ตอนที่11ต้องการชีวิตของหล่อน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่11ต้องการชีวิตของหล่อน
ต๭นที่11ต้องการชีวิตของหล่อน ตื่นขึ้นมาอีกที ฉันอยู่ในห้องพักพิเศษของผู้ป่วย ภายในห้องมีเพียงผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆ50กว่าๆ ฉันจำได้ทันที เธอเป็นแม่บ้านของคุณยาย ชื่อ น้าจิล “น้าจิล…”ฉันเปล่งเสียงเรียกอย่างอ่อนแรง น้าจิลหันมา เห็นฉันตื่นแล้ว รีบเข้ามาแล้วพูดว่า“คุณอย่าเพิ่งขยับค่ะ รอให้ป้าไปตามหมอมาก่อน” พูดแล้วก็รีบออกจากห้องไป ฉันมองรอบๆห้องผู้ป่วย การตกแต่งห้องระดับนี้ จะต้องเป็นโรงพยาบาลทนุธรรมแน่นอน แต่ทำไมถึงเป็นที่นี่ ทำไมคนดูแลฉันถึงเป็นคนรับใช้ของชยานี ใจฉันเต็มไปด้วยความสงสัย น้าจิลพาคุณหมอเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว คุณหมอเข้ามาตรวจดูเสร็จแล้ว บอกว่าอ่อนเพลียมากเกินไป ต้องเพิ่มน้ำตาลในเลือด เพียงแค่กลับไปแล้วต้องทานสารอาหารให้ครบเท่านั้นเอง ฉันกล่าวขอบคุณคุณหมอ รอจนคุณหมอออกไป ฉันถึงถามน้าจิลว่าเกิดอะไรขึ้น น้าจิลบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง หลังจากที่ฉันเป็นลมล้มลง ดนุนัยพาฉันมาที่โรงพยาบาล แจ้งข้อมูลส่วนตัวของฉันแล้วจากไปเลย แต่เพียงแค่ได้ยินว่าเป็นคนของบ้านจันทร์ โรงพยาบาลก็รับไว้ทันที ก่อนหน้านี้ติดต่อพ่อแม่ของฉันทั้ง ชวลัย และ ปณัย ทั้งสองต่างบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับฉัน ทางโรงพยาบาลไม่มีวิธีอื่น จึงต้องติดต่อไปหาชยานี ฉันฟังมาถึงตรงนี้ รู้สึกตื้อๆ อยากจะร้องไห้ ชยานีคือเจ้าของบ้านจันทร์ ลูกทั้ง 2 คนของเธอต่างก็ใช้นามสกุลของแม่ เริ่มตั้งแต่เมื่อ3 ปีก่อน เมื่อฉันมาถึงบ้านจันทร์ ทุกคนในบ้านจันทร์ต่างดูถูกฉัน แม้แต่จะมองฉันดีๆสักเพียงครั้งยังไม่มี มีชยานีเพียงคนเดียวที่รักฉันมาก จำวันเกิดฉันได้ จัดงานวันเกิดให้กับฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวันเกิดครั้งแรกของฉันที่บ้านจันทร์ ชยานีเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนของเมืองดรัลมาร่วมงานและแนะนำฉันกับเขาเหล่านั้นทุกคน ตอนที่ฉันหวนคิดถึงช่วงเวลานั้น ชยานีก็เข้ามาในห้องแล้วนั่งลงข้างๆฉัน จับมือฉันไว้แล้วพูดอย่างทุกข์ใจว่า“หนูณิ หนูเนี่ย ผอมลงอีกแล้วนะกลับไปต้องให้น้าจิลทำกับข้าวให้หนูทานนะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ”ฉันไม่อยากให้ชยานีรับรู้ ว่าตอนนี้ฉันพักอยู่กับติณณา ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องช่วยหาที่ อยู่ให้ฉันอย่างแน่นอน ฉันไม่อยากรบกวนเธอ ชยาณีรู้จักนิสัยของฉัน จึงไม่ซักไซ้ต่อ แต่ถามฉันว่า“เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูถึงเป็นลมอยู่ที่นี่ได้” ฉันมองดูเธอ รู้สึกไม่เป็นสุข ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้อย่างไรดีไปชั่วขณะ ฉันไม่อยากให้เธอกังวลใจ ชยานีเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร ก็ถามอีกว่า“บ้านของหนู ปิดบังอะไรพวกเราไว้ใช่ไหม?” ฉันสะดุ้งเฮือก มองดูชยานี แล้วคิดวุ่นวายว่าจะพูดเรื่องการแต่งงานดีหรือไม่ อยากจะถือโอกาสเอาเรื่องเมื่อวานมาพูดทั้งหมด ตอนที่อยากให้เธอช่วยตัดสินใจให้กับฉันอยู่นั้น… ชวลัย กับ ปณัย ปรากฏตัวที่ปากประตู ก่อนหน้านี้ ทั้ง2คนมีใบหน้าที่เย็นชา แต่ดูเหมือนว่าเมื่อมองเห็นฉันนั่งจับมือพูดคุยกับชยานีอยู่ ชวลัยปราดเข้ามาด่าทันที “ณิชา จนถึงตอนนี้ทำไมแกยังไม่ยอมปล่อยพวกเรา? แกคิดจะเอาชีวิตจิณณาใช่ไหม!” หล่อนเป็นเช่นนี้ ย่อมทำให้ชยานีเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา หมุนตัวไปว่าหล่อนเสียงดังแล้วถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ชวลัยคุกเข่าลงตรงหน้าชยานี สีหน้าเต็มไปด้วยความจงเกลียดจงชังเริ่มต้นเล่าเรื่องงานแต่งงาน เวอร์ชั่นที่พูดในครั้งนี้ เทียบกับตอนที่พูดต่อหน้าดนุนัยแล้ว พูดเกินจริงไปมาก ในตอนแรกฉันยังมีความโกรธเคือง คิดอยากพูดแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ฉันรู้ว่า ตอนที่ชยานีได้ฟังเรื่องนี้ ท่าทีนั้นยังคงมึนงง แต่มือยังคงกุมมือฉันไว้ ไม่มีความคิดจะปล่อย ฉันปิดปากเงียบ รอจนชวลัยพูดจบ ฉันจึงพูดว่า“ไม่ใช่อย่างนี้นะคะ” “ถึงตอนนี้แกยังคิดจะเถียงอีกเหรอ?”ปณัยได้ฟังฉันโต้แย้ง ยกมือขึ้นมาจะตีฉัน ชยานีดันฉันไปด้านหลัง“พอได้แล้ว! เรื่องนี้รอให้เด็กทั้ง 2 คนออกจากโรงพยาบาลแล้วค่อยว่ากัน” คำพูดของชยานี ปณัยไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟัง อาการป่วยของฉันไม่หนักมาก ในบ่ายวันนั้นเองก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ฉันกลับมาบ้านกับชยานี ชวลัย และ ปณัยก็ตามมาด้วย พอมาถึงปากประตู ปรากฏว่านอกจากคนรับใช้ของชยานีแล้ว ยังมีคนรับใช้ของบ้านปณัยอีกคน ชื่อ น้าหมุย เมื่อปณัยเห็นน้าหมุย ดูเหมือนจะนึกอะไรได้ รีบถามว่า“แกไม่อยู่ดูแลบ้าน มาทำอะไรที่นี่?” น้าหมุยก้มหน้า ไม่พูดอะไร ฉันเห็นน้าหมุยแล้วคลับคล้ายว่าจะนึกอะไรออก… ก่อนวันแต่งงาน 1 วัน ตอนที่ปณัยมาขอให้ฉันแต่งงานแทน น้าหมุยก็อยู่ข้างๆด้วย 
已经是最新一章了
加载中