ตอนที่196 สารภาพรักต่อท่านย่า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่196 สารภาพรักต่อท่านย่า
ต๭นที่196 สารภาพรักต่อท่านย่า ฮองไทเฮาโบกมือไปมา “นอนจะหลังจะพังแล้ว ลุกขึ้นนั่งสักพักดีกว่า” นางเงยหน้าขึ้นมองหรงท่ายกุ้ยเฟยทีหนึ่ง เห็นนางตาแดง บ่นขึ้นทันทีว่า “ทำไมร้องไห้อีกแล้วล่ะ โชคชะตาฟ้าลิขิต เจ้าร้องไห้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น กลับทำให้ข้าไม่สบายใจ” หรงท่ายกุ้ยเฟยยื่นมือไปช่วยพยุงนาง วางเบาะไว้ด้านหลังนาง กระซิบว่า “นี่เป็นน้ำตาแห่งความสุข สักประเดี๋ยวท่านก็ต้องร้องไห้ แต่รับรองว่าท่านต้องมีความสุขมากแน่ๆ” “อ้อ” ฮองไทเฮายิ้มอ่อนๆ “งั้นรึ มีเรื่องอะไรให้น่าดีใจล่ะ หรือว่าสนมคนไหนตั้งท้องแล้ว” เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องเกี่ยวกับเหล่านางในนั้น นางเข้าใจดี ไม่เคยมีอะไรกัน จะท้องได้อย่างไร ตอนนี้มีข่าวลือในเหล่านางในว่า ฝ่าบาททรงไร้สมรรถภาพทางเพศ ก็ไม่แปลกที่ทุกคนต่างแย่งกันไปเข้าเฝ้าท่าน เพื่ออยากได้รับความเอ็นดู ไม่อย่างนั้นคงอยู่ไม่ได้ “มีแม่ท่านหนึ่ง พาลูกน้อยยาหยีสองคนมาพบท่าน” หรงท่ายกุ้ยเฟยพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย “อ้อ เย่เอ๋อพาอานเหยียนและเสี่ยวจิ้นจู่เข้าวังมารึ เยี่ยมเลย ข้ายังไม่เคยเจอเสี่ยวจิ้นจู่ ยากที่จะเชื่อว่าเย่เอ๋อยังคิดถึงยายแก่อย่างข้า” ฮองไทเฮายิ้มจางๆ ในตาเกิดความคาดหวัง ทำให้ดวงตาที่เศร้าหมองเนื่องจากป่วยมานานกลับมาเป็นประกายขึ้นอีกครั้ง “ใกล้ถึงแล้วล่ะ ท่านรอสักหน่อย” หรงท่ายกุ้ยเฟยแกล้งไม่ยอมบอก จริงอย่างที่ว่า หรงท่ายกุ้ยเฟยยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากนอกวัง ม่านเครื่องแก้วหลากสีถูกเปิดออก หว่านเหนียงเดินเข้ามาก่อน รวบม่านไว้แล้วพูดเบาๆ ว่า “นายหญิง เข้ามาเร็ว” ฮองไทเฮายิ้มและมองตาม เมื่อคนที่อยู่หลังม่านปรากฏตัว นางอึ้ง สองมือจับผ้าห่มแน่นและพยายามนั่งตัวตรง พึมพำว่า “พระเจ้า ข้าไม่ได้ตาลายใช่ไหม หรือข้าป่วยจนเสียสติไปแล้ว” หรงท่ายกุ้ยเฟยหัวเราะและพูดว่า “ท่านน่ะ เหมือนข้าเมื่อกี้เลย ข้าก็คิดว่าตนเองตาลายเหมือนกัน” ด้านหลังของชูเซี่ยมีเด็กน้อยโผล่มาสองคน มองทุกสิ่งในนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วก็มองไปที่ใบหน้าของฮองไทเฮา จิงโม่และฉองเหลารู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกแปลกนี้ทำให้พวกเขาจับมือและเดินหน้าขึ้น ผ่านชูเซี่ยไป เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง “อ๊า......” ฮองไทเฮาตกใจ ตอนเห็นชูเซี่ย ท่านก็ไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเองแล้ว พอได้เจอกับฉองเหลาและจิงโม่ ท่านคิดว่าสมองตัวเองรวนไปแล้ว คิดยังไงก็คิดไม่ออก ได้แต่อ้าปากค้าง มองดูใบหน้าที่คล้ายกันถึง 90% นี้ “คุณย่า ข้าคือจิงโม่” “คุณย่า ข้าคือฉองเหลา” “อื้มมม” ฮองไทเฮารีบตอบรับ ดูเหมือนว่าจะทำอะไรไม่ถูก เลยมองไปทางหรงท่ายกุ้ยเฟยเพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นหลานชายหลานสาวของนางจริงหรอ ลูกของชูเซี่ยเองหรอ เจอกันครั้งแรก ทำยังไงถึงจะไม่ให้เสียมารยาทต่อหน้าหลานๆล่ะ หรงท่ายกุ้ยเฟยน้ำตาคลอเบ้าพลันพูดว่า “คนที่เป็นย่า เมื่อเจอกับหลานๆ ต้องให้ของขวัญสักชิ้นไม่ใช่หรอ” ฉองเหลาและจิงโม่มองหน้ากันหนึ่งที ลังเลเล็กน้อย แล้วหยิบลูกอมจากเสื้อมาหนึ่งชิ้น วางไว้ข้างเตียงของฮองไทเฮา พร้อมพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่า “คุณย่า นี่ได้มาจากเจ๊ผาง พวกข้าไม่กล้ากินหมด ขอมอบให้ท่าน” “เยี่ยมเลยๆ ” ฮองไทเฮายื่นมือออกไป รับลูกอมมาสองเม็ด แกะเปลือกลูกอม แล้วเอาลูกอมใส่ปาก น้ำตาไหลพราก “อื้ม อร่อยมาก หวานมากเลย” จิงโม่และฉองเหลากลืนน้ำลาย และมองดูฮองไทเฮา ลูกอมเม็ดสุดท้ายนี้ พวกเขาอดทนไม่กินเป็นเวลานาน เพราะแม่ไม่ให้กิน แม่บอกว่า เด็กกินไม่ได้ เขาใส่น้ำตาลเยอะ เดี๋ยวฟันจะผุเอา ฉองเหลาเห็นนางร้องไห้ ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “คุณย่า ไม่อร่อยเลยหรอ ถ้าไม่อร่อยคายออกก็ได้ครับ” ฮองไทเฮาจับมือเขาไว้ และจับมือจิงโม่ด้วย เฝ้าดูอย่างไม่ยอมห่างสายตา ความปีติยินดีจู่โจมสมองจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว “ย่ามีความสุขต่างหาล่ะ ได้เจอพวกเจ้า ย่ามีดีใจมากเลย” ฮองไทเฮาขยับมือหนึ่งที พบว่ากำไลที่เคยใส่ถูกถอดออกแล้ว จึงเรียบเรียกหาหว่านเหนียง “หว่านเหนียง เร็วเข้า เอาของมาเร็วเข้า ให้เด็กๆ เลือก ชอบอันไหนก็เลือกอันนั้น” หว่านเหนียงถามอย่างงุนงง “ให้เอาอะไรมาเพคะ” ฮองไทเฮาได้สติ ใช่แล้ว อะไรดีล่ะ เด็กๆ คงไม่ชอบเครื่องประดับ แล้วก็ การให้เครื่องประดับเป็นของขวัญเชยเกินไปแล้ว แต่ว่า ในวังไม่มีของเล่น ไม่มีของเล่นของเด็ก “เอาไข่มุกตะวันออกมา ให้เด็กดีดเล่น”ฮองไทเฮาบอก “เพคะ หว่านเหนียงรีบลงไปเอา” ชูเซี่ยเดินเข้ามาหา “ชูเซี่ยเคยเจอฮองไทเฮา” ฮองไทเฮาเงยหน้า แหงนมองชูเซี่ย มือกลับดึงเด็กทั้งสองไว้ไม่ยอมปล่อย ในตาแฝงด้วยความรู้สึกนับพัน แต่มากไปกว่านั้นคือมีความสุข “กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาน่ะดีแล้ว ขอบคุณเจ้ามากนะชูเซี่ย ข้าขอบคุณเจ้าที่มีหลานที่น่ารักให้ข้าตั้งสองคน” เด็กสองคนนี้ เหมือนฝ่าบาทตอนเด็กเลย คนนึงฉบับผู้ชาย อีกคนฉบับผู้หญิง ชูเซี่ยยิ้มและพูดว่า “ไทเฮาเพคะ หากท่านอยากมอบของขวัญให้พวกเขา ไม่ต้องมอบของแพงขนาดนี้ก็ได้ ทำของหวานให้พวกเขาสักจานก็พอแล้ว พวกเขาตะกละ” “เยี่ยมเลย” สองฝาแฝดได้ยินข้อเสนอของชูเซี่ย ต่างกระโดดตบมือดีใจใหญ่ ฮองไทเฮาได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา ใจละลายไปหมดแล้ว รีบพูดว่า “หว่านเหนียงๆ รีบไปทำของหวาน ทำขนมกุ้ยฮวา ปาท่องโก๋ พุทราจีนเชื่อม ชอบกินอะไรทำอันนั้น ไม่ใช่สิ ทำทุกอย่างเลย……” นางถูมือไปมา ออกคำสั่งเรื่อยๆ ทำให้ฉองเหลาแปลกใจเป็นอย่างยิ่งฉองเหลาถาม “คุณย่า ท่านก็ชอบถูมือไปมาเหมือนกันหรอครับ พี่สาวก็ชอบถูมือเหมือนกัน ตอนที่พี่สายตื่นเต้นก็จะถูมือ ระหว่างทางที่มาที่นี่ พี่ก็ถูมือไม่หยุด” จิงโม่โกรธหน้าแดง “อย่าพูดซี้ซั้ว ข้าไม่ได้ตื่นเต้น เจ้าต่างหากที่ตื่นเต้น” “เจ้าก็ตื่นเต้นเหมือนกันแหละ ตอนอยู่ในรถม้าเจ้าบอกว่าใจตื้นแรงมาก เหงื่อออกที่มือด้วยก็เลยถูมือ ไม่เชื่อถามแม่ได้เลย”ฉองเหลาหันกลับไปมองชูเซี่ย “ท่านแม่ ข้าพูดซี้ซั้วหรือไม่” ชูเซี่ยหัวเราะและพูดว่า “เจ้าไม่ได้พูดซี้ซั้ว พวกเราลงไปกันเถอะ ไปกินของอร่อยกับพี่เชียนซาน วันนี้อนุญาตให้พวกเจ้ากินเยอะๆ แต่ก็ต้องดื่มน้ำให้มากๆ เข้าใจหรือยัง” “เข้าใจแล้วค่ะ/ครับ” สองฝาแฝดตอบด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ เชียนซานจับมือทั้งสอง พลันหัวเราะและพูดว่า “พวกข้าออกไปก่อนนะ” ฮองไทเฮาเห็นว่าพวกเขากำลังจะออกไป รีบนั่งตัวตรงแล้วพูดว่า “กินตรงนี้เถอะ อย่าออกไปเลย ให้ข้าได้เห็นพวกเจ้าด้วย” เชียนซานยิ้มและพูดว่า “ฮองไทเฮา เจ้าเด็กน้อยยาหยีสองคนนี้กินแล้วดูไม่ได้เลย อีกอย่าง พวกเขายังไม่ได้กินข้าวเย็น หิวแล้ว เดี๋ยวลงไปหาอะไรกินก่อน อิ่มท้องแล้วจะกลับมา วางใจเถอะ พวกเขาไม่ไปไหนหรอก พวกเขาจะมาหาท่านแน่นอน” “จริงรึ” ฮองไทเฮามองหน้าชูเซี่ย “จริงรึ” ชูเซี่ยระงับความเศร้าในใจ “ถ้าท่านชอบ จะให้พวกเขาอยู่กับท่านในวังสักพัก ข้าก็จะอยู่ที่นี่ชั่วคราว จนกว่าท่านจะดีขึ้น” “ดีเลย” ฮองไทเฮารีบพูดกับเชียนซานว่า “ถ้าอย่างงั้นเจ้ารีบพาพวกเขาลงไปหาอะไรกิน อย่าให้เด็กน้อยยาหยีของข้าได้หิว รีบไปเร็ว” “เพคะ”เชียนซานตอบรับพลันจับมือสองฝาแฝดเดินออกไป สองฝาแฝดหันหลับไปมองฮองไทเฮาหลายที ฮองไทเฮาเองก็นั่งมองทั้งสองเดินออกไป จิงโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันพูดกับเชียนซานว่า “รอสักปะเดี๋ยว” นางสลัดมือของเชียนซานทิ้ง วิ่งเหยาะกลับมา หอมแก้มฮองไทเฮาหนึ่งที “หนูรักคุณย่านะคะ” พูดจบ ก็หน้าแดงวิ่งออกไป น้ำตาที่เพิ่งหยุดของฮองไทเฮา เริ่มไหลพรากออกครั้ง 
已经是最新一章了
加载中