ตอนที่ 198 พี่ที่มีเงิน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 198 พี่ที่มีเงิน
ต๭นที่ 198 พี่ที่มีเงิน ชูเซี่ยรับมา และเริ่มอ่านใต้แสงไฟ เริ่มแรกการวินิจฉัยโรคและใบสั่งยามีครบทุกอย่าง ละเอียดมาก แรกๆ แค่รู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็เลยจ่ายยาบำรุงกำลังให้ ล้วนเป็นยาบำรุงเลือดและชี่ หลังจากนั้นเริ่มมีอาการไอ ใบสั่งยาที่จ่ายตามพระอาการ และหลังจากที่ทานยาแล้วอาการดีขึ้นนิดหน่อย แต่เมื่อมีการจ่ายยาเพิ่มอีก พระอาการก็เปลี่ยนไป ซึ่งนั่นหมายความว่า พระอาการเปลี่ยนไปตามยาที่ทาน “ตอนจ่ายใบสั่งยาแรก และทานยาตามใบสั่ง ได้ผลดีมาก แต่หลังจากนั้นสองสามวัน ยาก็จะไม่ได้ผลแล้ว” หมอหลันอธิบายอยู่ข้างๆ ชูเซี่ยพยักหน้ารับ “อื้ม ข้าเห็นแล้วล่ะ ไม่ใช่ปัญหาของตัวยา แต่ร่างการเกิดอาการดื้อยา ดังนั้นตัวยาจะไม่ได้ผลอีก และยังเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ทำให้พระอาการแย่ลง” “อาการดื้อยารึ” หมอหลันถามอย่างสงสัย ชูเซี่ยอธิบายว่า “ร่างกายมนุษย์จะมีภูมิคุ้มกัน ภูมิคุ้มกันเหล่านี้จะสามารถต่อต้านไวรัสบางชนิด แต่ก็มีไวรัสบางชนิดที่สามารถทำลายภูมิคุ้มกันนี้ได้ ในตอนนี้ เราก็ต้องใช้ยาหรือวิธีการรักษาอื่นๆ เข้าช่วย เพื่อฆ่าเชื่อไวรัส แต่ว่า เชื้อไวรัสนี้ค่อนข้างฉลาด มันสามารถทำลายประสิทธิภาพของตัวยากได้อย่างรวดเร็วและทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วย แล้วแปรเปลี่ยนเป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่หรือสร้างเชื้อไวรัสตัวใหม่ ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะจ่ายยาอะไร ก็ไม่สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้” หมอหลันตะลึง “เชื่อไวรัสงั้นรึ เป็นอาการป่าวยหรือพิษล่ะ หรือว่าโดนวางยาแล้ว” ชูเซี่ยส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่าโดนวางยา” นางชะงักไปครู่หนึ่ง อันที่จริงจะบอกว่าโดนวางยาก็ไม่ผิด ที่มนุษย์มีอาการป่วย เพราะเชื้อไวรัสเข้าไปในระบบภูมิคุ้มกัน จะถือว่าเป็นพิษก็ได้ หมอหลันเห็นว่านางกำลังจะพูดแล้วไม่พูด จึงถามขึ้นว่า “แล้วมันยังไงกันล่ะ ป่วยหรือว่าโดนวางยา” “ต้องดูอะไรอีกสักหน่อย คืนนี้ข้าจะอยู่ที่นี้ อยู่ดูพระอาการตอนหลับ หากหมอหลันสะดวกสามารถอยู่ดูพระอาการกับข้าได้” ชูเซี่ยกล่าว หมอหลันกล่าวว่า “นั่นแหละที่ข้าน้อยต้องการได้ยิน” ชูเซี่ยกล่าว “ไม่รู้ว่าจูเก๋อหมิงสามารถเข้าวังมาได้หรือเปล่า ข้าอยากได้ความเห็นจากเขา” หรงท่ายกุ้ยเฟยได้ยิน พูดว่า “สามารถให้เขามาได้ในทันที แต่ก็ไม่จำเป็นหรอก หลายวันมานี้เขามาตลอด รออีกสักปะเดี๋ยวเดียวก็คงมา” เป็นตามอย่างที่พูด ครึ่งชั่วยามต่อมา ก็มีคนวังมารายงานว่า จูเก๋อหมิงมาแล้ว หรงท่ายกุ้ยเฟยเริ่มให้คนเชิญจูเก๋อหมิงเข้ามา ขณะนั้น ชูเซี่ยกำลังวินิฉัยโรคกับหมอหลันข้างๆ โต๊ะ เพื่อที่จะให้หมอหลันเข้าใจง่ายมากขึ้น นางได้วาดภาพพร้อมระบุรายละเอียด ให้เขารู้ว่าเชื้อไวรัสจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ และกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว สุดท้ายกลืนประสิทธิภาพของตัวยาอย่างไร ตอนจูเก๋อหมิงเข้ามา ได้เจอกับชูเซี่ย และเพียงถามหรงท่ายกุ้ยเฟยว่า “กุ้ยไท่เฟย พระอาการของฮองไทเฮาดีขึ้นบ้างไหม นอนหลับหรือไม่” กุ้ยไท่เฟยหยงตอบ “หลับไปแล้วล่ะ หลับไปประมาณหนึ่งชั่วยาม” “จริงรึ” จูเก๋อหมิงประหลาดใจ “นอนหลับไปหรือสลบไปล่ะ” ช่วงก่อน ฮองไทเฮามีพระอาการง่วงซึม ไม่ค่อยตื่นมา ที่จริงแล้วไม่ได้หลับ เพียงแค่สลบไปชั่วคราว “หลับไปแล้ว” หรงท่ายกุ้ยเฟยตอบ จูเก๋อหมิงเดินตรงไป เห็นฮองไทเฮาหายใจตามปกติ แม้หน้าจะซีด แต่ดูไม่อ่อนระโหยเหมือนแต่ก่อน เขากระซิบพลันถอยหลัง“ในเมื่อท่านหลับไปแล้ว ถ้าอย่างงั้นข้ารอให้ท่านตื่นก่อนค่อยจับชีพจร เกรงว่าจะทำให้ท่านตื่น” หรงท่ายกุ้ยเฟยพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน เจ้านั่งก่อน ทานอะไรหรือยัง ข้าได้สั่งคนให้ทำกับข้าวแล้ว เจ้าและชูเซี่ยทานสักหนอยนะ” จูเก๋อหมิงเงยหน้าขึ้นในทันใด“ชูเซี่ย” ชูเซี่ยหันหลังมา เห็นจูเก๋อหมิงมาแล้ว จึงส่งเสียงว่า“จูเก๋า ฉันอยู่นี่” จูเก๋อหมิงมองเห็นใบหน้าภายใต้แสงเทียน เหมือนหยุดหายใจไปชั่วครู่ ทำให้หายใจขัดข้อง เขามองนางนิ่งๆ และยิ้ม แล้วพลันเดินเข้าไปหา“เจ้ากลับมาแล้วรึ” “ใช่” “กลับมาเมื่อไหร่ล่ะ” “เพิ่งกลับมาถึงวันนี้”ชูเซี่ยทำท่าให้เขานั่งลง“เจ้ามาได้ทันเวลาจริงๆ ข้ากับหมอหลันกำลังวินิฉัยพระอาการ” นางเอียงหัว มองไปที่หมอหลัน“ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง” หมอหลันตอบ“หมอชูอธิบายได้ละเอียดขนาดนี้ ข้าน้อยเข้าใจแล้วล่ะ” จูเก๋อหมิงมองไปที่ภาพวาดสักครู่ ถามขึ้นว่า “วาดอะไรน่ะ” หมอหลันตอบ “เมื่อกี้หมอชูกำลังวิเคราะห์ว่าทำไมยาที่จ่ายมาไม่ได้ผล เป็นเพราว่าพระอาการของฮองไทเฮาแปรเปลี่ยนไปตามการใช้ยา” “แปรเปลี่ยน”จูเก๋อหมิงมองชูเซี่ยด้วยความสงสัย“ข้าพอจะเข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดอะไร แต่ว่า ทำไมถึงเป็นเยี้ยงนี้ล่ะ” ชูเซี่ยตอบ“ข้ายังไม่สามารถสรุปได้ แต่ว่า จากการวิเคราะห์ล่าสุดมีสองกรณี กรณีแรกคือโดนวางยา พิษประเภทนี้ร้ายแรงมาก แปรเปลี่ยนได้ตลอด กรณีที่สองคือฮองไทเฮาเป็นโรคใหม่ หรือเจอเชื้อไวรัสใหม่ ถูกเชื้อไวรัสนี้รุกราน” “เชื้อไวรัส” จูเก๋อหมิงนึกถึงตอนวินิฉัยเคสกรณีด้วยกันกับนาง นางเคยบอกว่า เป็นหวัดเพราะถูกแบคทีเรียหวัดรุกราน ก็เป็นเชื้อไวรัสประเภทหนึ่ง “จูเก๋า เจ้านั่งลงก่อน เจ้าลองเล่าพระอาการของฮองไทเฮาให้ข้าฟังหน่อย” ชูเซี่ยดึงเก้าอี้ออกมาให้เขานั่งลง จูเก๋อหมิงเห็นสีหน้าจริงจังของนาง ไม่พูดถึงเรื่องราวของนาง ราวกับว่านางไม่รู้สึกเลยว่าพวกเขาจากันมานานถึงห้าปี รู้สึกว่าท่าทางจริงจังของนางมีเสน่ห์เหลือเกิน แม้ว่าจากกันถึงห้าปี เขาก็รู้สึกเหมือนเดิม สองฝาแฝดถูกเชียนซานพาไปกินของอร่อยที่วังข้างๆ หลังจากนั้นก็เอาของเล่นให้พวกเขาเล่น ซึ่งเป็นของอานเหยียนตอนเข้าวัง สองฝาแฝดรู้สึกถึงความแปลกใหม่ เล่นกันไปพักใหญ่ พอดีกับหลวี่หนิงที่มาถามเรื่องบางอย่างกับเชียนซานเชียนซานฝากเหล่านางข้าหลวงช่วยดูสองฝาแฝด ย้ำพวกเขาให้สำรวมหน่อย แล้วก็เดินออกไป หลังจากที่เชียนซานเดินออกไป สองฝาแฝดเล่นจนเบื่อแล้วไปนั่งตรงระเบียง ดูเหมือนจะเบื่อเต็มทน “ฉองเหลา ท่านแม่บอกว่าเข้าวังครั้งนี้จะได้เจอท่านพ่อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านพ่ออยู่ไหน” จิงโม่ถาม ฉองเหลาส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ ที่นี้กว้างเกินไป ตอนออกมาจากห้องท่านย่าต้องเดินอีกพักใหญ่จึงจะถึงที่นี่ พี่เชียนซานบอกว่าที่นี่ก็เป็นห้องของคุณย่าหมือนกัน คุณย่าอยู่บ้านหลังใหญ่คนเดียวแบบ ไม่รู้สึกเบื่อหรอ” “นั่นแหละ ที่ๆพวกเราเคยอยู่เหมือนหินก้อนเล็ก บ้านของคุณย่าเหมือนหินก้อนใหญ่ คุณย่าต้องรวยแน่ๆ เลยล่ะ” จิงโม่กล่าว “ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ท่านพ่อของเราคือฝ่าบาท รู้ไหมว่าฝ่าบาทคือใคร”ฉองเหลาพูดอย่างได้ใจ จิงโม่ส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือฝ่าบาท เจ้าหรือหรือเปล่า” ฉองเหลาหน้าหงอย “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่นายท่านเหมาเคยบอกว่า ฝ่าบาทเก่งและมีเงินมาก” “หลี่ฟูจื่อก็มีเงิน หลี่ฟูจื่อบอกว่า หากแม่แต่งงานกับเขา เขาจะซื้อถังหูลู่ให้พวกเราสิบไม้เลย” จิงโม่กล่าว ฉองเหลาหัวเราะ “สิบไม้แล้วไง ท่านพ่อสามารถซื้อให้พวกเราร้อยไม้เลยแหละ” จิงโม่ตาเป็นประกาย “ร้อยไม้เลย ถ้าอย่างนั้นต้องรวดขนาดไหนล่ะ เจ้าพูดซี้ซั้วหรือเปล่า ร้อยไม้กินไม่หมดง่ายๆ นะ” ฉองเหลาอธิบาย “ไม่ได้พูดซี้ซั้ว ถ้าไม่เชื่อเราไปถามท่านพ่อัน” “ไปถามที่ไหนล่ะ ข้าไม่เคยเจอ” จิงโม่แหงนมองข้างนอกหนึ่งที “อีกอย่างเราก็ไม่รู้ว่าคืนนี้ต้องนอนที่ไหน เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย ถ้ามีเคสฉุกเฉินแม่ก็มักจะไม่กลับบ้าน ตอนพาพวกเราไป พวกเราก็ต้องนอนลานบ้าน ครั้งที่แล้วที่นอนลานบ้าน ข้าถูกหนูกัดด้วยแหละ” “ข้าถูกแมลงสาบกัด”ฉองเหลาพูดอย่างน้อยใจ จิงโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “ฉองเหลา เราไปหาท่านพ่อกันเถอะ” 
已经是最新一章了
加载中