ตอนที่ 63 พูดจาภาษาดอกไม้
1/
ตอนที่ 63 พูดจาภาษาดอกไม้
หมอยาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 63 พูดจาภาษาดอกไม้
ตนที่ 63 พูดจาภาษาดอกไม้ พอได้ยินเหลียงซินอยากพูดคุยกับฮ่องเต้เป็นการส่วนตัว เฉินอวี้ก็กระวนกระวายใจขึ้นมาในทันที กลัวว่าเธอจะพูดความลับอะไรที่ร้ายแรงออกไป “โอ๊ะ พี่สะใภ้ห้า พระองค์ทรงมีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถพูดต่อหน้าของพวกเราได้?คาดว่าคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรกระมัง?” เฉินอวี้อุทานด้วยความประชดประชันอย่างแปลกประหลาด ทีท่าไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง เหลียงซินเลิกคิ้วมองเขาด้วยความคลางแคลงสงสัย “องค์ชายเจ็ดทรงพูดเล่นแล้วเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่อยากพูดคุยกับเสด็จพ่อไม่กี่ประโยคก็เท่านั้น เหตุใดพระองค์จึงต้องทรงตื่นตระหนกเช่นนี้ด้วยเพคะ?” พอทอดพระเนตรเห็นความประพฤติและกิริยาอาการที่ผิดปกติไปของเฉินอวี้ ฮ่องเต้ก็ทรงมีทีท่าที่ไม่พอพระทัยเช่นเดียวกัน “ซ่างหวัง หากเจ้าไม่มีธุระอันใดแล้ว ก็ออกไปก่อนเถิด ข้ากับพระชายาสิงยังมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันอีก” คราวนี้ แม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงเอ่ยปากตรัสออกมาแล้ว เฉินอวี้ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ถอยออกไปนอกพระตำหนักเหวินหวู่พร้อมกับเฉินห้าวสองคน สีของท้องฟ้าด้านนอกได้มืดสนิทลง ข้าหลวงในวังทั้งหลายจุดตะเกียงที่ด้านนอก สว่างไสวราวกับตอนกลางวัน ส่องสะท้อนทั่วทั้งระเบียงยาว ดูเหมือนจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ เฉินห้าวยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ รอคอยเหลียงซินออกมา เขารู้ดีว่า นางจะพูดอะไรกับฮ่องเต้ ในขณะเดียวกันก็กำลังเป็นห่วงว่าฮ่องเต้จะทรงเชื่อคำพูดของนางหรือไม่ หากไม่ทรงเชื่อ และยังทรงประสงค์ที่จะเข้าข้างเฉินอวี้ เช่นนั้นความคิดทั้งหมดของพวกเขาก็เปล่าประโยชน์ไปหมดแล้ว แสงจันทร์ส่องสะท้องลงมาบนระเบียงยาว เงียบเหงาและหนาวเย็นเล็กน้อย คนสองคนต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง ให้ความสนใจกับข่าวคราวภายในพระตำหนักเป็นอย่างยิ่ง เฉินอวี้กลับมองดูเฉินห้าวที่อยู่ด้านข้าง ค่อยๆเข้าใกล้เขา พลางเอ่ยถามขึ้นอย่างเคลือบแคลงสงสัยว่า “พี่ห้า ก่อนหน้านี้ผู้ที่พระองค์ทรงรังเกียจมากที่สุดก็คือพี่สะใภ้ห้า ทั้งยังกราบทูลต่อเสด็จพ่อว่าต้องการจะยุติความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาอยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้พระองค์คงจะไม่ใช่ทรงชอบนางเข้าแล้วจริงๆกระมัง?” สายตาที่รุนแรงและเย็นชาของเฉินห้าวร่วงหล่นลงไปบนใบหน้าของเขา ริมฝีปากบางเม้มแน่น คิ้วทรงกระบี่เลิกขึ้นเล็กน้อย “เดิมทีนางก็เป็นพระชายาของข้า ไม่ว่าในตอนแรกจะเป็นเช่นไร ตอนนี้ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราได้” “เฮอะ ...“ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังสะท้อนเข้ามา “พี่ห้าทรงอย่าบอกหม่อมฉันนะว่า พระองค์ทรงชอบพี่สะใภ้ห้าเข้าแล้วจริงๆ เช่นนั้นแท้จริงแล้วพระองค์ทรงชอบฝีมือทางการแพทย์ของนาง ทรงชอบความช่วยเหลือที่นางมอบให้ หรือว่าทรงชอบนางที่เป็นนางกันแน่?” เสียงๆนี้ดังสะท้อนอยู่ในสมองของเฉินห้าวไม่หยุดเป็นเวลาเนิ่นนาน ราวกับเงามืดก็ไม่ปาน ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป จนเกิดคำถามขึ้นภายในจิตใจของเขา หากเขาไม่ได้พบว่าเหลียงซินมีวิชาทางการแพทย์ มีความสามารถในสิ่งที่เขาไม่รู้อย่างมากมาย ยังคงเป็นเหลียงซินที่ขี้หึง ทั้งยังเอาแต่ใจตนเองคนนั้นแบบเมื่อก่อน เช่นนั้นเขายังจะชอบนางอยู่หรือไม่? คำตอบก็คือ “ไม่” อย่างแน่นอน! เขา ที่ชอบก็คือเหลียงซินในตอนนี้ เหลียงซินที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้! ภายในพระตำหนักเหวินหวู่ เปลือกตาด้านขวาของเหลียงซินกระตุกไม่หยุด โบราณว่า ซ้ายดีขวาร้าย ดูแล้ววันนี้คงจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ? ทว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ก็ไม่สามารถขัดขวางสิ่งที่เธอกำลังจะพูดต่อไปนี้ได้ เธอเขยิบเข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก้มศีรษะเอาหน้าผากแตะพื้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า “กราบทูลเสด็จพ่อ เมื่อวานนี้หม่อมฉันได้มีการค้นพบบางอย่างบนตัวของผู้ลอบสังหารผู้นั้น ตอนที่เขากำลังลอบสังหารท่านอ๋องสิง ยาพิษที่ใช้ทั้งหมดล้วนเป็นแบบเดียวกันกับยาพิษที่พระสนมเอกได้รับไม่มีผิดเพคะ หม่อมฉันสงสัยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังผู้ลอบสังหารเหล่านี้ เป็นคนเดียวกับผู้ที่วางยาพิษพระสนมเอก หากแต่ไม่ใช่องค์รัชทายาทเพคะ!” “อ๋อ?อาศัยเพียงแค่ยาพิษที่ผู้ลอบสังหารใช้เพียงอย่างเดียว เหตุใดเจ้าจึงสามารถตัดสินชี้ขาดได้ว่าเรื่องการวางยาพิษไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาท?” ฮ่องเต้ทรงเอนพระวรกายไปทางด้านหลัง มองเหลียงซินลงมาจากด้านบน “หากไม่สามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่ข้าได้ ข้าจะเห็นว่าเจ้าเป็นพรรคพวกเดียวกับองค์รัชทายาทมาลงโทษเจ้า!” บนแผ่นหลังของเหลียงซินเต็มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายหนาวเหน็บ แต่ยังคงบีบบังคับให้ตัวเองใจเย็นลง หากแม้แต่เธอยังใจเย็นไม่พอแล้ว จะสามารถช่วยองค์รัชทายาทให้ออกจากคุกได้อย่างไร? “กราบทูลเสด็จพ่อ ในตอนที่ท่านอ๋องสิงกับผู้ลอบสังหารกำลังประมือกันนั้น ผู้ลอบสังหารพูดออกมาเองว่าพิษนี้ได้ไหลเข้าสู้วังหลวงแล้ว พิษในตอนแรกที่พระสนมเอกได้รับนั้นเป็นหม่อมฉันที่ทำการรักษา ตอนที่หม่อมฉันกำลังจัดเตรียมยาถอนพิษนั้น ได้ขาดถั่วดำที่ด้านในเมล็ดเป็นสีเหลืองไป ก็เป็นองค์รัชทายาทที่ทรงมอบให้ หากองค์รัชทายาททรงคิดที่จะวางยาพิษทำร้ายพระสนมเอก แล้วยังจะยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยเหตุใดเพคะ” เธอพูดจาภาษาดอกไม้ สร้างเรื่องมั่วไปหมด อย่างไรเสียผู้ลอบสังหารได้ตายไปแล้วไม่สามารถตรวจหาความจริงได้ ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะปั้นเรื่องจริงในตอนนี้อย่างไร ก็ไม่มีใครรู้ อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ทำให้ฮ่องเต้ทรงเชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดคือความจริงก็พอแล้ว สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ทรงเชื่อครึ่งสงสัยครึ่ง ทรงกำลังลังเลพระทัย “ให้อ๋องสิงเข้ามา!” ใจของเหลียงซินหนักหน่วงขึ้นมาในทันที นี่พระองค์กำลังทรงเรียกเฉินห้าวมาตรวจหาความจริงต่อหน้าพระพักตร์ ยืนยันข้อเท็จจริง หากคำให้การไม่ตรงกันแล้วล่ะก็ เช่นนั้นพวกเขาทั้งสองต่างก็ต้องแบกรับโทษฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ! ในเวลานี้ บนหลังของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถึงเวลานั้น ก็ทำได้เพียงพลิกแพลงไปตามสถานการณ์แล้ว ประตูของพระตำหนักใหญ่ค่อยๆเปิดออก และยังปิดลงอย่างช้าๆอีกครั้งหนึ่ง ไม่นาน เฉินห้าวก็มาคุกเข่าอยู่ที่ด้านข้างของเธอ ลำตัวของเขาตั้งตรงท่าทางสง่างามและฉลาดเฉลียว เส้นเอ็นที่อยู่ด้านข้างของใบหน้ามัดรวมเข้าหากันแน่น ริมฝีปากวาดผ่านรอยยิ้มที่สวยงามออกมา มองดูแล้วงดงามเป็นอย่างยิ่ง “อ๋องสิง ข้าขอถามเจ้า ตอนที่เจ้ากำลังประมือกับผู้ลอบสังหารที่สนามแข่งม้านั้น ได้โดนวางยาพิษหรือไม่?” ฮ่องเต้ทรงตรัสถามอย่างชัดเจนทีละคำทีละประโยค “กราบทูลเสด็จพ่อ หม่อมฉันโดนวางยาพิษจริงๆพะยะค่ะ เป็นซินเอ๋อร์ที่ช่วยหม่อมฉันถอนพิษ อีกทั้งพิษที่ได้รับนั้นเป็นชนิดเดียวกันกับที่พระสนมเอกทรงได้รับเหมือนกันไม่มีผิดพะยะค่ะ” คำตอบของเฉินห้าวทำให้เหลียงซินถอนหายใจอย่างโล่งอก ฮ่องเต้ทรงตรัสถามต่อว่า “ตอนที่เจ้าได้รับพิษนี้ ผู้ลอบสังหารได้พูดอะไรไว้หรือไม่?” บนหน้าผากของเหลียงซินผุดเหงื่อเม็ดเล็กๆออกมาอย่างมากมาย มือทั้งสองที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่น ก้มศีรษะลงเล็กน้อยดวงตาทั้งสองข้างหลบต่ำลง รอคอยคำพิพากษาสุดท้ายอย่างกระวนกระวายใจ เฉินห้าว พระองค์ทรงอย่าทำให้หม่อมฉันผิดหวังเป็นอันขาดนะเพคะ! เขาหันกลับมามองเหลียงซินอย่างช้าๆ ดวงตาทั้งสองหรี่ลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากตอบไปว่า “มีพะยะค่ะ ผู้ลอบสังหารผู้นั้นพูดกับหม่อมฉันว่า...” ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงที่รีบร้อนวุ่นวายด้านนอกประตู เสียงที่ลากยาวของขันทีและนางกำนัลทั้งหลาย ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นอย่างโกลาหลอลหม่าน “ไฟไหม้แล้ว!ไฟไหม้แล้ว!รีบไปกราบทูลรายงานฮ่องเต้ว่าพระตำหนักฉู่อิงไฟไหม้แล้ว!” พระตำหนักฉู่อิงไฟไหม้? เหตุใดชื่อนี้จึงคุ้นหูถึงเพียงนี้?นี่ดูเหมือนจะเป็น...พระตำหนักที่ประทับของเฉินเช่อ! ประตูของพระตำหนักเหวินหวู่ถูกหลี่เต๋อกงกงผลักออก เขารายงานอย่างร้อนรน ตาลีตาลานว่า “กราบทูลฮ่องเต้ วังฉู่อิงไฟไหม้แล้วพะยะค่ะ ไฟลุกไหม้รุนแรงมาก องค์ชายสิบเอ็ดทรง...ทรงถูกขังอยู่ด้านในพะยะค่ะ องครักษ์ทั้งหลายได้เข้าไปช่วยแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไรพะยะค่ะ!” “ยังรออะไรอยู่ รีบไปดูเร็วๆสิ!” ฮ่องเต้ทรงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างร้อนรน แม้แต่เรื่องที่กำลังสอบถามกับเฉินห้าวก็ไม่ได้สนใจแล้ว เวลานี้ ในสมองของเหลียงซินมีเสียงดังอื้ออึงมั่วไปหมด เฉินเช่อจะเป็นอะไรไปไม่ได้!เป็นอะไรไปไม่ได้! แม้จะให้เธอทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ก็จะต้องช่วยชีวิตเขาออกมาให้ได้! เธอออกไปอย่างรวดเร็ว วิ่งไปทางวังฉู่ยิงอย่างชำนาญทาง ในสมองฉายภาพรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า และความอบอุ่นที่กระจายออกมาจากทั่วทั้งร่างกายของเฉินเช่อซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ในยุคสมัยนี้ เขามอบความอบอุ่นให้กับเธอ มอบความปิติยินดีเป็นครั้งแรกให้กับเธอ เธอเคยให้คำสัญญากับเขาไว้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็จะปกป้องเขาให้ดี ไม่ให้ใครมารังแกเขาได้อีก แต่ว่าวันนี้กลับ... พอดีกับตอนที่เธอกำลังวิ่งตามทางไปนั้น เฉินห้าวที่อยู่ทางด้านหลังก็จับแขนของเธอเอาไว้แน่น “เจ้าวิ่งไปเช่นนี้ช้าเกินไปแล้ว ข้าพาเจ้าไปเอง!” หลังจากพูดจบ ตัวของเธอก็ถูกอุ้มเอาไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นก็ทะยานขึ้นไปบนหลังคาของวังหลวง เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วหลายต่อหลายครั้งในความมืด ที่แท้ นี่ก็คือความรู้สึกของวิชาตัวเบา อัศจรรย์มากจริงๆ ลมเบาๆพัดผ่านเข้ามาบนใบหน้า ผ่านอิฐสีครามกระเบื้องมุงหลังคาสีเขียว เขย่งปลายเท้าขึ้นก็เป็นอีกหลังคาหนึ่ง เสียงลมพัดผ่านเพียงชั่วขณะเดียว ไม่ช้า พวกเขาก็ลงมาบนด้านนอกประตูของพระตำหนักฉู่อิงอย่างปลอดภัย เหลียงซินสลัดตัวหลุดออกจากอ้อมแขนของเขา เอ่ยขอบคุณด้วยความเขินอายไม่เป็นธรรมชาติ จากนั้นก็มองไปทางพระตำหนักฉู่อิง ในตอนนี้ สถานการณ์ไฟไหม้ที่อยู่ด้านในได้ขยายวงกว้าง เหล่านางกำนัลและขันทีที่อยู่ด้านนอกทยอยไปตักน้ำมาดับไฟกันอย่างวุ่นวาย ทว่า กลับไม่มีผลอะไร แสงจากไฟส่องใบหน้าที่ซีดขาวของเธอ ทันใดนั้น เธอก็ถลันเข้าไปด้านในพระตำหนักฉู่อิงอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “เหลียงซิน!เจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?กลับมาเดี๋ยวนี้!” เฉินห้าวคิดไม่ถึงว่าอยู่ๆนางจะวิ่งเข้าไปในทันที จะยื่นมือไปคว้าเอาไว้ แต่กลับสัมผัสได้เพียงชายเสื้อของนางมีแต่ความว่างเปล่า นางเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยก็ไม่ปาน เข้าไปด้านในทะเลเพลิงอย่างรวดเร็วราวกับบิน ดวงตาทั้งสองของเฉินห้าวแดงก่ำ ใบหน้าดุดัน เข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เท้าและขาไม่ฟังคำสั่ง พุ่งตัวเข้าไปเช่นเดียวกันในทันที เหลียงซิน หากเจ้าตาย แม้ว่าจะให้ข้าลงไปในนรก ก็จะจับเอาเจ้ากลับมาให้ได้! ด้านใน ไฟลุกรุนแรงมาก แสงจากไฟสว่างมาก ควันก็เข้มข้นมาก ทุกสิ่งของทุกอย่างล้วนดูไม่ค่อยเหมือนความจริงเท่าไรนัก แทบจะถึงจุดที่ยื่นมือออกไปก็เห็นเพียงแค่ควันไฟที่เข้มข้น ไฟไหม้ยังคงรุนแรงเป็นอย่างมาก ลุกไหม้ แผ่ขยายไม่ยอมหยุด แทบจะปิดทางข้างหน้าของพวกเขาทั้งหมด ทว่า เฉินห้าวก็ยังคงมองเห็นเหลียงซินที่กำลังล้มลุกคลุกคลานตามหาเฉินเช่ออยู่ในกองเพลิงได้เพียงแค่ครู่เดียว เขาจับมือของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา ใช้ร่างกายของตนเองปกป้องเธอไว้ “เฉินห้าว?พระองค์ทรงเข้ามาได้อย่างไรกัน?รีบออกไปเพคะ!” เหลียงซินที่กำลังใช้มือปิดปากตะโกนเสียงดังออกมา นี่เขาไม่ใช่เข้ามาสร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้นให้เธอหรอกหรือ? “ข้าคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าเข้า ตามข้ามา” เฉินห้าวจับเธอเอาไว้แล้วเดินไปทางด้านในตำหนักที่ประทับของเฉินเช่อ เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ด้านนอกประตูของตำหนักที่ประทับ ก็ได้เห็นเฉินเช่อที่หมดสติไป เฉินห้าวอุ้มเขาขึ้นมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ในเวลานี้เอง เสียง “ครืน” ดังขึ้น คานอันหนึ่งได้ถูกทับหัก ล้มลงมายังเบื้องหน้าของพวกเขา ปิดกั้นทางออกไปด้านนอก ทั้งสองคนต่างก็ตกใจ เฉินห้าวตะโกนเสียงดังออกมาในทันที “ตามข้ามา ออกไปทางประตูหลัง!” โชคยังดีที่พระตำหนักฉู่อิงไม่ได้ใหญ่มาก ตำแหน่งของประตูหลังก็ไม่ได้ไกลมากเช่นเดียวกัน คนสองคนผ่านทะเลเพลิงด้วยความรวดเร็ว วิ่งไปทางประตูหลัง หลังจากถึงแล้วจึงได้พบว่า ประตูหลังได้ถูกคนปิดตายเรียบร้อยแล้ว คาดว่า ไม่เพียงแค่ประตูหลัง น่าจะเป็นประตูทั้งหมดได้ถูกคนปิดตายไปหมดแล้ว “บ้าที่สุด!” เฉินห้าวสบถออกมา ดูเหมือนไฟไหม้ใหญ่ครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ หากแต่มีคนจงใจวางเพลิง จุดมุ่งหมายก็เพื่อที่จะฆ่าเฉินเช่อ “ถูกขังอยู่ที่นี่ แทบจะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตรอดกลับมา เฉินห้าว คราวนี้พวกเราจะต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยกันแล้วเพคะ” เหลียงซินยิ้มอย่างทุกข์ทรมาน นี่นับว่าอะไร?เดินไปหาความตายด้วยกันอย่างนั้นหรือ? “เหลียงซิน เจ้ามีสติหน่อย!พวกเราจะไม่ตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน ข้าจะไม่ให้พวกที่ต้องการทำร้ายข้าสมปรารถนาอย่างแน่นอน” เฉินห้าวกัดฟันแน่นแล้วพูดออกมา วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็จะต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ เขาเคยสัญญาเอาไว้ ชีวิตของเหลียงซินก็ดุจดังกับชีวิตของเขา ตอนนี้บนตัวของเขาได้ผูกสองชีวิตเอาไว้ จะตายไปง่ายๆเช่นนี้ได้อย่างไร? เหลียงซินสูดเอาควันที่เข้มข้นเข้าไปในปริมาณที่มากเกิน ระดับการหายใจติดขัด ร่างกายอ่อนแอไร้กำลัง เธอเอนตัวลงบนร่างกายของเฉินห้าวอย่างยากลำบาก ไม่มีความมั่นคง เธอฝืนยิ้มเอาไว้ “เฉินห้าว คนที่ควรจะมีสติก็คือพระองค์ ถูกขังอยู่ที่นี่พวกเราจะออกไปได้อย่างไรกัน?บางที หม่อมฉันก็ไม่ใช่ของที่นี่ตั้งแต่ทีแรก ทุกอย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นความฝันแล้วกันเพคะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 63 พูดจาภาษาดอกไม้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A