ตนที่61ณิชาเหมือนว่าผมจะชอบคุณแล้ว
ฉันมองเขาไม่รู้จริงๆว่าในน้ำเต้าของดนุนัยขายยาอะไร
แต่ฉันนึกเอาอย่างใสซื่อว่าเขาทานข้าวเสร็จก็จะไป
ฉันจึงทำกับข้าวอย่างเชื่อฟังว่าง่ายจากนั้นเรียกเขามาทาน
โต๊ะอาหารของห้องนี้เป็นทรงกลมหลังจากที่ดนุนัยนั่งลงก็ตบเก้าอี้ตัวด้านข้างของเขาแล้วพูดว่า“นั่งนี่สิ”
“...”
ฉันลังเลสักพักแล้วนั่งลงไป
ขณะนี้ที่ฉันคิดในใจก็คือทำให้เขาพอใจจากนั้นรอให้เขาจากไป
ฉันนั่งอยู่ข้างๆมองดนุนัยนั่งทานข้าวอยู่ตรงนั้น
หนึ่งชาม
สองชาม
ตอนที่เขาให้ฉันช่วยตักชามที่สามฉันถามด้วยความหวังดี“เดี๋ยวนี้คุณทานข้าวเย็นทานเยอะขนาดนี้ตลอดเลยหรือ?”
ดนุนัยไม่ได้ตอบ
ฉันก็ไม่ถามซ้ำก็ทำได้เพียงตักให้อีกชาม
พอทานมื้อเย็นเสร็จเขาพูดว่าจะยืมแท็บเล็ตของฉันทำงานฉันไม่กล้าปฏิเสธพอให้เขายืมแล้วก็เข้าไปในห้องตามลำพังกอดมือถือส่งเอสเอ็มเอสหาติณณา
นำความผิดปกติของดนุนัยในวันนี้ทั้งหมดล้วนบอกกับเธอ
ติณณาตอบเพียงประโยคเดียว:ใจหวั่นไหวแล้ว
ฉัน:เป็นไปไม่ได้
หลังจากนั้นติณณาก็บอกกับฉันมาตลอด:ผู้ชายมักจะนิสัยแบบนี้แหล่ะเวลาที่มีอยู่ไม่หวงแหนจนกระทั่งเธอไม่ต้องการเขาเขาก็จะพุ่งเข้าใส่
วนอยู่กับทฤษฎีชุดนี้เธอพูดมาชั่วโมงกว่าแล้ว
จนกระทั่งฉันดูนาฬิกาอีกทีห้าทุ่มแล้วฉันเข้าไปในห้องรับแขกต้องการจะถามดนุนัยว่าจะไปเมื่อไรกลับเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟาแม้ในมือถือแท็บเล็ตอยู่
แต่ท่าทางแปลกไปเล็กน้อย
ฉันเดินเข้าไปถามเขาว่า“ดึกดื่นป่านนี้คุณไม่กลับไปหรือ?”
“ไม่กลับ”
ดนุนัยพูดอย่างหนักแน่น
ฉันรู้สึกว่าสีหน้าของเขาแปลกไปเล็กน้อยมองผ่านแสงไฟเห็นบนหน้าผากหมดจดของชายหนุ่มมีเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่เล็ก
มองอีกทีสีหน้าของเขาซีดเผือดเล็กน้อยผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด!
“คุณคุณเป็นอะไรไป?”ฉันเดินเข้าไปนั่งยองๆลงไปครึ่งหนึ่งถามเขา
“ไม่เป็นไร”ดนุนัยส่ายหน้าแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง
แต่สีหน้าของเขาทำให้ฉันพบความผิดปกติที่เห็นเด่นชัดแล้ว
“คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?ไม่ไหวก็ไปโรงพยาบาลเถอะ”
ฉันพลางพูดว่าพลางจะลุกขึ้นไปโทร.แจ้งเหตุฉุกเฉิน120เขากลับดึงฉันไว้“บ้านคุณมียากระเพาะมั้ย?”
“ยากระเพาะหรือ?”
คราวนี้ฉันจึงรับรู้ได้ว่าต้องเป็นเพราะเมื่อค่ำนี้เขาทานเยอะเกินไปจึงปวดกระเพาะ!
แต่บ้านหลังนี้ฉันเพิ่งเข้ามาอยู่เป็นวันแรกไม่ทันซื้อยาสามัญประจำบ้านเหล่านี้สักนิด
“ฉันออกไปซื้อให้คุณ”ว่าแล้วฉันก็ไปสวมรองเท้า
ยังดีที่ก่อนหน้านี้ดนุนัยอยู่ในห้องตลอดฉันไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าคราวนี้ช่างสะดวกสบายเสียจริง
ก่อนที่ฉันจะออกบ้านไปเทน้ำร้อนให้เขาแก้วหนึ่งทั้งคะยั้นคะยอให้เขาไปนอนบนเตียงจึงจะออกบ้านไปอย่างวางใจ
จนกระทั่งฉันวิ่งพรวดลงจากตึกซื้อยากระเพาะยาแก้ปวดยาช่วยย่อยกองหนึ่งกลับมา
เสื้อเชิ้ตที่บนร่างกายที่มีอาการปวดของชายหนุ่มก็เปียกโชกแล้ว
ฉันมองดูปวดใจเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูกหลังจากป้อนยาเขาแล้วนั่งอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะตำหนิว่า“คุณกระเพาะไม่ดีกินเยอะขนาดนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน”
ดนุนัยหลับตาอยู่ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
ฉันมองสีหน้าปวดทรมานนั้นของเขานึกถึงที่ฉันปวดท้องตอนเด็กๆคุณน้าที่บ้านเด็กกำพร้าก็จะลูบท้องให้ฉันไม่นานก็หายแล้วจึงพูดว่า“หรือไม่ก็ฉันลูบท้องให้คุณ”
พอเปล่งคำพูดออกไปฉันก็เสียใจแล้ว
ดนุนัยเป็นประธานบริษัทนภากรุ๊ปจำกัดผู้ไม่มีใครรู้ภูมิหลังจะตกลงเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?
แต่ทว่าตอนที่ฉันรอให้เขาปฏิเสธก็เห็นชายหนุ่มเลิกเสื้อเชิ้ตตัวเองขึ้นมาจากเข็ดขัดเผยกล้ามหน้าท้องงดงามกำยำ
ฉันอึ้งไปชั่วขณะจึงรู้ว่าเขาเห็นด้วยแล้ว
เฮ้อคำที่พูดออกไปก็คือน้ำที่สาดออกไป
หมดหนทางฉันทำได้เพียงถูมือให้อุ่นลูบท้องให้เขาอย่างช้าๆทีละนิดๆ
ผ่านไปครู่หนึ่งยังไม่ลืมถามเขาว่า“ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
ดนุนัยพยักหน้าน้อยๆ
เขาไม่ได้พูดดวงตาก็ยังปิดอยู่แต่สีหน้ากลับไม่ได้เย็นชาแบบนั้นเหมือนตอนปกติอีกแล้ว
นอนอยู่บนเตียงก็เหมือนเด็กที่เชื่อฟังคนหนึ่ง
ก็เหมือนดนุนัยที่ฉันได้เจอเป็นครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อนเขาในตอนนั้นก็นอนบนเตียงผู้ป่วยอย่างอ่อนแรงแบบนี้...
ตอนที่ฉันจมเข้าไปในความทรงจำชายหนุ่มจึงค่อยๆเบิกตามองฉันแล้วพูดว่า“เปิดน้ำอาบให้ผม”
น้ำเสียงกลับสู่การออกคำสั่งอีกครั้ง
เห็นว่าสีหน้าของเขากลับเป็นเหมือนเคยฉันไม่โกรธเลยสักนิดอย่างน่าประหลาดใจที่วิตกกังวลดวงหนึ่งเหมือนจะคลายลงมาแล้วลุกขึ้นก็ไปเปิดน้ำอาบให้เขา
น้ำในอ่างอาบน้ำเปิดไว้เกือบเต็มแล้วฉันกำลังเตรียมจะหันหน้าไปเรียกเขากลับเห็นชายหนุ่มก็ยืนอยู่ด้านหลังฉันเสื้อเชิ้ตบนตัวถอดออกแล้วสวมเพียงกางเกงขายาว
เข็มขัดยังแก้ออก...
“คุณ!”ใบหน้าของฉันไต่ขึ้นสีแดงเข้มอย่างรวดเร็ว
ถอยออกจากห้องอาบน้ำหนึ่งก้าวปิดประตูพูดว่า“คุณอาบน้ำเถอะฉันนอนก่อนนะ”
ในตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วเขาเป็นคนป่วยฉันไม่อาจไปเร่งเขาได้คืนนี้เขาก็ต้องนอนที่นี่อยู่แล้ว
ฉันมองเตียงหลังนั้นในห้องนอนใหญ่
บ้านใหม่หลังหนึ่งคืนแรกกลับนอนห้องนอนใหญ่ไม่ได้...
ฉันถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่งไปห้องนอนรองอย่างขุ่นเคืองใจเล็กน้อย
ฉันรายงานสถานการณ์กับติณณาสักพักไม่นานก็หลับไปแล้ว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรฉันรู้สึกว่าผ้าห่มตัวเองถูกยกออกจากนั้นทั้งร่างก็ถูกอุ้มขึ้นมา!
ฉันตกใจจนอยากร้องอุทานแต่ไม่นานรับรู้ได้ว่าดนุนัยอาบน้ำเสร็จแล้ว
เขาจะอุ้มฉันไปไหน?
ฉันลืมตาขึ้นลอบเหลือบมองชายหนุ่มชายหนุ่มเปลือยท่อนบนแสงจันทร์สลัวส่องไปบนกล้ามท้องงดงามกำยำของชายหนุ่มแข็งแรงทั้งมีเสน่ห์ดึงดูด...
ในใจฉันถูกรบกวนอยู่ช่วงหนึ่งอย่างบอกไม่ถูกรีบหลับตา
ไม่นานฉันก็รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มวางฉันลงบนเตียงอีกครั้งหลังจากนั้นกอดฉันจากด้านหลังผมเปียกอ่อนนุ่มสะบัดไปมาบนแก้มของฉันจั๊กจี้นิดๆ
ตอนที่ฉันอกสั่นขวัญหายนึกว่าเขาจะทำอะไร
กลับรู้สึกได้ว่าริมฝีปากของชายหนุ่มทาบที่ใบหูของฉันพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า“ณิชาเหมือนว่าผมจะชอบคุณเข้าให้แล้ว”
ไม่กี่คำสั้นๆทำให้ฉันควบคุมตัวเองไม่อยู่ชั่วขณะ
หมายความว่ายังไง?เขาชอบฉัน?
เป็นไปได้ยังไง...
บางทีเป็นอย่างที่ติณณาว่าผู้ชายหลังจากสูญเสียไปแล้วจึงจะรู้สึกหวงแหน
แต่ความหวงแหนประเภทนี้ไม่ใช่ความรักชอบแต่เป็นความรู้สึกพ่ายแพ้อย่างแรกหลังจากที่ของของตนอยู่นอกเหนือการควบคุมไปแล้ว
ฉันคิดเรื่อยเปื่อยอยู่นานในที่สุดหลับไปในลมหายใจรางๆของชายหนุ่ม...
เช้าวันที่สองตอนที่ฉันตื่นขึ้นฉันกับดนุนัยยังรักษาท่าทาง(นอน)ของเมื่อคืน
ฉันมุดออกจากใต้แขนงอของเขาลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าทำอาหารเช้าสำหรับสองคนเตรียมตัวออกบ้าน
เพิ่งจะออกบ้านก็เห็นคนที่ห้องของจรณ์ก็เปิด(ประตูออกมา)
ฉันนึกขึ้นได้ทันทีรองเท้าของดนุนัยยังอยู่ที่ปากประตูรีบออกมาปิดประตูอย่างรวดเร็ว!
“อรุณสวัสดิ์”จรณ์มองฉันมุมปากเผยยิ้มบางๆเส้นหนึ่ง
“พี่...จรณ์อรุณสวัสดิ์”
ฉันพูดออกไปคำหนึ่งจึงจะนึกถึงที่เขาบอกเมื่อวานขึ้นได้จึงเปลี่ยนคำพูด
พอลงไปด้านล่างแล้วจรณ์เสนอตัวไปส่งฉันกลับถูกฉันปฏิเสธ
ฉันไปถึงบริษัทเจอนภทีป์ในห้องน้ำชากำลังอยากจะกล่าวทักมือถือของนภทีป์ดังขึ้นมาแล้วฉันก็เก็บคำพูดไว้รอน้ำเดือดอยู่ข้างๆอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ
นภทีป์รับโทรศัพท์เพียงฟังไม่กี่วินาทีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก“อะไร!รอเดี๋ยวนะ!ผมจะรีบไป!”
海量小说享免费阅读