ตอนที่ 60 เต็มใจเรียกฉันว่าสามี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 60 เต็มใจเรียกฉันว่าสามี
ต๭นที่ 60 เต็มใจเรียกฉันว่าสามี คนที่อยู่ด้านหลังไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอาผู้ชายคนเล็กของดนุนัยที่เจอที่บ้านของทินบัติในวันนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นเขา รีบยืนตัวตรงและพูดอย่างเคารพว่า “คุณผู้ชายรู้จักคุณผู้หญิงคนนี้ด้วยเหรอครับ ต้องขออภัยย่อางมาก” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้กล่าวขอโทษฉันด้วย อาของดนุนัยเดินมาอยู่ตรงหน้าฉัน แล้วยื่นมือออกมา “ฉันช่วยเธอถือใบนึงไหม?” “ไม่ต้องหรอกค่ะ” ฉันจะกล้ารบกวนให้เขาช่วยฉันได้ที่ไหนกัน แต่ว่าอาของดนุนัยก็ยังกระตือรือล้นที่จะช่วยฉันเลยหยิบกระเป๋าจากฉันไปหนึ่งใบ จากนั้นก็ถามหมายเลขที่พักของฉัน จากนั้นก็นำทางฉันไปตลอดทางจนถึงหน้าอาคาร “ขอบคุณมากนะคะ ฉันถึงแล้ว คุณกลับไปเถอะค่ะ” ฉันเกรงใจต้องการจะเอากระเป๋ากลับมา คาดไม่ถึง คุณอาพูดว่า “ฉันก็พักอยู่อาคารนี้” [หมู่บ้านกรีนเฮ้าส์] มีทั้งหมดหกหรือเจ็ดอาคาร หากจะอยู่อาคารเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก พวกเราเข้าไปในลิฟท์ด้วยกัน อาคารนี้มีทั้งหมด 36 ชั้น ฉันเห็นเขากดชั้น 32 เมื่อลิฟท์มาถึงชั้น 32 ฉันยืนอยู่ที่ปากประตูบ้าน ฉันรับสัมภาระมาแล้วกล่าวขอบคุณกับเขา “ขอบคุณมากนะคะที่คุณมาส่งฉันถึงนี่ จากนี้ก็อยู่ในชุมชนเดียวกันแล้ว ยังไงขอให้คุณช่วยดูแลด้วยนะคะ” ถึงแม้ว่าเขาอาจจะแก่กว่าฉันประมาณสิบปี แต่แท้ที่จริงเขาก็เป็นอาเล็กของดนุนัย ในความสัมพันธ์ของฉันกับดนุนัย ยังไงเขาก็เป็นผู้อาวุโสกว่าฉัน แต่ว่าชายหนุ่มกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอนที่ฉันพูดคำว่า “คุณ” “ฉันชื่อจรณ์ เธอเรียกฉันว่าพี่จรณ์หรือเรียกว่าจรณ์ก็ได้” “ไม่ได้ค่ะ คุณกับดนุนัยมีความสัมพันธ์เป็นอาหลานกัน” ฉันส่ายหัว จรณ์มองฉันแล้วส่ายหัวอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร “ความสัมพันธ์ของเธอกับดนุนัยและคุณหนูคนนั้น คนอื่นไม่รู้ แต่ว่าฉันเข้าใจดีอย่างยิ่ง ดังนั้นเรียกแบบนี้เถอะ แล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง” เขาเปิดเผยขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ไม่อึดอัด ทำให้ฉันผ่อนคลายขึ้นด้วย “โอเคค่ะ พี่จรณ์” แล้วฉันก็เลือกชื่อ ดีแล้ว จรณ์พยักหน้า เดิมทีฉันคิดว่าเขาจะเดินกลับไปที่ประตูลิฟท์ ไม่คิดว่าเขาจะหมุนตัวกลับมาแล้วกดปุ่มลงไปบนแป้นอิเลคทรอนิคส์ของเพื่อนบ้าน… มีเสียงดัง “ติ๊ง” ประตูก็เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว ฉันตกตะลึง จรณ์มองเห็นฉันเป็นอย่างนั้นแล้ว มุมปากก็ยิ้มบางๆ “จากนี้เราก็เป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว มีเรื่องอะไรเรียกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ” พูดจบก็ปิดประตูเดินเข้าไปเลย ในหนึ่งชั้นมีทั้งหมดสามครัวเรือน มองจากแผนผังของประตูสามารถดูออกได้ว่า ฉันและห้องฝั่งตรงข้ามเป็นอาร์พาร์ตเม้นท์ขนาดเล็ก แต่ห้องของจรณ์เป็นอาพาร์ตเม้นท์ขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลังก็ซื้อไว้พร้อมแล้ว ฉันจัดเก็บข้าวของของตัวเองเสร็จแล้ว ก็ถือแล็ปท็อปและคิดจะซ่อมคอมพิวเตอร์ นี่เป็นวันหยุดที่นานๆจะมี ปกติแล้วฉันต้องจัดการทำธุระทั้งหมดเสร็จตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เพิ่งจะออกประตูมา โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นสายจากดนุนัย เป็นเพราะว่าในบ้านมีคนรับใช้ ดังนั้นทันที่ฉันออกมา คนรับใช้ย่อมต้องรายงานทันที “เธอไปอยู่ที่ไหน?” ทันทีทีรับโทรศัพท์ เสียงเยือกเย็นของดนุนัยจากปลายสายก็พูดออกมาห้าคำ “เรื่องความสัมพันธ์ที่มีปัญหาของเรา คุณยายทราบแล้วค่ะ ท่านพูดว่าถึงแม้ว่าบ้านจันทร์จะเทียบไม่ได้กับบ้านสุทรรศน์ฯ แต่ฉันก็ไม่ต้องอยู่โดยคอยอาศัยทางคุณหรอกค่ะ” ฉันไม่ต้องการหาเหตุผล จึงถ่ายทอดคำพูดของชยานีให้เขาฟังไปตรงๆ “มันไม่ได้เป็นแบบนั้น? ณิชา เธอยอมเชื่อฟังกลับมาหาฉันดีกว่า ให้ฉันต้องเป็นฝ่ายไปหาเธอ” เสียงของดนุนัยจากปลายสาย เริ่มหัวเสียแล้ว “ผู้จัดการดนุนัยคะ คุณไม่เคยกลับไปเลย ฉันต้องอยู่ตามลำพังในบ้านที่ว่างเปล่าตลอด ฉันจะไปอยู่ที่ไหนก็เหมือนกันแหละค่ะ” ฉันพูดจบก็รู้สึกขมขื่นจึงวางสายโทรศัพท์ทันที จากนั้นก็ปิดเครื่อง หลังจากที่ทำเช่นนี้แล้ว หัวใจของฉันก็เต้นตุบตุบ แต่ฉันรู้ดีว่า ฉันไม่สามารถทำตามความต้องการของดนุนัยได้ตลอดไป ฉันต้องทำตามวิถีทางนี้เท่านั้น ฉันเอาคอมพิวเตอร์ไปที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ คนที่นั่นตรวจดู และบอกว่ามันซ่อมได้ แต่ต้องใช้เวลาอย่าง้นอยสามวัน พอออกมาจากศูนย์คอมพิวเตอร์ ฉันซื้ออาหารตามสั่งที่ปากทางเข้าบ้านก่อนจะขึ้นไปชั้นบน เมื่อขึ้นไปชั้นบน กำลังจะหยิบกุญแจมาเปิดประตู มองเห็นที่ปากประตูมีเงาร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่ กำลังสูบบุหรี่อยู่ที่มุมห้อง “ทำไมเธอถึงเพิ่งจะกลับ?” ดนุนัยมองฉัน เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และน้ำเสียงแย่มาก ฉันกลับสะดุ้งโหยงตกใจ “คุณ ทำไมคุณถึงรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่?” “เปิดประตู” ดนุนัยไม่ตอบคำถามของฉัน และออกคำสั่ง “นี่คือบ้านของฉัน!” นี่คือบ้านที่ชยานีซื้อให้ฉัน ไม่ใช่ที่จะพักอยู่ชั่วคราว ฉันไม่ต้องการเข้าไปอยู่ในการควบคุมของเขาอีก แต่ทว่า ชายหนุ่มคว้ากุญแจในมือของฉันแล้วเปิดประตูเข้าไป จากนั้น ในขณะที่ประตูกำลังปิด ดนุนัยผลักฉันไปบนกำแพงทันที กักขังฉันไว้ภายใต้แขนอันทรงพลัง แล้วมองหน้าฉัน และเอ่ยถามว่า “ฉันไม่ติดต่อเธอ เธอก็จะไม่ติดต่อฉันตลอดไปเลยใช่ไหม?” ใบหน้าของชายหนุ่มห่างจากฉันไปเพียงสองเซนติเมตร คุณสมบัติของมุมมองทำให้เห็นใบหน้าที่ดูดีอย่างชัดเจน จมูกโด่งเป็นสัน ฉันมองตาของเขา ดูเหมือนจะมีบางอย่างกระเพื่อมอยู่ในความสงบของพื้นผิว ฉันมองดูเขา แล้วเหมือนหัวใจจะเต้นผิดจังหวะ ในขณะที่ฉันไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ดนุนัยก็กอดฉันไว้ ริมฝีปากบางฝังอยู่ในต้นคอของฉัน พูดเสียงบางเบามาหนึ่งคำ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ยินชัดเจน แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็น “ฉันคิดถึงเธอมาก” ทั้งตัวของฉันถูกตรึงไว้แน่นมาก ฉันตะโกนออกมาว่า “ผู้จัดการดนุ…” “หุบปาก!” คำพูดต่อจากนั้นยังคงไม่ได้พูดอกมา ดนุนัยอ้าปากกัดเบาๆที่ตำแหน่งกระดูกเหนือไหปลาร้าของฉัน มันไม่เจ็บ ในทางตรงกันข้ามกลัทำให้รู้สึกปวกเปียกและมึนงง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นและยื่นนิ้วเรียวยาวมาจับคางของฉัน “ณิชา เธอคือภรรยาของฉัน ดังนั้น ชื่อที่เธอเรียกฉันจะมีเพียงชื่อเดียวที่ สามี เข้าใจใช่ไหม?” ขณะที่พูด ดวงตาดำขลับของเขาจ้องมองฉันอย่างจริงจังเป็นอย่างยิ่ง หรือว่า…จะมีความรักอยู่บ้าง? แต่ก็เป็นเพียงชั่วพริบตาเดียวแล้วฉันก็ตื่น แค่ดนุนัยมองฉัน แล้วจะเป็นความรักไปได้อย่างไร? กลัวว่าเขาจะเกลียดฉันจนแทบไม่ทันน่ะสิ “เรียกให้ได้ยินสักครั้งก่อน” ดนุนัยปิดทางเข้าออกเพื่อกักฉันไว้ ฉันมองเขาแล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะ “คุณดนุนัยคะ คุณรู้ไหม? การใช้คำสองคำนี้เรียกขานคุณเคยเป็นสิ่งที่ฉันถวลิหาแม้ในความฝัน แต่ว่า เป็นคุณเองที่ค่อยๆผลักฉันออกไปทีละก้าว ตอนนี้คุณอยากจะฟัง? ตกลงค่ะ ฉันเรียกก็ได้ แต่มันจะเป็นสิ่งที่ฉันไม่เต็มใจทำไปตลอดชีวิต สา…อุ๊บ” ฉันเพิ่งจะพูดจบป็นคำแรก สีหน้าของดนุนัยเปลี่ยนไปทันที ปากถูกปิดผนึกด้วยริมฝีปาก ฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นยาสูบอันเข้มข้นเข้ามาในปากของฉัน บุกรุกเข้ามาอย่างช่ำชองไปทั่วทุกมุม ฉันคิดจะผลักเขาออก แต่ว่า ร่างกายเหมือนถูกดูดพลังออกไปอย่างไงอย่างงั้น ถูกเขาดึงดูดจนควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ ฉันต้องขอบอกว่า ดนุนัยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆ เพียงแค่จูบเดียว ก็ทำให้ฉันพ่ายแพ้เสียแล้ว ในตอนที่ฉันรู้สึกไม่อยากพรากจากเขานั่นเอง ชายหนุ่มก็ถอนตัวออก มองฉัน แล้วพูดว่า “ฉันไม่ต้องการบังคับใคร จนถึงเวลาที่เธอเต็มใจอยากทำค่อยเรียกเถอะ แต่ตอนนี้เธอต้องเรียกฉันว่าดนุนัย ไมใช่ผู้จัดการ” ตอนที่ฉันลอบมองดูเขา ชายหนุ่มกลับทำท่าไม่แคร์สิ่งใดในโลก เขานั่งลงบนโซฟาแล้วพูดว่า “ฉันหิวแล้ว” น้ำเสียงที่พูดไม่ได้เป็นคำสั่งแม้แต่น้อย 
已经是最新一章了
加载中