ตอนที่ 55 ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาช่วยพูดให้ฉัน
1/
ตอนที่ 55 ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาช่วยพูดให้ฉัน
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 55 ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาช่วยพูดให้ฉัน
ตนที่ 55 ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาช่วยพูดให้ฉัน ฉันจ้องมองจิณณา เพราะว่าเราเหมือนกันเปี๊ยบดุจฝาแฝด ใบหน้าของเธอและฉันมีความคล้ายกันสูงมาก จากสายตาคนนอกมองมานั้นจะคล้ายกันมากๆ แต่ว่าตอนนี้ฉันตัดผมสั้นแล้ว คนจำนวนมากแยกเธอกับฉันออกได้จากทรงผม ถ้าหากฉันใส่วิกล่ะก็ คนอื่นๆก็จะมองเห็นฉันเป็นหล่อน ก่อนหน้านี้ความกลัวที่จะถูกขังคุกอีกนั้นมีท่วมหัว ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ในเขณะนั้นฉันไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรออกไปและไม่ได้แสดงอออกใดๆด้วย ทินบัติหันหน้ามาโดยที่ไม่มองฉัน “ถ้าหากมีการตัดสินโทษผิดคน เธอต้องไปพูดกับตำรวจ มาบอกฉันก็ไม่มีประโยชน์” “เรื่องนี้คนที่ขุดหลุมพรางใส่หนูนั้นละเอียดรอบคอบมาก หนูเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ คุณปู่อาจจะไม่เชื่อหนู แต่ว่าหนูกับ…” ฉันมองดนุนัยอย่างลังเลสักครู่ “หนูกับสามีเราจะหย่ากันค่ะ” ดนุนัยหันมามองฉันแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แล้วคว้ามือฉันไว้ พูดกับทินบัติว่า “คุณปู่ครับ ปู่จะให้การแต่งงานของผมเป็นของเด็กเล่นเหรอครับ? ถึงจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา?” การแต่งงานครั้งนี้มันคือเรื่องตลกจริงๆ จากจิณณา มาเป็นฉัน ตอนนี้จะกลับไปเป็นจิณณาอีกใช่ไหม? ความรู้สึกของดนุนัยที่มีต่อฉันลึกซึ้งเช่นนี้ ทำให้ดวงตาของจิณณาแดงก่ำ ทินบัติรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายดายนัก ก็โบกมือไล่ “พวกเธอสองคนพี่น้องออกไปเดินเล่นในสวนเถอะ ฉันจะคุยกับหลานชายของฉันที่นี่” ฉันไม่ขัดขวางใดๆ ดึงมือออกจากมือของดนุนัย หมุนตัวแล้วเดินออกไปเลย รอจนฉันยืนอยู่ที่ปากประตูได้สักครู่ จิณณาถึงจะออกมา เมื่อเธอออกมา ก็เปิดเผยสีหน้าที่แท้จริง “ณิชา แกไม่ได้ภูมิอกภูมิใจแล้วเหรอ? ฉันเห็นแกยินดีกับตำแหน่งนายหญิงบ้านสุทรรศน์ฯมาตั้งนาน!” “อ้อ” ฉันตอบไปเพียงหนึ่งคำ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ฝากข้อความถึงนภทีป์ ถามว่าเขาสามารถติดต่อคนงานที่ผสมของลงไปในกาวได้หรือไม่? จิณณาเห็นว่าฉันเพิกเฉยไม่สนใจหล่อน พูดอย่างโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงว่า “ณิชา ตอนนี้แกทำเป็นเยือกเย็น? หลังจากนี้แกจะต้องร้องไห้!” ฉันส่งข้อความเสร็จแล้ว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เอนตัวพิงกำแพงแล้วหัวเราะเยาะ “จิณณา บ้านจันทร์ได้ตรวจสอบบ้านเธอจนรู้ทุกอย่างแล้ว สิ่งต่างๆที่เธอได้ทำมาก่อนหน้านี้ คาดเดาได้เลยว่าคุณปู่บ้านสุทรรศน์ฯเองก็รู้นานแล้ว ดังนั้นมันไม่ใช่ฉัน แล้วก็ไม่ใช่เธอหรอก” “เป็นไปได้ยังไง เห็นอยู่ชัดๆว่าคุณปู่รักฉันมาก!” “เธอแน่ใจ?” ทันทีที่ฉันถาม จิณณาดูโง่ไปเลย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่แน่ใจ ฉันพูดต่อไปว่า “ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะแปดเปื้อนต้อยต่ำ แต่ว่าความจริงจะต้องโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาสักวัน และเธอ อดีตที่เหลวแหลกไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้” “ฮึ่ย!” จิณาชี้หน้าด่าทอฉันใหญ่ “แกสะอาดงั้นสิ? แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ค่าเล่าเรียนตอนแกเรียนมหาวิทยาลัยไม่ใช่บ้านจันทร์ที่ออกให้ เป็นคนอื่นจ่ายให้ทั้งนั้น ในโลกนี้จะมีใครจิตใจดียอมจ่ายเงินให้คนอื่นกัน? มันจะต้องเป็นแกเอาตัวไปแลกมาแน่ๆ!” “อย่าเอาจิตใจคนต่ำทราม มาประเมิณสุภาพบุรุษ” ฉันมองหล่อนอย่างว่างเปล่า เมื่อค้นพบว่าตรรกะของจิณณานั้นช่างน่าขบขัน ไม่มีวิธีจะสื่อสารด้วยได้จริงๆ แต่จิณณายังคงไม่ลดละ “ฉันเป็นคนต่ำทรามเหรอ? อย่างนั้นแกก็บอกฉันสิ เงินนั่นใครเป็นคนออกให้? ฉันเองก็อยากเจอคนที่ไม่เห็นแก่ตัวได้ปานนั้น เงินจำนวนมากจ่ายยังไงก็ไม่พอ ยอมเอามาช่วยเหลือคนที่ไม่เคยรู้จัก!” “อายุก็ไม่เยอะ ความคิดสกปรกได้ขนาดนี้” เสียงพูดของจิณณาลดลงมีเสียงของชายหนุ่มดังออกมาจากสวน ฉันหันไปมอง เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงกำแพงด้านหลังของสวน ดูแล้วอายุประมาณสามสิบกว่าปี สวมชุดลำลองสีอ่อน ผมหวีไปด้านหลังอย่างเรียบร้อย ถึงแม้ว่าดวงตาดำขลับจะดูแหลมคม แต่พอสวมแว่นตาไร้กรอบบนหน้าแล้วก็ดูบดบังความดุดันลงไปไม่น้อย “คุณเป็นใครกันฮะ?” จิณณามองเห็นเขาแล้วตกใจอย่างเห็นได้ชัด ที่จริงเรื่องที่ฉันพูดกับเธอ แน่นอนว่าจะให้คนบ้านสุทรรศน์ฯได้ยินไม่ได้ “คุณชายที่สาม คุณกลับมาแล้ว” จิณณาเพิ่งจะถามออกไป แม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้านสุทรรศน์ฯก็วิ่งมาแต่ไกล แล้วทักทายชายหนุ่ม ชายหนุ่มยื่นถุงส่งให้กับแม่บ้าน จากนั้นพูดว่า “ของที่คุณพ่อต้องการอยู่ในนี้แล้ว” “ดีจริงค่ะ” หลังจากแม่บ้านรับถุงไป ก็ตรงกลับไปเลย คุณชายที่สาม อันที่จริงฉันเคยได้ยินทินบัติพูดขึ้นมาตอนกินข้าวว่า เขามีลูกชายสามคน แต่กลับไม่คิดว่าลูกชายคนที่สามของเขาจะอายุน้อยขนาดนี้ ถ้าคำนวณดู คนๆนี้ควรจะเป็นอาผู้ชายคนเล็กของดนุนัย “ที่แท้ก็คือคุณอาคนเล็กนี่เอง” จิณณาเองก็ตอบสนองต่อลำดับชั้นความสัมพันธ์นี้ รีบไปทักทายเขาทันที การแสดงออกของสีหน้า สามารถมีน้ำหวานออกมาได้เลย “ผมไม่ได้สนิทกับคุณนะ” คุณอาคนเล็กมองเห็นหล่อนเดินเข้ามาทัก ก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เป็นภาพเหตุการณ์ที่มองดูแล้วตลกเสียจริง จิณณาเองก็ไม่ชอบที่จะได้รับความอับอาย จึงยืนอยู่ที่เดิม พูดอย่างไพเราะว่า “คุณอาคะ ฉันกับน้องสาวเราเพิ่งจะคุยเล่นกันอยู่ คุณอย่าจริงจังไป พวกเราสองพี่น้องมักจะล้อกันเล่นอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้ว” “มันเป็นเรื่องของพวกคุณ ผมไม่ได้สนใจ” คุณอาพูดจบก็หันมามองฉันแว้บหนึ่ง แล้วเดินจากไป จิณณาคิดจะไล่ตามไป แต่เมื่อเดินออกไปได้สองก้าว ราวกับรู้ตัวว่ามันน่าอาย จึงวกกลับมา เมื่อเธอกลับมาก็ชี้หน้าด่าฉัน “ณิชา แกจงใจใช่ไหม แกรู้ว่ามีคนแอบฟัง เลยบังคับให้ฉันพูดคำเหล่านั้นใช่ไหม!” “เธอพูดเอาขำขันรึไง?” ฉันรู้สึกจริงๆว่าจิณณาอยากได้ตำแหน่งนายหญิงบ้านสุทรรศน์ฯจนพื้นฐานทั้งสี่ในความเป็นมนุษย์ของเธอนั้นสับสนไปหมดแล้ว ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันหยิบขึ้นมา เห็นข้อความของนภทีป์ บอกว่าขณะที่เขาคิดจะไล่คนงานคนนี้ออก แต่หลังจากตรวจสอบดูพบว่าครอบครัวของเขาลำบากจริงๆ จึงละเว้นเขาไว้ นี่เป็นข่าวดีสำหรับฉัน ฉันถามเขาถึงไซต์งานปัจจุบันที่คนงานคนนี้ทำงานอยู่ และย้ำเวลาทำงานที่แน่นอน ต่อมา ขณะที่แม่บ้านของบ้านสุทรรศน์ฯให้ฉันและจิณณากลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ทินบัติไม่ได้พูดเรื่องที่จะให้ฉันกับดนุนัยหย่าขาดกันอีก แต่ว่าท่าทีที่มีกับฉันนั้นไม่ดีเลย ในตอนที่จะออกต้องออกจากบ้านแล้ว ฉันพูดขึ้นมาทันทีทันใดว่า “คุณปู่คะ พรุ่งนี้หนูเตรียมโปรแกรมเล็กๆเอาไว้ หวังว่าคุณปู่จะมาได้” “ฉันไม่ว่าง” ทินบัติปฏิเสธตรงๆ แค่เริ่มต้นก็แย่แล้ว ฉันจึงทำได้เพียงพูดต่อไปว่า “คุณปู่คะ ได้โปรดให้โอกาสหนูสักครั้งเถอะค่ะ ครั้งนี้ ทัศนคติของคุณปู่ที่มีต่อหนูทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอนค่ะ” “ไม่มีเวลา” ทินบัติปฏิเสธฉัน และแม้แต่เหตุผลก็ไม่เต็มใจที่จะบอก จิณณาหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆ “ณิชา คุณปู่กับเธอไม่เหมือนกันหรอกนะ เธอไม่ต้องทำงาน อาศัยให้ดนุนัยเลี้ยงดู แต่พวกเราน่ะต้องทำงานกัน” “ขอเวลาของคุณปู่เพียงแค่แป๊ปเดียวเองค่ะ หนู…” “ยังไงก็ไม่ว่าง!” ในที่สุด ทินบัติก็รู้สึกรำคาญฉันแล้ว ฉันพูดไม่ทันจบ เขาก็ขัดเข้ามาเลย เหงื่อฉันออกทั่ว หมดหนทาง ในตอนที่คิดจะยอมแพ้แล้วนั่นเอง ดนุนัยที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า “คุณปู่ครับ พรุ่งนี้ตอนเย็น พวกเราอยากจะขอเชิญคุณปู่ไปร่วมทานข้าวด้วย เราวางแผนกันมานานแล้วนะครับ” เขาพูดจบก็หันมาตำหนิฉัน “บอกคุณปู่แบบนี้ไม่ดีเลยนะ คุณปู่ไม่ชอบอะไรที่ดูเป็นความลับแบบนี้” “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันควรจะบอกท่านไปตรงๆ” ฉันหันหน้าไปมองดนุนัย ไม่อยากจะเชื่อเลย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ยังคงช่วยพูดให้ฉัน ทินบัติไม่ชอบฉัน แต่ว่าชอบดนุนัย ได้ยินดนุนัยพูดเช่นนี้ ทินบัติก็กล่าวโทษตามไปด้วยว่า “กินข้าวก็บอกมาตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องทำอะไรให้เป็นความลับ” ตอนที่พูดนั้น ความไม่พอใจบนใบหน้าลดลงไปแล้วไม่น้อย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 55 ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาช่วยพูดให้ฉัน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A