ตอนที่ 47 เนรคุณ
1/
ตอนที่ 47 เนรคุณ
หมอยาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 47 เนรคุณ
ตนที่ 47 เนรคุณ “ไปเรียกหมิงชิวนางกำนัลผู้นั้นให้ตื่นขึ้น แล้วจับตัวพามาหาข้าที่นี่” เหลียงซินตะโกนออกไปอย่างเย็นชา เธอกลับต้องการดูว่า เธอมีจุดไหนกันแน่ที่ทำผิดต่อหมิงชิวนางกำนัลผู้นั้น ไม่นึกเลยว่าจะทรยศกันอย่างเลือดเย็นถึงเพียงนี้ ชิวเยว่ดีอกดีใจ วิ่งออกไปอย่างรีบร้อนราวกับหนึ่งวินาทีก็รอไม่ไหว ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่โหยหวนดังสะท้อนมาจากเรือนที่อยู่ทางด้านซ้าย ตามมาด้วยชิวเยว่กับชุนฮวาที่ส่งตัวหมิงชิวเข้ามาถึงภายในห้อง ร่างกายของหมิงชิวเปียกโชกไปหมดทั้งตัว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากำลังฝันอยู่ดีๆก็มีคนใช้น้ำเย็นราดใส่ ถึงได้มีเสียงกรีดร้องนั่นเมื่อครู่นี้ นางคุกเข่าลงไปที่พื้นอย่างตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว เหลียงซินนั่งไปที่ด้านบนอย่างทรงพลังและอำนาจ จากนั้นมองลงไปที่นาง “หมิงชิว ข้ารับเจ้ามาดูแลในตำหนักเจียวหยางแห่งนี้ก็เป็นเวลาสิบกว่าวันแล้ว เจ้ารู้สึกว่าข้าดีกับเจ้าหรือไม่?” แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า หมิงชิวคิดไม่ถึงว่าเธอจะถามสิ่งเหล่านี้ออกมา ทว่าจิตใจยังคงโอบอุ้มความหวังที่จะต้องโชคดีสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ นางจึงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังทั้งยังประจบเอาใจว่า “พระชายา พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตา ทรงเป็นคนดีมากเพคะ ทรงพาหม่อมฉันออกจากตำหนักลั่วยินมายังตำหนักเจียวหยาง ไม่เคยทุบตีหรือดุด่าหม่อมฉันเลยสักครั้ง ในใจของหม่อมฉันซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งเพคะ” “คำพูดเสแสร้งประจบเอาใจข้าไม่อยากฟัง ข้าอยากฟังความจริง” เหลียงซินมองไปที่นางอย่างหงุดหงิด สายตาของหมิงชิวก็เปลี่ยนไป ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเธอมากนัก “กราบทูลพระชายา ทุกประโยคที่หม่อมฉันพูดเป็นความจริง ไม่มีปิดบังและหลอกลวงพระองค์แม้แต่น้อยอย่างเด็ดขาดเพคะ” มองดูใบหน้าที่จอมปลอมนั้นของนาง รอยยิ้มที่เย็นยะเยือกก็โค้งขึ้นบนใบหน้าของเหลียงซิน เสียงอันทรงพลังดังขึ้นในทันที “เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงต้องทรยศหักหลังข้า?” ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายในห้องที่แสงสลัวเช่นนี้ เหลียงซินก็ยังคงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของหมิงชิวสั่นขึ้นเล็กน้อย ไม่นานก็กลับคืนสู่ปกติ นางเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ มองดูเหลียงซินอย่างระมัดระวัง ท่าทางสับสนมึนงง “พระชายา พระองค์ทรงกำลังตรัสอะไรเพคะ?หม่อมฉันแม้แต่ประโยคเดียวก็ฟังไม่เข้าใจ พระองค์ทรงช่วยชีวิตพี่สาวของหม่อมฉัน หม่อมฉันมองพระองค์เป็นผู้มีพระคุณ จะสามารถทรยศหักหลังพระองค์ได้อย่างไรกัน?เป็นเพราะทรงเข้าใจผิดตรงไหนใช่หรือไม่เพคะ?” ยังคงเล่นลิ้น! ดี วันนี้เหลียงซินจะทำให้นางเข้าใจทุกอย่างเอง “วันนี้เหตุใดยายหวังจึงได้ไปปรากฏตัวยังประตูข้างตรงมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่เปล่าเปลี่ยว?เป็นเจ้าที่แอบส่งข่าวใช่หรือไม่?” เหลียงซินเอ่ยถาม “ไม่ใช่อย่างเด็ดขาดเพคะ หม่อมฉันสาบานต่อฟ้า หม่อมฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย” หมิงชิวยกนิ้วมือขึ้นสามนิ้ว สาบานต่อฟ้า เหลียงซินถามต่อไปอีกว่า “กลางดึกวันนั้น เจ้าแอบไปตำหนักลั่วยินเงียบๆคนเดียวพูดคุยกับยายหวังในสวน พูดอะไรออกไปบ้าง?” สีหน้าของหมิงชิวเปลี่ยนไปในทันที ดูเหมือนจะคิดไม่ถึงว่านางทำอย่างปกปิดถึงเพียงนี้ เหตุใดยังถูกเหลียงซินรับรู้ได้? นางไม่ได้อธิบายอีกต่อไป แต่กลับจ้องไปที่เหลียงซิน ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ มองดูสีหน้าเช่นนี้ของนาง ในใจของเหลียงซินก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว เธอคาดหวังอย่างมากว่าวันนี้ทุกอย่างจะล้วนเป็นสิ่งที่เธอเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ หมิงชิวยังคงจงรักภักดีต่อเธอ ทว่า ความจริงก็วางอยู่ต่อหน้า... “ในเมื่อพระองค์ทรงรู้หมดแล้ว ยังจะมาตรัสถามหม่อมฉันทำไมอีก?จะฆ่าจะเฉือนก็ตามแต่พระองค์จะทรงจัดการเพคะ”หมิงชิวตัดสินใจกระทืบแก้วที่แตกซ้ำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม เชิดหน้าขึ้น มองไปที่เธออย่างจองหอง “ข้าอยากรู้ว่าในตอนแรกด้านนอกประตูวังหลวง เจ้าช่วยข้าอย่างจริงใจ แต่แล้วเพราะเหตุใดในตอนหลังเจ้าถึงได้ช่วยเหลียงยินมาสอดส่องข้าอีก?” เหลียงซินเอ่ยถามขึ้นอย่างช้าๆ นี่ก็คือเรื่องที่ทำให้เธอไม่เข้าใจมาโดยตลอด หมิงชิวพูดอย่างไม่มีปิดบังเลยแม้แต่น้อย “เพื่อเงิน เพื่ออิสรภาพ ยายหวังบอกว่าเพียงแค่หม่อมฉันสอดส่องพระองค์เป็นเวลาหนึ่งเดือน ก็จะให้เงินก้อนหนึ่งกับหม่อมฉัน จากนั้นส่งหม่อมฉันออกไปจากที่นี่” เหลียงซินปิดตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย สำหรับใจคนแล้ว ในใจรู้สึกเปล่าเปลี่ยวไม่มีที่สิ้นสุด บางที เริ่มตั้งแต่วินาทีที่เธอรับปากว่าจะช่วยหมิงชิวทุกอย่างก็ผิดแล้ว ในยุคสมัยนี้ มีเรื่องมากมายต่างก็ไม่สามารถใช้ความเห็นใจเข้าไปแก้ไขปัญหาได้ เพราะว่าทุกคนล้วนเป็นงูพิษตัวหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลับมาแว้งกัดเธอได้อีก “ข้าเป็นผู้มีพระคุณต่อพี่สาวของเจ้า นึกไม่ถึงว่าจะยังเทียบไม่ได้กับเงินและคำพูดปากเปล่าหนึ่งประโยค ความเชื่อใจระหว่างคนกับคน ยากถึงเพียงนี้จริงๆหรือ?” เหลียงซินพึมพำด้วยเสียงที่แผ่วเบา ในใจรู้สึกโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาในทันที “ไม่ว่าอย่างไรตำหนักเจียวหยางแห่งนี้ก็ยอมรับเจ้าไม่ได้อีกต่อไปแล้ว นึกถึงตอนที่เจ้าอยู่ด้านนอกประตูวังหลวงช่วยข้าเอ่ยปากเอาไว้หนึ่งประโยค เจ้ากลับไปยังตำหนักลั่วยินเสียเถิด” คำพูดเพิ่งร่วงหล่นลงมา ชุนฮวากับชิวเยว่ที่อยู่ด้านข้างก็ร้องเรียกขึ้นมาอย่างเร่งรีบในทันที “พระชายาเพคะ!พระองค์ก็ทรงปล่อยนางไปเช่นนี้น่ะหรือเพคะ?จะทรงพระทัยดีเกินไปหน่อยแล้วกระมังเพคะ?” นอกจากปล่อยนางกลับไป เหลียงซินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะจัดการนางอย่างไรถึงจะดี” อย่างไรเสียเธออยู่ในวังแห่งนี้ นอกจากชุนฮวา ชิวเยว่สองคนแล้ว คนอื่นต่างก็ล้วนเป็นศัตรู เพิ่มมาคนหนึ่งก็ไม่ได้เยอะขึ้น น้อยไปคนหนึ่งก็ไม่ได้น้อยลง จึงได้โบกมือให้หมิงชิวออกจากตำหนักเจียวหยางไปอย่างอ่อนเพลีย แม้ชุนฮวากับชิวเยว่จะไม่ได้เข้าใจมากนักว่าที่เธอทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา มองดูหมิงชิว จากไปต่อหน้าของพวกนางเอง สีสันในยามค่ำคืนเงียบเหงาลงในทันที แม้แต่แสงจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้าก็หลบกลับเข้าไปในกลีบเมฆ ทุกอย่างล้วนดูมืดมิดทั้งยังน่าอึดอัดใจ พอดีกับตอนที่เหลียงซินคิดว่าจะล้มตัวลงนอน ก็ได้ยินเสียงลมที่มีพลังรุนแรงผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นสองวินาทีก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ผ่าทะลุขอบฟ้าของชุนฮวาและชิวเยว่ดังสะท้อนเข้ามา! ในชั่วพริบตา เธอก็ไม่มีความต้องการที่จะนอนเลยแม้แต่นิดเดียว รีบกระโดดลุกขึ้นจากเตียง ผลักประตูเดินออกไปในทันที สิ่งที่เห็นก็คือด้านนอกประตูใหญ่ของตำหนักเจียวหยางที่ใหญ่โตเช่นนี้ ร่างไร้วิญญาณของหมิงชิวได้นอนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ ไม่นึกเลยว่าทั่วทั้งร่างกายกลับไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย มีเพียงเข็มทองเล่มหนึ่งปักอยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วทั้งสองข้าง “พระชายา!หมิงชิวนาง...ตายแล้วเพคะ!” ชิวเยว่และชุนฮวาทั้งสองคนรีบเข้ามาล้อมรอบข้างกายของเหลียงซินในทันที เสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว สีหน้าของเหลียงซินเปลี่ยนไปในทันที ฝีมือผู้ใดอำมหิตถึงเพียงนี้ กล้าลงมือในตำหนักเจียวหยางสถานที่อันโจ่งแจ้ง ใหญ่โตโอ่อ่า ของเธอเลยเชียวหรือ? “เป็นใคร!ออกมา!” เหลียงซินกวาดตามองไปรอบๆด้านทั้งสี่ทิศ พลางตะโกนเอ่ยขึ้น ด้านในตำหนักเจียวหยางที่สงบเงียบ เสียงลมวูบหนึ่งพัดผ่านไป ตามติดมาด้วยเงาร่างสีดำของคนผู้หนึ่งทะยานขึ้นไปจากด้านบนชายคาและลงมาอยู่ที่เบื้องหน้าของเหลียงซินอย่างมั่นคง คือบุคคลลึกลับผู้นั้น! เหลียงซินรู้สึกตกใจในทันที เหตุใดเขาจึงชอบปรากฎกายอย่างไม่ปกติราวกับภูติผีเทวดา? “ไม่ต้องตกใจกลัว นางกำนัลที่เนรคุณผู้นี้ เป็นข้าที่สังหารเอง” บุคคลลึกลับเอามือไขว้หลังแล้วยืดตัวขึ้น ยืนตัวตรงอยู่ฝั่งตรงข้ามของเหลียงซิน เขามีท่าทีปกติ ดูไม่แยแสเป็นอย่างยิ่ง พูดถึงฆ่าคนอย่างง่ายดายราวกับบี้มดตายตัวหนึ่งเท่านั้นเอง “แม้นางจะเนรคุณ แต่ก็ไม่ควรได้รับจุดจบที่ถึงแก่ความตาย เจ้าเห็นชีวิตคนดุจราวกับต้นหญ้าเล็กๆที่ไม่มีค่า แต่เคยคิดหรือไม่ว่าสักวันหนึ่งในภายภาคหน้าตนเองก็จะได้รับจุดจบแบบนี้เช่นเดียวกัน?” เหลียงซินกัดฟันแน่น พูดออกมาอย่างทีละคำทีละประโยค สีหน้าของบุคคลลึกลับไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย มีเพียงจากข้างในดวงตาของเขาเท่านั้นที่ดูไม่ออกว่าเป็นความรู้สึกอะไร เส้นเสียงของเขานิ่งสงบแต่กลับแฝงไปด้วยความเด็ดขาดและแน่วแน่ “การทรยศหักหลังไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในหมู่ของข้า หากมีคนเนรคุณแล้วล่ะก็ จุดจบยังจะต้องอนาถกว่านี้ หากสักวันหนึ่งในภายภาคหน้าข้าตาย จะต้องตายอย่างคุ้มค่าแน่นอน” จิตใจของเหลียงซินคล้อยตาม นี่คือความรู้สึกร่วมระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ทว่า เหลียงซินกลับไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีการที่โหดร้ายคร่าชีวิตที่ยังสดใหม่เช่นนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร มือคู่นี้ของเธอก็ไว้ใช้ช่วยชีวิตคน ไม่ได้เอาไว้ฆ่าคน “เส้นทางไม่เหมือนกันก็ไม่อาจร่วมทางกันได้ เจ้ามีความเชื่อของเจ้า ข้าก็มีความมุ่งมั่นของข้า หวังว่าต่อไปเจ้าอย่าได้ปรากฎตัวต่อหน้าข้าอีก” หลังจากเหลียงซินพูดจบ ก็เดินจากไปอย่างไม่หันหลังกลับมา เพียงแต่ เธอยังคงสามารถรู้สึกได้ถึงสายตาที่รุนแรงจากทางด้านหลังกำลังตามเธออยู่ตลอด กระทั่งหลังจากที่เธอเข้าไปในห้องแล้วถึงได้หายไป ในวันนี้เกิดเรื่องขึ้นอย่างมากมาย เหลียงซินเหนื่อยจนแทบจะทนไม่ไหว เพิ่งเอนตัวลงก็อยากจะนอนแล้ว แต่ว่าชิวเยว่กลับดึงแขนเสื้อของเธอเล็กน้อยพลางเอ่ยถาม “พระชายา ศพของหมิงชิวควรจะทำอย่างไรดีเพคะ?พรุ่งนี้จะถูกคนพบเข้านะเพคะ!” เหลียงซินพลิกตัว ง่วงจนจะไม่ไหว “ไม่ได้เป็นพวกเราที่ฆ่าเสียหน่อย ทำเป็นไม่รู้เรื่องก็พอแล้ว” ก็จริง ชิวเยว่ตบไปที่ศีรษะ เหตุใดนางจึงไม่ฉลาดเท่าพระชายากันนะ! เป็นไปอย่างที่คิดไว้จริงๆ เช้าตรู่ของวันที่สอง ข้ารับใช้ชายที่เดินผ่านตำหนักเจียวหยางเห็นซากศพนอนเด่นชัดอยู่ด้านนอกประตูก็ขวัญหนีดีฝ่อ ร้องเรียกตั้งแต่ตำหนักเจียวหยางถึงยังประตูใหญ่ เสียงดังจนทำเอาทั้งหมดทุกคนเข้ามา ชั่วเวลาเดียว ทั้งวังต่างก็รับรู้เรื่องนี้ ผู้คนบอกเล่ากันปากต่อปาก ไม่นานเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่จินตนาการขึ้นกันอย่างมากมาย ทำเอาจิตใจของผู้คนแตกตื่น ตั้งแต่เช้าเหลียงซินก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงจอแจที่อยู่ด้านนอก หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกประตูใหญ่ไปอย่างงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้น?มาเอะอะเสียงดังอะไรกันอยู่ที่นี่?” เธอเดินออกไปอย่างแสร้งเป็นไม่รู้อะไรเลย พอทุกคนเห็นเธอมา ก็ทยอยกันกระจายออกไป กระทั่งเธอเดินมาถึงยังบริเวณหน้าประตูเห็นซากศพของหมิงชิวแล้ว จึงได้ร้องเสียงดังขึ้นมา “หมิงชิว! นี่คือเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น?เพิ่งผ่านไปแค่คืนเดียว เหตุใดเจ้าถึงได้ถูกคนฆ่าตายเสียแล้ว?” พูดจบ ก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบริเวณรอบดวงตาของตนเอง ทำเป็นนายที่ดีคนหนึ่งที่รักนางกำนัลเป็นอย่างยิ่ง ทันใดนั้นชุนฮวากับชิวเยว่ที่อยู่ด้านหลังก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มองดูทุกอย่างนี้ด้วยความตกใจสุดขีด ราวกับไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ “พระชายา!นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเพคะ?หมิงชิวนางเมื่อคืนยังดีๆอยู่ เหตุใดถึง...” เหลียงซินต่อว่าอย่างเจ็บปวด “จะต้องถูกคนฆ่าตายอย่างแน่นอน แต่ว่าใครกันที่มีความแค้นกับหมิงชิวถึงได้ใช้วิธีการที่โหดร้ายถึงเพียงนี้ฆ่านาง?” “กราบทูลพระชายา ทรงระงับความโศกเศร้าด้วยเถิดเพคะ อย่าทรงโกรธจนทำให้เสียสุขภาพเลยเพคะ” ชิวเยว่ปลอบใจ สองคนนี้พูดได้เลยว่าเป็นผู้ที่มีฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมมาก คิดไม่ถึงเลยว่ายังสามารถแสดงได้ดีกว่าเธออีก ไม่มีช่องโหว่เลยแม้แต่นิดเดียว พอดีกับตอนที่เหลียงซินกำลังจะลุกขึ้นยืนนั้น ด้านหลังก็ดังสะท้อนเสียงที่ทรงพลังขึ้นมา “ต่างก็ว่างกันถึงเพียงนี้เลยใช่หรือไม่?ทุกคนที่มุงดูกลับไปยังตำหนักของแต่ละคนยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม” พอเหลียงซินหันกลับไปก็พบกับใบหน้าที่มืดมนนั้นของเฉินห้าว ทุกตำแหน่งที่เขาเดินผ่าน นางกำนัลและข้ารับใช้ชายที่อยู่ด้านหลังล้วนรีบร้อนถอยออกไป ก้มศีรษะลง จากนั้นก็ทยอยหมุนตัวออกจากที่นี่ในทันที เขาก้าวด้วยจังหวะการก้าวเท้าที่มั่นคง ครู่เดียวก็มาถึงยังเบื้องหน้าของเหลียงซิน สั่งการออกไปโดยที่ไม่มองซากศพที่อยู่บนพื้นนั่นเลยแม้แต่น้อย “นำนางกำนัลผู้นี้ลากออกไปขจัดให้สะอาด” “ท่านอ๋องเพคะ นางกำนัลของหม่อมฉันตาย พระองค์ก็จะไม่ทรงให้คนตรวจสอบเสียหน่อยหรือเพคะ?” เหลียงซินพูดขึ้นอย่างเศร้าโศก เดิมทีเธอนึกว่าเฉินห้าวจะพูดอย่างไม่แยแสว่านางกำนัลผู้หนึ่งเท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่ามุมปากของเขาจะโค้งขึ้นเบาๆราวกับนำทุกอย่างกุมเอาไว้ในมือหมดแล้ว “แน่นอนว่าจะต้องตรวจสอบ ในเมื่อเป็นนางกำนัลของวังสิงหวัง ก็จะไม่ให้นางตายไปเปล่าๆโดยเด็ดขาด” เฉินห้าวเอ่ยปากขึ้นด้วยคำมั่นที่น่าเชื่อถือ ราวกับรู้แล้วว่าผู้ร้ายที่แท้จริงคือใคร เหลียงซินลูบจมูก ไม่เอ่ยอะไรออกมาในชั่วขณะ “วันนี้ข้ามา เป็นเพราะมีธุระมาหาเจ้า” ทันใดนั้นเขาก็ชูแขนขึ้น แกว่งไปมาเล็กน้อย “ถึงเวลาควรตัดไหมแล้วกระมัง?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 47 เนรคุณ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A