ตอนที่214ป่วยเล้กเป็นหนัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่214ป่วยเล้กเป็นหนัก
ต๭นที่214ป่วยเล้กเป็นหนัก ท่านหมอหลวงพูดอย่างอายๆว่า:“กระหม่อมโง่เองที่ไม่เข้าใจ” ชูเซี่ยพูดต่อ:“เพราะว่าในร่างกายท่านมีหนอนพิษร้ายแรงและไม่มียาที่จะรักษาได้กลับกันยังสามารถทำให้พวกมันตื่นตัวอีกและแข็งแรงขึ้นแต่ว่าถ้าหนอนพิษนี้อยู่ในลำไส้แต่ถ้ายาแรงขนาดนี้ก็สามารถทำให้พวกมันตายได้เหมือนกันที่ไทเฮารู้สึกว่าเจ็บท้องแต่ว่าไม่มีอะไรเห็นได้ว่าหนอนพิษอยู่ในเลือดยาที่กินลงไปอาจจะไปไม่ถึงเลือดเลยทำร้ายอะไรพวกมันไม่ได้แต่กลับไปปลุกพวกมันให้ตื่นตัวขึ้นทำให้พวกมันขยับดิ้นแรงกว่าเดิมและไปที่เลือดอย่างเร็วเลยทำให้ไทเฮาดูดีขึ้นมาบ้าง” ท่านหมอหลวงตกใจ“ในเลือดมีหนอนพิษ?” ชูเซี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น:“ถ้าข้าเดาไม่ผิดน่าจะเหมือนหนอนพิษที่เฉินอวี่จู๋ได้ข้าไม่ค่อยเข้าใจเรื่องหนอนพิษเยอะแต่ว่าก็รู้ว่าหนอนพิษนี้สามารถเข้าไปในเลือดได้ก็แรงมากแล้วถ้าจะรักษาก็ยากมาก” หยุดสักพักนางก็พูดต่อว่า:“แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็ต้องรอผลตรวจเลือดออกมาก่อนถึงจะสรุปได้” “ผลตรวจสอบเลือด?ก็คือเลือดที่ท่านบีบจากนิ้วของไทเฮาวันก่อนใช่ไหมครับ?เลือดหยดเดียวจะดูอะไรได้ครับ?ต้องรู้ว่าถ้าหนอนพิษเข้าไปในเลือดแล้วมองตาเปล่าก็คงไม่เห็น” ชูเซี่ยพูด:“มองดูตาเปล่าอาจจะมองไม่เห็นแต่ว่าสามารถตรวจสอบจากวิธีอื่นได้ถ้าโดนวางยาอาจจะตรวจสอบออกมาได้” “งั้นท่านหมอชูคิดว่าหนอนพิษแบบนี้เข้าร่างกายคนได้ยังไง?คนวางยาเป็นคนข้างๆไทเฮาเหรอครับ?”ท่านหมอหลวงถาม ชูเซี่ยพูดต่อว่า:“น่าจะได้มาจากบาดแผลเปิดก็เลยเข้าไปในเลือดเลยทันที” “ไม่ใช่ว่าวางยาในอาหารเหรอครับ?”ท่านหมอหลวงถามต่อ:“ท่านหมอชูใช้หลักฐานอะไรมาสันนิฐานเช่นนี้ครับ?” ชูเซี่ยพูดต่อว่า:“เพราะว่าถ้าเกิดว่าตรวจจากอาหารเริ่มแรกหนอนพิษจะเข้าไปทำร้ายกระเพาะก่อนและเข้าไปในลำไสแสดงว่าตอนนี้มันก็เข้าไปในเลือดแล้วและเลือดก็จะไหลเวียนไปที่หัวใจมันจะเข้าไปทำร้ายหัวใจดังนั้นเริ่มแรกอาจจะมีอาการไม่ค่อยดีถ้าเลือดนี้ไปไหลเวียนที่ปอดอีกปอดก็จะถูกทำร้ายอย่างรุนแรงมากเพราะปอดเป็นที่ๆเราใช้หายใจและถ่ายเทอากาศถ้าเกิดมีหนอนพิษก็จะทำให้มีไวรัสและเกิดการแพร่กระจายได้ถ้าเชื้อโรคกับหนอนพิษรวมกันก็สามารถทำให้หนอนพิษหายไปได้ดังนั้นที่พวกเจ้าเห็นว่าปอดมีอาการไอ” ท่านหมอหลวงตกใจอึ้งมาก“ถ้าเกิดว่าอยู่ในเลือดถ้าไหลเวียนเข้าเลือดและร่างกายหมดร่างกายก็ติดเชื้อหมดสิครับ?” “หนอนพิษทำงานช้ามากต้องการใช้เวลาไทเฮาป่วยมาหลายเดือนแล้วหนอนพิษพึ่งเข้าไปในปอดแสดงว่าหนอนพิษนี้ทำงานช้ามากแต่ว่านี้ก็เป็นอันตรายเช่นกันเพราะว่ายิ่งช้าก็แสดงว่ามันกำลังเจริญเติบโตพอโตเต็มวัยแล้วมันก็จะแข็งแรงขึ้นถึงเวลานั้นก็อาจจะสายเกินไปแล้ว” ชูเซี่ยพูดอย่างหนักแน่นนางไม่สามารถช่วยเฉินอวี่จู๋ไว้ได้พูดตามความจริงนางก็ไม่ใจเหมือนกันว่าจะช่วยได้ไหม ขนาดนางตรวจโรคนี้นางก็ใช้เวลาอย่างมากวันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไร ท่านหมอหลวงได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็เข้าใจขึ้น“ท่านหมอชูต้องรู้แน่เลยว่าไทเฮาโดนหนอนพิษเดียวกับนิ่พระชายาหนิงอาน?” ชูเซี่ยนิ่งเงียบสักพัก“ยังแต่ว่าอาจจะทั้งหมดนี้ต้องรอผลตรวจก่อน” “แต่ว่าฉ่ายเวินก็ตายแล้วยังมีคนรู้เรื่องโรคนี้อีกเหรอ?”ท่านหมอหลวงถามอย่างสงสัย ชูเซี่ยก็สงสัยเช่นกันพูดตามความจริงฉ่ายเวินเคยตื่นจากการสลบสุดท้ายก็ตายไปนางก็ไม่ได้เจอใครเยอะ มากสุดก็คนในวังและในจวนอ่องแต่ว่าในคนพวกนี้ก็ภักดีต่อหลี่เฉินเย่นมากใครจะมาทำร้ายไทเฮาได้? และฉ่ายเวินจะแพร่กระจายเชื้อให้ใครกัน? “ข้าจะไปคุยกับฮ่องเต้ก่อน”ชูเซี่ยพูด “จะเริ่มต้นจากคนที่มีสิทธิ์ติดโรคมากที่สุดใช่ไหมครับ?”ท่านหมอหลวงถาม ชูเซี่ยพยักหน้า“ใช่เหมือนกับที่ข้าพูดเมื่อกี้อาจจะติดจากแผลที่เปิดก็ได้คนที่จะใกล้กับไทเฮาได้มีไม่เยอะและคนที่สามารถจัดการแผลของไทเฮาก็มีไม่กี่คน” สีหน้าของท่านหมอหลวงซีดลงเขานึกขึ้นมาได้ว่าเดือนก่อนไทเฮาไปวัดท่านหกล้มและคนที่รักษาแผลให้คือเขาเอง เขารีบพูดเรื่องนี้ให้ชูเซี่ยฟัง ชูเซี่ยถามว่า:“งั้นนอกจากเจ้าแล้วมีใครอีกไหมที่รักษาแผลให้ไทเฮา?” ท่านหมอหลวงคิดและพูดว่า“ก็ไม่มีใครแล้วครับถึงแม้ในวังไทเฮาจะมีคนเยอะแต่ว่าท่านก็เชื่อใจแค่หวั่นเหนียงและซุนมามามีแค่สองคนนี้ที่ภักดีจริงๆพวกเขาไม่ทำร้ายไทเฮาแน่นอน” ชูเซี่ยพูดต่อว่า:“ข้ารู้ว่าซุนมามากับหวั่นเหนียงไม่ทำหรอก” ท่านหมอหลวงเหมือนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยปลอดภัยเลยรีบพูดไปว่า“ที่จริงกระหม่อมสงสัยนอกจากกระหม่อมแล้วก็ไม่มีใครเคยแตะแผลของไทเฮาเลย” ชูเซี่ยมองเขาและเข้าใจว่าเข้ากังวลเรื่องอะไรเพราะถ้าตรวจสอบขึ้นมาก็มีแค่เขาคนเดียวที่เคยทำแผลให้ไทเฮานี่ก็แสดงว่าเขาอาจจะเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งเลย “จากวันนั้นไทเฮาก็ไม่เคยบาดเจ็บเลยเหรอ?”ชูเซี่ยถาม ท่านหมอหลวงก็คิด“น้อยที่สุดคือเคยเรียกหมอหลวงไปก็แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวยกเว้นครั้งนั้นที่ออกจากวังก็อาจจะไม่บาดเจ็บอยู่ในวังก็มีคนดูแลเยอะมากท่านก็ทรงแก่มากแล้วทำไมถึงได้บาดเจ็บ?” ชูเซี่ยคิดมันก็ใช่ถ้าเกิดพูดเช่นนี้ท่านหมอหลวงก็เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งเลย “เจ้าพูดเรื่องวันนั้นให้ข้าฟังอีกทีได้ไหมเล่ามาให้ละเอียด”ชูเซี่ยพูด ท่านหมอหลวงก็เล่าไปว่า:“ครับวันนั้นฝนตกไทเฮาสั่งให้กระหม่อมออกไปด้วยพอรถม้าไปถึงบนเขาก็หยุดลงที่จริงจะให้ไทเฮามาขี่คอแล้วแต่ว่าไทเฮาก็ไม่เอาด้วยบอกว่าจะลงไปเดินสุดท้ายเพราะว่าฝนตกเลยทำให้พื้นลื่นไทเฮาเลยลื่นหกล้มกลิ้งลงมาทหารรีบวิ่งเข้าไปพยุงกันใหญ่กระหม่อมก็เข้าไปดูแผลพอดูแล้วก็มีแผลที่เข่ามีเลือดไหลแต่ก็ไม่หนักนอกจากแผลที่เข่าแล้วมือก็มีแผลถลอกเล็กน้อยแต่ว่าไม่มีเลือดออกพอล้างและทายาแล้วจากนั้นท่านก็ทรงเดินปต่ออยู่ในวัดคนเดียวนานกว่าชั่วโมงคุยกับเจ้าอาวาสในวัดดื่มชาไปประมาณสามถ้วยได้จากนั้นก็ออกมาเลยพอกลับมาที่วังกระหม่อมก็ทำการทายาให้ไทเฮาอีกรอบพอปิดแผลเสร็จแล้วก็ทำแบบนี้ติดต่อกันห้าวันแผลก็หายดีแล้ว” “นอกจากเจ้าไม่มีคนที่มาทำแผลเลยเหรอ?”ชูเซี่ยถามต่อ ท่านหมอหลวงก็ตอบไปว่า“ไม่เคยครับ!” เหวินยี่คิด“เรื่องนี้อย่าพึ่งพูดกับฮ่องต้ข้าจะไปตรวจสอบก่อน” ท่านหมอหลวงมองนางและพูดว่า“แต่ว่าถ้าไม่พูดจะตรวจสอบอย่างไรครับ?” ชูเซี่ยก็ปวดหัวเช่นกันถ้าไม่บอกหลี่เฉินเย่นจะตรวจสอบยังไงดี?นางก็ไม่มีอำนาจมากมายขนาดนั้น แต่ว่าถ้าตรวจสอบขึ้นมาและไม่เคยมีใครเคยแตะแผลไทเฮาเลยก็มีแต่ท่านหมอหลวง แต่ว่านางเชื่อว่าท่านหมอหลวงไม่ทำอะไรไทเฮาหรอกตอนนั้นที่ช่วยเขาจากฮ่องเต้องค์ก่อนก็รู้ทันทีเลยว่าเขาเป็นคนดี ท่านหมอหลวงพูดขึ้นมาว่า“บอกฮ่องเต้เถอะครับให้ฮ่องเต้ช่วยตรวจสอบถ้าไม่ตรวจว่าใครเป็นคนทำฏ้กลัวว่าไทเฮาจะอู่ในอันตรายมากขึ้น” เรื่องนี้ชูเซี่ยก็คิดเช่นกันแต่ว่านางไม่มีหลักฐานเลยและไม่รู้ว่าจะตรวจสอบยังไง? นางพูดต่อว่า“ไม่ต้องกังวลรอผลตรวจออกมาก่อนค่อยว่ากัน” 
已经是最新一章了
加载中