ตอนที่ 156 แสดงความสามารถออกมา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 156 แสดงความสามารถออกมา
ต๭นที่ 156 แสดงความสามารถออกมา แต่คืนนั้นคนของตำหนักฉ่ายเหว่ยถูกเปลี่ยนไปหมดดังนั้นตอนวันพระราชสมภพของไทเฮาก็ไม่ได้แพร่กระจายออกไปและฉ่ายเวินก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน นี่ทำให้เสียภาพลักษณ์ของฮ่องเต้ได้นางไม่ทำแน่นอน ดังนั้นไทเฮาก็สือเรื่องอะไรมาไม่ได้เลยสุดท้าย นางกับหรงกุ้ยไท่เฟยมาที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยทั้งสองพึ่งเข้ามาข้ารับใช้ก็เขามาทูลว่า: “นายท่าน ฉ่ายเวินมา!” ชูเซี่ยพึ่งเคารพและนั่งลงก็ได้ยินข้ารับใช้มาทูลนางกพูดอย่างเย็นชาว่า:“เชิญเข้ามาเถอะ!”จะมาดูให้หัวเราะสะใจหรือจะมาสืออะไรอีกล่ะ?เมื่อคืนเรื่องดังมากนางก็ต้องได้ยินมาบ้างไม่ว่าอย่างไรสรุปแล้วนางต้องมาไม่ดีแน่! เชียนซานยังไม่ตื่นเมื่อวานนางเมาหนักมากเป็นเวลาเกือบเที่ยงนางก็ไม่ได้ตื่นเพราะนางเป็นหลานสาวของใต้เท้าซือคงจางก็เลยถามอย่างเป็นห่วงไปชูเซี่ยก็เลยบอกว่านางดื่มหนักเกินเมื่อวานวันนี้เลยไม่ค่อยสบาย ฉ่ายเวินเข้ามาพร้อมกับหลวี่หนิง ฉ่ายเวินน่าจะไม่รู้ว่าไทเฮากับหรงกุยไท่เฟยก็อยู่ตรงนี้ด้วยก็เลยรับทำควมเคารพ “ไทเฮา หรงกุยไท่เฟย!” หลวี่หนิงของทำความเคารพเช่นกัน ไทเฮามองฉ่ายเวินและยิ้ม “เจ้าดีมากเลยนะเช้าขนาดนี้ก็ยังมาดูพี่สาว!”นางก็ดูหลวี่หนิงด้วย “หลวี่หนิงเจอกับฉ่ายเวินเหรอ?” หลวี่หนิงก็ไม่ได้ปิดบังและตอบไปว่า: “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะกระหม่อมมาพร้อมกับฉ่ายเวินพ่ะย่ะค่ะ!” ไทเฮาก็ตอบไปว่า“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”ในสายตานั้นนางเข้าใจแล้วจากนั้นก็หัวเราะออกมาพร้อกับหรงกุยไท่เฟย: “วัยรุ่นตอนนี้ไม่เหมือนกับวัยรุ่นสมัยเราเลยเนอะ!” หรงกุ้ยไท่เฟยหัวเราะออกมาอย่างไม่มีปี่มีขรุ่ยและพูดว่า“ชายหญิงที่ถึงเวลาแต่งงานใกล้กันหน่อยก็คงไม่เป็นไร!”พอสักพักนางก็มองหน้าฉ่ายเวินและพูดต่อว่า “อายุของเจ้าก็ไม่น้อยแล้ว ฮ่องเต้ก็จริงๆเลยทำไมไม่หาคนดีๆให้เจ้าแล้วแต่งงานเลยเล่า?” ไทเฮาหัวเราะและพูดว่า:“จะหาใหม่ทำไมเล่าคนที่อยู่ตรงหน้าเจ้าคู่นี้ก็เหมาะสมกันดีออก หลวี่หนิงให้ข้าเป็นฝ่ายจัดงานให้เจ้าเลยไหม จัดงานแต่งไปเลย!” ฉ่ายเวินรีบเลยหน้าและมองไทเฮาอย่างตกใจ นางรีบส่ายหัวและพูดว่า:“ขอบพระคุณไทเฮาที่จะทรงหาคู่ให้ฉ่ายเวินแต่ว่าตอนนี้ฉ่ายเวินยังไม่พร้อมแต่งงานเพค่ะ!” หรงกุยไท่เฟยพูดต่อว่า“พูดบ้าอะไรเจ้าอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว?หญิงสาวเขาแต่งงานตอนอายุสิบหกกันถ้าผ่านสิบหกไปแล้วพ่อแม่คงรีบหน้าดู?ถ้าเป็นเช่นนี้พ่อแม่ก็คงไปหาให้แล้วล่ะ พ่อแม่เจ้าไม่อยู่ฮ่องเต้ก็เป็นศษย์พี่ของเจ้าตามหลักแล้วศิษย์พี่ก็เหมือนดั่งบิดา เจ้าก็ควรจะฟังเขา!” หรงกุ้ยไท่เฟยนางรู้ว่าฉ่ายเวินชอบหลี่เฉินเย่นเพราะเย่เอ๋อชอบพาอันหร่านเข้าวังและนางก็พูดว่าฉ่ายเวินน่าจะชอบหลี่เฉินเย่นทั้งสองพูดเรื่องนี้กัน หรงกุยไท่เฟยคิดว่าฉ่ายเวินก็เป็นเด็กดีพอสำรวจนางไปสักพักก็เห็นว่านางน่าจะร้ายมากก็เลยไม่ค่อยชอบนางแล้ว สีหน้าของฉ่ายเวินเริ่มเปลี่ยนไปและพูดว่า “ขอบพระคุณกุ่ยไท่เฟยที่ทรงเป็นห่วงหม่อมฉันเพค่ะแต่ตอนนี้ฉ่ายเวินยังไม่อยากคิดเรื่องแต่งงานจริงๆอีกอย่าง ศิษย์พี่ยังไม่เคยบังคับหม่อมฉันเลย ถ้าหม่อมฉันเจอคนที่ใช่แล้วหม่อมฉันก็จะบอกศิษย์พี่เองเพค่ะ!” หรงกุยไท่เฟยทำเป็นไม่เห็นตอนที่นางทำตัวไม่มีมารยาทและพูดต่อว่า: “หึ ตอนนี้เจ้ากับท่านหลวี่หนิงก็เหมาะสมกันดีนี่!” หลวี่หนิงพูดขึ้นมาว่า: “กุ่ยไท่เฟยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับฉ่ายเวินเป็นแค่เพื่อนกัน เราไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดพ่ะย่ะค่ะ!” “แปลกจังเลยนะระหว่างชายหยิงเป็นเพื่อนกันได้ด้วยเหรอ?พวกเจ้าเป็นเพื่อนกันก็สนิทกันเกินไปแล้วล่ะ!”หรงกุ้ยไท่เฟยพูดประชด ฉ่ายเวินเงยหน้าขึ้นมามองชูเซี่ยเปนสายตาที่เคียดแค้น ชูเซี่ยเข้าใจความหมายของนาง นางคงนึกว่าตัวเองวางแผนมากับไทเฮาและกุ่ยไท่เฟย นางก็ไม่ได้อธิบายและพูดยิ้มๆว่า: “พอเถอะเพค่ะไท่เฟย ดูหนูน้อยนั้นสินางก็คงเขินมาก ท่านก็ไม่ต้องไปหัวเราะนางหรอกเพค่ะ ถ้าเช่นนั้นพวกเขากำลังเข้าด่ายเข้าเข้มกันถ้าเราขืนพูดอีกเดี๋ยวพวกเขาจะไม่กล้าไปต่อนะเพค่ะ” หรงกุ้ยไท่เฟยหัวเราะ“ใช่สิ ข้าคงแก่มากแล้วหน้าหนา ลืมไปเลยว่านางคงจะอายแต่ว่าฉ่ายเวินก็ไม่นับว่าเป็นเด็กน้อยแล้วเจ้าอายุยี่สิบแล้วใช่หรือไม่?น่าจะเป็นสาวแก่แล้ว งานแต่งคงต้องรีบจัดแล้วล่ะอย่าให้คนเขาต้องเป็นห่วงนะ!” ฉ่ายเวินมองนางอย่างโหรธแค้นและพูดอย่างโกรธๆว่า:“ทำไมพี่ถึงเข้าใจฉ่ายเวินจังเลยเจ้าค่ะ ฉ่ายเวินดีใจจังเลยแต่ว่าพี่สาวไม่ต้องมาเป็นห่วงฉ่ายเวินหรอกเจ้าค่ะเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ ได้ยินว่าเมื่อวานศิษย์พี่อารมณ์เสียไม่รู้ว่าพี่สาวทำอะไรให้ศิษย์พี่ข้ากรธเหรอเจ้าค่ะ?” ชูเซี่ยยังไม่ได้พูดหว่านเหนียงที่ยืนข้างๆก็ตอบแทนว่า:“สองคนนี้เขาโกรธงอนกันเป็นธรรมดาไม่มีอะไรหรอกเพค่ะ?เจ้านายข้าทำให้ฝ่าบาทโกรธ?ก็คงไม่ใช่อาจจะเป็นนายบ่าวโกรธฝ่าบาทก็เพค่ะ ต้องรู้ว่าวฝ่าบาทกับนายหญิงรักกันเป็นเรื่องที่ในวังนอกวังก็รู้” ฉ่ายเวินหัวเราะ“ใช่เหรอ?” ไมเฮาถามหว่านเหนียงต่อว่า“ข้าก็พอได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง หว่านเหนียง เจ้าอยู่ในตำหนักฉ่ายเหว่ยตลอดไหนลองเล่ามาสิว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็อยู่ที่นี้แต่ไทเฮาไม่ถามกลับไปถามหว่านเหนียงแทน นางรู้นิสัยของชูเซี่ยดีถึงแม้ว่าจะน้อยใจมาแค่ไหนนางก็ไม่มีทางพูดแน่นอนถามหว่านเหนียงแทนดีกว่า หว่านเหนียงยิ้มและพูดว่า:“ไทเฮาไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพค่ะ พวกเขาแค่งอนกันนิดหน่อยผ่านไปสองสามวันเดี๋ยวก็ดีขึ้นเองเพค่ะ ใช่หรือเปล่าเพค่ะเจ้านาย?”หว่านเหนียงพูดเส็จก็หันไปถามชูเซี่ย ชูเซี่ยก็ไม่อยากให้ไทเฮาทรงเป็นห่วงก็เลยพูดตามน้ำไปว่า:“เป็นเพราะหม่อมฉันตามใจตัวเองเกินเพค่ะเมื่อคืนเลยทะเราะกันนิดหน่อย!” ไทเฮามองออกว่าเรื่องนี้ต้องหนักมากแน่และทั้งสองคนนี้ยังรักกันมากด้วหลี่เฉินเย่นก็ไม่เคยให้นางน้อยใจเลยอย่าบอกว่าโกรธเลยขนาดพูดเสียงดังเขายังไม่พูดเลยและชูเซี่ยก็ยังตามใจหลี่เฉินเย่นไปซะทุดเรื่องถ้าไม่มีเรื่องใหญ่อะไรเขาก็ไม่มีทางทะเลาะกันแน่นอน แต่ว่าถ้านางไม่อยากพูดเราก็ถามมากไม่ได้ยังบวกกับฉ่ายเวินที่เมื่ก่อนเป็นเด็กดีมากแต่ตอนนี้ทำไมเวลาพูดก็เหมือนมีพิษ?อาจจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นโดยที่นางไม่รู้ก็ได้ แต่ไทเฮาก็ไม่อยากไปยุ่งแล้วเช่นกันเพราะหลังวังนี้มีแต่เรื่องวุ่นวายนินทาหลับหลังกันและนางเชื่อว่าชูเซี่ยสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้เช่นกัน นางเป็นราชินีในอนาคตหลังวังนี้ก็ดูเหมือนจะยังไม่วุ่นวายมากอย่างน้อยเทียบกับนางตอนนั้นแล้วก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับนางเลย นางพูดกับชูเซี่ยเสร็จก็หันไปพูดกับหรงกุยไท่เฟยว่า: “พวกเรายายแก่สองคนก็ไปเถอะไม่ต้องไปกวนสองสาวเขาคุยกัน พวกเราไปเถอะ!” หรงกุยไท่เฟยยังอยากว่าฉ่ายเวินแต่ไทเฮาบอกว่าจะไปแล้วนางก็เลยต้องลุกขึ้น ไมเฮาพมองชูเซี่ยและพูดว่า:“ลูกเรื่องทุกเรื่องย่อมมีทางออกอยู่เสมอ เจ้าเป็นคนมีความอดทนไม่มีอะไรจะมาทำลายเจ้าได้ ข้าก็เชื่อเหมือนกันว่าถ้าเกิดเจ้าเจอเรื่องอะไรเจ้าก็ต้องแก้ไขได้เช่นกันแต่ว่าเจ้าอย่าลืมอีกหนึ่งวิธีนั้นก็คือความรักของมารดา ถ้าเจ้าแก้ไขไม่ได้ก็สามารถมาขอให้ข้าช่วยได้ขอมารดาท่านช่วยนั้นก็คือวิธีแก้ไขอย่างหนึ่งเช่นกัน!” ชูเซี่ยรู้สึกดีมากที่ได้ยินไทเฮาพูดเช่นนี้เหมือนกำลังประกาศให้ทุกคนรู้ว่าไม่ว่ายังไงนางก็จะยืนอยู่ข้างชูเซี่ยเสมอช่วยชูเซี่ยไม่ว่าใครก็ไม่กล้าเข้ามาทำร้ายชูเซี่ยได้ง่ายๆ ชูเซี่ยน้ำตาเอ้อล้นอยู่ที่ขอบตาและพูดไปว่า: “ขอบพระทัยเพค่ะเสด็จแม่!” หลวี่หนิงยืนข้างไทเฮาแต่สายตาของเขาก็มองไปที่ฉ่ายเวิน สีหน้าของฉ่ายเวินเหมือนคนที่กำลังอิจฉา ไมเฮากับหรงกุยไท่เฟยไปแล้วชูเซี่ยก็กลับหลังหันมาทางฉ่ายเวินและพูดอย่างมีมารยาทว่า: “เชิญนั่ง!” ฉ่ายเวินนั่งลงไปข้างนางและจับมือนางจากนั้นก็ยิ้มพูดว่า: “ยังมีการเชิญนั่งอีก พี่สาวทำไมถึงขี้เกรงใจแบบนี้เนี่ย?” ชูเซี่ยมองนางตาขวางและยกมือออกมาพูดว่า: “วันนี้น้องสาวทำไมถึงมีเวลามาถึงที่นี้ล่ะ?” ฉ่ายเวินเอามือเท้าคางคิดและพูดไปว่า:“ข้าก็เหมือนไทเฮาน่ะสิเจ้าค่ะอยากรู้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น พี่กับศิษย์พี่ทะเลาะกันเหรอเจ้าค่ะ?”พูดจบ นางก็ทำสีหน้าเหมือนไม่รู้อีโหน่อีเหน่และพูดต่อว่า:“ข้าเป็ยห่วงพวกท่านจริงๆนะเจ้าค่ะ!” หว่านเหนียงทนไม่ได้และพูดว่า:“ถ้าคุณหนูฉ่ายเวินอยากรู้ทำไมไม่ไปถามฮ่องเต้เอาล่ะเจ้าค่ะ?” ฉ่ายเวินเงยหน้าขึ้นมองหว่านเหนียงรอยยิ้มนางหายไปและพูดว่า:“เรื่องของผู้หญิงก็ต้องพูดกับผู้หญิงสิ พี่สาวกับข้ารักกัน นางไม่มีเรื่องอะไรมาปิดบังข้าหรอกใช่ไหมเจ้าค่ะ?” ชูเซี่ยพูดต่อว่า: “ใช่สิ!”พูดแค่คำเดียวก็หยุดพูดแล้ว ฉ่ายเวินเงียบสักพักและพูดว่า; “เป็นเพราะว่าเรื่องของโหร่วยเฟยกับศิษย์พี่ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ อันที่จริงพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว พี่สาวก็อย่าไปหึงเลยเจ้าค่ะ” ชูเซี่ยหัวเราะและพูดประชดไปว่า“อืม!” เห็นว่าชูเซี่ยเย็นชาและทำท่าเหมือนไม่อยากพูดกับนางฉ่ายเวินก็ไม่ได้คิดว่าหมดสนุกกลับกันนางก็คิดว่าสนุกขึ้นและพูดต่อว่า: “ที่จริงหัวใจของศิษย์พี่ก็ยังอยู่ที่พี่สาวอยู่นั้นแหละเจ้าค่ะ ผู้ชายเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีภรรยาสามสี่ห้าคนและเขาก็ยังเป็นฮ่องเต้อีก พี่สาววันนี้ก็ไม่อยากอยู่กับนางแล้ววันหลังพี่สาวจะอยู่ร่วมกับนางอื่นในวังได้เหรอเจ้าค่ะ?” ชูเซี่ยได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็มองนางและถามว่า: “ฟังน้องพูดเช่นนี้แล้ว น้องเหมือนเป็นคนใจกว้างน่าดูถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้อง น้องจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ?” ฉ่ายเวินยิ้มและพูดว่า: “ถ้าได้อยู่กับชายที่ตนรักมากที่สุด ข้าก็ไม่เป็นห่วงหรอกว่าเขาจะมีผู้หญิงกี่คน ขอแค่ในใจเขามีข้า ถ้าพี่สาวไม่ใจกว้างก็ไม่เหมาะจะเป็นฮองเฮานีเจ้าค่ะ” คำนี้นางลงเสียงหนักมากแต่วว่าเหมือนกับพูดท้าทาย ชูเซี่ยพูดต่อว่า: “ใช่เหรอ?ฮองเฮานีเป็นหญิงที่คนทั้งระเทศเทิดทูลให้เกรียติ ข้าไม่เคยคิดที่จะเป็นฮองเฮานีหรอกนะ” ฉ่ายเวินหัวเราะและเหมือนจะเปลี่ยนเรื่องพูดว่า: “ใช่เหรอ?พี่สาวทำไมต้องทำท่าไม่ชอบน้องด้วยเจ้าค่ะ?ที่พี่สาวทำขนาดนี้ก็เพื่อได้อยู่กับศิษย์พี่และด้ขึ้นคลองบัลลังค์ฮองเฮานี?ก็เหมือนที่พี่สาวพูดว่าตำแหน่งฮองเฮานีนั้นสูงศักดิ์ไม่ว่าหญิงใดก็อยากเป็นไม่ใช่เหรอเจ้าค่ะ?” หว่านเหนียงได้ยินก็พูดแทรกขึ้นมาว่า: “ได้ยินคุณหนูฉ่ายเวินพูดเช่นนี้แล้วเหมือนคุณหนูฉ่ายเวินอยากเป็นมากกว่านะเจ้าค่ะเสียดายคุณหนูฉ่ายเวินเป็นศิษย์น้องของฮ่องเต้และฮ่องเต้ก็มองคุณหนูฉ่ายเวินเป็นเพียงแค่น้องสาวให้เป็นเจ้าหญิงก็ยังได้แต่ถ้าเป็นตำแหน่งราชินีก็ไม่เหมาะเจ้าค่ะ!และก็ในใจไทเฮาก็มีฮองเฮานีในใจแล้วและนั้นก็เป็นเจ้านายของบ่าวเจ้าค่ะก็ไม่ต้องพูดถึงนายหญิงของบ่าวแต่ก็ยังมีโหร่วยเฟยไม่ใช่เหรอเจ้าค่ะ?ตอนโหร่วยเฟยอยู่ที่หวังฟู่ก็ได้เป็นภรรยารองทั้งสองคนก็รักกันดี ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันแต่ตอนนี้ก็แก้ไขได้แล้ว ตำแหน่งฮองเฮานีถ้าให้คิดยังไงก็คิดไม่ถึงคุณหนูฉ่ายเวินหรอกเจ้าค่ะ” สีหน้าฉ่ายเวินเปลี่ยนไปและมองไปที่หว่านเหนียงอย่างอาฆาตแค้น ชูเซี่ยมองหว่านเหนียงที่ทำท่าทางสายตาเหมือนกวนโอ้ย และนางก็คิดว่าเมื่อก่อนหว่านเหนียงเป็นคนคิดก่อนพูดไม่เหมือนวันนี้นางพูดอย่างไม่คิดเลย และนางยังพูดถึงโหร่วยเฟยนี้นางอยากให้ฉ่ายเวินไปยุ่งกับโหร่วยเฟยงั้นเหรอ? 
已经是最新一章了
加载中