ตอนที่ 50 รอดตายอย่างหวุดหวิด
1/
ตอนที่ 50 รอดตายอย่างหวุดหวิด
หมอยาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 50 รอดตายอย่างหวุดหวิด
ตนที่ 50 รอดตายอย่างหวุดหวิด การเปลี่ยนแปลงเข้ามาได้อย่างรวดเร็วยิ่งนัก ไม่มีใครสามารถนึกได้ว่าจู่ๆเหลียงยินจะวิ่งออกมาอย่างกะทันหันในเวลานี้ เกือบจะสร้างความวุ่นวายให้กับแผนการของเฉินห้าวเข้าเสียแล้ว มือธนูที่อยู่ล้อมรอบบนกำแพงกำลังพร้อมที่จะโจมตี มาพบกับฉากเบื้องหน้าที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันได้คาดคิดเช่นนี้ ต่างก็รอคำสั่งของเฉินห้าวอย่างนิ่งเงียบ รอบดวงตาของเหลียงยินก็รื้นไปด้วยน้ำตา ดึงแขนเสื้อของเฉินห้าวเอาไว้แน่น ไม่ยอมคลายมือแม้แต่ขณะเดียว “ท่านอ๋องเพคะ ไม่ว่าท่านพี่จะทำความผิดอะไร ก็ทรงทำร้ายนางไม่ได้อย่างเด็ดขาดนะเพคะ โปรดท่านอ๋องทรงปล่อยนางไปด้วยเถิดเพคะ!” “นำตัวพระชายารองลากกลับออกไป ไม่อนุญาติให้ออกมาอีก!” เฉินห้าวสั่งออกไป อวิ๋นเม่ยที่อยู่ด้านข้างก็รีบเข้ามาดึงตัวนางไว้ในทันที ทว่า ไม่ว่าจะพูดอะไรเหลียงยินก็ไม่ยอมออกไป เหลียงซินคับข้องใจ ดวงตาสะท้อนความไม่อยากจะเชื่อออกมา นางคิดจะทำอะไรกันแน่? บุคคลลึกลับกลับมองดูทั้งหมดนี้อย่างสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง ราวกับกำลังรับชมละครที่เต็มไปด้วยสีสันฉากหนึ่ง “ท่านอ๋องสิง ดูเหมือนเรื่องภายในบ้านของท่านจะช่างมากมายเสียจริง สามารถมองออกได้เลยว่า ชายแต่งเอาภรรยาเข้ามาล้วนเป็นภาระ” ในอากาศพาดผ่านไปด้วยความรู้สึกหนาวเย็นที่รุนแรง ดวงตาอันเฉียบคมของเฉินห้าวกวาดมองไปยังบุคคลลึกลับ จากนั้นก็หันไปสั่งการมือธนูที่อยู่บนกำแพง “ปล่อยธนู!” ในวินาทีนั้น ฝนธนูอันถี่ยิบบนท้องฟ้าก็ถูกปล่อยมาทางพวกเขาทั้งสองคนในทันที หากไม่ใช่บุคคลลึกลับโบกสะบัดกระบี่ยาวพยายามต้านทานอย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ พวกเขาทั้งสองคนอาจถูกยิงจนกลายเป็นรังต่อไปแล้ว เหลียงซินถูกเขาจับเอาไปไว้ที่ด้านหลัง ลูกธนูนับไม่ถ้วนก็ลอยผ่านด้านหน้าของเธอไปอยู่อย่างนี้ เฉียดเข้าที่ไหล่ของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า “คิดไม่ถึงว่า เฉินห้าวจะไม่ได้ใส่ใจเจ้าเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่จะสังหารข้าให้ได้ แม้แต่เจ้าก็ไม่ยอมละเว้น” บุคคลลึกลับถอยหลังไปทีละก้าวๆ การเคลื่อนไหวภายในมือเพิ่มความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องให้เขาพูด เธอก็รับรู้ได้มานานแล้วว่าในใจของเฉินห้าวเธอก็เป็นเพียงสิ่งของอย่างหนึ่งที่ยอมสละทิ้งได้ทุกเมื่อก็เท่านั้นเอง เธอไม่เคยกล้าคิดฟุ้งซ่านว่าจะสามารถได้รับความเห็นใจหรือความช่วยเหลือจากใครมาก่อน นอกเสียจากครอบครัว “ความตายสำหรับข้าแล้วไม่นับว่าเป็นอะไร แต่กับเจ้าไม่เหมือนกัน บนตัวเจ้ามีความแค้นบัญชีเลือดอยู่ เจ้าจะสามารถทนยอมรับที่จะตายอยู่ที่นี่เช่นนี้ได้อย่างนั้นหรือ?” เพียงครู่เดียวเธอก็มองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง บุคคลลึกลับเพียงแค่หัวเราะขึ้น เสียงสุดท้ายของกระบี่ยาว “ฟึ่บ” ดังขึ้นแล้วร่วงลงเสียบตั้งตรงอยู่บนพื้นดิน ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินห้าวหรี่ลงเล็กน้อย มองดูพวกเขาที่พยายามดิ้นรนกันอย่างเต็มที่ ไม่คิดเลยว่าในใจจะมีความโมโหที่ยากจะปกปิดเพิ่มขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าบุคคลลึกลับผู้นี้จะใส่ใจเหลียงซินถึงเพียงนี้ เพื่อนางแล้วยอมละทิ้งโอกาสที่จะสามารถหนีรอดออกไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงขั้นยังพยายามปกป้องนางอย่างสุดชีวิต ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่เหลียงซินสนิทสนมกับมันถึงเพียงนี้? และในเวลานี้ มือธนูทั้งหลายที่อยู่รอบด้านกำลังวางแผนที่จะโจมตีระลอกที่สอง โอกาสที่เหลือเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ยอมปล่อยไป บุคคลลึกลับดึงกระบี่ขึ้นมาใหม่ ต้านทานอย่างแข็งแกร่ง เขามองไปยังเหลียงซินครู่หนึ่งพลางเอ่ย “ยังจำพนันนั้นในคราวก่อนได้หรือไม่?หากข้าสามรถถอยออกไปได้ทั้งตัว เจ้าจะต้องไปกับข้า” “ยากมาก” สายตาของเหลียงซินมืดมนไปชั่วครู่ ช่างยากมากจริงๆ เฉินห้าวไม่ใช่คนที่จะออมมือให้ใครได้ และพวกเธอทั้งสองต่างก็เป็นคนที่เขารังเกียจชิงชังมากที่สุด เขาจะสามารถยินยอมให้พวกเธอถอยออกไปได้ทั้งตัวได้อย่างไรกัน? หากในครั้งนี้จะต้องตายอยู่ที่นี่เช่นนี้ เหลียงซินก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย กลับรู้สึกปกติมากด้วยซ้ำ ถึงอย่างไร ที่เธอเผชิญหน้าอยู่ก็คือปีศาจที่โหดเหี้ยม กระหายเลือด ไม่เห็นคนเป็นคนตนหนึ่ง “เจ้าไม่ต้องมาสนใจข้าอีกแล้ว หากมีโอกาสก็หลบหนีไปเองเถิด!” เหลียงซินมองดูท่าทางที่ฝืนพยายามของเขา รู้สึกเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างไรพวกเธอก็ยังไม่ได้สนิทสนมกันถึงขึ้นต้องยอมทุ่มเทชีวิตเพื่ออีกฝ่าย ในช่องว่างพอที่จะสามารถหายใจได้นี้เอง จู่ๆเหลียงซินก็ยื่นมือออกไปผลักบุคคลลึกลับให้เขาเข้าไปหลบอยู่ในมุม แต่ตัวเธอเองก้าวออกไปอย่างห้าวหาญ ต้อนรับฝนธนูที่เข้ามาอย่างรวดเร็วเหล่านั้น “ไม่ดีพะยะค่ะ!พระชายา!” จุยเฟิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยร้องขึ้นอย่างรีบร้อน ช่างเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ เฉินห้าวอาศัยพลังที่รวดเร็วราวกับเสียงฟ้าร้องที่อยู่ๆก็ดังขึ้นจนไม่ทันได้ปิดหูหยิบเอาธนูที่อยู่ด้านข้าง “ฟิ้ว” ยิงออกไปกระทบลูกธนูดอกนั้นที่พุ่งไปทางเหลียงซินให้ตกลงในทันที ทว่าวินาทีต่อมา เหลียงยินที่อยู่ด้านข้างกลับไม่รู้ว่าเมื่อไรดิ้นหลุดออกมาจากอวิ๋นเม่ย วิ่งมาทางเหลียงซิน เพียงเพื่อช่วยชีวิตเธอ! “อย่าทำร้ายท่านพี่!” ในชั่วพริบตาเดียว ลูกธนูดอกหนึ่งก็ปักตรงเข้าไปบริเวณไหล่ของนาง ไม่นานเลือดสดๆก็พุ่งออกมา ทั้งตัวของนางล้มลงไปกับพื้นตามเสียง บนชุดสีขาวบริสุทธิ์ยังคงปรากฏดอกไม้ดอกหนึ่งที่ย้อมออกมาโดยเลือดสีแดงสด ทุกคนนึกไม่ถึงว่าจะผิดพลาดจนทำให้เหลียงยินได้รับบาดเจ็บ จึงเงียบสงบลงในชั่วขณะ และเหลียงซินก็หันกลับไปอย่างค่อนข้างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี เหตุผลที่ทำให้เธอคิดไม่ออกก็คือ เหลียงยินช่วยชีวิตเธอถึงเพียงนี้ เพื่ออะไรกันแน่ “ยินเอ๋อร์!” เฉินห้าวตะโกนเสียงดังขึ้นอย่างเจ็บปวด นำเธออุ้มขึ้นมาในแนวนอน ไปส่งยังตำหนักลั่วยินในทันที แผนการในคืนนี้ถือว่าก็ล้มเหลวลงตรงนี้ บุคคลลึกลับใช้โอกาสหนีออกไปได้สำเร็จ เหลียงยินได้รับบาดเจ็บ คิดไม่ถึงว่าคนที่แคล้วคาดปลอดภัยก็คือเหลียงซิน แม้แต่ตัวเธอเองต่างก็รู้สึกผิดคาด! เพียงแต่ในสมองของเธอกกลับปรากฏฉากนั้นที่เฉินห้าวยิงลูกธนูช่วยชีวิตเธอครู่นี้ซ้ำขึ้นมา เธอก็ยิ่งสับสนมึนงงมากขึ้นเรื่อยๆ แท้จริงแล้วเขาต้องการจะฆ่าเธอ หรือต้องการช่วยชีวิตเธอไว้กันแน่? เธอยืนอยู่ตรงกลางที่ว่างในตำหนักเจียวหยางอย่างเงียบๆ บนพื้นเต็มไปด้วยลูกธนูที่ถูกทิ้งลงมา เพียงครู่เดียวก็ทำให้คนนึกถึงฉากที่รอดตายอย่างหวุดหวิดเมื่อครู่นี้ และลูกธนูดอกนั้นที่เฉินห้าวยิงออกมา ก็ตกอยู่ที่ปลายเท้าของเธออย่างชัดเจน ธนูที่เขาใช้ส่วนตัวไม่ค่อยเหมือนกับของคนอื่นนัก บนหัวลูกศรทาตราประทับสีแดงเอาไว้ ดูเหมือนเป็นเครื่องหมายอะไรสักอย่าง ดูลึกลับเป็นอย่างยิ่ง น่าจะเป็นเครื่องหมายที่ใช้ส่วนตัวตอนที่เขานำกำลังทหารไปออกรบ เหลียงซินกุมลูกธนูดอกนี้ไว้ ไม่ยอมปล่อยอยู่นาน “พระชายา ครู่นี้อันตรายมากเลยนะเพคะ!โชคยังดีที่พระองค์ไม่ทรงเป็นอะไร” ชุนฮวากับชิวเยว่วิ่งเข้ามาจากด้านข้างอย่างรีบร้อนพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก “อื้อ” เหลียงซินรู้สึกเพียงแค่คับอกคับใจ ทรมานเป็นอย่างยิ่ง ทันใดนั้นด้านนอกประตูตำหนักเจียวหยางที่เงียบสงัดก็สะท้อนเสียงฝีก้าวที่อ่อนช้อยขึ้นมาระลอกหนึ่ง แทบจะฟังไม่ออก ทว่าเหลียงซินกลับจับเสียงฝีก้าวนี้ได้อย่างไวต่อความรู้สึกเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็เห็นอวิ๋นเม่ยเดินเข้ามา นางเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า “กราบทูลพระชายา ท่านอ๋องทรงให้พระองค์เสด็จไปยังตำหนักลั่วยินสักรอบ โปรดอย่าทรงลืมนำกล่องยาของพระองค์ไปด้วยเพคะ” “ทำไม?ในวังหลวงไม่มีหมอหลวงหรือ?” เหลียงซินไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย “พระชายาอย่าทรงทำให้หม่อมฉันลำบากใจเลยเพคะ คำสั่งของท่านอ๋อง พวกเรามีแต่ต้องปฏิบัติตามเพคะ” อวิ๋นเม่ยบังคับด้วยท่าทีที่ห้าวหาญ ลักษณะการทำงานดูไม่เหมือนผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย เฉินห้าวที่ให้เธอไปเพื่อรักษาหญิงที่เขารักมากที่สุด หรือว่าจะนำลูกธนูที่เหลียงยินได้รับดอกนี้นับว่าเป็นความผิดของเธอ? ไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เธอไม่สามารถสลัดทิ้งความเกี่ยวข้องออกไปได้ เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็นำธนูที่อยู่ในมือส่งให้กับชุนฮวา ทั้งยังให้ชิวเยว่ไปนำกล่องยาออกมา จากนั้นก็ไปที่ตำหนักลั่วยินอย่างเร่งรีบ แต่ชุนฮวาที่อยู่ด้านหลัง มองลูกธนูที่เพิ่มเข้ามาในมือดอกนี้อย่างเงียบๆภายใต้แสงจันทร์ที่สลัว พระชายาทรงนำลูกธนูดอกนี้ส่งให้กับนาง แท้จริงแล้วหมายความว่าอะไรกันแน่? ตำหนักลั่วยินในเวลานี้แสงเทียนสว่างไสวราวกับช่วงกลางวันก็ไม่ปาน หมอหลวงหลายตำแหน่งรวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอกประตู นางกำนัลจำนวนไม่น้อย ดูเหมือนนางกำนัลครึ่งค่อนวังสิงหวังต่างก็มาอยู่ที่นี่แล้ว พอเหลียงซินผ่านพ้นประตู เฉินห้าวก็ผลักเธอไปยังด้านหน้าเตียงนอนของเหลียงยินด้วยความโมโหจนถึงขีดสุด แล้วออกคำสั่งว่า “เจ้ารักษานางให้ได้ มิเช่นนั้นข้าจะนำเจ้าฝังไปพร้อมกับนาง!” ร่างกายของเธอโซเซไปเล็กน้อย เพราะยึดขอบเตียงเอาไว้จึงยืนอย่างมั่นคงได้อย่างถูไถ เธอยืดอกขึ้น เอ่ยออกมาอย่างไม่ได้โอหังและไม่ได้หุนหันพลันแล่นว่า “เฉินห้าว ตอนนี้คือพระองค์ทรงกำลังขอร้องหม่อมฉัน หากหม่อมฉันไม่รักษา พระองค์จะทรงสามารถทำอะไรได้เพคะ?” “หากเจ้าไม่รักษา ตอนนี้ข้าก็จะทำให้มือของเจ้าไร้ประโยชน์เสีย นับแต่นี้ต่อไปเจ้าก็อย่าได้คิดเป็นหมอช่วยชีวิตคนอีก” เฉินห้าววางท่าจากนั้นก็คว้ามือของเธอเอาไว้ ฝ่ามือใหญ่ที่เย็นเป็นน้ำแข็งบีบรัดเข้าที่ข้อมือของเธอ ใช้กำลังภายใน เขาเพียงแค่หักเบาๆก็ทำให้มือของเธอขาดลงได้ ท่าทีที่จริงจังของเขาไม่ได้กำลังล้อเล่น เหลียงซินสูดหายใจเข้าเต็มปอด นำมือดึงกลับมาจากฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างช้าๆ เธอยังไม่มีวิธียอมรับความเจ็บปวดในการสูญเสียมือทั้งสองข้างไปได้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังคงคิดไม่ถึงว่าเธอได้ช่วยชีวิตศัตรูของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า หากเหลียงยินรู้ว่าผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตนางก็คือเธอ จะมีความรู้สึกแบบไหนกันนะ? เธอก้าวยาวๆไปข้างหน้า นำเสื้อผ้าของเหลียงยินทั้งหมดตัดออก จากนั้นก็หักส่วนครึ่งบนของธนูยาว เหลือเพียงแค่หัวศรที่เหลือ ต่อไปก็คือส่วนของการดึงลูกธนูออกแล้ว ในตอนที่ดึงลูกธนูนั้น มีโอกาสที่จะทำให้เสียเลือดมากเกินไป ได้ง่าย ฉะนั้นยาห้ามเลือดคือสิ่งที่จำเป็นต้องมี เพียงแต่อยู่ที่นี่ไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายเลือดได้ ยุ่งยากเป็นอย่างยิ่ง สามารถทำได้เพียงใช้ยาในการห้ามเลือด เหลียงซินรีบเขียนใบสั่งยาใบหนึ่งขึ้นในทันที แล้วให้คนไปนำยามา หลังจากที่ยามาถึงแล้วจึงได้สั่งการลงไปว่า “พวกเจ้าไปนำขิงสดกับโสมป่ามาใส่เข้าไปในปากของนาง คงสติของนางเอาไว้” กระทั่งหลังจากที่พวกเขาทำตามที่พูดทุกอย่างแล้ว เหลียงซินจึงได้เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆว่า “ข้าจะเริ่มทำการดึงลูกธนูแล้ว อีกสักครู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นล้วนเป็นเรื่องที่ปกติ บาดแผลอยู่บนหลังไม่ได้บาดเจ็บเข้าที่จุดสำคัญ ฉะนั้นไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต” จากนั้นเธอก็เริ่มทำการดึงลูกธนู “ฉึก” ครู่เดียวลูกธนูจากในมือของเธอก็ถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว เลือดสดกระเด็นเข้าที่บนใบหน้าของเธอในทันที ในวินาทีนั้นบริเวณโดยรอบก็ระเบิดเสียงร้องด้วยความตกใจขึ้นมาระลอกหนึ่ง มีเพียงเหลียงซิน ที่ช่วยเหลียงยินจัดการกับบาดแผลอย่างใจเย็นทั้งเป็นธรรมชาติ ราวกับเห็นบ่อยจนไม่น่าแปลกใจยังไงอย่างงั้น และสั่งการอย่างเรียบร้อยมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนว่าต้องใช้ยาอะไรบ้าง ชีวิตคนๆหนึ่ง ก็ถูกช่วยให้มีชีวิตรอดขึ้นมาด้วยมือของนางเช่นนี้ นางคือฮว่าถัวกลับชาติมาเกิดหรือ? เฉินห้าวมองอย่างตกตะลึงไปชั่วขณะ สายตาของเขาไม่อาจจะละออกไปจากตัวเธอได้เลยแม้แต่น้อย ราวกับถูกเธอในรูปแบบนี้ดึงดูดเอาไว้อย่างแน่นหนา หญิงผู้นี้ไม่เหมือนใครจริงๆ ที่น่ายินดีก็คือได้แต่งงานกับเขาแล้ว เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้ของนางล้วนคือคนของเขา! ชาตินี้ พวกเขาทั้งสองจะต้องมัดเข้าไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา “พระชายาเพคะ พระองค์ไม่ได้ทรงบอกว่าใช้ขิงสดและโสมป่าคงสติเอาไว้หรือเพคะ?เหตุใดพระชายารองยังทรงสลบไปอีก?” นางกำนัลผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง เหลียงซินกรอกตามองบน เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าเลือดออกมากมายถึงเพียงนั้น เจ้าไม่สลบหรือ?อีกครู่เดียวก็ฟื้นแล้ว กระต่ายตื่นตูมจริงๆ!” นางกำนัลน้อยผู้นั้นไม่กล้าพูดมากออกมาอีกแม้แต่คำเดียว เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ หลังจากที่สังเกตการณ์อยู่ครึ่ง รู้สึกว่าไม่เป็นอะไรแล้วอย่างแน่นอน เหลียงซินจึงได้คิดว่าจะออกไปจากที่นี่ กลับไปอาบน้ำร้อน เพราะอย่างไรทั้งตัวของเธอล้วนเต็มไปด้วยเลือดที่หลงเหลือไว้ตอนที่ดึงธนู คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้น พอดีกับตอนที่เธอกำลังหมุนตัวนั้น อยู่ๆเฉินห้าวก็ส่งผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งมาให้เธอ เป็นสีดำล้วน ไม่มีสัญลักษณ์หรือลวดลายใดๆ แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าล้วนเหมือนคนของเขาไม่มีผิด เหลียงซินกลอกตาเอ่ยขึ้นอย่างไม่แยแสว่า “หม่อมฉันไม่ต้องการ” คำพูดเพิ่งร่วงหล่นลงไป ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นก็ได้มาทางใบหน้าของเธออย่างรุนแรงเป็นที่เรียบร้อย กลิ่นที่ลึกล้ำนิ่งสงบเหมือนกับกลิ่นบนร่างกายของเฉินห้าวลอยเข้าไปในจมูกของเธอ เขาเช็ดหน้าให้เธออย่างหยาบคาย สุดท้ายก็เอ่ยออกมาด้วยความรังเกียจว่า “เอากลับไปซักให้สะอาดค่อยนำมาคืนให้ข้า”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 50 รอดตายอย่างหวุดหวิด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A