ตอนที่ 206 เรื่องเก่ามิต้องพูดอีก
1/
ตอนที่ 206 เรื่องเก่ามิต้องพูดอีก
ชายาเกิดใหม่ของข้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 206 เรื่องเก่ามิต้องพูดอีก
ตนที่ 206 เรื่องเก่ามิต้องพูดอีก ชูเซี่ยสะกดความขมขื่นไว้ในส่วนลึกของใจ ทำเป็นพูดอย่างสดใสว่า “จิงโม่เป็นพี่สาว แต่ว่าฉองเหลาไม่เคยยอมรับ มักบอกว่าตัวเขาเป็นพี่ชาย สำหรับเรื่องที่ว่าใครเป็นพี่ใหญ่พวกเขาทั้งสองแย่งกันมานาน จนกระทั่งก่อนกลับเมืองหลวง ฉองเหลาถึงได้ยอมรับว่าจิงโม่เป็นพี่สาว” หลี่เฉินเย่นมองดูที่ชูเซี่ย เลิกคิ้วถามว่า “ทำไมล่ะ?” “ฉองเหลาอยากเป็นพี่ชายมาตลอด แต่จิงโม่เดิมทีก็เป็นพี่สาวอยู่แล้ว ย่อมไม่อยากจะเป็นน้องสาว” “แล้วทำไมหลังจากนั้นฉองเหลาถึงยอมรับแล้วล่ะ?” ชูเซี่ยมองไปที่เขาแวบหนึ่ง บอกอย่างไม่เป็นธรรมชาติว่า “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว ในวันก่อนที่จะกลับเมืองหลวง อยู่ๆก็เรียกจินโมว่าพี่สาว” ฉองเหลายอมเรียกจิงโม่ว่าพี่สาว ก็เพราะว่าเขาจะได้กลับเมืองหลวงไปเจอพ่อ เขารอคอยวันนี้มาตลอด ชูเซี่ยรู้ แต่ไม่กล้าที่จะบอก “เจ้าเล่ามากกว่านี้อีกหน่อยได้ไหม?” หลี่เฉินเย่นคราวนี้ไม่ได้แค่หาเรื่องคุยเท่านั้น เขาอยากรู้ให้มากกว่านี้ ลูกๆของเขา เรื่องประหลาดมากมาย อยู่ๆเขาก็มีลูกถึงสองคน เป็นที่ของเขากับชูเซี่ย เพียงแค่คิด ก็ทำให้เลือดในกายสูดฉีดด้วยความตื่นเต้น ชูเซี่ยพยักหน้า “แน่นอนว่าได้สิ จิงโม่ตอนอายุได้แปดเดือนก็เรียกแม่ได้แล้ว แต่ว่าฉองเหลากลับเรียกแม่ได้ตอนอายุหนึ่งขวบ ร่างกายฉองเหลาแย่มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าตอนที่คลอดเขา ผ่านไปนานเขาก็คลอดไม่ออกมา เกือบจะหยุดหายใจ ตอนที่คลอดออกมาก็ร้องไห้ไม่เป็น ต้องจับขึ้นมาตีถึงได้ร้องไห้ออกมา ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็เป็นโรคปอดบวม ดื่มนมไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องดื่มยา ปอดบวมในเด็กแรกเกิดเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ เขายังมีอาการแซกซ้อนอย่างอื่นอีก ตอนนี้นสถานการณ์ข้าก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเสียเลือดมากจากการคลอด ครึ่งเดือนก็ไม่สามารถลงจากเตียงได้ เป็นเหล่าจูที่คอยดูแลพวกลูกๆตลอด หลังจากที่ปอดบวมของฉองเหลาดีขึ้นแล้ว ข้าก็จัดพิธีกรรมหนึ่งขึ้น ให้เขาเป็นพ่อบุญธรรมของเด็กๆอย่างเป็นทางการ” หลี่เฉินเย่นได้แต่ฟัง ภายในใจทั้งเจ็บทั้งเศร้า เขาคาดหวังเป็นอย่างมากว่าตัวเองจะสามารถมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์เหล่านั้น คาดหวังเป็นอย่างมากว่าตอนที่ชูเซี่ยและลูกๆเกิดเรื่องขึ้น จะมีเข้าอยู่ข้างๆ “เพราะว่าฉองเหลาป่วยแต่เด็ก ดังนั้นจิงโม่จึงต้องทำหน้าที่พี่สาว ดูแลน้องชาย จิงโม่ตอนอายุสามขวบเริ่มเรียนทำอาหาร เพราะว่าตอนนั้นพวกเรามีปัญหาการเงิน ปีนั้นเกิดอุทกภัย เกิดโรคระบาด จูฟางหยวนและข้าจึงยุ่งจนไม่มีเวลา ข้าจึงให้นายท่านเหมาและเจ้าถ่านคอยดูแลสองพี่น้องบ่อยๆตอนออกตรวจไข้ ดังนั้น เพื่อให้พวกเขาไม่ถึงกับต้องทนหิว เหล่าจูจึงสร้างเตาทำอาหารเตี้ยๆไว้หนึ่งเตา...” ชูเซี่ยค่อยๆนึกถึงเรื่องราวห้าปีที่ผ่านมา สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ปวดหัวบ้าง หัวเราะบ้าง เป็นเหมือนเวลาห้าปีของเธอ พอคุยกันแบบนี้ ก็ผ่านไปหนึ่งชั่วยามกว่าแล้ว หลี่เฉินเย่นฟังรู้จบ ชูเซี่ยเองก็พูดไม่รู้จบ ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องน่าสนใจหรือเรื่องซนๆของเด็กๆ ก็สามารถพูดออกมาได้เลย หลี่เฉินเย่นฟังอย่างเงียบๆมาตลอด บางครั้งก็เห็นอารมณ์ของนางขึ้นลงบ้าง หรือบางทีก็ยิ้ม หรือบางทีก็ขมวดคิ้ว แต่ว่า พูดแซกน้อยมาก กระทั่งลู่กงกงเดินเข้ามา บอกว่า “ฝ่าบาท ตีหนึ่งแล้วพะยะค่ะ ได้เวลาพักผ่อนแล้วพะยะค่ะ” “ตีหนึ่งแล้ว?” หลี่เฉินเย่นรู้สึกเวลาเดินไปเร็วมาก เหมือนดังเขาเพิ่งนั่นที่นี่ได้ไม่นาน เขาไปที่ชูเซี่ยอย่างอาลัยอาวรณ์ “ตีหนึ่งแล้ว เจ้าก็ควรพักผ่อนได้แล้ว” ชูเซี่ยรู้สึกเหนื่อยนิดๆแล้ว กล่าว “ดี ถ้าไปดูฮองไทเฮาหน่อยก็จะไปพันผ่อน คืนนี้ไม่ออกจากวังแล้ว” หลี่เฉินเย่นยืนขึ้น สีหน้ายังอาลัย แต่กลับจากไปโดยง่าย โบกมือลา “ดี งั้นเจอกันพรุ่งนี้” “เจอกันพรุ่งนี้!” ชูเซี่ยลุกยืนขึ้นไปส่ง ลู่กงกงโค้งคำนัพ ก็เดินออกไปพร้อมกับหลี่เฉินเย่น ชูเซี่ยเดินไปส่งถึงปากประตู ได้ยินเสียงลู่กงถามหลี่เฉินเย่นว่า “คืนนี้ไม่ได้เปิดแผ่นป้าย ฝ่าบาทอยากเสด็จไปยังตำหนักใดพะยะค่ะ? จะให้กระหม่อมจะแจ้งคำหนึ่ง” หลี่เฉินเย่นเหมือนไม่ได้ตอบกลับ เพียงแค่เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ชูเซี่ยยังคงยืนอยู่หน้าประตู ภายในใจมีความเจ็บปวดค่อยๆผุดขึ้นมา สุดท้ายแล้ว นางก็ลืมความรักนี้ไม่ได้ เสียงคำถามหนึ่งคำของลู่กงกง ทำลายกำแพงที่นางสร้างขึ้นจนหมดสิ้น นางพยายามกลั้นน้ำตาไว้ กลับไปนั่งลง มองไปที่เก้าที่เขานั่งเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ไม่มีแม้สักคน รู้สึกเหงามากๆ “เสียใจ?” เสียงของจูเก๋อหมิงค่อยๆดังขึ้นมาจากประตู ชูเซี่ยรีบเงยหน้าขึ้น มองเขาแวบหนึ่ง “พูดอะไรน่ะ?” “ถ้าเสียใจก็ไม่ต้องกลั้นไว้หรอก อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ เมื่อครู่นี้ข้ามองดูจากระเบียงทางเดินตลอดเวลา พวกเจ้าแค่มองไม่ข้าเท่านั้นเอง” จูเก๋อหมิงบอก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ปฏิกิริยาของชูเซี่ยตอนที่ได้ยินคำถามของลู่กงกง เขาเห็นหมด ชูเซี่ยฝืนยิ้มออกมา “ไม่มีอะไรเสียใจ ข้ากับเขาเราเลิกกันเลิก ห้าปีก่อน พวกเราก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว” จูเก๋อหมิงมองดูนาง “เจ้าหลอกตัวเองได้แต่หลอกคนอื่นไม่ได้หรอก” ครู่หนึ่ง “บางที ขนาดหลอกตัวเองเจ้ายังทำไม่ได้เลย แล้วจะฝีนทำไมกัน? เจ้ากับไม่มีทางเป็นไปได้จริงๆแล้วหรือ?” ชูเซี่ยมองที่เขา “มาพูดเอาตอนนี้แค่ส่วนเกินไม่ใช่หรือ?” “ส่วนเกิน?” จูเก๋อหมิงกล่าว “เจ้าก็น่าจะรู้ คนตำหนักในพวกนั้นของเขา ล้วนเป็นวิธีการทางการเมือง ไม่มีทางเลือก อีกอย่างหนึ่ง เขาเป็นฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใคร เจ้าไม่รู้หรือ? เขาไม่เคยแตะต้องสนมพวกนั้นเลย ยอมอดทนต่อความสงสัยจากหลายฝ่าย” “จูเก๋อหมิง อย่าพูดเรื่องนี้กับข้าอีก” ในใจของชูเซี่ยว้าวุ่น “ไม่ว่าพวกนางจะเข้าวังมาเพื่ออะไร แต่สุดท้ายก็เป็นสนมของเขา ข้าเป็นกุ้ยเฟยของจักรพรรดิองค์ก่อน นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” “ต้องมีสักทางสิ” ชูเซี่ยไม่อยากพูดแล้ว มีวิธีอะไรอีก? ไม่มีอะไรมากกว่าการโกหกคนทั้งโลก แต่เด็กๆก็เกิดมาแล้ว นางจะไม่ยอมรับว่าตัวเองคือชูเซี่ยหรือ? ไม่มีใครรู้ว่านางเคยเป็นหยางลั่วอี ไม่มีใครเคยรู้ว่านางเคยเป็นพระชายาอันหนิง ทุกคนรู้เพียงว่านางคือชูเซี่ยกุ้ยเฟยของจักรพรรดิองค์ก่อน สำหรับเรื่องการปลงพระชนน์จักรพรรดิองค์ แม้ว่าจะสืบจนกระจ่างแล้ว แต่ว่า ในสายตาของเหล่าขุนนางและประชาชน นางก็ยังคงเป็นคนร้าย ดังนั้น ความเป็นจริงนั้นสามารถจะปลอมแปลงแต่งออกมาได้ คนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความผิด ถ้าเขาพลอยติดไปด้วย สถานการณ์จะเป็นอย่างไร? นางรู้จักระบบการปกครองของราชวงค์ฉู่ดี แม้ว่าอำนาจราชวงศ์จะถูกรวมแล้ว แต่ว่า จักรพรรดิไม่ได้ก็ไม่มีเสียงเด็ดขาด ยังมีวี่สื่อต้าฟูคอยตรวจสอบและเสียงของเหล่าขุนนาง หากว่ามีอะไรผิดพลาด วี่สื่อต้าฟูก็มีสิทธิจะฟ้องร้องได้ แม้ว่าจะเป็นบุตรแห่งสวรรค์ ก็ต้องรับโทษเช่นเดียวกัน แล้วจะดิ้นรนเพื่ออะไร? การขึ้นครองราชย์ก็ไม่ธรรมดาแล้ว ความสงบที่เห็นในทุกวันนี้ เขาใช้เวลาห้าปีในการเปลี่ยนมัน แล้วเหตุใดต้องแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความรักที่ได้หายไปแล้วของพวกเขาล่ะ? ความรักของเจ้ามันไม่มีความสำคัญเลยหรือ? “อย่าได้พูดเรื่องนี้อีก อุปสรรคมากมาย ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าหรือข้าบอกว่าจะทลายมันก็สามารถทลายลงได้” ชูเซี่ยสิ้นสุดการสนทนาเรื่องนี้ จูเก๋อหมิงถอนหายใจเบาๆ “ทำไมเจ้าถึงได้ดูแคลนความรู้สึกของตัวเองอย่างนี้ล่ะ? เจ้าไม่คิดถึงตัวเองบ้างเลย ทุกข์ตัวเอง ลำบากตัวเอง เจ้าทำเพื่อใคร? คนพวกนั้นไม่เคยสนใจเจ้าเลย” “ข้าเพียงแค่ไม่อยากใส่ใจตัวเองเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้น ความอยากที่มีมันไม่สามารถเติมเต็มได้ ตอนนี้ข้ามีลูกชายลูกสาว มีความรู้การแพทย์ที่สามารถช่วยชีวิตคนได้ ไม่ต้องกังวลอาหารการกิน มีหลังคาคลุมหัวให้อาศัย แค่นี้ก็ดีกว่าใครหลายคนแล้ว จูเก่อ เกิดเป็นคนไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบหรอก อะไรก็อยากได้ อะไรก็ต้องดีที่สุด มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ชีวิตที่ความผิดหวังบ้างถึงจะสมบูรณ์แบบ” นางพึงพอใจแล้ว ตายไปสองครั้ง ยังสามารถฟื้นมาได้ อีกทั้ง สวรรค์ยังมอบลูกน่ารักๆให้นางคู่หนึ่ง นางไม่ขออะไรมากอีกแล้ว จูเก๋อหมิงคิดอย่างระเอียดถึงคำพูดนาง แม้ว่าภายในใจจะเสียดายความรักระหว่างนางกับหลี่เฉินเย่น แต่ว่า กลับไม่ยอมรับไม่ได้ว่าที่นางพูดนั้นมันถูกต้อง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 206 เรื่องเก่ามิต้องพูดอีก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A