ตอนที่151 เชียนซานออกหน้า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่151 เชียนซานออกหน้า
ต๭นที่151 เชียนซานออกหน้า ตำหนักฉ่ายเหว่ยได้เปลี่ยนทาสรับใช้อีกแล้ว คนพวกนี้เป็นคนที่หลี่เฉินเย่นเป็นคนเลือกเองทั้งหมดและเป็นคนที่จงรักภักดีต่อเขาเพียงคนเดียว หลี่เฉินเย่นก็ได้เรียกหว่านเหนียงมาด้วย เมื่อก่อนหว่านเหนียงเป็นคนรับใช้ของไทเฮาเก่าและเป็นข้ารับใช้ที่ไทเฮาคนก่อนไว้ใจมากที่สุด หว่านเหนียงเป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาและหว่านเหนียงก็รู้ว่าในวังนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง หลี่เฉินเย่นเลยเลือกไว้ใจนาง คนในวังนี้เรียกหว่านเหนียงว่ากูกูกันหมดเลย เมื่อก่อนนางเป็นเอ่อผินซางชือที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องอาหาร เมื่อก่อนเคยถูกสั่งให้ไปดูแลเรื่องอาหารการกินของพระชายาเจิ้งกั๋วที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นางเชี่ยวชาญในด้านอาหารมากๆ หลี่เฉินเย่นอยากให้นางมาดูแลเรื่องอาหารของชูเซี่ยตั้งนานแล้วแต่ชูเซี่ยบอกว่าที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยก็ดูแลตนเองเป็นอย่างดีอยู่แล้วไม่อยากให้ไปรบกวนหว่านเหนียงก็เลยไม่ได้เชิญมาแต่ตอนนี้ตำหนักฉ่ายเหว่ยก็เปลี่ยนคนไปหมดแล้ว หลี่เฉินเย่นก็เลยสั่งให้หว่านเหนียงมาดูแลในวังนี้ให้หน่อย! เรื่องวันนั้นในตำหนักฉ่ายเหว่ยไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยออกไป ฉ่ายเวินก็ไม่ได้พูดเช่นกันเรื่องนี้กระทบกับชื่อเสียงของหลี่เฉินเย่นอย่างมาก ถ้าเกิดเรื่องอะไรที่จะส่งผลไม่ดีต่อหลี่เฉินเย่นนางก็จะคิดให้รอบคอบก่อนเสมอ ผู้ชายเวลาถูกสวมเขาก็จะอายกันทั้งนั้น ฉ่ายเวินจะไม่ให้หลี่เฉินเย่นโดนผู้อื่นนินทาได้ หว่านเหนียงก็ไม่รู้เรื่องคืนนั้นเช่นกัน นางก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งเดาเองเออเองเช่นกัน ถ้าอยากมีชีวิตรอดอยู่ในพระราชวังแห่งนี้สิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้คือไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหนเรื่องอะไรถ้าหากเจ้านายไม่พูดก็อย่าไปถามเยอะ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ก็จะเป็นอันตรายต่อชีวิตเมื่อนั้น! เชียนซานกลับพระราชวังในวันที่สามเห็นว่าในวังเปลี่ยนคนไปมากมายก็เลยสงสัยและถามชูเซี่ยไปว่า”นายหญิงเจ้าค่ะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอเพคะ?” ชูเซี่ยเล่าเรื่องคืนนั้นให้เชียนซานฟังทั้งหมดพอเชียนซานได้ฟังแล้วก็โมโหขึ้นมาทันทีจากนั้นก็ดึงแขนเสื้อขึ้นจะไปตบฉ่ายเวิน หลวี่หนิงเข้ามาในวังพร้อมกับนางย่อมรู้ดีว่านางเป็นคนอารมณ์ร้อนเพียงใดก็เลยรีบห้ามไว้:”อย่าทำอะไรไม่คิดสิพวกเราไม่มีหลักฐานอะไรที่จะบ่งบอกว่านางเป็นคนร้ายได้เลยนะ” เชียนซานโมโหจนควันออกหูและตะโกนพูดไปอย่างเดือดดาลว่า:”ไม่ใช่นางแล้วจะเป็นใครไปได้เล่า?หญิงผู้นี้มีแต่ความชั่วร้ายในหัวและยังมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงเยอะด้วยพวกเราก็เลยไม่มีหลักฐานแต่ว่าถึงแม้จะไม่มีหลักฐานก็ตามข้าก็รู้ว่านางเป็นคนทำ” หลวี่หนิงพูดและขมวดคิ้วไปด้วย:”เจ้าอย่าคิดไปเองสิท่านฉ่ายเวินเป็นถึงศิษย์น้องของฮ่องเต้และฮ่องเต้ทั้งยังรักและเอ็นดูนางด้วย!อีกอย่างท่านฉ่ายเวินก็ดูไม่เหมือนกับคนอย่างนั้นนะ!” เชียนซานตอบกลับไปอย่างอารมณ์เสีย:”เจ้าเห็นว่านางสวยหรอกก็เลยคิดว่าเป็นคนดีงั้นเหรอ?ข้าจะบอกให้นะในโลกใบนี้อะไรที่ยิ่งสวยก็จะยิ่งเป็นพิษมากเท่านั้นเจ้าดูสิหลี่ซี่ไปชอบนางเข้าและจุดจบเป็นอย่างไรเล่า??” หลวี่หนิงมองค้อนใส่นาง:”เจ้าอย่าพูดแบบนี้สิ ข้าพูดเมื่อไหร่ว่าข้าชอบนาง?ข้าแค่พูดอย่างสมเหตุสมผลถ้าหากเจ้ายังอารมณ์ร้อนแบบนี้มันก็ไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรหรอกนี่ยังไม่พูดเรื่องที่นางใช่ผู้บ่งการเบื้องหลังทั้งหมดหรือเปล่าถ้าหากว่าไมใช่นางเจ้าก็จะเป็นคนที่ใส่ร้ายนางแต่ถ้าหากว่าใช่เจ้าก็ไปทำให้นางไหวตัวทัน!” หลวี่หนิงมองดูชูเซี่ยที่กำลังยกถ้วยชาอยู่และพูดไปว่า:”ท่านหมอเวินเจ้าค่ะท่านช่วยข้าเกลี้ยกล่อมนางหน่อยสิเจ้าค่ะ!” ชูเซี่ยยกหัวขึ้นมามองหลวี่หนิงและคิดแผนการในสมองอยู่จากนั้นก็มีแผนการผุดขึ้นมาในหัวและนางก็ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาพูดว่า:”ทำไมข้าต้องเกลี้ยกล่อมไม่ให้นางไปล่ะ?ความจริงแล้วข้าอยากให้นางไปโวยวายเหมือนกัน!” ทำอะไรไม่เคยมีล่องลอยเหลือไว้เลย ฉ่ายเวินคงจะรู้ว่าตนเองคงทำอะไรนางไม่ได้มันก็ใช่ ถ้าตามหลักความเป็นจริงตนเองก็ไม่สามารถไปเค้นถามนางได้แต่ว่าถ้าเกิดเชียนซานจะไปโวยวายแล้วเชียนซานเป็นคนอารมณ์ร้อนใครๆก็รู้และนางยังเป็นข้ารับใช้ของไทเฮาคนก่อน คนในวังนี้ยังไงก็ต้องให้หน้านางอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่เป็นไปตามผลลัพท์อย่างน้อยก็ทำให้คนในวังนี้มองนางด้วยสายตาสงสัยถ้ามีสายตาเยอะขนาดนี้นางยังจะกล้าลงมือทำอีกก็จะยากขึ้นแน่นอน! หลวี่หนิงนึกไม่ถึงเลยว่าขนาดชูเซี่ยยังเห็นด้วยกับเชียนซาน เขาคิดว่าตลอดว่าชูเซี่ยเป็นหญิงที่เรียบร้อยและดีแต่ไม่นึกเลยว่าไม่คิดเลยว่าขนาดตอนนี้ไม่มีหลักฐานนางก็ยังเอาความสงสัยของตนเองเป็นความจริงเขาผิดหวังในตัวนางมาก”ท่านหมอเวินทำแบบนี้ไม่เห็นแกตัวไปหน่อยเหรอครับ?ท่านฉ่ายเวินอาจจะไม่ใช่คนที่อยู่เบื้องหลังก็ได้!” ชูเซี่ยยังไม่ได้พูดอะไรเชียนซานก็ตบหัวหลวี่หนิงไปทีหนึ่งในความแรงนี้ก็ทำให้หลวี่หนิงเกิดความมึนหัวทันทีและก็ตะโกนไปว่า:”ข้าก็บอกว่าเจ้าชอบนางนั้นเจ้าก็บอกกว่าไม่ชอบใส่หัวไปเลยเรื่องของตำหนักฉ่ายเหว่ยไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าไปเลยไป!”พูดจบก็ดันหลวี่หนิงออกไปด้วย หลวี่หนิงโมโหและกำมือนางไว้แรงๆจากนั้นก็พูดอย่างอารมณ์เสียว่า:”ทำไมเจ้าถึงอารมณ์ร้อนแบบนี้ตลอดเลยล่ะ?เจ้าก็พูดดีๆไม่ได้เหรอ?ถ้าพูดกับคนอย่างเจ้าข้าหุบปากเงียบยังดีกว่าอีก!” เชียนซานโมโหจนตัวสั่นจากนั้นก็เตะเขาปีหนึ่งเตะโดนเข่าเขาพอดีคราวนี้เขามองเชียนซานอย่างแรงสุดท้ายเขาก็พูดว่า:”ดีข้าหมดคำจะพูดกับเจ้าแล้วต่อไปนี้ถ้าจะทำอะไรก็แล้วแต่เจ้าเลยเรื่องของเจ้าไม่เกี่ยวกับข้าอีกต่อไป?”พูดจบก็เดินออกไปอย่างโมโห เชียนซานโมโหเตะขอบประตูไปหนึ่งทีขอบประตูนั้นเป็นของตายของแข็งมันไม่ทำให้นางหายโมโหเลยแต่กลับทำให้ตนเองเจ็บจนเต้นอยู่กับที่ ชูเซี่ยมองนางแล้วยิ้ม:”เจ้าอารมณ์เสียอะไรเนี่ย?หลวี่หนิงชอบฉ่ายเวินแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าล่ะ?ทำไมเจ้าต้องไปสนใจด้วยล่ะ?” เชียนซานโมโหจนหน้าดำหน้าแดงและพูดไปอย่างโมโหว่า:”ข้าไม่ได้โกรธข้าไม่ได้สนใจใครบอกว่าข้าสนใจเขา?เขาก็เหมือนกับสุนัขตัวผู้ที่เหมือนมีเสน่ห์หน่อยก็เข้าไปหาพร้อมกับส่ายหางทุเรศการที่ได้รู้จักคนเช่นนี้มันช่างเป็นตราบาปในชีวิตข้ามาก!”พูดจบนางก็ถุยไปหลายที พูดขบเชียนซานก็ถามชูเซี่ยว่า:”เจ้าเห็นด้วยกับการที่ข้าไปจัดการนางงั้นเหรอ?” ชูเซี่ยถามอย่างกวนๆ:”เจ้าพูดถึงหญิงแพศยาคนใด?” เชียนซานกระทืบเท้า”เฮ้ออ เจ้านายเจ้าค่พขนาดท่านยังจะหัวเราะข้างั้นเหรอ?” ชูเซี่ยเก็บอาการเอาไว้”พอแล้วพูดเรื่องสำคัญกันเถอะเจ้าไปเถอะไปโวยวายให้ถึงที่สุดโวยวายเหมือนคุณป้าเจ้าก็แค่โวยวายก็พอส่วนเรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องไปสนใจ!” เชียนซานเห็นว่าชูเซี่ยทำหน้านิ่งเหมือนคิดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วเลยถามไปว่า:”เจ้านายเจ้าค่ะท่านมีแผนการแล้วใช่ไหมค่ะ?” ชูเซี่ยยิ้มอย่างมีลับลมคมใน”ข้ายังบอกเจ้าไม่ได้เจ้าไปทำตามที่ข้าสั่งก่อนเถอะ!” เชียนซานก็ตอบตกลงนางเก็บกดไว้นานแล้วสุดท้ายก็จะได้เวลาปล่อยออกมาสักทีก็เลยรวบรวมสติอารมณ์ตัวเองตอนนี้และเดินออกไปอย่างโมโห พอเชียนซานไปแล้วชูเซี่ยก็นอนลงที่นอนและหลับตาในสมองก็มีภาพตอนที่อดีตฮ่องเต้มาสอบสวน ตอนนั้นนางสายตามัวๆเห็นคนผู้หนึ่งเดินเข้ามานางเห็นคนผู้นั้นเขาใส่รองเท้าบูทสีดำและยื่นมือไปหยิบดาบสั้นขึ้นมา และในคืนวันนั้นที่ผู้คนต่างพากันจับโจรอยู่นางยังคงนอนอยู่บนเตียงอย่างสะลืมสะลือและตอนนั้นเองนางเห็นว่าฉ่ายเวินกับหลี่เฉินเย่นยืนด้วยกัน ตอนที่นางเห็นเท้าของฉ่ายเวินไม่รู้ว่าทำไมภาพในหัวนางก็ผุดขึ้นมาทันทีเป็นภาพรองเท้าบูทคู่นั้นมือที่ก้มลงหยิบดาบสั้นทั้งขาวทั้งนุ่มและเหมือนมือของผู้หญิงมาก นางพยายามลืมตาขึ้นให้เห็นชัดๆในตาก็นึกขึ้นได้ตอนวันนั้นหลี่เฉินเย่นเคยบอกกับนางว่าฉ่ายเวินตามเขามาติดๆจนเข้าในเมืองแล้วตอนนั้นฉ่ายเวินไปไหนล่ะ?นางไปไหนกันแน่?นางตามหลี่เฉินเย่นเข้าเมืองไปไม่มีทางที่นางจะไปโผล่อยู่ที่นอกวังเฝ้ารอต้องเข้าไปในวังพร้อมกันแน่ แต่ว่านางได้พูดอะไรเลยอีกอย่างไม่มีผู้ใดเห็นนางอยู่ในวังเลย สมมุติว่าตอนนั้นนางอยู่ในพระราชวังจริงและยังตามติอกันไปถ้างั้นในขณะที่ฮ่องเต้องค์ก่อนโดนยาพิษเข้าไปงั้นคนที่หยิบดาบสั้นไปและฆ่าปลงชีวิตฮ่องเต้จากนั้นก็โทษมาที่ตัวเองมีโอกาสมากที่จะเป็นนาง! วั้นนั้นรองเท้าบูทที่นางเห็นเป็นแค่รองเท้าที่ทหารธรรมดาใส่กันนางไม่เชื่อมาตลอดว่าจะเป็นอ๋องเก้าหรือราชครูเพราะว่ารองเท้าบูทที่ทั้งสองใส่เป็นรองเท้าที่ทำจากขนแพะอีกอย่างตอนนั้นนางก็ไม่ได้ใส่ใจกับมือที่เก็บดาบสั้นไปเพราะว่าแขนเสื้อใหญ่และยาวมากมือเลยโผล่ออกมาแค่นิดเดียวตอนนี้คิดอย่างละเดียดดูถึงแม้ว่าตอนนั้นจะเห็นไม่ค่อยชัดแต่นางดูออกหลังมือที่นุ่มของนาง! มันจริงอยู่แล้วมือของผู้ชายอาจจะนุ่มแต่ว่านางเคยเห็นมือของอ๋องเก้าและยังเคยเห็นมือของราชครูมาแล้วทั้งสองคนเป็นคนที่ซ้อมดาบอยู่ทุกวันในมือน่าจะมีตุ่มขึ้นและมือก็อาจจะหยาบๆมือด้านหลังอาจจะดำๆและมีเส้นเลือดปูดขึ้นมามือของทหารก็ไม่อ่อนนุ่มถ้าเป็นแบบนี้แล้วคนผู้นั้นต้องขโมยชุดของทหารและรองเท้าบูทแน่นอนพอเข้าไปในวังพอฆ่าฮ่องเต้องค์ก่อนแล้วก็มาใส่ร้ายนาง “หว่านเหนียง!”ชูเซี่ยลุกขึ้นและตะโกนข้ามหน้าต่างไป หว่านเหนียงเข้ามาตามเสียงชูเซี่ยก็เลยพูดเสียงเบาว่า:”เจ้าไปสืบลับๆว่าก่อนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนจะโดนสังหารในวังนี้มีทหารคนใดที่ถูกขโมยรองเท้าบูทไป!” หว่านเหนียงตกใจเล็กน้อย”สืบอย่างลับๆ?” “ใช่อย่าพูดออกไปต้องสืบอย่างลับๆเท่านั้น!” “งั้นเรื่องนี้ต้องบอกฮ่องเต้ไหมเจ้าค่ะ?”หว่านเหนียงถาม ชูเซี่ยนิ่งซักพักและพูดวา”พูดก็ได้หรือไม่พูดก็ตามใจเจ้าเลย?” หว่านเหนียงเข้าใจแล้วและพูดว่า”ถ้าหากว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญฮ่องเต้ทรงมีงานมากมายก็อย่าไปรบกวนท่านเลย!” หว่านเหนียงเข้าใจเรื่องนี้ดีถึงแม้ว่านางไม่รู้ว่าคืนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นแต่ว่าสองวันมานี้หลี่เฉินเย่นไม่เคยมาเลยนางรู้คร่าวๆว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอนถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดีงั้นทั้งสองก็ควรจะห่างกันสักพักชูเซี่ยสั่งให้นางสืบความอย่างลับๆก็คือถ้าเรื่องทุกอย่างยังไม่กระจ่างนางรอสืบเรื่องทั้งหมดให้รู้เรื่องดีกว่าค่อยไปพูดกับฮ่องเต้ ชูเซี่ยซึ้งใจกับพระคุณของหว่านเหนียงก็เลยยิ้มอย่างอบอุ่น”ขอบคุณค่ะหว่านเหนียง!” หว่านเหนียงมองชูเซี่ยอย่างลึกซึ้งและพูดว่า:”วันก่อนท่านหมอเวินก็เคยช่วยบ่าวไว้เหมือนกันเจ้าค่ะ!” ชูเซี่ยตกใจเล็กน้อย”เรื่องของเมื่อไหร่กันน่ะ?ทำไมข้าจำไม่ได้เลย” หว่านเหนียงยิ้มบางๆมุมปากยังคงเป็นปากรูปพระจันทร์ครึ้งเสี้ยวที่ลึกลับเหมือนเดิมนางพยักหน้า”พูดไม่ได้ๆ!” นางทำตัวลึกลับทำให้ชูเซี่ยเกิดอยากรู้ขึ้นมาแต่ว่าป้าวันก็ยังคงไม่ยอมพูดนางรู้ว่าถ้าถามไปยังไงหว่านเหนียงก็คงไม่ตอบหรอก หว่านเหนียงออกไปแล้วนางอยู่ในพระราชวังเป็นหลายปีและยังสนิทกับทหารข้ารับใช้ทั้งในวังนอกวังและวังอื่นนางยังเคยเป็นข้ารับใช้ของไทเฮ่าเก่าด้วยถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักนางก็มีคนเคารพนับถืออยู่ ถึงแม้ว่าเชียนซานจะบุกไปอาละวาสที่วังของฉ่ายเวินตอนที่นางเข้าไปก็ไม่ได้พูดอะไรนางเดินข้าไปแล้วก็เดินไปตบฉ่ายเวินที่กำลังยืนชมดอกไม้อยู่และตะโกนด่าอย่างอารมณ์เสียว่า:”ข้าขอเตือนเจ้าเลยนะว่าเจ้าอย่าคิดที่จะเล่นอะไรสกปรกกับเจ้านายข้าเจ้านายข้านางเป็นคนดีอ่อนโยนไม่เคยทำร้ายใครก็ไม่ได้แปลว่าข้ารับใช้ของนางจะโดนดูถูกและรังแกได้ทางที่ดีเจ้าควรจำเอาไว้เลยว่าอย่าคิดที่จะมายุ่งกับคนในตำหนักฉ่ายเหว่ยไม่งั้นล่ะก็ข้าจะให้เจ้าทั้งเป็น!” สีหน้าฉ่ายเวินเปลี่ยนไปนางยื่นมือจับหน้าข้างที่โดนเชียนซานตบนางเริ่มยิ้มออกมาอย่างฌฃโรคจิตและนางกำลังจะพูดแต่ทันใดนั้นด้านนอกก็มีคนเดินเข้ามาคนผู้นั้นรับเข้ามาและจับมือเชียนซานเอาไว้จากนั้นก็ด่าเชียนซานไปว่า:”เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ?ไม่หลักฐานอะไรก็มาอาละวาดตรงนี้แล้วเจ้าอย่าใส่ร้ายคนดีได้ไหม!” คนที่มานั้นเป็นหลวี่หนิงเขาตามเชียนซานมาเขายืนอยู่ด้านนอกก็เห็นว่าเชียนซานทำร้ายร่างกายคนแล้วกลัวว่าเชียนซานที่ขี้อารมณ์เสียจะทำอะไรออกมาอีกก็เลยรีบพุ่งเข้าไปทันที เชียนซานอึ้งซักพักนางไม่นึกว่าหลวี่หนิงจะเข้ามาขัดขวางตัวเองและยังด่านางต่อหน้าฉ่ายเวินอีกนางโมโหมากเลพูดประชดไปว่า:”หึทหารขี้ม้าขาวมาช่วยอีกด้วยคนสวยก็คงเป็นอย่างงี้ผู้ชายมากมายคงพร้อมที่จะเสียสละเพื่อเจ้ากันหมดใช่ไหม?แต่ว่าหลวี่หนิงเจ้ารักผิดคนแล้วล่ะคนอื่นเข้าชอบศิษย์พี่ของเขาและก็คือฮ่องเต้องค์ปัจจุบันนางจะไปเป็นฮองเฮานี!!” หลวี่หนิงโกรธจนหน้าซีดเผือดและพูดเสียงข่มว่า:”เจ้าอย่าพูดมัวไปนะข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าทำอะไรผิดพลาดและไม่อยากให้เจ้าไปใส่ร้ายคนอื่นด้วย” “คนดี?เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางเป็นคนดี?เจ้ามองยังไงที่เห็นว่านางเป็นคนดี?นางก็เป็นแค่นางแพศยาเป็นอีคนที่อ่อยผู้ชายไปทั่ววิญญาณเจ้าก็โดนนางขโมยไปแล้วล่ะเลยช่วยนางพูด”เชียนซานโมโหมากและด่าออกไปโดยไม่ได้คิดจากนั้นนางก็หันไปแล้วมองฉ่ายเวินอย่างโกรธๆ “เจ้าพูดสิว่าเจ้าวางยาให้เจ้านายข้าใช่ไหม?เป็นเจ้าใช่ไหมที่อยู่เบื้องหลังเจ้านายข้ากับจูเก๋อหมิง?” สีหน้าที่ยิ้มออกมาอย่างโรคจิตได้หายไปแล้วนางปรับสีหน้าเป็นสีหน้าที่น่าสงสารและหดคอลงอย่างน่าเอ็นดูจากนั้นก็พูดเสียงสะอึดว่า: “ท่านเชียนซานเจ้าค่ะนี่ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่?ข้าจะวางยาใส่พี่สาวและพี่ชายจูเก๋อทำไมกันเจ้าค่ะ?ท่านเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าเจ้าค่ะ?”
已经是最新一章了
加载中