ตอนที่152 เงาที่ไม่สามารถแยกจาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่152 เงาที่ไม่สามารถแยกจาก
ต๭นที่152 เงาที่ไม่สามารถแยกจาก ฉันยังไม่ได้หันหน้าไปแต่เกิดอะไรขึ้นด้านหลังฉันก็เดาได้ หันไป ก็มองเห็นกลุ่มคนล้อมรอบตัวดนุนัย มีบอดี้การ์ดสวมชุดดำเจ็ดแปดคนอยู่ด้านหลังของเขา นอกจากนี้ยังมีคนสวมชุดสูทสีเทาผมของชายหนุ่มนั่นยุ่งเหยิงเล็กน้อยและในมือก็ถือกระเป๋าเดินทางอยู่หนึ่งใบ คนนี้เป็นหน้าใหม่ ฉันเองก็นึกว่าเขามาส่งพวกเราจึงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ คราวก่อนดนุนัยได้ประกาศความสัมพันธ์ของฉันกับเขาผู้จัดการหลายคนก็ได้รู้แล้วพวกเขาพูดคุยกับดนุนัยสามสี่คำหนึ่งในนั้นมีคนพูดว่า“ประธานดนุนัยมีเรื่องจะคุยกับคุณณิชาหรือเปล่าพวกเราจะได้ไปแผนกตรวจสอบความปลอดภัยก่อน" ทันทีที่เขาเอ่ยขึ้นคนอื่นก็เดินตามเขาไป ชั่วพริบตาในบริเวณใกล้เคียงเหลือเพียงแต่ฉันกับดนุนัยและคนไม่กี่คน ฉันหมุนตัวคิดจะเดินไปก็ได้ยินเสียงดนุนัยดังขึ้นจากด้านหลังว่า“หลบไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะเพราะฉันจะตามพวกเธอไปด้วย” “…” ฉันหันไปแล้วมองดนุนัยอย่างสงสัย“ประธานดนุนัยว่างงานมากขนาดนี้เลยเหรอคะ?การแข่งขันออกแบบเล็กๆเช่นนี้คุณยังจะตามมา” “อืมว่าง” ดนุนัยยอมรับทันทีทันใด ฉันไม่มีคำจะเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นประธานดนุนัยก็ว่างไปเถอะค่ะฉันยุ่งมากขอตัวก่อนนะคะ” ฉันไม่รู้ว่าทำไมพอตัวเองมองเห็นดนุนัยก็โกรธขึ้นมา ฉันลากกระเป่าเดินทางไปเปลี่ยนบอร์ดดิ้งพาสถึงได้รู้ว่าพวกเรากำลังจะไปเมืองท่องเที่ยวทางใต้ ผ่านแผนกตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว เมื่อฉันขึ้นไปบนเครื่องบินแล้วถึงพบว่าในส่วนของชั้นเฟิร์สคลาสถูกดนุนัยเหมาไว้ทั้งหมด บอดี้การ์ดนั่งแยกไปดนุนัยนั่งอยู่กับชายหนุ่มอายุน้อยคนนั้น ในตอนที่พวกเรานั่งที่โซนชั้นประหยัดก็ได้ยินผู้คนรอบๆพูดถึงบุคลิกของดนุนัย นั่นก็คือ ปกติแล้วเขามักจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นที่จะนั่งเครื่องบินประเภทนี้ปกติจะจัดไว้ในช่วงที่มีการแข่งขัน คนที่อยู่บนเครื่องมีเพียงแค่พวกเราเจ็ดคนที่เข้าแข่งขันรอบชิงฯ นั่งเรียงกันอยู่แถวเดียวกัน ตำแหน่งของฉันอยู่ใกล้หน้าต่างนั่งถัดจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูอายุมากกว่าฉัน เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีเรียบๆไม่แต่งหน้าเส้นผมเหยียดตรง ในมือถือหนังสือตกแต่งภายในและกำลังพลิกดู “สวัสดีค่ะฉันชื่อณิชาค่ะ”ฉันแนะนำตัวเองอย่างสุภาพออกไป “สวัสดีค่ะเศวยา” ผู้หญิงคนนั้นทักทายฉันในช่วงที่อ่านหนังสือ “เศวยา?คุณก็คือเศวยานี่เอง” คนนี้คือเศวยา ได้รู้จักบุคลิกภาพเธอแล้วฉันทั้งประหลาดใจระคนดีใจ เที่ยวบินนี้รวมระยะเวลาการบินสี่ชั่วโมง เวลาส่วนใหญ่เศวยาจะอ่านหนังสือฉันพูดกับเธอสักคำเป็นครั้งคราวเธอเองก็จะตอบมาหนึ่งคำฉันไม่พูดเธอก็ไม่พูดกลับมา ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวมากแต่ว่าก็ยังมอบสัมผัสที่รู้สึกดีให้แก่ฉัน ในตอนบ่ายเครื่องบินก็ลงจอด มีรถขับมารับพวกเรา นั่งรถมาเป็นเวลาสามชั่วโมงก็มาถึงรีสอร์ทแห่งหนึ่ง หลังจากที่พวกเราเข้าไปก็ไม่ได้หยุดพักนานเพราะมีพนักงานเจ็ดคนมารับเราแต่ละคนไปที่ห้อง นอกจากนี้ก็บอกฉันว่าหลังจากนี้ครึ่งชั่วโมงจะมารับฉันไปกินข้าวเย็น พูดตามจริงห้องพักนั้นดีมากบวกกับสนามหญ้าแล้วพื้นที่มีถึงหนึ่งร้อยตารางเมตรโดยประมาณ ผนังห้องนอนด้านหนึ่งเป็นประตูกระจกและด้านนอกประตูมีสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมอยู่ สระด้านนอกถูกกั้นด้วยรั้วเตี้ยสูงหนึ่งเมตร หากด้านนอกต้องการจะมองเข้ามาก็สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด ฉันมองดูรอบๆบริเวณแล้วพักผ่อนสักพักจึงตามพนักงานไปกินข้าว เมื่อไปถึงสถานที่กินข้าวนอกจากคนเจ็ดคนด้านนอกแล้วยังมีดนุนัยและชายหนุ่มคนนั้น เขาแนะนำตัวกับฉันก่อนว่า“สวัสดีครับผมชื่อนิพิฑเป็นผู้ช่วยของประธานดนุนัยโดยต่อไปผมจะบอกถึงกฎระเบียบของรอบชิงชนะเลิศกับทุกท่านนะครับ” หลังจากนั้นนิพิฑก็บอกกฎระเบียบรอบชิงแก่พวกเรา ซึ่งมันก็ไม่ยาก พูดง่ายๆก็คือดัดแปลงห้องที่พวกเราพักอยู่ตอนนี้ จะเปลี่ยนเป็นแบบไหนยังไงก็ได้ตราบใดที่ยังสมเหตุสมผล จากนั้นนอกเหนือจากผู้ตัดสินลึกลับสามท่านจะเป็นผู้ให้คะแนนแล้วผู้จัดการรีสอร์ทก็เข้าร่วมให้คะแนนในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย รวมระยะเวลาในการออกแบบทั้งหมดคือสองสัปดาห์ สองสัปดาห์นี้พวกเราทั้งหมดต้องอาศัยอยู่ที่รีสอร์ทนี้โดยตลอด รีสอร์ทให้บริการรวมถึงการซักรีดเสื้อผ้าไปจนถึงการเปลี่ยนของใช้ในห้องน้ำนอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีร้านค้าภายในร้านสามารถหาซื้อของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ ทุกคนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือแบบธรรมดาที่รีสอร์ทจัดไว้ให้เท่านั้น สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้แต่ไม่สามารถใช้ไวไฟได้ กล่าวคือสองสัปดาห์นี้เราถูกแยกออกจากโลกโดยสมบูรณ์ หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จแล้วฉันก็เตรียมพร้อมจะไป เพิ่งจะออกจากห้องอาหารปัณฑาก็ไล่ตามมาและหัวเราะว่า“ณิชาอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะก่อนหน้านี้งานออกแบบของเธอจะต้องเป็นนภทีป์ที่คอยช่วยเธอแน่ๆตอนนี้เขาตายแล้วฉันเห็นว่าเธอไม่ได้มีทักษะอะไรที่จะทำผลงานได้ดีแบบนั้นได้เลย” “เธอก็รู้เรื่องของเขาเหรอ?”ฉันมองดูปัณฑาด้วยความสงสัยน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นไม่ค่อยดีแล้ว “ย่อมต้องรู้อยู่แล้ววันนั้นถ้าเขาไม่มาเมืองดรัลแล้ววันรุ่งขึ้นกลับไปก็ไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง”ในตอนที่ปัณฑาพูดน้ำเสียงก็มีความเศร้าใจพอเธอพูดจบก็พูดเพิ่มอีกว่า“สมน้ำหน้า!” “ขอโทษเดี๋ยวนี้นะ!” คำว่าสมน้ำหน้าคำนี้ทำให้ฉันหงุดหงิดขั้นสุด! ฉันเข้าไปดึงผมปัณฑาแล้วใช้ฝ่ามือตบเข้าไป! เสียงดัง“เพี้ยะ”ในตตอนกลางคืนมันคมชัดมาก นักออกแบบต่างทยอยออกมาทีละคนเมื่อเห็นพวกเราก็รีบรวมตัวเข้ามาทันที “แกกล้าตบฉันเหรอ?!”ปัณฑาดิ้นรนขัดขืน แต่ฉันไม่กลัวเธอเลย“ขอโทษสิขอโทษนภทีป์ขอโทษสำหรับทุกคำพูดที่เธอเพิ่งจะพูดออกมา!” ฉันเดือดสุดๆแล้ว ฉันยกมือขึ้นแล้วตบเธออีกครั้ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะเรื่องที่ปัณฑาทำก่อนหน้านี้บางทีนภทีป์อาจจะไม่ต้องกลับมา ความตายของนภทีป์ดูเหมือนจะเป็นเงาที่ฉันไม่สามารถแยกจากได้ ฉันจะต้องตามรอยเรื่องทั้งหมดให้ได้ ปัณฑาดิ้นรนสุดชีวิตถึงแม้ว่าเธอจะอ้วนแต่กลับสู้ไม่ได้คราวนี้ฉันโกรธเลือดขึ้นหน้าแรงจึงเยอะมาก เธอดิ้นไม่กี่ครั้งก็หอบหายใจแห่กๆแล้ว นักออกแบบที่มาด้วยกันกับเราสองคนมีหลายคนเอ่ยด้วยเจตนาที่ดีว่า“ช่างมันเถอะนะอย่าทะเลาะกันเลยการแข่งขันมันสำคัญนะ” “ไม่สำคัญเลยเธอต้องขอโทษ!ไม่อย่างนั้นอย่าคิดว่าฉันจะปล่อยมือ!”ฉันจ้องปัณฑาอย่างเอาเป็นเอาตาย“เธอขโมยความคิดของฉันแล้วยังคิดชั่วกับคนที่คอยให้ฉันพึ่งพาเธอมันไม่สมควรจะมาอยู่ที่นี่ไม่ควรมาร่วมแข่งขันตั้งแต่แรกแล้ว!” “เฮ้!งานของเธอชิ้นนั้นเป็นนภทีป์ช่วยเธอทำแน่ๆตัวเธอเองไม่มีทักษะที่จะทำงานดีๆแบบนั้นได้อยู่แล้ว!”ปัณฑาพูดอย่างจองหอง!“รอบแรกยังเป็นอันดับบ๊วย!” “เธอก็เลยลอกงานฉันสินะ”ฉันยังจับเธอไว้ อย่างไรก็ตามปัณฑาก็ยังหยิ่งยโสไม่ยอมขอโทษ คนรอบข้างต่างพากันโน้มน้าว อันที่จริงคราวนี้มือฉันก็อ่อนแรงแล้วใกล้จะจับไว้ไม่ไหว “เกิดอะไรขึ้น” ในเวลานี้เองมีเสียงชายหนุ่มดังออกมาท่ามกลางความมืด ฉันไม่หันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร ปัณฑาเงยหน้ามองเข้าไปอารมณ์หยิ่งยโสเมื่อกี๊นี้ลดลงทันทีพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า“ประธานดนุนัยคะพวกเราเล่นสนุกกันน่ะค่ะ!” เธอพูดจบก็มองฉันแล้วกระซิบว่า“ณิชาเธอปล่อยฉันได้แล้ว” “ขอโทษซะ” ความตั้งใจของฉันไม่ถดถอย “ได้ได้ฉันขอโทษขอโทษขอโทษฉันไม่ควรพูดถึงนภทีป์ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน”ปัณฑาเห็นฉันไม่ยอมปล่อยมือเลยพูดเพิ่มอีกว่า“ฉันเองก็ไม่ควรพูดต่อว่าเธอเธอต้องเป็นผู้ใหญ่ใจกว้างนะปล่อยฉันเถอะ”
已经是最新一章了
加载中