ตอนที่ 124 ทำไมพวกคุณถึงร่วมมือกันหลอกฉัน…   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 124 ทำไมพวกคุณถึงร่วมมือกันหลอกฉัน…
ต๭นที่ 124 ทำไมพวกคุณถึงร่วมมือกันหลอกฉัน… พยายาบาลมองฉัน แล้วรีบส่ายหัว“ฉันแค่นำเลือดมาส่งให้ค่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” จากนั้นไม่รอให้ฉันถามอีก พยาบาลรีบวิ่งเหยาะๆจากไป ฉันยืนอยู่ปากประตู จะไปไหนเพียงชั่วครู่ก็ไม่กล้า ผ่านไปแล้วประมาณแปดชั่วโมง แสงแดดนอกหน้าต่างแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ในที่สุดไฟหน้าห้องผ่าตัดก็ดับลง ประตูเปิดออก ชยานีที่นอนบนเตียงถูกเข็นออกมา “คุณยาย!”ฉันรีบเข้าไปหา! บนเตียงนั้น ดวงตาทั้งคู่ของชยานีปิดสนิท หมอฌายินออกมาจากด้านข้าง ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าบนตัวเขาจะไม่มีเลือด แต่ว่าบนหน้า ไปจนถึงผมบนศรีษะ ดู เหมือนจะมีเลือดเต็มไปหมด! “หมอฌายินคะ การผ่าตัดของคุณยายเป็นอย่างไรบ้าง สำเร็จไหมคะ?”ฉันรีบเข้าไปถาม หมอฌายินมองฉัน สีหน้าเหนื่อยล้า“เป็นเพราะว่าคนไข้มีอายุที่มากแล้ว การผ่าตัดจึงมีปัญหานิดหน่อย แต่ว่า แก้ไขได้แล้ว การผ่าตัดประสบความสำเร็จครับ” “ถ้าอย่างนั้นคุณยายจะฟื้นเมื่อไหร่เหรอคะ?” ฉันฟังหมอฌายินแล้วรู้สึกราวกับว่าเขามีอะไรปิดบังฉันอยู่ “เนื่องจากมีการสูญเสียเลือดมากเกินไป คนไข้อาจหมดสติได้ครับ ส่วนเมื่อไหร่จะได้สตินั้น ต้องดูที่ตัวคนไข้เองครับ”หมอฌายินพูดจบแล้ว ก็โค้งคำนับจากไปเลย พยาบาลเข็นเตียงชยานีไป ฉันตามหลังไปทันที ชยานีถูกย้ายไปที่หอผู้ป่วย ICU ในเวลานี้ ปณัยและโรศนีมาถึงแล้ว และถามพยาบาลไม่หยุดว่า“แม่ของฉันอาการเป็นอย่างไรบ้าง?” พยาบาลอธิบายถึงสถานการร์เมื่อสักครู่นี้กับพวกเขา “ว่าไงนะ! พวกคุณผ่าตัดกันยังไง!”โรศนีระเบิดออกมา พูดด้วยความโกรธว่า“พวกคุณบอกกับเราว่าได้เชิญ ศัลยแพทย์มือดีที่สุดมา แล้วตอนนี้เกิดปัญหาได้ยังไง!” “พอได้แล้ว!” ปณัยสีหน้าเคร่งเครียด แต่ว่าโรศนีไม่ยอมลดละ“นั่นคือแม่ของพวกเรานะ! ตอนนี้เป็นเช่นนี้ ก็ต้องสอบถามสาเหตุสิ พวกเราฟ้องร้องได้ นะ!” เมื่อพยาบาลได้ยิน พูดขึ้นมาว่า“พวกคุณรอสักครู่”แล้วเดินจากไปเลย หลังจากนั้น หมอฌายินก็เข้ามา แต่สามารถดูออกว่า เขาเหนื่อยมากตอนที่เดินมาเท้าแทบจะยกไม่ขึ้นอยู่แล้ว เขาอธิบายให้ปณัยและโรศนีฟังถึงสถานการณ์ในห้องผ่าตัด ปณัยมีทีท่าเข้าใจ แต่โรศนียังไม่ลดราวาศอก“มันเป็นความผิดพลาดในการผ่าตัดของพวกคุณ! การขยาย หลอดเลือดหัวใจด้วยการใส่ขดลวดจริงๆแล้วเป็นการผ่าตัดเล็กๆ ฉันเช็คดูในอินเตอร์เนตแล้ว พวกคุณจะต้องทำ ผิดพลาดแน่ๆ!” พูดจบ ก็ยืนร้องไห้อยู่ที่ปากประตู เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เดินผ่านไปมาต่างก็หันมามอง ฉันยืนอยู่ทางด้านหลัง รู้สึกโกรธขึ้นมา โรศนีรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการผ่าตัดของชยานีอาจเกิดเรื่องได้ แต่กลับมาเสแสร้งทำแบบนี้ ร้องไห้อย่างสนุกสนาน และสีหน้าของปณัยนั้น กลับดูไม่ออกว่ามีความเศร้าโศกเลย พวกเขาอยู่ ฉันก็อยากจะไป เมื่อกดลิฟท์ ขณะที่ประตูลิฟท์เปิดออก ด้านในมีคนสองคนยืนอยู่ จิณณา และ ดนุนัย เดิมทีคนทั้งสองยืนเคียงข้างกัน เมื่อมองเห็นฉัน มือของจิณณารีบกอดแขนของดนุนัยเอาไว้ เอนตัวพิงดนุนัย ทักทายฉันอย่างอ่อนหวาน“ณิชา สวัสดีจ้ะ” ทั้งคู่เดินออกมา ฉันไม่ตอบ เบี่ยงตัวเข้ามาในลิฟท์แล้วกดปิดประตู ลิฟท์เลื่อนลงไปเล็กน้อย แล้วใจของฉันก็รู้สึกเจ็บปวด ในวันนั้นที่พูดกับดนุนัยบนระเบียงดาดฟ้าว่า“ขอร้องคุณช่วยแต่งงานกับจิณณาเถอะค่ะ”ยังคงดังก้องอยู่ในหู ตัวเอง ชายหนุ่มก้มหน้าลง ท่าทางที่เช็ดน้ำตาให้กับฉัน ยังคงอยู่ในสมองและหัวใจไม่สามารถกำจัดออกไปได้ เป็นคนสองคนที่รักกัน และต้องแยกจากกัน ถ้าหากเขารักฉัน ก็คงจะดีไม่น้อย ในตอนที่ประตูลิฟท์เปิดออก ฉันเดินออกจากลิฟท์ ก็พบกับอ้อมกอดอันกว้างขวาง ชายหนุ่มอ้าแขน แล้วดึงฉันเข้าไปกอดไว้แน่น ฉันสามารถได้ยินเสียงหายใจหอบเร็วและใจที่เต้นรัว และดูเหมือน จะมีกลิ่นเหงื่ออยู่เล็กน้อย วินาทีต่อมา ฉันได้ยินชายหนุ่มพูดว่า“ณิชา ฉันคิดถึงเธอ” ฉันก็คิดถึงคุณ แต่ว่าคำพูดนี้ ฉันสกัดกลั้นเอาไว้ในลำคอไม่พูดออกมา ฉันรู้ว่าตัวเองไม่สามารถพูดมันได้ เพราะฉันขอให้เขาแต่งงานกับจิณณาเอง ฉันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกในอ้อมกอดของชายหนุ่มอย่างช้าๆ จังหวะการเต้นของหัวใจของฉันประสานกับหัวใจของ เขา ฉันบังคับอาการตื่นเต้นและอาการใจเต้นของตัวเอง ถามเพียงหนึ่งประโยคหลังจากเงียบอยู่นานว่า“คุณวิ่งลงมาเหรอคะ?” “ใช่ วิ่งลงมาน่ะ”ดนุนัยตอบโดยกอดฉันไว้ เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆตัวเดียวเท่านั้น หน้าของฉันแนบอยู่ที่อกเขา จนถึงตอนนี้ยังรู้สึกได้ว่าเขามีคำถาม แต่ว่า… “ติ๊ง”เสียงประตูลิฟท์ข้างๆเปิดออก ฉันหันไป มองเห็นจิณณาเดินออกมาจากมุมแคบๆนั้น เมื่อเธอมองเห็นดนุนัยกอดฉันอยู่ ดวงตาราวกับมีไฟลุก โชนอยู่เต็มไปหมด แต่แล้วกองไฟในดวงตาของเธอ รวมถึงความโกรธเคือง ก็แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาแล้วพูดว่า“ณิชา ทำไม…” ดนุนัยได้ยิน เสียงของเธอ ในที่สุดก็ปล่อยมือจากฉัน แต่เขาใช้ตัวของเขาส่วนใหญ่บังฉันไว้ด้านหลัง แล้วพูดดับ จิณณาว่า“จิณณา ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ ในเรื่องบางอย่าง แม้ว่าจะบังคับ แต่ก็ฝืนไม่ได้หรอกนะ ฉันจะให้เงิน เธอ ฉัน…” “ฉันไม่ต้องการ!” จิณณาพูดเสียงดัง คำพูดของเธอ ดึงดูดความสนใจผู้คนโดยรอบ ที่โรงพยาบาลทนุธรรม คนที่ไม่รู้จักเราสองคนพี่น้องนั้นมีมาก แต่คนที่ไม่รู้จักดนุนัยนั้นมีน้อย แต่ทว่าข่าวจิณณาถูกกระทำชำเราที่แพร่กระจายทางอินเตอร์เนตก่อนหน้านี้ ก็ทำให้มีคนจำนวนมากที่รู้จักเธอ จิณณาชี้มาที่ฉันแล้วพูดว่า“เธอยอมให้คุณแต่งงานกับฉัน คุณสัญญาแล้ว แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงกลับคำพูด ทำไมพวกคุณถึงร่วมมือกันหลอกฉัน…” เธอพูดแล้วทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง น้ำตาไหลมากขึ้นเรื่อยๆ ใครเห็นก็รู้สึกน่าสงสารมาก มีคุณป้าวัยกลางคนคนหนึ่งเห็นแล้วทนไม่ไหว เดินมาอยุ่ข้างๆจิณณา พูดกับดนุนัยว่า“คุณดนุนัยคะ ป้ารู้จักคุณ นะ แล้วก็รู้เรื่องของผู้หญิงคนนี้ด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นตัวของผู้หญิงก็ไม่ได้เต็มใจ เธอถูกบังคับเช่นกัน! คุณจะทอดทิ้ง เธอเพราะเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร!” “ใช่แล้ว!” รอบข้างนั้นเนืองแน่น และมีเสียงสะท้อนตอบรับ จิณณาได้ยินเสียงคนเข้ามาช่วยเหลือเธอ นอกจากไม่ขอบคุณแล้ว ยังดึงคุณป้าคนนั้นไว้แล้วพูดว่า“อย่าพูดกับ เขาเลยค่ะ ขอร้องพวกคุณไม่ต้องพูดกับเขาหรอกค่ะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรจะออกจาก บ้าน ตอนดึกแบบนั้น ไม่ควรจะถูกจับตัวไป และเมื่อต้องเจอเรื่องแบบนั้น ฉันก็ควรจะฆ่าตัวตาย ไม่ควรจะมีชีวิต สกปรกอยู่บนโลกใบนี้” ในตอนที่พูด น้ำตาก็ไหลพร่างพรูลงมาอีก จิณณาฉลาดมาก กล่าวโทษตัวองทั้งหมด เมื่อคนข้างๆได้ยิน ต่างก็พูดว่า“แม่หนูคนนี้ดีมากขนาดนี้ คุณกลับไม่รักษาไว้!” แน่นอนว่ามีคนไม่ลืมพูดใส่ฉันว่า“คุณเป็นพี่น้องฝาแผดกับเธอใช่ไหม? คุณแย่งแฟนของพี่น้องตัวเองได้ อย่างไร? หน้าไม่อาย!” “ใช่แล้ว! จริงๆด้วย! ที่แม่สาวคนนี้ทำก็เพื่อเงิน” ในไม่ช้า ผู้คนที่อยู่ฝั่งศีลธรรมอันสูงส่งต่างพากันชี้นิ้วมาที่ฉันและดนุนัย ต่างเห็นอกเห็นใจจิณณาอย่างง่ายดาย จิณณาได้รับประโยชน์แล้ว แต่กลัวดนุนัยจะต้องลำบาก จึงรีบลุกขึ้น พูดว่า“โทษฉันเถอะค่ะ อย่าพูดอีกเลย เป็นความผิดของฉันเองทั้งหมดแหละค่ะ ฉันไปเยี่ยมคุณยายก่อนนะคะ” พูดแล้วก็เข้าไปในลิฟท์ที่อยู่ข้างๆ 
已经是最新一章了
加载中