ตอนที่7 อย่างมากก็เป็นได้แค่นังสารเลวคนหนึ่งที่มาเกาะแกะฉันเท่านั้นเอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่7 อย่างมากก็เป็นได้แค่นังสารเลวคนหนึ่งที่มาเกาะแกะฉันเท่านั้นเอง
ต๭นที่7 อย่างมากก็เป็นได้แค่นังสารเลวคนหนึ่งที่มาเกาะแกะฉันเท่านั้นเอง พอดนุนัยได้ยินคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขยะแขยง แต่มือกลับเปลี่ยนจากที่คอของฉันมาเป็นที่คาง ดวงตาดำขลับมองมาที่ฉัน ราวกับต้องการมองฉันให้ทะลุ ความน่ากลัวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ มีเพียงลมหายใจกลิ่นแอลกอฮอล์ ผ่านไปนาน ถึงจะมีเสียงหัวเราะเยาะดังออกมา“เธอต้องการอะไร?” ฉันในเวลานี้คิดอย่างไร้เดียงสาว่าเขาเชื่อฉัน จึงพูดอีกว่า“ฉันพิมพ์ลายนิ้วมือของฉันลงในสัญญาแต่งงาน เพียงแค่ไม่ยากให้คุณแต่งกับหล่อน ฉันจะได้เป็นของคุณ” ชายหนุ่มผลักฉันออก กลับไปที่นั่งฝั่งคนขับ ไม่พูดอะไร แต่ว่า เมื่อขับรถกลับไปถึงบ้าน เขาโยนฉันลงไปในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยแข็ง ดึงผมฉันขึ้นแล้วพูดว่า“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดงั้นเหรอ? ผู้หญิงแบบเธอ อย่างมากก็เป็นได้แค่นังสารเลวคนหนึ่งที่มาเกาะแกะฉันเท่านั้นเอง” ตอนนั้นเอง ฉันสร่างเมาเรียบร้อยแล้ว ดนุนัยรังเกียจฉัน แล้วอย่างนี้เขาจะเชื่อคำพูดฉันได้อย่างไร? ฉันต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในน้ำ เขากลับไม่สนใจไยดี ในช่วงที่ปากฉันเต็มไปด้วยน้ำ เขาถึงดึงฉันออกจากอ่างอาบน้ำ แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็ทำอะไรกันหลากหลายท่าตั้งแต่ในอ่างอาบน้ำ ขอบธรณีหน้าต่าง ถึงโซฟา สุดท้ายถึงเตียงนอน มากมายจนนับไม่ถ้วน... ตัวฉันได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่แรก ภายหลังใต้ร่มผ้ายังบาดเจ็บจนถลอก ทุกครั้งที่เสียดสีทำให้ฉันเจ็บจนน้ำตาไหล ฉันร้องไห้ให้หยุด เขาเหมือนจะไม่ได้ยินเลย สุดท้ายฉันก็อยู่ในอาการโคม่า ตื่นมาอีกที ตรงหน้าคือกำแพงสีขาว ข้างๆมียาชงแขวนอยู่ ในเวลานี้ฉันสร่างเมาเรียบร้อยแล้ว นึกถึงสิ่งที่ฉันพูด เรื่องที่ฉันทำเมื่อวานนี้ ฉันทนไม่ไหวแทบจะหาช่องมุดเข้าไป! ฉันอยู่โรงพยาบาลมา3วันแล้ว 3วันมานี้ นอกจากร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ ยังจะต้องได้รับยารักษาในของลับของฉัน ถึงแม้จะไม่มีใครถามถึงสาเหตุของการเข้าโรงพยาบาลของฉัน แต่จากสายตาของเหล่าพยาบาลที่มองฉันทุกครั้ง ฉันรู้ว่า พวกเธอทุกคนรู้แล้ว หลังจากนั้น3วันก็ได้ออกจากโรงพยาบาล ดนุนัยไม่โผล่มาเลย เรื่องแรกที่ฉันทำตอนออกจากโรงพยาบาลคือโทรหาติณณา ค่อยยังชั่วที่ครั้งนี้หล่อนรับสายแล้ว หลังจากฟังสถานการณ์ของฉันแล้ว ก็รีบร้อนเรียกรถมาที่โรงพยาบาล ช่วยเก็บของอย่างกังวลใจ แล้วพาฉันไปยังบ้านพักเล็กๆขนาด 40 ตารางเมตรของเธอ เข้าประตูไป ฉันที่มีนิสัยชอบย้ายเสื้อผ้าบนโซฟาไปไว้อีกที่หนึ่ง เสร็จแล้วนั่งลง ติณณาย้ายม้านั่งเล็กๆ มานั่งข้างๆฉัน จุดบุหรี่ให้ตัวเองแล้วสูบ สูดลมหายใจลึกๆ2ครั้ง ก่อนถาม“พูดมาเถอะ เกิดอะไรขึ้น?” แม้ว่าเธอจะถามฉันแต่สีหน้าบนหน้าก็แปลว่ามองออกหมดทุกอย่างแล้ว ติณณาสูบบุหรี่ไปพลาง ฟังไปพลาง รอจนฉันพูดจนจบแล้วขยี้ก้นบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ข้างๆ โบกมือไปมา“เธอไม่ใช่กระต่ายน้อยแสนซื่ออีกต่อไปแล้ว” “อะไรนะคะ?” เดิมทีฉันคิดว่าติณณาจะด่าฉัน เธอชมเชยฉัน ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไรดีไปชั่วขณะ ติณณาเหยียดตัวตรง พูดด้วยน้ำเสียงของคนมากประสบการณ์“เธอนี่นะ อย่าเพิ่งมอบทุกอย่างให้ดนุนัยเชียว ต้องหลอกให้ตายใจก่อนถึงค่อยจัดการ ผู้ชายน่ะถ้าตัวไปใจก็หมดไปด้วย” ความหมายของเธอชัดเจน คือให้ฉันอยู่กวนใจดนุนัยต่อไป แต่ทว่าสามคืนก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าฉันจะเมาแต่ก็ไม่สามารถลืมความเจ็บปวดนั้นได้“ช่างมันเถอะค่ะ ฉันกลัวมากจริงๆนะ เขาเป็นสัตว์ร้าย!” “ช่างมันอะไรล่ะ”ติณณาเข้ามาใกล้ บั้นท้ายนั้นนั่งบนกองเสื้อผ้า มือโอบคอฉัน“กี่ปีแล้วล่ะ ที่เธอเฝ้าพูดถึงเขาทุกวัน?ก่อนหน้านี้ยังตัดข่าวที่เกี่ยวกับเขาออกมาจากหนังสือพิมพ์เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เนื้อเข้าปากแล้ว เธอจะช่างมันจริงเหรอ?” ตอนเธอพูด ฉันอดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ ใช่แล้วล่ะ ตัวฉันก่อนหน้านี้ เฝ้าคิดถึงไม่เพียงแต่ขอให้ได้พบกับดนุนัยอีกสักครั้ง และได้แต่งงานกับเขาหรอกหรือ? “ฉันจะยืนอยู่ข้างหลังเธอ เหมือนเงาที่ไล่ตามยามละเมอ…” เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น มันคือโทรศัพท์ของฉันเอง เพลงนี้ฉันใช้มานานแล้ว จดจำได้ดีถึงช่วงเวลาที่ได้พบกันครั้งแรก ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมา ดนุนัยและฉัน น่าจะเป็นเพียงแค่แสงสว่างสั้นๆ รู้ดีว่าไม่มีตอนจบ ฉันกลับยังพยายามสุดชีวิต อยากเปลี่ยนให้ตัวเองดียิ่งขึ้น เข้มแข็งยิ่งขึ้น หวังว่าวันหนึ่ง จะสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา จับมือเขา จากนั้นแนะนำตัวเองอย่างมั่นใจ ขณะที่ฉันล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า พอมองเห็นหมายเลขคุ้นตาที่หน้าจอ ก็ตกใจจนเกือบโยนโทรศัพท์ทิ้ง 
已经是最新一章了
加载中