ตอนที่ 79 ไหนเลยจะไม่เสียดายได้
1/
ตอนที่ 79 ไหนเลยจะไม่เสียดายได้
หมอยาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 79 ไหนเลยจะไม่เสียดายได้
ตนที่ 79 ไหนเลยจะไม่เสียดายได้ หวินเหม่ยได้รับพระมหาบัญชา ก็รีบมาถึงข้างกายเหลียงอินทันที ยื่นมือออก ส่งสัญญาณให้นางออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลียงอินค่อย ๆ หายไป แต่ยังแสร้งตีสีหน้าทำเป็นเข้าใจผู้คน ใจกว้างมากลักษณะเช่นนั้น มิอาจให้ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่าไปในเวลานี้เด็ดขาด แต่ว่า ความกังวลในใจนางยิ่งมายิ่งหนักอึ้ง ก่อนหน้านั้นความรู้สึกระหว่างพวกเขาดีต่อกันขนาดนั้นจริง ๆ ต้องเปลี่ยนไปเพราะเหลียงซินคนเดียวจริง ๆ หรือ? เดิมนางเคยคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อนางมีลูก แต่เฉินฮ่าวยิ่งมายิ่งเย็นชากับนางมากขึ้นและมากขึ้นแล้ว นับจากนี้ต่อไปภายหน้า น่าจะสิ้นความโปรดปรานไปแล้วจริง ๆ! พักสักครู่ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องวันนี้เป็นอย่างไร กลับไปยังต้องปรึกษาวางแผนระยะยาวกับแม่เฒ่าหวัง ต้องตัดรากถอนโค่นจึงจะใช้การได้! นอกประตู แสงจันทร์สาดเทลงไปราวกับปรอท สะท้อนลึกไปยังร่างเหลียงอิน ปากของนางหยักขึ้นบิดเป็นรอยยิ้มอันโหดร้าย ประตูปิดแล้ว เหลียงซินเอียงตัวเอนพิงเตียงอย่างเกียจคร้าน มองดูเฉินฮ่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูราวไม่ยิ้ม “การแสดงของเจ้าจบแล้ว ไปได้แล้วมั้ย? ในเมื่อพระสนมเช้อเพิ่งทรงครรภ์ เป็นเวลาที่ต้องการมีเพื่อนอยู่ด้วยที่สุดเพค่ะ” เหลียงอินตั้งครรภ์ เฉินฮ่าวน่าจะปิติยินดีจึงจะถูก แต่เขากลับแกล้งทำเป็นไม่สนใจดูเย็นชา ยังกล่าวว่าจะทรงขยายพระตำหนักแก่นาง นอกจากกำลังแสดงละคร นางไม่สามารถคิดเหตุผลอื่น ๆ ออกมาได้อีก แต่ว่า เมื่อเสียงของนางจบลงในช่วงเวลานั้น เฉินฮ่าวเดินเข้าหานางอย่างหม่นหมอง มือใหญ่ยื่นออกมา กดนางลงไว้เบื้องล่างของร่าง เสียงแหบแห้งผิดปกติแต่ในเวลานี้กลับมีเสน่ห์เย้ายวนผู้คน “อินเอ่อร์ ตั้งครรภ์ เจ้าคิดว่าเปิ่นหวังควรปิติยินดีหรือ?” นี่เป็นปัญหาอะไร? เหลียงซินมองเขาด้วยความสับสนเล็กน้อย ถามกลับไปว่า “หรือไม่ควรปิติยินดีหรอกหรือ? นี่เป็นลูกคนแรกของเจ้า” เห็นสีหน้าเฉินฮ่าวยิ่งมายิ่งเย็นชามากขึ้น ในที่สุดก็จับคางของเหลียงซินไว้ มองนางอย่างพินิจพิจารณาขึ้น ๆ ลง ๆไปรอบหนึ่ง “เหลียงซิน เจ้ายังเป็นหญิงสาวคนหนึ่งไหม? หญิงคนอื่นตั้งครรภ์มีลูกกับเปิ่นหวัง หรือว่าเจ้าไม่โกรธสักนิดเลยหรือ?” เหลียงซินกระพริบตา เอ่ยปากกล่าวอย่างใจเย็น “ทำไมหม่อมฉันต้องโกรธเพค่ะ?” ไม่เพียงแต่นางไม่โกรธ นางยังดีใจมาก ขอเพียงเหลียงอินตั้งครรภ์แล้ว เช่นนั้นเฉินฮ่าวก็จะผ่อนคลาย เมื่อถึงเวลา นางจะได้มีโอกาสไปจากพระตำหนักอ๋องสิงแล้ว อากาศในห้อง ค่อนข้างแปลกไปบ้าง เหลียงซินยังรู้สึกว่ารอบกายเต็มไปด้วยความเย็นชา ในวินาทีต่อไป เฉินฮ่าวจับไหล่ของนางไว้เหมือนหมาป่าราวเสือร้ายคำรามด้วยความโกรธ “ขวาก” ทีเดียว ฉีกคอเสื้อนางออก ผิวขาวผ่องนวลลออจู่ ๆ ก็เผยโฉมออกภายใต้สายตา เหลียงซินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พลันด่าว่า “เฉินฮ่าว เจ้าบ้าอะไร? ไสหัวออกไปจากที่นี่ให้ข้า!” กล่าวจบ ก็ยกขาขึ้นเตะออกไปบนตัวเขา แต่กลับถูกเขาซึ่งตาไวมือไวจับข้อเท้าไว้อย่างรวดเร็ว กดทับไว้ใต้ร่างอย่างเหี้ยมโหด นางไม่คิดว่าเฉินฮ่าวจะทำแบบนี้กับนาง ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด แก้มแดงก่ำ แต่นางกัดริมฝีปากไว้แน่น ปฏิเสธที่จะยอมจำนน เดรัจฉาน ในที่สุดก็ทนไม่ได้แล้วหรือ? เฉินฮ่าวกดฝ่ามือใหญ่บนตำแหน่งหัวใจนาง มองนางอย่างกระหายเลือด “เหลียงซิน เจ้าไม่มีหัวใจหรือ?” น้ำเสียงในคำถามของเขาเต็มไปด้วยความจนใจ ความโกรธแค้น ความดื้อรั้น เผชิญหน้าเหลียงซินซึ่งเฉื่อยชาตลอด เขาไม่รู้ว่าจะทำให้นางเข้าใจน้ำจิตน้ำใจเขาได้อย่างไร ช่วงเวลานี้ อีกครั้งที่เขาได้ยกเว้นเพื่อนางครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อนางตกอยู่ในอันตราย ก็ไม่คำนึงถึงสิ่งใดต้องช่วยนางออกมา แม้แต่ต้องเสียสละชีวิตของเขาเอง เพื่อนางแล้ว สามารถทะเลาะผิดใจกับพระมารดา กลัวว่านางจะเกิดเหตุขึ้น พลิกตัวไปมาตลอดหนึ่งคืน คิดถึงนางไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน เมื่อขณะที่เขาได้เห็นสีหน้านางขาวซีดหมดสติไป ก็มีความรู้สึกกลัวว่านางจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก ทั้งหมดนี้ แม้เขาไม่คิดปฏิเสธอีก แต่ก็มิอาจปฏิเสธว่าเขามีความรู้สึกพิเศษต่อเหลียงซิน แต่เป็นว่า เขาทำเพื่อนางมากมายเช่นนี้ นางกลับไม่สะดุ้งสะเทือนทั้งสิ้น แต่เหลียงซินกลับถูกเขาถามประโยคนี้จนเซ่อสุด ๆ ไปแล้ว รู้สึกงุนงงกระพริบตา ยังไม่ได้ตอบสนองกลับมา ริมฝีปากเฉินฮ่าวก็ได้บดอัดอย่างรังแกมาบนริมฝีปากนางปิดลงอย่างรุนแรง จูบเย็นยะเยือกของเขาค่อย ๆ ซึมเข้าไปในปากเหลียงซินทีละเล็กทีละน้อย ม้วนดึงลิ้นน้อย ๆ อันหอมหวนของนางดูดกลับไปมา ทิ้งร่องรอยของเขาไว้ตรงหว่างฟันมุกของนาง มิอาจต้านทานได้ แผ่นฟ้าหมุนวนแผ่นดินพลิกกลับในฉับพลัน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เหลียงซินจึงได้ตอบสนองกลับมา ผลักเขาออกไปโดยแรง นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ถูกเขาบุกรุกเข้ามา รสชาติที่ถูกควบคุมรับได้ยาก เฉินฮ่าวมองนางด้วยใบหน้าที่ชั่วร้าย เลียริมฝีปาก บนนั้นดูเหมือนยังทิ้งความหอมหวานกลมกล่อมของนางไว้ ทำให้ความปรารถนาเขาไม่สามารถหยุดลงได้ “เจ้าเข้าใจความหมายของข้าไหม?” เขาประกาศอำนาจเผด็จการอย่างช้า ๆ “เจ้าเป็นของข้า” เหลียงซินเอามือคลุมปิดริมฝีปากของตนเองไว้ เซ่อถึงแก่นสุด ๆ ไม่อาจพูดออกมาสักประโยคเดียวได้เลย วินาทีที่แล้ว เขายังโปรดปรานเหลียงอิน ทำให้นางอับอาย วินาทีต่อมา ก็บังคับพยายามจะเป็นเจ้าของนางอย่างเผด็จการ คิดว่านางเป็นคนโง่หรือ? สำหรับเฉินฮ่าวแล้ว เพียงรู้สึกแปลกใหม่ชั่วขณะ บางทีเป็นความสนใจระยะสั้นชนิดหนึ่ง หรือเป็นการควบคุมและการพิชิตชนิดหนึ่งไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นความรักที่แท้จริงวันนี้ทรงกระทำต่อนางเช่นนี้ ในอนาคตก็จะกระทำต่อหญิงสาวอื่นเช่นนี้ได้ ความรู้สึกนี้ ไม่ได้เป็นของนาง เหลียงซิน สิ่งที่นางต้องการคือชีวิตคู่ที่ต่างเฝ้าสงวนไว้จนเฒ่าหงอกไปก็ไม่ทอดทิ้งกันตราบชั่วนิจนิรันดร์ แม้ว่าในใจนางเคยมีความรู้สึกที่ดีต่อเขาน้อย ๆ เช่นนั้น แต่ก็ได้หายสาบสูญไปเป็นควันตั้งนานแล้ว เขา ไม่มีทางที่จะเป็นคนนั้นในชีวิตของนางแน่นอน “ขอทรงอภัย หม่อมฉันไม่ได้เป็นของใคร หม่อมฉันเป็นหม่อมฉัน” เป็นเวลานานเหลียงซินจึงได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมา มองเขาอย่างมั่นคง เย็นยะเยือก เย็นชาจืดชืดดุจดั่งทะเลลึกเงียบไร้คลื่นไร้ลม กักขังใจนางไว้อย่างแน่นหนา มิอาจทำลายลงได้ ครั้งที่แล้วพระมเหสีทรงให้สัตยาบันเรื่องหนังสือหย่าร้างแก่นาง คิดว่าอีกไม่นาน นางก็ต้องออกไปจากที่นี่ในไม่ช้า ทำไมก่อนไปจึงต้องก่อความไม่ชัดเจนกับเฉินฮ่าวอีกน่ะ! รูม่านตาที่ดำขลับดิ่งลึกของเฉินฮ่าวหดรัดอย่างรวดเร็วสองครั้ง มือทั้งสองข้างกำเป็นกำปั้นไว้แน่น ดูเหมือนจะระงับโทสะในใจลงไป “โอ้ น่าสนใจ เปิ่นหวังกลับจะดูว่า เจ้าเป็นของข้า หรือยังเป็นของคนอื่น” เขาจ้องมองเหลียงซินอย่างโหดเหี้ยม ราวกับจะกลืนนางลงท้องไปทั้งเป็น เหลียงซินค่อนข้างกลัวแล้ว เขาดูเหมือนจะเอาจริง ๆ แววตานั้นไม่เหมือนกำลังพูดโกหก “เฉินฮ่าว ในเมื่อเจ้ารักเหลียงอิน นางยังได้ตั้งครรภ์มีลูกกับเจ้าสมหวังดั่งหมายปอง เจ้าน่าจะดีกับนาง แบกรับหน้าที่ความรับผิดชอบเช่นบิดาคนหนึ่งที่พึงกระทำ” นางมองเขาอย่างจริงจัง เฉินฮ่าวกลับหัวเราะเสียงเย็นชาอย่างดูหมิ่น “เปิ่นหวังบอกเมื่อไรว่ารักนาง?” แล้วเหมือนเข้าใจอะไรสักอย่าง กระเถิบเข้าใกล้นาง”เจ้ากำลังอิจฉาเหรอ?” อิจฉาเหรอ? เหลียงซินขมวดคิ้วแน่น ยกขาจะเตะเขา “เจ้าพูดบ้าบอเหลวไหลอะไรกัน? ทำไมข้าน่าจะอิจฉาเพื่อเจ้า” ทันทีที่นางยกเท้าขึ้น ก็ถูกเฉินฮ่าวจับไว้แน่น มือหยาบของเขาจับกุมข้อเท้าเรียวใสลื่นละมุนของนางไว้ ข้อเท้าขาวผ่องราวหยกอยู่ในมือของเขาสะท้อนให้เห็นถึงรสชาติที่แตกต่างกันไป เฉินฮ่าวชอบจนไม่ยอมปล่อยมือที่จับข้อเท้าของนางไว้ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสนางอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ในมือสัมผัสถึงความนุ่มละมุนซึ่งเขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยมือ เขาดื่มด่ำกับสิ่งนี้ กล่าวเสียงทุ้มว่า “เท้าคู่นี้ ภายภาคหน้ามีเพียงข้าที่จับได้เท่านั้น ถ้าให้ชายอื่นได้สัมผัสแล้ว ข้าจะหักขาของเจ้าซะแล้วฆ่าคนนั้นเสีย” เหลียงซินหัวคิ้วกระตุกครั้งหนึ่ง ในใจดิ่งจมลงไป เกือบจะถูกท่าทีเสน่ห์อันชั่วร้ายของเขาดึงดูดไปเสียแล้ว สงบใจ ต้องสงบใจเย็น ๆไว้ให้ได้ นางไม่อาจจะจมปลักในโคลนตมเช่นนี้ นางไม่มีวันลืมตลอดไปว่าเมื่อก่อนเฉินฮ่าวทำให้นางอับอายและทรมานอย่างไร นางไม่เพียงต้องออกไปจากที่นี่ แต่ยังต้องชำระความแค้น! นางรีบหดเท้าของนางกลับอย่างรวดเร็วและซ่อนไว้ในผ้าห่ม ส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง “เฉินฮ่าว ข้าบอกเจ้า ไม่ช้าก็เร็วข้าจะทิ้งเจ้าไปจากที่นี่” ระหว่างพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไปเป็นนิตย์! เฉินฮ่าวได้ยินวาจา สีหน้าหนักหน่วงขึ้นโดยพลัน มองนางอย่างเย็นชาเหี้ยมเกรียม ทรงตรัสอย่างเย็นยะเยือกเสียงเข้มว่า “งั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าจะหักขาของเจ้า แล้วดูว่าเจ้าจะหนีไปได้อย่างไร” เหลียงซินกัดฟัน “เจ้ากล้า?” เฉินฮ่าวเห็นได้ชัดว่านางตกใจ แต่แกล้งทำท่าทีเป็นเข้มแข็ง ก็รู้สึกตลกบ้างในทันใด ทรงยื่นพระหัตถ์ออกไปดึงผ้าห่มคลุมให้นาง ดูเหมือนแฝงแววหยอกเล่นในน้ำเสียง “ข้าไหนเลยจะทำได้ลงคอ” ลูกตาที่ดิ่งลึกสงบของเขาสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะท่าทีที่สับสนวุ่นวายของเหลียงซิน แววตาเป็นประกายวาววับจ้องมองนางอย่างกระตือรือร้นราวกับว่าดูเท่าไรก็ไม่เพียงพอ เหลียงซินเงียบไร้วาจาในบัดดล ค่อย ๆ เลี่ยงสายตาที่จับจ้องนิ่งของเขาไป หลังจากนั้นสักพัก ชิวเย่ว์ที่นอกประตูก็ยกยาชามหนึ่งเข้ามา ทำลายความเงียบที่แปลกประหลาดนี้ “พระสนม ยาได้ต้มเสร็จแล้วแพทย์หลวงบอกว่าชั่วยามนี้ดื่มยาเป็นเวลาที่ดีที่สุดแล้วเพค่ะ” “เอายามาให้ข้า” เฉินฮ่าวยื่นมือออกมา ปฏิกิริยานี้ทำให้ชิวเย่ว์อึ้งไปครั้ง แล้วดีใจโลดเต้นอย่างรวดเร็ววางชามยาลงในพระหัตถ์ของพระองค์ “ท่านอ๋อง ถ้างั้นบ่าวก็ออกไปก่อนแล้วเพค่ะ” ชิวเย่ว์ยิ้มอย่างมีความสุข พยักหน้าให้เหลียงซิน พระสนมของพวกนาง ในที่สุดความทุกข์ได้ผ่านไปความสุขเข้ามาแล้ว กลิ่นยาอันดำเข้มค่อย ๆ กระจายออกไป เฉินฮ่าวตรวจสอบอุณหภูมิ เป่าไปอีกครั้ง ป้อนเหลียงซิน จนใจ นางกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือ “อ้าปากสิ” เขาบัญชา “เจ้าเอายาให้ข้า ข้ามีมือ ดื่มเองได้” เหลียงซินรู้สึกอึดอัดจริง ๆ อย่างไรเสียก็ไม่ยอมให้ป้อน เป็นครั้งแรกที่เฉินฮ่าวริเริ่มจะป้อนยาให้คนอื่นดื่ม ไม่คิดว่าก็ถูกนางปฏิเสธเช่นนี้แล้ว หัวคิ้วคมเข้มลดลงทันใด อุณหภูมิที่อบอุ่นลดลงอย่างฉับพลัน “ไม่ดื่มใช่ไหม? เปิ่นหวังไม่รังเกียจที่จะป้อนให้เจ้าดื่มด้วยปากตนเอง เจ้าลองไหม?” ท่าทีเขาดูจริงจังไม่เหมือนล้อเล่น สามวินาทีต่อมา ก่อนที่เหลียงซินจะกล่าววาจา เขาก็หยิบชามยาขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่ ทำท่าจะบีบคางนาง ป้อนยาให้นางปากต่อปากทีละคำเข้าไป... “ข้าดื่ม!” เหลียงซินก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ตะโกนเสียงดังขึ้นมา นางยอมเฉินฮ่าวแล้วจริง ๆ ยานี้ค่อนข้างขม แต่ดื่มเข้าไปในปากก็ไม่ยากที่จะกลืนลงไป เหลียงซินก็หลงอุบายที่วางกับมือของเขาโดยตรง ก็ดื่มยาชามใหญ่หนึ่งชามหมดรวดเดียว แล้วนอนราบเหมือนศพบนเตียง “ข้าเหนื่อยแล้ว ต้องการพักผ่อน เจ้ากลับไปก่อนเถอะ” นางเสือกไสไล่ส่งผู้คนด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ไม่คิดว่าครั้งนี้เฉินฮ่าวไม่ได้หน้าด้านไร้ยางอายกล่าวว่าต้องการที่จะรั้งอยู่ต่อ แต่ได้ไปจากเรือนเจียวหยางอย่างหมดจดเรียบร้อยไม่ลังเล ก่อนที่จะจากไป ยังได้ส่งสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งไว้ให้นางครั้งหนึ่ง เหลียงซินรู้ว่าคืนนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้น เขาต้องไปจัดการสรรพสิ่งทุกอย่าง เสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นไปกราบทูลรายงานให้เป็นที่น่าพอใจแด่องค์จักรพรรดิ นางนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบ ๆ ทั้ง ๆ ที่เหนื่อยสุด ๆ แต่ยังไงก็นอนไม่หลับ จิตใจของนางครุ่นคิดวาจาเหล่านั้นที่เฉินฮ่าวได้ทรงตรัสกับนางไว้เมื่อครู่ นับว่าเป็นคำสารภาพหรือ?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 79 ไหนเลยจะไม่เสียดายได้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A