ตอนที่ 28 สุขสันต์วันเกิด
1/
ตอนที่ 28 สุขสันต์วันเกิด
หมอยาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 28 สุขสันต์วันเกิด
ตนที่ 28 สุขสันต์วันเกิด ยังไงก็ยังคงเป็นเด็ก หัวเราะได้ก็หัวเราะ ร้องไห้ได้ก็ร้อง เหลียงซินรู้สึกอิจฉาเด็กจริงๆ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไร้ทุกข์ไร้กังวล รอกระทั่งเฉินเช่อหัวเราะพอแล้วหยุดลงในที่สุด เหลียงซินจึงมองเขาด้วยรอยยิ้มจนตาหยี“องค์ชายสิบเอ็ด ตลกไหมเพคะ?” เฉินเช่อแสดงออกถึงความผ่อนคลาย ท่าทีที่ตั้งใจทำเหมือนเย็นชานั้นหายไปในพริบตา ที่อยู่เบื้องหน้าของเหลียงซินในตอนนี้ก็เหมือนกับเด็กน้อยธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น“เจ้าเป็นนางกำนัลจากที่ไหน ยังเล่าเรื่องตลกอะไรได้อีก แล้วข้าสามารถไปขอร้องเสด็จพ่อขอตัวเจ้ามาได้หรือไม่” ดวงตาที่ดำขลับใสซื่อของเขาทำให้คนยากที่จะปฏิเสธ หากเหลียงซินยังคงยิ้มพร้อมทั้งลูบศีรษะของเขา“หม่อมฉันไม่ใช่นางกำนัลที่ไหนเพคะ หม่อมฉันคือพี่สะใภ้ห้าของพระองค์” นึกไม่ถึงว่าเฉินเช่อยังคงไม่เชื่อ ดวงตากลมมองเหลียงซินขึ้นขึ้นลงลงอย่างพิจารณา “เจ้า?ข้าไม่เชื่อหรอก หากเจ้าเป็นพี่สะใภ้ห้าของข้าจริง แล้วเหตุใดพี่ห้าของข้าไม่ได้อยู่กับเจ้า” เดิมทีนางคิดว่าคนทั่วทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้เรื่องที่เจ้าของร่างเดิมนี้ตามจีบเฉินห้าว ทว่าตอนนี้ดูแล้วยังไม่คนที่ยังไม่รู้ นางจึงไม่ได้อธิบายอะไรมาก เอ่ยเพียงว่า“พี่ห้าของพระองค์ไปพูดคุยกับองค์ชายองค์อื่นแล้ว รอในงานเลี้ยงวันประสูติพระสนมเอกพระองค์ก็รู้แล้วเพคะ” เฉินเช่อมองดูท่าทีที่จริงจังของนาง ดูเหมือนไม่ได้กำลังล้อเล่นจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “เช่นนั้นอีกหน่อยข้าสามารถไปเล่นกับท่านที่วังอ๋องสิงได้ไหม” เขาเอ่ยถามอย่างน่าสงสาร เหลียงซินยิ้มขึ้นเล็กน้อย“ได้อย่างแน่นอน ต้อนรับทุกเมื่อเพคะ!” พอดีกับที่คำพูดของนางนั้นออกมาจากปาก แม่นมที่มีอายุค่อนข้างมากก็รีบวิ่งมาจากทางด้านหลัง จับแขนของเฉินเช่อเอาไว้แน่นพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก “พ่อคุณทูนหัวของหม่อมฉัน พระองค์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเพคะ งานเลี้ยงฉลองวันประสูติของพระสนมเอกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว รีบตามหม่อมฉันมาเถิดเพคะ!”แม่นมแสดงความเคารพเล็กน้อยต่อเหลียงซินจากนั้นก็รีบพาเฉินเช่อออกไปจากที่นี่ทันที สีของท้องฟ้าค่อยๆครึ้มลง เสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีชนิดต่างๆดังมาจากที่ไกลๆ เพลงที่บรรเลงออกมามีท่วงทำนองที่รวดเร็วและมีความสุข เป็นสีสันให้กับงานเลี้ยงฉลองในค่ำคืนนี้ เหลียงซินมายังพระตำหนักอิ๋งชุนด้วยความรวดเร็ว ชุนฮวาและชิวเยว่กำลังรอนางอยู่ที่หน้าประตู“พระชายา เชิญทางนี้เพคะ” หลังจากนั่งลงอย่างรีบร้อนราวกับถูกไฟลนก้น เหลียงซินจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เฉินห้าวที่นั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เจ้าไปไหนมา?” “ครู่นี้หม่อมฉันได้พบองค์ชายสิบเอ็ดที่อุทยานอวี้ฮวาเลยได้พูดคุยสองสามประโยค หม่อมฉันคงไม่ได้มาสายใช่ไหมเพคะ” เหลียงซินตอบตามความจริง เจอกับเฉินเช่อก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ดีถึงขนาดไม่สามารถให้ใครรับรู้ได้ เฉินห้าวหันมามองนางอย่างช้าๆ คิ้วยาวของเขาเลิกสูงขึ้น เปล่งประกายอยู่ในทัศนียภาพที่มีสีสันแห่งค่ำคืนนี้ “น้องสิบเอ็ด?เจ้ากับเขามีเรื่องอะไรที่น่าคุยกัน”น้ำเสียงของเขาราวกับกำลังดูหมิ่นเล็กน้อย “มีความจำเป็นต้องบอกพระองค์ไหมเพคะ เด็กวัยกำลังโตไม่คิดอะไรมาก ได้พูดคุยกับเขาทำให้หม่อมฉันสบายใจเพคะ” เหลียงซินอุทานออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก มองไปที่การร้องเพลงเต้นรำบนเวทีด้วยสีหน้าที่ไร้กังวล เสียงดนตรีเมื่อครู่นี้ดังสะท้อนมาจากที่นี่ เหลียงซินได้เห็นการแสดงเต้นรำของยุคโบราณเป็นครั้งแรก ตื่นตะลึงจนไม่สามารถหาสิ่งใดมาเปรียบได้ ไม่รู้เลยสักนิดว่า สายตาของเฉินห้าวจ้องไปที่ใบหน้าของนางอย่างเนิ่นนานจึงจะหันกลับไป ตามมาด้วยเสียงแหลมลากยาวที่มีปลายเสียงแหบทุ้มราวกับเสียงในลำคอของเป็ดตัวผู้ก็ดังขึ้นมาที่ข้างหูทุกคน “ฮ่องเต้เสด็จ!ฮองเฮาเสด็จ!พระสนมเอกเสด็จ!” สามผู้ยิ่งใหญ่ในราชสำนักปรากฏตัวขึ้นในที่สุด การเต้นรำบนเวทีหยุดแสดง ทุกคนค่อยๆคุกเข่าลงมองไปยังพระที่นั่งที่อยู่เบื้องหน้าแล้วโน้มตัวลงแสดงความเคารพ เหลียงซินมองเห็นเพียงศีรษะของหมู่คนมากมาย นอกนั้นก็ไม่เห็นอะไรเลย “ฮ่องเต้ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!ฮองเฮา พระสนมเอกทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”ทุกคนโห่ร้องขึ้นอย่างพร้อมเพียง “พวกท่านทั้งหลายลุกขึ้นได้” น้ำเสียงสงบนิ่งที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม มีอำนาจ และแฝงไปด้วยความมีอายุดังขึ้น นี่ก็คือฮ่องเต้หมิงเจาแห่งรัฐหนานเยว่ เฉินเหยี่ยน นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เหลียงซินได้พบกับฮ่องเต้ตั้งแต่มาถึงรัฐหนานเยว่ ผู้ที่ทรงอำนาจ น่าเกรงขามอยู่บนเก้าอี้มังกร ผู้ที่มีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตนเอง ไม่นำผู้อื่นมาใส่ใจ มองไกลๆแล้ว พระองค์ดูราวกับธงที่ส่องแสงสว่างสไวบนยอดเสาแข็งแรงที่ไม่มีทางจะล้มลงมาได้ “วันนี้เป็นวันประสูติพระสนมเอก ที่มานี่ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมากพิธี”จบคำพูดของฮ่องเต้ก็ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องขอบพระทัย “เสด็จพ่อเพคะ วันนี้เป็นวันประสูติของเสด็จแม่ หม่อมฉันเตรียมการแสดงพิเศษมาเพื่อเสด็จแม่เพคะ หวังว่าเสด็จแม่จะพอพระทัย”เสียงหญิงที่พูดนี้ก็คือองค์หญิงรุ่ยเหอ ลูกสาวแท้ๆของพระสนมเอก “ลูกช่างมีน้ำใจ เจ้าไม่ต้องเตรียมการอะไร แม่ก็มีความสุขมากแล้ว”พระสนมเอกยิ้มพลางเอ่ย วันนี้เป็นวันเกิดของนาง นางเป็นตัวละครหลักอยู่แล้ว ผู้อื่นล้วนเป็นตัวประกอบ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีความสุขมากเป็นพิเศษ นี่เป็นครั้งแรกที่เหลียงซินได้พบกับองค์หญิงรุ่ยเหอ นางอายุน้อยกว่าเฉินอวี้ผู้เป็นพี่ชายสองปี ทว่ารูปโฉมกลับงดงามสะดุดตาอย่างโดดเด่นเป็นพิเศษ นางที่ถือกำเนิดในพระราชสำนัก ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพหรือรูปโฉมภายนอกแล้ว ล้วนดูดีกว่าลูกสาวของชาวบ้านทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหยิ่งทะนงในตนเองที่เหมือนกับเฉินอวี้นั้นได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน การแสดงที่นางได้เตรียมมานั้นคือการแสดงฝึกสัตว์ มีความแปลกใหม่เป็นอย่างมาก สัตว์ที่นางฝึกนั้นคือสุนัขขนาดกลาง ดูแล้วเหมือนโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ นึกไม่ถึงว่าคนยุคโบราณก็ชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำพวกสุนัข เพียงแต่การฝึกของนางไม่ได้ดีมากนัก มีบางท่าที่ถือว่าไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ก็ได้รับเสียงปรบมือดังลั่นสั่นสะเทือน มีเพียงเหลียงซินที่สีหน้าไร้อารมณ์ราวกับไม่ประหลาดใจอะไร “พี่สะใภ้ห้าไม่ปรบมือ เป็นเพราะไม่ชอบการแสดงนี้ของน้องหญิงเก้าใช่หรือไม่พะยะค่ะ” สายตาอันเฉียบคมขององค์ชายเจ็ดเฉินอวี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างกวาดตามองมาที่นาง ราวกับกำลังจ้องมองดูในทุกการกระทำของนางอยู่ เหลียงซินแอบเหลือบมองบนให้เขาเล็กน้อย แต่ภายน้อยก็ยังต้องแสร้งทำเป็นสนใจเป็นอย่างมาก“ได้อย่างไรเพคะ ฝีมือขององค์หญิงรุ่ยเหอนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ หม่อมฉันดูจนอึ้งไปเลย” “งั้นหรือ?ที่แท้ดูจนอึ้งหรือไม่ได้ใส่ใจกันแน่”เฉินห้าวหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา หันกลับไปชมการแสดงต่อและไม่ได้พูดอะไรอีก แปลกคนจริงๆ ไม่ใช่เพราะแค่ไม่ได้ปรบมือหรอกหรือ เฉินอวี้คิดมากถึงเพียงนี้เชียว เหลียงซินมองไปที่เฉินห้าวอย่างไม่ได้ตั้งใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาเพียงแค่ชมการแสดงฝึกสัตว์ด้านหน้าอย่างเงียบๆ ราวกับไม่ได้ยิน การสนทนาของพวกนางทั้งคู่ นางดูไม่ออกจริงๆว่า ในใจของเฉินห้าวคิดอะไรอยู่กันแน่ การแสดงฝึกสัตว์ต่อจากนั้นไม่นานก็จบลง องค์หญิงรุ่ยเหอออกจากเวทีภายใต้เสียงปรบมือที่ราวกับคลื่นน้ำในทะเลก็ไม่ปาน ในขณะที่เหลียงซินกำลังรอคอยว่าต่อไปจะมีการแสดงดีๆอะไรอีก เฉินอวี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างก็พลันลุกขึ้นยืน กราบทูลไปยังฮ่องเต้ว่า “เสด็จพ่อพะยะค่ะ ครู่นี้หม่อมฉันได้ยินมาว่าพี่สะใภ้ห้าไม่โปรดการแสดงนี้ของน้องหญิงเก้าสักเท่าไรนัก นางเองได้เตรียมการแสดงที่ดียิ่งกว่ามาถวายให้กับเสด็จแม่พะยะค่ะ” เหลียงซินได้ยินดังนั้น สีหน้าของนางก็ “ฟึ่บ” ซีดลงในทันที สายตาของทุกคนต่างก็มาตกอยู่ที่นาง ราวกับนางเป็นลิงที่แสดงกายกรรมอยู่ในสวนสัตว์แล้วถูกทุกคนล้อมวงชมการแสดง ยืนก็ไม่ใช่ นั่งก็ไม่เชิง และในช่วงเวลาที่เคร่งเครียดนี้ การตอบสนองแรกของนางกลับเป็นมองไปยังเฉินห้าว ทว่า สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกผิดหวังก็คือ เขากลับกำลังยกถ้วยน้ำชาที่อยู่ในมือขึ้นดื่มอย่างสงบ ไม่มีทีท่าที่จะช่วยนางกู้สถานการณ์เลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่การพูดอะไรออกมาสักหนึ่งประโยคก็ตาม “เฉินห้าว พระองค์รีบช่วยหม่อมฉันพูดอะไรสักอย่างสิเพคะ หากหม่อมฉันทำพังแล้ว ผู้ที่ขายหน้าก็มีแต่พระองค์นะเพคะ” “ข้าไม่มีอารมณ์ยุ่งเรื่องชาวบ้านมากมายเช่นนี้” เฉินห้าวทิ้งคำพูดที่แสนเย็นชาออกมาหนึ่งประโยค ทำให้เหลียงซินเกือบจะอดไม่ได้ที่จะใช้กำปั้นทุบให้เขาตายไปเลยทีเดียว “โอ้? พระชายาสิงได้เตรียมการแสดงที่ดีกว่านี้มางั้นรึ เช่นนั้นก็รีบขึ้นมาทำการแสดงบนเวทีเสียสิ” เสียงที่ทรงอำนาจดังสะท้อนมาจากที่ห่างไกล ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งลงมาแล้ว คราวนี้ไม่มีทางหนีอีกต่อไป นางไม่อยากขัดพระบัญชาจากนั้นก็ถูกตัดหัวออกจากบ่า ทำได้เพียงทุ่มสุดตัว ค่อยๆเดินขึ้นไปที่กลางเวทีอย่างช้าๆ หากไม่ใช่เพราะเฉินอวี้ วันนี้นางคงไม่ต้องมายืนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ ความแค้นในครั้งนี้นางจะจำเอาไว้! “ฮ่องเต้เพคะ วันนี้หม่อมฉันอยากจะแสดงการร้องเพลงถวายแด่พระสนมเอก หวังว่าทุกวันหลังจากนี้พระองค์จะทรงมีแต่ความสุขเพคะ” ในท้ายที่สุดเหลียงซินก็ตัดสินใจร้องเพลงวันเกิด ทว่าไม่ใช่เพลงวันเกิดธรรมดา หากแต่ได้ถูกนางดัดแปลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเวลานี้ บนท้องฟ้าพาดผ่านเป็นเส้นไปด้วยหมู่ดาวที่สว่างสดใส แสงจากดวงไฟและดวงดาวที่สาดส่องลงมาทำให้ทั่วทั้งเวที ดูสว่างไสวมากยิ่งขึ้น มองดูแล้วราวกับดวงอาทิตย์ที่มีแสงลุกโชติช่วงก็ไม่ปาน เสียงที่ใสสะอาดของเหลียงซินพาดผ่านทะลุไปบนขอบฟ้า และตกลงมาสู่แก้วหูของทุกคน ราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิที่ชวนให้ คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล “สุขสันต์วันประสูติของพระองค์ สุขสันต์วันประสูติของพระองค์ ขอให้พระองค์มีความสุข ขอให้พระองค์แข็งแรง ขอให้พระองค์งดงามตลอดไป สุขสันต์วันประสูติของพระองค์ สุขสันต์วันประสูติของพระองค์ ขอให้พระองค์สันติ ขอให้พระองค์สุขสม ขอให้พระองค์มีชีวิตที่สวยงาม HAPPYBIRTHDAYTOYOU HAPPYBIRTHDAYTOYOU HAPPYBIRTHDAY HAPPYBIRTHDAY HAPPYBIRTHDAYTO พระสนมเอก! ร้องถึงตรงนี้ เนื้อเพลงก็ถูกเขียนด้วยเครื่องหมายจุด จบประโยค เมื่อเหลียงซินลืมตาขึ้น ผู้คนที่อยู่รอบๆล้วนจ้องมองมาที่นางด้วยความตกตะลึงจนตาค้าง ดูเหมือนต่างก็ลืมที่จะปรบมือให้ พวกเขาไม่เคยได้ยินบทเพลงที่ไพเราะเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยพบเนื้อหาของเพลงที่ประหลาดเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่รู้ว่าภาษาอังกฤษสองสามประโยคด้านหลังนั้นมีความหมายว่าอย่างไร ทันใดนั้น ฮ่องเต้หมิงเจาก็ทรงเป็นผู้นำในการปรบมือให้ “ดี พระชายาสิงขับร้องได้ดีจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินบทเพลงที่ทั้งประหลาด พิเศษ และไพเราะเช่นนี้! ส่งคนมา ไปนำขลุ่ยหยกของข้าออกมา ข้าจะมอบเป็นรางวัลให้แก่พระชายาสิง!” คนที่อยู่ด้านข้างก็คือขันทีข้างกายที่อยู่ในความดูแลของฮ่องเต้หมิงเจามาตั้งแต่เด็ก อายุน่าจะประมาณสามสิบปี เอ่ยเตือนขึ้นว่า “ฮ่องเต้พะยะค่ะ ขลุ่ยหยกโบราณเลานั้น พระองค์ทรงรับปากว่าจะพระราชทานให้กับองค์หญิงรุ่ยเหอแล้วนะพะยะค่ะ” คิ้วของฮ่องเต้หมิงเจาขมวดเข้าหากัน เหมือนกับไม่พอพระทัย“แล้วอย่างไร? แม้แต่คำสั่งของข้าเจ้ายังต้องออกความคิดเห็นอีกรึ?” ที่แท้ขลุ่ยหยกเลานั้นได้ทรงรับปากที่จะพระราชทานให้กับองค์หญิงรุ่ยเหอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลียงซินคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเอ่ยปฏิเสธออกไป“เสด็จพ่อเพคะ ในเมื่อขลุ่ยหยกเลานั้นได้พระราชทานให้กับองค์หญิงรุ่ยเหอแล้ว หม่อมฉันจะแย่งชิงมาได้อย่างไรเล่าเพคะ การแสดงที่แสนธรรมดาของหม่อมฉันในวันนี้ก็เพื่อเป็นการถวายพระพรเนื่องในวันประสูติให้กับพระสนมเอก ไม่กล้าที่จะรับของรางวัลจากเสด็จพ่อโดยเด็ดขาดเพคะ” องค์หญิงรุ่ยเหอที่อยู่ด้านข้างนั้นกระทืบเท้าด้วยความโกรธ มองไปที่เฉินอวี้อย่างไม่พอใจ “พี่เจ็ด เป็นเพราะพระองค์ออกความคิดเห็นที่ไม่ฉลาด ตอนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้วังอ๋องสิงได้เชิดหน้าชูตาแล้ว ยังทำให้พระชายาสิงแย่งขลุ่ยหยกของหม่อมฉันไปอีก พระองค์ต้องใช้คืนให้หม่อมฉันนะเพคะ!” “น้องหญิงเก้า เก็บอาการไว้ก่อน รอดูต่อไปแล้วค่อยว่ากัน”สีหน้าของเฉินอวี้ก็ไม่ได้สู้ดีนัก ฮ่องเต้หมิงเจาเห็นดังนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก เพียงแต่เอ่ยถามขึ้นว่า“เช่นนั้นก็ให้มันแล้วๆไป พระชายาสิง เจ้าคิดอยากได้ของรางวัลอะไรอย่างอื่นอีกหรือไม่ ข้ารับปากแล้วว่าจะมอบของรางวัลให้แก่เจ้า จะต้องพูดได้ทำได้!” ดวงตาของเหลียงซินเปล่งประกาย เดิมทีนางอยากบอกว่าอยากได้หนังสือหย่า แต่ในที่สาธารณะเช่นนี้พูดเรื่องนี้ออกไปคงไม่ดีแน่ อย่างไรก็ตามเรื่องภายในบ้านไม่ควรพูดนอกบ้าน นางไตร่ตรองถึงความเหมาะสมอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมาว่า“เสด็จพ่อเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันยังไม่มีสิ่งของที่อยากจะได้เพคะ” ฮ่องเต้หมิงเจาทรงมีทีท่าไม่เข้าพระทัยเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังคงตรัสออกไปว่า“เช่นนั้นรอวันใดเจ้านึกขึ้นมาได้ ค่อยมาหาข้า ข้าจะรับปากคำขอของเจ้าอย่างแน่นอน” นัยน์ตาของเหลียงซินฉายแววแห่งความสุขที่นางไม่ได้แสดงออกให้ใครเห็นออกมา นี่ก็คือสิ่งที่นางอยากได้... คำมั่นสัญญาของโอรสสวรรค์แห่งปัจจุบัน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 28 สุขสันต์วันเกิด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A