช่แล้ว มีคนพบศพนางที่สระน้ำในอุทธยานหลวง!” ชูเซี่ยผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ “นางถูกฆ่าปิดปาก!” จูฟางหยวนส่ายหน้า “นางฆ่าตัวตาย!” ชูเซี่ยส่ายศีรษะเบาๆก่อนจะเอ่ยอย่างประหลาดใจ “เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจเช่นนั้น ก่อนหน้านี้นางเป็นเพียงแม่นางน้อยที่ร่าเริงสดใส ไม่ได้มีท่าทีอยากฆ่าตัวตายเลยนะ” จูฟางหยวนกดร่างของนางให้นั่งลงตามเดิม “มีนางกำนัลคนหนึ่งเห็นกับตาว่านางโดดลงน้ำไปเอง นางกำนัลคนนั้นเล่าว่าคนในครอบครัวของนางตายไปหมดแล้วทั้งคู่หมั้นของนางก็แต่งหญิงอื่นเข้าบ้าน นางอยู่ต่อไปก็ไร้ความหมายเมื่อกล่าวจบนางก็โดดน้ำฆ่าตัวตาย นางกำนัลผู้นั้นตกใจมากรีบไปตามคนมาช่วยแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว!” ชูเซี่ยเอ่ยพึมพำกับตนเอง “ตอนที่นางอยู่ในตำหนักนี้กับข้า ดูอย่างไรนางก็ไม่มีเรื่องทุกข์ใจเช่นนั้น ข้าไม่เชื่อหรอก!” จู่ๆนางก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา “แล้วนางกำนัลที่เป็นพยานในเหตุการณ์มาจากตำหนักของใคร” “เป็นนางกำนัลในตำนักของไทเฮา วันนี้ไทเฮาทรงพระทัยแจ่มใสจึงอยากได้ดอกไม้มาโรยในอ่างเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม นางกำนัลคนนั้นจึงต้องมาเก็บดอกไม้ที่อุทธยานจึงได้พบเสี่ยวหว่านที่กำลังจะฆ่าตัวตายเข้าพอดี!” ไม่ใช่คนในตำหนักของฉ่ายเวิน เช่นนั้นก็ไม่อาจสาวไปได้ถึงฉ่ายเวินว่าฝ่ายนั้นฆ่าคนปิดปาก ชูเซี่ยรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง นางเอามือกุมหน้าผากของตน หัวใจรู้สึกอึดอัด เสี่ยวหว่านที่คอยอยู่ปรนนิบัตินาง ที่เคยรู้จักกัน นางก็นับว่าอีกฝ่ายเป็นสาวใช้ข้างกายที่นางสนิทเสียด้วยซ้ำ หากว่าอยู่ในยุคปัจจุบันนางก็คงเรียกได้เต็มปากว่าเพื่อน นางเพิ่งจะอายุน้อยขนาดนี้ กลับมาต้องเสียชีวิตไปย่างกระทันหัน เรื่องนี้ทำให้ชูเซี่ยปวดใจยิ่งนัก! “จริงสิ เชียนซานเล่า” ชูเซี่ยจำได้ว่าเชียนซานเป็นผู้ที่พยุงนางกลับมา แล้วตอนที่เกิดเรื่องขึ้นเชียนซานหายไปไหน จูฟางหยวนก็เอ่ยตอบ “ฮูหยินใต้เท้าซือคงเกิดอาการกำเริบขึ้นมา มีหมอหลวงมาแจ้งข่าวกับนาง เชียนซานจึงรีบออกจากวัง คงพรุ่งนี้ถึงจะกลับ!” เชียนซานออกไปจากวังหรือว่านี่ก็เป็นแผนการณ์ของใครบางคนเช่นกัน ฮูหยินเสนาบดีย่อมไม่มีทางแกล้งป่วยเพื่อหลอกเชียนซานแน่ ต่อให้ฉ่ายเวินต้องการวางยาพิษนางก็คงไม่สามารถวางยาพิษคนได้มากมายถึงเพียงนั้น แล้วเรื่องจริงเป็นอย่างไรกันแน่ หัวสมองของนางตีกันจนสับสนวุ่นวายไปหมด จนแล้วจนรอดก็ยังคิดอะไรไม่ออก จูฟางหยวนเห็นท่าทางของชูเซี่ยก็เอ่ยปลอบใจอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง “วางใจเถิด เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าสืบหาแน่ ไม่ว่าหน้าไหนที่มันกล้าใส่ความเจ้า ข้าจะลากมันออกมาเอง!” ชูเซี่ยมองจูฟางหยวนอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณที่เชื่อใจข้า!” จูฟางหยวนยิ้มออกมา “เด็กโง่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่รู้จักเจ้าเสียหน่อย เจ้ารักเดียวใจเดียวหลี่เฉินเย่นจะตายจะไปกล้าสวมเขาให้เขาได้อย่างไรเล่า ต่อให้อยากสวมเขาก็คงไม่มาสวมที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยหรอก ก็รู้ๆกันอยู่ว่าทุกคืนฝ่าบาทต้องเสด็จมาที่นี่อยู่แล้ว คนพวกนี้ช่างไร้เดียงสาจนเกือบโง่จริงๆ” ชูเซี่ยส่ายหน้า “ไม่หรอก คนที่วางแผนไม่ได้โง่เลยสักนิด กลับกันอีกฝ่ายยังฉลาดมากด้วย ความรักและความผูกพันธ์ของข้ากับเฉินเย่นอีกฝ่ายรู้ดีว่าไม่มีทางกำจัดข้าออกจากใจของเฉินเย่นได้แน่ ดังนั้นจึงต้องการอาศัยเรื่องในคืนนี้ทำลายชื่อเสียงของข้า ทำให้เฉินเย่นเกิดความระแวงสงสัยขึ้นในจิตใจของเขา ทำให้ระหว่างข้าและเขาเกิดความคลางแคลงใจต่อกัน ข้าเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องไม่จบแค่นี้แน่!” สีหน้าของจูฟางหยวนดูตื่นตัวขึ้นมา “เช่นนั้น เจ้าต้องระวังให้มากรู้หรือไม่ ตอนนี้ศัตรูเป็นใครพวกเราก็ยังไม่แน่ชัด!” ชายหนุ่มหันมามองชูเซี่ยก่อนเอ่ยถาม “เจ้ามีคนที่สงสัยอยู่ในใจหรือไม่” ชูเซี่ยหันมามองจูฟางหยวน นางบอกผู้ต้องสงสัยในใจออกไปอย่างไม่คิดจะปิดบัง “มีคนมากมายที่ไม่ชอบข้า แต่ข้าเองก็ไม่รู้จักพวกเขาและก็คิดว่าพวกเขาย่อมไม่กล้าลงมือกับข้าแน่แต่มีอยู่คนหนึ่ง...” นางเอ่ยเสียงให้เบาลงและเข้าไปกระซิบข้างหูจูฟางหยวน “ข้าสงสัยฉ่ายเวิน!” จูฟางหยวนนิ่งไปก่อนจะยิ้มเย็นออกมา “ข้าก็คิดแต่แรกแล้วว่านางไม่ใช่คนง่ายๆอย่างที่แสดงออกแน่ ข้าเห็นนางอยู่กับฝ่าบาทหลายครั้งแล้ว สายตาของนาง ท่าทางของนาง ไม่ได้คิดกับหลี่เฉินเย่นแค่ศิษย์พี่ศิษย์น้องธรรมดาเช่นนั้นหรอก!” ชูเซี่ยถอนหายใจ “แม้แต่คนทึ่มทื่อเช่นเจ้าก็ยังมองออก แสดงว่านางเองก็คงไม่คิดปิดบังความรู้สึกของตนเองแล้วล่ะ หากเรื่องนี้เป็นฝีมือของนางจริง ข้าเชื่อว่าเป้าหมายของนางก็เพื่อทำให้ข้ากับเฉินเย่นเกิดช่องว่างระหว่างกันมากกว่า จากนั้นเมื่อเชียนถอยห่างจากข้านางก็จะฉวยโอกาศนั้นมาใกล้ชิด!” จูฟางหยวนครุ่นคิด “ที่เจ้าพูดเช่นนี้ นางเองก็สามารถวางยาพิษฆ่าเจ้าให้ตายได้ แต่ทว่านางไม่อาจทำเช่นนั้นได้เพราะว่าหากเจ้าตายไป หลี่เฉินเย่นไม่มีทางปล่อยวางเจ้าได้ลงแน่ นางจึงเลือกใช้วิธีที่ทำให้หลี่เฉินเย่นผิดหวังในตัวเจ้ามากกว่า นางเข้าใจจิตใจของมนุษย์ไม่น้อยเลย นางรู้ว่าหากคนเราผิดหวังก็จะมีคำถามและความระแวงมากมายผุดขึ้นในจิตใจ นางไม่ได้ต้องการตัวของหลี่เฉินเย่น สิ่งที่นางต้องการคือหัวใจของเขาต่างหาก นางอยากให้หลี่เฉินเย่นรักนางโดยที่เขาเต็มใจ” ชูเซี่ยรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชีวิตในยุคอดีตนี้น่ากลัวและตื่นเต้นมากกว่ายุคปัจจุบันของนางหลายเท่านัก นางเป็นหมอเห็นผู้คนเจ็บและตายมากจนนางแทบจะไม่รู้สึกอะไร คนเป็นพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกๆของตนเองก็เจ็บปวดจนยากจะรับไหว พวกเขามีเหตุผลที่จะโกรธคนเป็นหมอแบบนางหากไม่อาจรักษาชีวิตลูกๆของพวกเขาได้ ความโกรธเป็นสิ่งที่คนควบคุมยากเสมอ แต่ทว่าฉ่ายเวินนางกลับวางแผนการปูทางเดินในอนาคตของตนเองอย่างใจเย็น ตัดสินใจว่าใครจะอยู่หรือจะตาย หากว่าเรื่องนี้นางเป็นคนทำ เช่นนั้นเรื่องการตายของเฉินอวี่จู๋ก็เป็นฝีมือนางอย่างไม่ต้องสงสัย พิษที่นางโดนครั้งนี้เหมือนกับเฉินอวี่จู๋อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือไม่อาจตรวจออกมาได้เลย แต่นางก็มั่นใจว่าตนเองถูกวางยาอย่างแน่นอน หรือกล่าวได้ว่าฝีมือการใช้พิษของฉ่ายเวินสูงส่งกว่าฝีมือการแพทย์ของนางเสียอีก จูเก๋อหมิงเองก็เคยบอกนางว่าแม้ว่าฉ่ายเวินจะไม่มีวิทยายุทธ แต่ทว่าแต่เล็กจนโตนางก็เรียนรู้การใช้พิษมาตลอด ตำราร้อยพิษนั่นก็เป็นของที่ฉ่ายเวินมอบให้แก่จูเก๋อหมิง นางสามารถวางยาพิษและขจัดร่องรอยของพวกนั้นได้อย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เชื่อว่าต้องมาจากการฝึกฝนและเรียนรู้เป็นระยะเวลานานแน่!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 150 ฝีมือสุดยอด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A