ตนที่27พวกเขาไปเลือกของใช้สำหรับเด็กด้วยกัน
“ทำแท้งซะ”ชายหนุ่มตอบโดยไม่ลังเลเลยและตอนท้ายเขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกประโยคว่า“ครั้งล่าสุดเธอกินยาแล้วเธอไม่คิดจะเอาผลผลิตชั่วร้ายแบบนั้นมาให้ปู่ของฉันหรอก”
ฉันยกริมฝีปากขึ้นยิ้มอย่างเฉยชาแล้วพูดว่า“ยาคุมกำเนิดก็ไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซนต์หรอกนะคะ”
คำถามของฉันดูเหมือนจะทำให้ดนุนัยเกิดความตระหนกตกใจขึ้นมาสายตาของเขามองมาที่ท้องของฉันแล้วถามว่า“เธอตั้งท้องเหรอ?”
“คุณทายดูสิฉันมองไปที่เขาท่าทีเฉื่อยชาไม่สนใจทำให้มองไม่เห็นคำตอบใดๆเลย
ดนุนัยมองฉันไม่ตอบอะไรสีหน้าไม่ได้แสดงว่ามีความสุข
บางทีฉันอาจจะหวังมากเกินไปที่จะให้ลูกได้มีพ่อแต่ฉันก็ยังคงไม่ลดละถามเขาว่า“คุณอยากให้ฉันตั้งท้องหรือเปล่า?”
เขายังคงเงียบ
ไม่ยอมรับเท่ากับปฏิเสธใช่หรือไม่?
ฉันซ่อนความรู้สึกสูญเสียไว้ในภายในใจแสร้งยิ้มอย่างผ่อนคลาย“ไม่ใช่หรอกค่ะฉันโกหกฉันโง่ก็จริงแต่ก็ไม่โง่ถึงขนาดมีลูกกับผู้ชายที่ไม่ได้รักฉันหรอกค่ะ”
ในตอนนี้เองรถก็มาถึงบ้านของติณณา
ฉันเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วเตรียมที่จะลงจากรถกลับได้ยินชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆฉันพูดมาประโยคหนึ่งว่า“ขอเพียงเธอปฏิบัติตามหน้าที่ของเธอฉันสัญญาเธอจะเป็นนายหญิงของบ้านสุทรรศน์ฯตลอดไปสำหรับเรื่องลูกของเรา...รอสักพักเถอะนะ”
เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวทำให้ใจของฉันสับสนวนเวียน!
นี่คือการปลอบใจใช่ไหม?
ใช่แล้วล่ะ
ฉันคิดขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้ดวงตาของดนุนัยที่มองฉันนั้นเย็นชาและเยาะเย้ยถากถางตอนนี้เริ่มจะเปลี่ยนไปแล้ว
มีบางครั้งที่ฉันคิดว่าขอเพียงอยู่ต่อไปบางที่อาจมีสักวันหนึ่งที่ความสัมพันธ์ของพวกเราดีขึ้น
แต่แล้วมันเป็นเรื่องที่ฉันช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน
วันต่อมาคือวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันทำงานล่วงเวลาที่บริษัทเพื่อทำภาพแบบร่างนภทีป์เดินเข้ามาหา
เขาอธิบายว่าเขาเพิ่งเดินทางไปคุยธุรกิจจึงไม่ได้อยู่ที่บริษัท
กลับมาถึงวันนี้อยากจะชวนฉันไปเป็นเพื่อนซื้อเสื้อผ้า
เขาช่วยฉันอย่างมากในบริษัทแล้วยังรวมถึงในชีวิตด้วยล้วนช่วยเหลือฉันมามากฉันจึงไม่มีเหตุผลที่จะหลบเลี่ยงได้
พวกเราไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับบริษัทและเดินตรงไปยังแผนกเสื้อผ้าบุรุษ
ต้องบอกว่ารูปร่างของนภทีป์นั้นดีจริงๆไม่ว่าเขาจะเลือกเข้าร้านไหนลองสวมชุดอะไรก็ดูดีเพียงแค่ฉันพูดว่าโอเคเขาก็ซื้อหมดเลย
ต่อมาฉันไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วจึงปิดปากเงียบให้เขาตัดสินใจเอง
ถึงอย่างนั้นเขาก็ซื้อเสื้อผ้า7-8ตัวและชุดสูทอีก2ชุดจากนั้นทั้งหมดถูกส่งให้กับพนักงานบริการของร้านค้าเพื่อหาเวลาจัดส่งไปที่บ้านของเขา
พวกเราลงบันไดเลื่อนเมื่อไปถึงชั้น3มองเห็นผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็กพอดีฉันอดไม่ได้ที่จะหยุดดู
นภทีป์เข้าใจเจตนาของฉันผิดเขาพูดว่า“รอฉันแป๊ปนึงนะ”
พูดจบเขาก็วิ่งไปที่แผนกของใช้เด็กทารกหยิบตุ๊กตาหมีสีม่วงหนึ่งตัว
เมื่อฉันคิดว่าจะต้องไปหยุดเขาที่อีกด้านของแผนกของใช้เด็กทารกฉันกลับมองเห็นคนสองคน
ดนุนัยและจิณณา
ทั้งคู่ผลักรถเข็นขนาดเล็กและช่วยกันเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กทารกอยู่ที่อีกด้านนั้น
ฉันที่ยืนอยู่ไกลกลับสามารถมองเห็นแสงสว่างในแววตาของดนุนัย
ดูแล้วเขาคงตั้งตาคอยให้เด็กคนนี้เกิดมา
“ฉันให้”นภทีป์กลับมาอย่างรวดเร็วแล้วส่งตุ๊กตาหมีน้อยสีม่วงให้ฉัน“เธอเพิ่งหยุดดูตัวนี้ใช่ไหม?”
ฉันตอบรับอย่างตะกุกตะกัก“ใช่แล้วล่ะขอบคุณนะ”จากนั้นฉันดึงนภทีป์ไปจากตรงนั้น
เรามักจะได้เจอคนที่ไม่อยากเจอคำกล่าวนี้ไม่ผิดเลย
ฉันหลบเลี่ยงพวกเขาในห้างสรรพสินค้าได้แต่เมื่อถึงตอนรอร้านอาหารกลับได้พบกันอีก
เมื่อฉันและนภทีป์นั่งลงก็เห็นพนักงานจัดเตรียมโต๊ะให้ดนุนัยและจิณณานั่งตรงข้ามพวกเรา
“อ้านี่คือนภทีป์ที่ณิชารักและคิดถึงมากที่สุดตอนเรียนมหาวิทยาลัยหรือเปล่า?”จิณณาเห็นพวกเราแล้วรีบมาทักทายทันที
แววตาของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนฉันเดาได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไร
海量小说享免费阅读