ตอนที่ 44 เป็นนายหญิงบ้านสุทรรศน์รังสสีก็ดีแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 44 เป็นนายหญิงบ้านสุทรรศน์รังสสีก็ดีแล้ว
ต๭นที่ 44 เป็นนายหญิงบ้านสุทรรศน์รังสสีก็ดีแล้ว จิณณามาแล้ว ฉันยืนอยู่ตรงปากประตู ได้ยินเสียงบอดี้การ์ดเข้ากีดขวางหล่อน ท้ายที่สุดหล่อนก็เดินขึ้นมาแล้วเปิดประตู ตอนที่จิณณาเห็นฉันยืนอยู่ที่ประตูนั้น เกือบจะนิ่งงันไปเลย! เงียบไปนานจึงเอ่ยปากพูดว่า “ณิชา คือเธอนี่เอง” “มีอะไรเหรอ? คุณจิณณา” ฉันตั้งใจพูดชื่อเต็มของเธอ จิณณาแทบจะยั้งปากไว้ไม่ได้ แต่ว่าเธอยังคงถามฉันด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าคุณนัยทำอะไรให้เธอลำบากใจอีก?” ฉันมองดูใบหน้าที่ไม่จริงใจของหล่อนแล้ว นอกจากความรังเกียจ แล้วยิ่งโกรธมากขึ้น! การตายของลูกฉัน เธอกับดนุนัย แม้แต่คนเดียวก็วิ่งหนีไปไม่ได้! เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้ว่าคนที่จะอยู่ที่นี่คือฉัน ฉันหัวเราะแล้วตอบว่า “ไม่ใช่หรอก ฉันกับเขาเราดีต่อกันมาก เย็นวันนี้ยังไปหาคุณปู่ด้วยกันเลย” ทันทีที่พูด แม้ว่าสีท้องฟ้าข้างนอกจะมืดแล้ว แต่ฉันสามารถมองเห็นว่าจิณณามีใบหน้าขาวซีด โดยพื้นฐานหล่อนไม่เชื่อหรอก แต่ว่าบนตัวฉันสวมชุดราตรีของตอนเย็น และเท้ายังสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ และมีการแต่งหน้าที่ดีเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้ผิวขาวๆของฉันมีสีแดงระเรื่อ ทำให้ฉันมีภาพลวงตาหลอกเธอได้ดี เกรงว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่จิณณาทนไม่ได้มากที่สุดเสียด้วย! “แก! นังณิชา แกคิดจะใช้ลูกไม้อะไรกันแน่!” จิณณาโกรธจนกัดฟันกรอด ยื่นมือตรงเข้ามาจะบีบคอฉัน! บอดี้การ์ดเอื้อมมือกันเธอออกไปข้างนอกทันที ฉันก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วหัวเราะเยาะ “ตอนนี้เธอก็รู้แล้วสินะ ว่าทำไมสามีของฉันถึงต้องจัดเตรียมบอดี้การ์ดไว้ให้ฉัน” ฉันจงใจเน้นย้ำคำว่าบอดี้การ์ดอย่างหนัก จิณณาชี้ไปที่บอดี้การ์ดสองคนแล้วด่าทอว่า “พวกแกไม่ใช่สุนัขรับใช้ของดนุนัยรึไง! พวกแกไม่ขวางหล่อน แต่กลับจะมาขวางฉันไว้จริงๆเหรอ?! พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!” บอดี้การ์ดไม่พูดอะไร แต่ทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เห็นจิณณาเป็นเช่นนี้แล้ว ฉันรู้สึกขบขันขึ้นมาทันที แล้วพูดต่อว่า “เธอคงคิดว่าการที่เธอยอมเสียสละลูกหนึ่งคนและครึ่งชีวิตของเธอเพื่อเอาฉันเข้าคุกแล้วดนุนัยจะเกลียดชังฉันจนตาย แล้วนับจากนี้ฉันจะหายไปจากชีวิตเขาสินะ?” “น่าเสียดายจริงๆ!” ฉันส่ายหัว ทันใดนั้นมีเสียงปิดประตูดัง “ปัง” ข้างนอกประตูนั่น จิณณาตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ฉันขี้เกียจจะสนใจหล่อนอีก เมื่อฉันกลับเข้ามา บนโทรศัพท์มีหลายข้อความจากนภทีป์ [รุ่นน้อง เธออยู่ที่ไหน? ฉันเป็นห่วงเธอมากนะ] [ระยะหลังฉันกดดันเธอมากไปใช่ไหม? เธอบอกฉันได้นะ ฉันจะปรับปรุงตัว] [เห็นข้อความแล้วโทรกลับด้วย] สามข้อความติดๆกัน ฉันรู้ว่า นภทีป์ใส่ใจกับฉันมากจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันกลัวจริงๆว่าตัวเองจะส่งผลกระทบถึงเขา ที่ดนุนัยพูดไม่ผิด ถ้าเขาคิดจะทำลายบริษัทที่นภทีป์สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากแล้วล่ะก็ เขาสามารถใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง เย็นวันนั้น ฉันไม่ได้ตอบกลับไป วันรุ่งขึ้น ฉันสวมเสื้อผ้าที่มีอยู่ในวิลล่าแล้วไปบริษัท เสแสร้างแสดงท่าทีว่าร่าเริงขีดสุด เข้าไปในห้องทำงานของนภทีป์แล้วบอกกับเขาว่า “ฉันต้องการลาออกค่ะ” นภทีป์ขมวดคิ้ว แล้วมองดูฉันที่สวมเสื้อราคาแพงอยู่นาน ถึงจะเอ่ยถามว่า “ดนุนัยบังคับคุณใช่ไหม?” “ไม่ใช่หรอกค่ะ” ฉันนั่งลงบนโซฟา ริมฝีปากสีแดงยกขึ้น “แค่เพราะว่าฉันไตร่ตรองดีแล้วว่า เป็นนายหญิงบ้านสุทรรศน์ฯก็ดีแล้ว ทำไมจะต้องทนลำบากอยู่ที่นี่ คอยทำตามคนอื่นด้วย” ขณะที่พูดก็เอามือลูบกระเป๋าถือที่ทำจากหนังจระเข้ไปด้วย “รุ่นน้อง เธอไม่ใช่คนแบบนี้เลยนะ” นภทีป์กล่าว “เพราะว่าตัวฉันก่อนหน้านี้มันโง่เง่าไงคะ แต่ว่าตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” ฉันเบือนหน้าไปอีกทาง เพราะไม่กล้าหันไปมองหน้าของนภทีป์ ฉันกลัวที่จะเห็นเขาเศร้า หรือว่าโกรธ ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อนที่ฉันจะเข้าคุก หรือว่าหลังจากออกจากคุก ทั้งเขาและฉันต่างก็ไม่มีอะไรจะพูดกันอีก
已经是最新一章了
加载中