ตอนที่13 เธอไม่ควรเรียกฉันว่าสามีงั้นเหรอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่13 เธอไม่ควรเรียกฉันว่าสามีงั้นเหรอ
ต๭นที่13 เธอไม่ควรเรียกฉันว่าสามีงั้นเหรอ พอได้ฟังเรื่องนี้จบ ปณัยยังคงเกี้ยวกราด“ณิชาไม่ได้รับการศึกษาเลี้ยงดูเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็รู้ดี ให้หล่อนแต่งงานอกไปก็มีแต่จะทำให้บ้านจันทร์เสียหน้านะครับ!”ท้ายที่สุด พูดอีกว่า“ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องไร้สาระแบบนี้!” ใช่แล้วล่ะ เรื่องนี้แท้ที่จริงคือเรื่องไร้สาระ งานแต่งงานถูกจัดขึ้นแล้ว เปลี่ยนตัวเจ้าสาวอีก ถ้าแพร่ออกไป มันจะไม่ทำให้บ้านสุ ทรรศน์รังสสี บ้านจันทร์ กลายเป็นเรื่องตลกให้คนในเมืองดรัลหัวเราะเยาะเอาได้เหรอ? ฉันพูดความคิดฉันออกมา ชวลัยที่ก่อนหน้านี้ยังมีสีหน้าเย็นชา คราวนี้กลับมีสีหน้าที่ดี“ณิชาเองก็มีเหตุผล” ชยานีเห็นฉันเองก็ไม่ได้เต็มใจ จึงพูดกับฉันว่า“หนูณิ ไปดูอาหมุยหน่อยว่ายังเจ็บอยู่ไหม” ฉันรู้ว่า เธอกำลังอยากให้ฉันออกไปจากที่นี่ ในตอนที่ฉันลังเล น้าจิลเดินเข้ามา แล้วพาฉันไปยังห้องของคนรับใช้ ห้องคนรับใช้อยู่ไม่ไกลจากห้อง ถึงแม้ว่าฉันจะเข้าไปอยู่ด้านใน แต่ยังสามารถพิงประตูฟังได้ ฉันได้ยินชยานีพูดว่า เฉพาะแค่ใบหุ้น4%ของฉัน แต่ละปีก็มีเงินปันผลนับล้าน แต่ฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่ถ้าหากพวกเขาไม่เห็นด้วย ก็จะให้เอาเงินปันผลตลอด3ปีนั่นออกมา และในอนาคตก็จะไม่มีเงินปันผลในส่วนนี้ให้กับพวกเขาอีกแล้ว พูดถึงเงินปุ๊บ ปณัยและชวลัยตื่นตระหนกตกใจ บ่นไม่พอใจสองสามคำ แต่สุดท้ายก็เห็นด้วย พวกเขาไปแล้วน้าจิลจึงพาฉันออกมา ในเวลานี้ ภายในห้องรับแขกมีชยานีแต่เพียงผู้เดียว ฉันเข้าไปหา และพูดตรงๆว่า“คุณยายคะ หนูไม่อยากแต่งงานกับดนุนัยแล้วค่ะ ภายในใจของดนุนัยเองมีแต่จิณณาค่ะ” “พอได้แล้ว เพิ่งจะพบกันไม่กี่วัน ในใจจะไปมีใครได้อีก”ชยานีดึงมือฉันไปจับอีกครั้ง แล้วพูดว่า“ที่จริงฉันรู้ว่าเจ้าสาวคือหนูตั้งแต่ในวันแต่งงานแล้ว และสายตาที่หนูมองดนุนัย กับสายตาที่จิณณามองดนุนัย ในสายตาคนแก่อย่างยาย ย่อมรู้ดีว่าใครมีเขาอยู่ในใจ” คำพูดของคุณยาย ทำให้สายตาของฉันพร่ามัว วันแต่งงานนั้น ดนุนัยเริ่มต้นกับฉันด้วยทัศนคติที่ดีมาก ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เขาไม่เคยคิดจะแยกแยะฉันกับจิณณามาก่อน เมื่อเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร ชยานีอีกต่อว่า“ยายรู้จักดนุนัยมาก่อน เป็นเด็กดีที่มีความประพฤติเรียบร้อย ยายกับปู่ของดนุนัยไม่มีโชควาสนาต่อกันแต่ว่า ยายหวังว่าพวกเธอจะสามารถครองคู่กันได้ยาวนาน ชดเชยความเศร้าโศกเสียใจของยายกับเขา” ปรากฏว่า การแต่งงานครั้งนี้มีความหมายเช่นนี้นี่เอง ฉันใจอ่อนลงแล้ว ฉันคิดว่า ในเมื่อดนุนัยกำลังตรวจสอบจิณณา ย่อมต้องตรวจสอบเรื่องราวก่อนหน้าด้วย เช่นนี้แล้ว เขาก็อาจจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉันได้ แต่ในใจฉันยังมีข้อสงสัย“คุณยายคะ ว่าแต่ว่าดนุนัยจะเห็นด้วยเหรอคะ?” “เขาเป็นเด็กที่กตัญญูมากที่สุด เพียงแค่ปู่บ้านสุทรรศน์รังสสีออกปาก เขาย่อมรับปากแน่นอน”น้ำเสียงของชยานีมีความมั่นใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าในใจของฉันยังมีข้อสงสัย แต่ความเห็นแก่ตัวในใจของฉันยังมีมากกว่า ฉันออกจากบ้านของชยานี กลับไปถึงบ้านของติณณา นอนไม่หลับเกือบทั้งคืน วันที่2 ฉันรีบวิ่งไปที่ไซต์งานก่อสร้างที่สำคัญที่สุดตั้งแต่เช้าตรู่ ตรวจสอบทุกอย่างเสร็จก็เที่ยงแล้ว เมื่อฉันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวไปยังไซต์งานที่2 มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าฉัน ประตูด้านหลังรถเปิดออก ตอนที่ฉันยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองนั้นเอง มีมือหนึ่งยื่นออกมาแล้วดึงตังฉันเข้าไปในรถ ประตูรถปิดลง รถเริ่มติดเครื่องยนต์ ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าตัวเองถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ มีมือที่แข็งแรงมาล๊อคและจับที่คางของฉัน บังคับให้ใบหน้าของฉันหันไปทางเจ้าของมือ เป็น ดนุนัย ดวงตาดำขลับของชายหนุ่มเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง วินาทีนั้นก่อให้เกิดเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มหน้าผากฉัน ช่วงเวลานี้ราวกับว่าฉันร่วงตกลงมาในอุโมงค์น้ำแข็ง “คุณดนุนัย…คุณทำอะไร?” ฉันมองเขา รู้สึกเย็นวาบที่หลัง “คุณดนุนัย?”ดนุนัยมองฉัน มุมปากยกขึ้นด้านหนึ่ง แต่กลับไม่มีรอยยิ้ม“เธอไม่ควรเรียกฉันว่าสามีงั้นเหรอ?” ฉันค่อยๆสบตาเขา หรือว่า ชยานีจะบอกเรื่องนี้กับเขารวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
已经是最新一章了
加载中