ตอนที่ 71 ทำตามคำมั่นสัญญาตามหมายนัดพนัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 71 ทำตามคำมั่นสัญญาตามหมายนัดพนัน
ต๭นที่ 71 ทำตามคำมั่นสัญญาตามหมายนัดพนัน ไม่ว่าจะกล่าวว่าอย่างไร เข็มเงินทั้งสามเล่มล้วนเป็นสิ่งที่เหลียงซินใช้ประจำ มีเพียงนางและเหลียงอินเคยสัมผัสมาครั้งหนึ่ง ถูกใส่ความดุจโดนน้ำสกปรกสาดใส่ทั่วตัวก็ไม่อาจล้างสะอาดแล้ว “ถ้าผู้ใดไม่กระทำผิดต่อเรา เราก็จะไม่กระทำผิดต่อผู้ใด ถ้าผู้ใดกระทําผิดต่อข้า ก็จะต้องจ่ายคืนแน่นอน” เหลียงซินแอบหัวเราะเยาะเย้ย คิดจะต่อสู้กับนาง ต้องร่วมน้อมจนถึงที่สุด ชุนฮวาและชิวเย่ว์มองท่าทีก้าวร้าวของนาง มองสบตากันครั้งหนึ่ง ซานเสียวเจ้ของพวกนาง ยิ่งมายิ่งร้ายกาจแล้ว “ใช่แล้ว พวกเราต้องไม่ถูกพระสนมเช้อปรักปรำเปล่า ๆ แบบนี้แน่นอน เรื่องนี้ ต้องทวงความยุติธรรมคืนมาให้จงได้แน่ ๆ ! แต่พระสนมเพค่ะ เราควรจะทำยังไงดีเพค่ะ?” พวกนางถอนหายใจอย่างโง่งม สถานการณ์ปัจจุบันของพวกนางย้อนกลับสู่อดีตไปอีก เดิมเฉินฮ่าวก็ทรงลำเอียงโปรดปรานเหลียงอิน เมื่อวานนี้ก็ได้ทรงโปรดปรานอย่างแท้จริงแล้ว ถ้าหลังจากนั้นนางทรงตั้งครรภ์แล้ว ก็ต้องเป็นผู้ทรงเกียรติมากที่สุดในพระตำหนักอ๋องสิง ไม่มีใครกล้าแตะต้องนางสามส่วน แม้แต่ยศฐาบรรดาศักดิ์ ก็จะเลื่อนสูงกว่าพระมเหสีได้ทันที ซึ่งก็เป็นไปได้อย่างยิ่ง พวกนางทั้งสองเป็นกังวลแล้ว มองกลับไปที่เหลียงซิน กลับมีท่าทีสงบไม่รีบเร่ง ดูผิวเผินเฉื่อยชา ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ เรือนลั่วอิน ภายในห้องกลิ่นหอมของดอกลิลลี่ลอยล่องจาง ๆ อยู่สายหนึ่ง แสงแดดจากนอกหน้าต่างสาดส่องลงในห้องอันโอ่โถงหรูหราห้องนี้ ทำให้ทั้งห้องกลายเป็นอบอุ่นมากยิ่ง เหลียงอินสีหน้าซีดขาวดูอ่อนแอนอนอยู่บนเตียง รอยเปื้อนเลือดที่มุมปากได้ถูกเช็ดออกจนสะอาดแล้ว ท่าทีอ่อนปวกเปียกทำให้ผู้คนมิอาจอยู่ห่างแม้สักครึ่งก้าว “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเจ็บปวดมากไปทั่วร่าง ศีรษะของหม่อมฉันก็เวียนมาก พระองค์จะทรงประทับอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหม่อมฉัน อย่าทรงเสด็จไปเลยได้ไหมเพค่ะ?” นิ้วเย็นของนางกุมพระหัตถ์ของเฉินฮ่าวไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยออก “ข้าจะไม่ไป จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่นี่” เฉินฮ่าวทรงกุมมือนางกลับ แล้วทรงวางใส่ไว้ในผ้าห่ม เหลียงอินเปลือกตาหลุบลงต่ำ มีกระแสไม่เต็มใจสายหนึ่งหลุดลอดออกจากนัยน์ตาของนาง เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็กลายเป็นดูท่าทางช่างน่าสงสาร นางสะอื้นไห้เอ่ยปาก กล่าวว่า “ไม่คิดว่าท่านพี่จะทำเช่นนี้ได้ หม่อมฉันไม่ทราบว่าได้ทำผิดสถานใดต่อท่านพี่ ท่านอ๋องเพค่ะ อีกสักครู่หม่อมฉันจะไปขอโทษนางดีไหมเพค่ะ? หม่อมฉันเพียงคิดจะใช้ชีวิตส่วนที่เหลืออย่างสงบในพระตำหนัก ไม่คิดจะสร้างปัญหาเพค่ะ” กล่าวพลาง หนึ่งหยดน้ำตาใสก็กลิ้งลงมาจากแก้ม ช่างน่าสะเทือนใจผู้คนยิ่ง เฉินฮ่าวมองท่าทีนางเช่นนี้ ใจมิอาจทนได้ ยังคิดถึงการกระทำของเหลียงซินในวันนี้ ความโกรธในใจก็พลุกพล่านอย่างช้า ๆ ขึ้นมาอีก วันนี้เหลียงซินไม่เพียงโต้ใส่เขาเพื่อองค์รัชทายาท แต่ยังแอบซ่อนเข็มเงินเพื่อไว้จัดการกับเหลียงอิน ถ้าบอกว่าการหกล้มนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้เจตนาแล้ว เรื่องเข็มเงินนั้น ต้องมีการวางแผนมาเป็นเวลานานแล้วแน่นอน ไม่ว่าเป็นเรื่องไหน ก็ฝ่าฝืนกฏข้อห้ามของเขาทั้งสิ้น คิ้วกระบี่อันเย็นชาของเขาขมวดไว้ สัมผัสได้ถึงภยันตรายประเภทฝนฟ้าพายุกำลังจะมา “เจ้าไม่ต้องไปขอโทษเหลียงซิน ข้าจะให้นางมาขอโทษเจ้าเอง ในพระตำหนักอ๋องสิงนี้ ยังไม่ใช่คราวของนางเหลียงซินที่จะไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ฟ้าสวรรค์ใด ๆ” เหลียงอินได้ยินคำตรัส ความเคียดแค้นในใจก็หายไปครึ่ง เฉินฮ่าวยังสนใจนางตามที่คาดไว้จริง ๆ ดูผิวเผิน นางยังคงถอนหายใจไปครั้ง “ท่านอ๋อง ท่านต้องไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด หม่อมฉันและพี่สาวเป็นพี่น้องกัน ถ้าผู้คนในตำหนักเจิ้นอันทราบเข้าแล้ว จะต้องมาช่วยทวงความยุติธรรมคืนให้พี่สาวแน่ ๆ ถึงเวลานั้นเกิดความขัดแย้งขึ้นก็จะไม่ดีแล้วเพค่ะ” ตำหนักเจิ้นอันเป็นครอบครัวทางมารดาของเหลียงซิน ถ้านางวิ่งไปร้องทุกข์ที่บ้านมารดาของนางแล้ว แบบนั้นแม่ทัพเจิ้นอันต้องมาหาถึงที่นี่แน่ เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะหาเรื่องกันจนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งเมืองหลวง ไอ้ที่เสียหน้าก็ยังเป็นพระตำหนักอ๋องสิง “แล้วเปิ่นหวังจะยอมให้นางทำร้ายเจ้าอีกครั้งและอีกครั้งได้อีกงั้นหรือ? ถ้านางกล้าที่จะส่งข่าวใด ๆ ออกไปสักนิด เปิ่นหวังจะตัดลิ้นของนางเสีย!” เฉินฮ่าวพูดอย่างเย็นชา ศิลาก้อนใหญ่ในใจของเหลียงอินได้วางลงแล้ว คราวนี้ไม่เพียงแต่จัดการกับเหลียงซิน แต่ยังให้เฉินฮ่าวได้เตรียมใจป้องกันในการรับมือกับตำหนักเจิ้งอันทางอ้อมด้วย เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริง ๆ นางไอเบา ๆ สองครั้งอย่างอ่อนแอ เอื้อมมือออกไป กอดเฉินฮ่าวไว้แน่น “ท่านอ๋อง ท่านทรงรักโปรดปรานหม่อมฉันมากเพียงนี้ หม่อมฉันได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนรู้สึกตกใจ ไร้สิ่งใดตอบแทนได้เพค่ะ” นางเงยหน้าขึ้น มือทั้งคู่ตวัดเกี่ยวคอของเขาไว้ ริมฝีปากซีดขาวค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมา ทันทีที่นางเกือบจะจูบเขา ก็ถูกผลักเบา ๆ ออกไปแล้ว เฉินฮ่าววางนางลงบนเตียง เผชิญหน้าการโหยหาจูบของนาง ในใจสงบไม่ตกใจ กระทั่งความรู้สึกรักก็ไม่มีสักเล็กน้อย “สุขภาพของเจ้ายังไม่ดี ต้องพักผ่อนให้มาก เปิ่นหวังจะมาหาเจ้าพรุ่งนี้” หลังจากที่เขาพูดจบเขา ก็สะบัดแขนเสื้อออกไปจากเรือนลั่วอิน มองดูเงาหลังของเขาที่จากไปไกล เหลียงอินจับบีบผ้าห่มไว้แน่น โกรธอย่างไม่มีชิ้นดี เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเมื่อกี้ยังดี ๆ ทำไมจู่ ๆ ก็ผละจากไปแล้ว? หรือว่าเป็นเพราะจูบนี้ของนาง? ไม่ใช่น่ะ ไม่ใช่น่ะ! เฉินฮ่าวต้องรักนางแน่นอน ไม่ใช่เพราะจูบนี้จึงโกรธ เขาไปจากเรือนลั่วอินเพราะมีเรื่องอื่น ๆต่างหาก! เมื่อแม่เฒ่าหวังยกยาสมุนไพรเข้ามาในห้อง เพียงเห็นเหลียงอินอยู่คนเดียวบนเตียงโกรธอยู่ จึงปลอบใจนางอย่างใจกว้างว่า “พระสนมเช้อ เรื่องมาถึงขั้นนี้ พวกเรามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ท่านควรจะสงบจิตใจแล้ว เห็นได้ชัดว่าท่านอ๋องเข้าข้างท่านเพค่ะ” เหลียงอินมองนางปราดเดียว กล่าวอย่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “แต่เมื่อครู่ท่านอ๋องเขาหลบการจูบของข้า...แม่เฒ่าหวัง เจ้าว่าเป็นเพราะข้าดูไม่สวยหรือไม่? หรือในใจท่านอ๋องไม่มีข้า?” เมื่อได้ยินวาจานี้ แม่เฒ่าหวังกลับตึงเครียดขึ้นมา วางชามลงค่อย ๆ ลูบหลังมือของนาง “พระสนมเช้อ วาจานี้เอ่ยไม่ได้ บ่าวเฒ่ากล้ารับประกันว่า ในพระทัยของท่านอ๋องทรงมีท่านแน่นอน ทุกครั้งที่ท่านเกิดอุบัติเหตุ ท่าทีกังวลของฝ่าบาทไม่ได้เป็นความเท็จ ขอหยิบยกครั้งนี้มากล่าว เจ้าเหลียงซินนั้นยังไม่ใช่ต้องรับอาญาแต่โดยดีหรอกหรือเพค่ะ?” เหลียงอินฟังวาจาแล้ว อารมณ์ค่อยดีขึ้นหัวเราะออกมา นางรู้ว่าแม่เฒ่าหวังต้องพูดดีน่าฟังปลอบใจนาง ซึ่งสิ่งที่นางต้องการพอดี เป็นเพียงคำพูดที่น่าฟังคำพูดเดียวเท่านั้น “แม่เฒ่าหวัง เข็มเงินสองสามเล่มนั้นได้ทิ้งไปหมดหรือยัง? ถ้าเหลียงซินพบหลักฐานว่าเข็มเงินเหล่านี้ไม่ใช่ของนาง ถ้างั้นเราก็ต้องแย่แล้ว!” รอยยิ้มของนางค่อย ๆ จางหายไปและเปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาแทน แม่เฒ่าหวังรีบพยักหน้าทันที กล่าวว่า “เข็มเงินล้วนทิ้งไปหมดแล้ว จะไม่มีใครสืบได้ พระสนมเช้อท่านวางใจเถอะเพค่ะ” กลางคืน ค่อย ๆ มืดลง เดือนเมษายน พายุฝนฟ้าคะนอง ยังไม่ถึงเที่ยงคืน ฝนก็เทกระหน่ำลงมา สักพักกระแทกใส่หลังคาทันที ส่งเสียงดัง “แปะ ๆ” เหลียงซินถูกฝนห่าใหญ่นี้ตกหนักจนนอนไม่หลับ พลิกตัวไป ท่ามกลางแสงเทียนวูบวาบเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด เพียงเห็นชายคนหนึ่งในชุดสีดำนั่งอยู่บนเตียงของนาง มองนางอย่างไม่ไหวติง ตาทั้งคู่ของนางเบิกกว้าง สามวินาทีต่อมา นางจึงได้แสดงทีท่าเตรียมที่จะป้องกันอย่างลังเลสงสัย เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเฉียบขาดดึงกริชที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมา เผชิญหน้ากับชายตรงหน้า “เจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงบุกเข้ามาในห้องข้า ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” เสียงนางเย็นสงบทุ้มลึก แต่มือที่สั่นเล็กน้อยกลับทรยศนางแล้ว เผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่รู้จักและเป็นอันตราย นางยังรู้สึกหวาดกลัว ชายคนนั้นยิ้มอย่างชั่วร้าย ค่อย ๆ ปลดดึงเสื้อคลุมบนกายออก ท่ามกลางแสงเทียนสลัว ใบหน้าที่คุ้นเคยซึ่งยังคลุมหน้าไว้ได้เปิดเผยออกมา...คนลึกลับ! “อะไรเหรอ? ไม่ได้เจอกันแค่สิบวัน เจ้าก็จำข้าไม่ได้แล้วเหรอ?” เสียงแหบของเขาทุ้มลึก ลึกลับ ราวกับยังแฝงรอยยิ้มไว้ด้วย เหลียงซินกุมกริชในมือกระชับแน่นขึ้น ชี้ไปที่หน้าอกของเขา ถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่อีก?” ก้นบึงนัยน์ตาของเขาอมยิ้ม ดวงตาคู่นั้นในคืนที่มืดมัวนี้ยิ่งดูลึกซึ้ง คนทั้งร่างดูไปแล้วมีลักษณะเหมือนเป็นนักฆ่าคนหนึ่ง ชีวิตตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่ว่า เขากลับยื่นนิ้วยาวที่ดูแลอย่างดีของเขาออกมาแตะที่บนกริชในมือของเหลียงซิน ผลักมันออกไป “อย่าเอาดาบมาจ่อใส่ข้า มิฉะนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ” เขาเตือนเบาๆ เหลียงซินส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง “ในพจนานุกรมของข้า ไม่เคยมีคำว่าเสียใจคำนี้ ตอนนี้โปรดไสหัวออกไปจากห้องของข้าข้าไม่คิดจะเห็นเจ้า” นานมาแล้ว นางเคยบอกเขาว่า อุดมการณ์ต่างกัน มิอาจร่วมกัน เดิมนางคิดว่าวาจาได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว ไม่คิดว่าเขาก็ยังตามมาพัวพันนางไว้ ชายลึกลับมองนางอย่างเย็นชา พูดอย่างน่าเกรงขามว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่ได้นัดพนันกันไว้ คืนนี้ เจ้ามากับข้า” สัญญาพนัน? พลันเหลียงซินก็คิดขึ้นมาได้ ถ้าเขาไม่เอ่ยขึ้น นางจะลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว สัญญาพนันในตอนนั้น นางไม่ได้ตกลง ดังนั้นไม่นับเป็นสัญญาพนัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทำตามคำมั่นสัญญาแล้ว “ขอโทษ ข้าไม่ไปกับเจ้าและขอเจ้าโปรดอย่ามาหาข้าอีก ครั้งที่แล้วเจ้าได้ช่วยชีวิตข้าแล้ว ดังนั้นข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครก็ถือว่า ต่างไม่ติดหนี้กันแล้ว” นางเอื้อมมือออกไป ทำท่าเชิญให้เขาจากไป แต่น่าเสียดายที่ชายลึกลับไม่สนใจคำพูดของนาง เพียงแค่มองจ้องนางอย่างเย็นชาแล้วกล่าวเสียงเย็นชาว่า “เป็นข้าทำตามคำมั่นสัญญาในการนัดหมายพนัน ไม่ใช่เจ้า เจ้าเพียงต้องเชื่อฟังก็ใช้ได้” เสียงเย็นของเขาแฝงการควบคุมเล็กน้อยราวกับว่าเขาเป็นเทพเจ้าที่ใช้มือพลิกฟ้าสวรรค์ได้ น่าเสียดายที่คนซึ่งเขาต้องเผชิญนั้นเป็นเหลียงซิน นางมาก็เพื่อแหกกฏเกณฑ์! นางยิ้มอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง เย็นชามากยิ่งกว่าเขา ถามกลับว่า “ถ้าข้าไม่เชื่อฟังล่ะ?” แล้วเขาจะทำอะไรนางได้? เห็นได้ชัดว่าชายลึกลับไม่คิดว่านางจะกล้าพูดกับเขาแบบนี้หรือไม่มีใครเคยกล้าที่จะพูดกับเขาเช่นนี้มาก่อน ในชีวิตของเขานอกจากการเชื่อฟังแล้ว ก็เพียงเหลือการเชื่อฟังเท่านั้น ไม่มีใครกล้าพูดคำว่า “ไม่” กับเขา เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนแรก ดี ดีมาก หญิงคนนี้ยิ่งมายิ่งน่าสนใจแล้ว ตอนนี้เขาสนใจนางยิ่งนัก “น่าสนใจ ข้าจะตามใจเจ้าสักครั้ง ไม่คิดอยากไปก็ได้” ชายลึกลับหยุดลงสักครู่ ราวกับกำลังพูดถึงเงื่อนไข เขามองดูเหลียงซินขึ้นและลงไปเที่ยวเดียว ในที่สุดสายตาหยุดนิ่งที่เอวของนาง...เข็มขัดสีเขียวอ่อนเส้นนั้น เขาดึงออกอย่างตามใจ บนนั้นยังมีความอบอุ่นจากร่างนางทิ้งไว้ พร้อมด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ มือสัมผัสเกิดความร้อน “นี่ก็นับเป็นค่าตอบแทนแล้วกัน จำไว้ว่าคราวหน้าอย่าดื้อรั้นไม่ฟังคำเช่นนี้อีก” เขากุมเข็มขัดไว้ในมืออย่างแน่น บนริมฝีปากมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย แล้วเขาก็เข้ามาใกล้เหลียงซิน ค่อย ๆ ก้มศีรษะลง สูดกลิ่นของนางอย่างลึก ๆ ราวกับลิ้มรสและจดจำทุกอย่างของนางไว้ ในที่สุดก็หันหลังกลับไปครั้ง กระโดดออกไปจากหน้าต่าง คนทั้งร่างหายไปในคืนอันมืด ฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมปิดบังทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้ กำจัดความเงียบสงัด ไร้ผู้คนยินยล ในคืนที่ฝนตกหนักนี้ เหลียงซินก็ได้ส่งสิ่งของแนบกายตัวเองออกไปแบบนี้เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังลืมที่จะต่อต้าน บ้าจริง! เมื่อครู่ทำไมนางจึงได้ใจลอยไปแล้วน่ะ?
已经是最新一章了
加载中