ตอนที่22 วิเคราะห์สถานการณ์
1/
ตอนที่22 วิเคราะห์สถานการณ์
วิวาห์ร้าย แต่งกับผี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่22 วิเคราะห์สถานการณ์
ตอนที่22 วิเคราะห์สถานการณ์ ฉันมองไปที่ซูหลินอย่างหนักหน่วงแล้วพอจะพูดขึ้นมาก็เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอเพราะว่าฉันพึ่งนึกได้ว่าเรื่องพวกนี้เหมือนว่าจะไม่ควรพูดต่อหน้าจ้าวซิ้วและไป่เวยเวย ไม่อย่างนั้นอาจทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้ ยิ่งเป็นสองคนนี้ที่นิสัยราวกับเด็กน้อย อาจจะทำให้เกิดเรื่องที่คิดไม่ถึงก็ได้ เสียงหัวเราะค่อยๆเบาลงแต่กลับไม่ได้หยุดลง พอฟังเสียงหัวเราะนี้แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันก็แล่นเข้ามาในหัวของฉันแต่ก็ยังไม่ช่วยคลายความมึนงงในหัวได้ ฉันอยากกล้าพอที่จะปิดโทรศัพท์ แต่ทว่าในขณะที่ฉันกำลังปลุกความกล้าอยู่นั้น ก็พบว่าซูหลินได้ก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วปิดสวิตซ์โทรศัพท์ไปแล้ว ทั้งห้องเงียบสงัดราวกับว่าจ้าวซิ้วอยู่มุมใดมุมหนึ่งของห้องถ้าใครพูดขึ้นมาจ้าวซิ้วจะกระโจนเข้าหาคนนั้น ผ่านไปเป็นชั่วโมง ซูหลินถึงจะคืนโทรศัพท์ให้จ้าวเซียว แต่ทว่าจ้าวเซียวและไป่เวยเวยกลับหน้าซีด คนหนึ่งนั่งตัวสั่นอยู่ที่มุมเตียง อีกคนก็เกลือกกลิ้งจากเก้าอี้ไปนั่งสั่นอยู่บนพื้น ฉันมองดูริมฝีปากสีม่วงของทั้งสองคน ไม่พูดอะไรได้เอาแต่ถอนหายใจเบาๆ แล้วโทรศัพท์จ้าวเซียวก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ จ้าวเซียวเหลือบมองมาที่ฉัน สายตาราวกับลูกแกะที่หวาดกลัว เธอพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เธอไม่ต้องเอามาวางตรงนี้ เอาไปทิ้งเถอะฉันไม่เอาแล้ว...” ฉันไม่อยากเกลี้ยกล่อมเขา จากที่ได้ฟังเรื่องของพวกเขาฉันก็เอาแต่คิดว่ามันเป็นความผิดของจ้าวซิ้วแต่พวกเขาก็ทำเกินไป ถ้าถึงวันหนึ่ง พวกเขาก็คงได้รับผลกรรมนั้นไปเอง ฉันปิดเครื่องโทรศัพท์แล้วทิ้งลงถังขยะในห้องน้ำแล้วบังคับตัวเองให้ลืมความคิดชั่ววูบนั้น จะให้พูดยังไงวันนี้พวกเขาก็เป็นคนที่ถูกทำร้าย ความคิดแบบนี้ก็ดูเลือดเย็นเกินไป ตัวฉันเองก็ไม่ควรจะเป็นคนแบบนี้ พอคิดมาถึงตอนนี้อยู่ๆในหัวของฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นมาในความคิดลึกๆของฉันทำให้สมองเหมือนจะระเบิด จนฉันค่อยๆสงบิตใจลงถึงได้รู้ว่าเสียงหัวเราะนี้ไม่ใช่เสียงหัวเราะของจ้าวซิ้วแต่เป็นเสียงเทียนปูหยู่ เสียงของเจ้านี่คล้ายผีจะตาย! ฉันลูกหัวตัวเองในใจก็ไม่หยุดที่จะปลอบตัวเอง ตอนนี้มันตอนกลางวันเพราะฉะนั้นที่ฉันคิดมันถูกแล้ว ในเวลาแบบนี้จ้าวซิ้วไม่สามารถออกมาทำร้ายผู้คนได้หรอก แต่ทว่าถึงจะคิดได้แบบนั้นแถมยังพยายามอย่างที่สุดที่จะเชื่อตัวเอง แต่ใจของฉันยังคงอึดอัดมาก ดูเหมือนว่าอากาศรอบ ๆ มันจะหนาขึ้นและกดทับฉัน จนเมื่อฉันจะเห็นร่างของซูหลินฉันถึงสบายใจขึ้น ซูหลินเป็นคนแข็งแกร่งเพราะฉะนั้นเวลาฉันอยู่กับเขาก็นับว่าปลอดภัยเป็นอย่างมาก ฉันเหลือบมองไปในห้องผู้ป่วย แต่ฉันก็ต้องถูกซูหลินลากออกมาทันที “ไม่ต้องเป็นห่วง พยาบาลเข้าไปแล้วฉันพึ่งไปดูพวกเขามา เจ้าพวกนิสัยเสียทั้งสองคนนั้นน่ะยังทำให้คนอื่นไม่ต้องกังวลเป็น....” ฉันมองดูซูหลินเริ่มบ่นฉันจึงรีบพูดตัดบท“ใช่แล้ว ฉันพึ่งนึกอะไรออก” พึ่งจะพูดออกไปประโยคเดียว อันที่จริงฉัยก็รู้สึกเสียใจ ความจริงเรื่องนี้มันก็เป็นได้แค่คำบอกเล่า อีกอย่างนอกจากพยาบาลสองคนนั้น ทุกอย่างที่เหลือคือการเดาของฉันอาจจะไม่มีความจริงเลยก็ได้ แบบนี้ถ้าพูดออกไปซูหลินจะต้องหัวเราะเยาะฉันอย่างแน่นอน ดังนั้นฉันก็เลยเกาหัวด้วยท่าทางลำบากใจ “ฉันไม่รู้ว่าที่ฉันคิดมันถูกหรือเปล่าแต่ว่าฉันคิดว่าฉันควรจะบอกกับนาย” ซูหลินเอนหลังและจุดบุหรี่ทำท่าทำทางเหมือนกันพร้อมที่จะฟัง ฉันเห็นท่าทางของเขา แล้วรู้สึกประหลาดใจ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าตำรวจที่มีประสบการณ์ยินดีฟังการคาดเดาของมือสมัครเล่นอย่างฉัน ดังนั้นฉันจึงเริ่มจริงจัง ฉันพูดทุกคำที่ได้ยินมาจากพยาบาลสองคนนั้นให้ซูหลินฟัง และซูหลินก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างมากถึงขั้นตาไม่กระพริบราวกับว่าเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดขนาดเศษขี้เถ้าของบุหรี่ที่ตกอยู่บนร่างเขา เขายังไม่รู้สึกอะไร จนถึงตอนนี้ ก็มีพยาบาลคนเดินผ่านหน้าฉันไป ฉันรีบหุบปากเพราะกลัวว่าเขาจะได้ยิน พยาบาลคนนั้นขมวดคิ้วและเอาแต่มองไปที่ซูหลินซึ่งกำลังสูบบุหรี่แล้วก็เดินจากไป เข้าออกโรงพยาบาลมาตั้งหลายวัน ซูหลินเจ้าคนติดบุหรี่ ขนาดพยาบาลก็ยังขี้เกียจที่จะสนใจแล้ว “ตอนที่ฉันกำลังแอบฟังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะของจ้าวซิ้ว ดังนั้นฉันก็เลยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของทารกพวกนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นไปได้ไหมว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับจ้าวซิ้วก็ได้? ซูหลินยังขมวดคิ้วและเพิกเฉยต่อฉัน เขาดูดก้นบุหรี่ที่ไหม้อยู่ในครั้งเดียวแล้วก็ไอสองครั้งและควันสีเทาเทาโผล่ออกมาจากจมูกและปากของเขา ผ่านไปแป๊บเดียว ซูหลินเงยหน้าขึ้นมองมาที่ฉันด้วยในหน้าสีแดงและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ถ้าไม่ใช่จ้าวซิ้วก็ต้องมีสิ่งอื่น ๆ ปะปนอยู่ยิ่งไปกว่านั้นโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่มีแสงแดดส่องถึงและนี่เป็นเวลากลางวัน ถ้าหากสิ่งนั้นสามารถทำงานได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แสดงว่ามันไม่ธรรมดาแน่ ... " ถึงแม้ซูหลินพูดเพียงเล็กน้อยแต่ฉันกลับยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากสิ่งนั้นไม่ใช่จ้าวซิ้ว อย่างน้อยเราก็วางใจเรื่องความปลอดภัยของจ้าวเซียวและไป่เวยเวยได้ แต่ว่าในเรื่องของความปลอดภัยอื่นๆนั้นเราไม่สามารถรับประกันได้ เพราะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครที่กำลังโจมตีเราอยู่ หากจะให้เริ่มสืบใหม่ตั้งแต่ต้นก็ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ถ้าสิ่งนั้นเป็นจ้าวซิ้วจริงๆ แสดงว่าพลังของเธอก็ไม่อาจคาดเดาได้ ฉันไม่รู้ว่าซูหลินจะสามรถจัดการเธอได้หรือไม่หรืออาจจะว่าไปฉันก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจ้าวซิ้วจะลงมือกับหญิงสาวทั้งสองในห้องนั้นเมื่อไหร่ ถ้าหากซูหลินปกป้องเขาไม่ได้ ฉันคิดว่าควรขอความช่วยเหลือจากเทียนปูหยู่ แต่ว่าถ้าเป็นแบบนี้ซูหลินจะต้องสังเกตเห็นเทียนปูหยู่เป็นแน่ ฉันควรจะอธิบายยังไงให้เขาฟังดีนะ... ฉันรู้สึกประหม่าและก็ไม่อยากคิดอีกต่อไป ยังไงพอถึงเวลาเดี๋ยวทุกอย่างก็คงจะคลี่คลายไปเอง ฉันพยายามปลอบตัวเองแต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้สักที ฉันรู้ว่าขนาดฉันเองยังไม่เชื่อมั่นในคำพูดของตัวเองเลย ซูหลินโยนบุหรี่ที่ดับแล้วออกไปนอกหน้าต่างแล้วมองไปรอบ ๆ ว่ามีพยาบาลรึเปล่าและถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วลุกขึ้นยืนตบไหล่ของฉันพร้อมกระซิบ “ไปกันเถอะ!” ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความงงงวยราวกับว่าฉันลืมเรื่องที่เราพึ่งคุยกันไปแล้ว"ไปไหน?” ซูหลินเหลือบมองมาที่ฉันด้วยดวงตาที่ดูเข้มงวดและเพิกเฉยใส่ฉัน พร้อมเดินไปข้างหน้า เขาเดินไปพูดกับฉันไป “เรื่องบางเรื่องก็มีต้องไปตรวจสอบเท่านั้นถึงจะเข้าใจ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่22 วิเคราะห์สถานการณ์
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A