ตอนที่62 คืนชีวิตสามีฉันมา!   1/    
已经是第一章了
ตอนที่62 คืนชีวิตสามีฉันมา!
ต๭นที่62 คืนชีวิตสามีฉันมา! เขาวางถ้วยกาแฟเร่งฝีเท้าเดินออกไปด้านนอก ฉันก็ตามออกไปด้วย “ เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? ” นภทีป์มองฉันสักพัก เหมือนจะลังเลเล็กน้อย สักพักจึงจะพูดว่า “ ไม่มีอะไร เธอไปทำธุระของเธอเถอะ ” ในใจฉันกลับมีลางสังหรณ์ไม่ดีปรากฏขึ้น นับว่างานของวันนี้ไม่สำคัญเป็นพิเศษ ฉันตัดสินใจด้วยตนเอง ตามเขาลงไปข้างล่าง ใจของนภทีป์ล้วนจดจ่ออยู่ในสายโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจว่าฉันตามมาด้านหลังเลยสักนิด ตอนที่รอให้เขาขับรถ ฉันจึงจะวิ่งเข้าไป ชิงก้าวขึ้นนั่งเบาะข้างคนขับก่อนหนึ่งก้าว เขามองเห็นฉัน สีหน้าอ่อนลงมา “ เธอกลับไปทำงานเถอะ ” “ คุณบอกฉัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ? ” ฉันถามเขา ตอนแรกนภทีป์ไม่ยอมพูด แต่เรื่องเร่งด่วนเกินไป เขาต้องสตาร์ทรถ ระหว่างทางจึงจะบอกฉัน โครงการนั้นของสตูดิโอก่อนหน้านี้ คนงานคนนั้นที่เปลี่ยนกาวทิ้ง ถูกคนพบว่าตายในเขตก่อสร้าง อีกทั้งเมื่อคืนก็จากโลกนี้ไปแล้ว วันนี้ศพจึงจะถูกพบ! พอฉันได้ฟัง ในใจรู้สึกอยู่รางๆว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ! ตอนที่ฉันกับนภทีป์ไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศพของคนงานยังวางอยู่ตรงนั้น ครั้งนี้ ฉันจึงรู้ว่าคนนี้ชื่อชลิต ฉันมองเขานอนแผ่อยู่บนพื้น นึกถึงก่อนหน้านี้ที่สถานีตำรวจ เขาพูดสะอื้นว่าชีวิตตนยากลำบากเพียงไร ในครอบครัวยังมีลูกสามคน เขาซึ่งเป็นพ่อก็ตายไปแบบนี้แล้ว ครอบครัวจะอยู่อย่างไร? เมื่อตำรวจรวบรวมหลักฐานในที่เหตุเกิดเรียบร้อยแล้ว ก็นำศพไปยังนิติเวช ผ่านการตรวจสอบชุดหนึ่ง คร่าวๆยืนยันว่าชลิตเสียชีวิตกะทันหัน เพราะครอบครัวเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ วันนั้นฉันกับนภทีป์จึงช่วยนำศพส่งไปยังห้องเก็บศพ ยังซื้อโลงศพ ผ้าห่อศพ เชิญสัปเหร่อมาช่วยแต่งหน้าให้ศพ ยุ่งทั้งวัน ตอนที่ฉันกลับบ้าน เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว ฉันเปิดประตู กลับพบไฟในห้องสว่างไสว ดนุนัยนั่งที่โซฟา ด้านหน้ากางโต๊ะคอมพิวเตอร์ชนิดเคลื่อนย้ายได้ บนโต๊ะมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ควางอยู่ นิ้วมือเคาะรัวบนแป้นคีย์บอร์ด “ คุณ คุณเข้ามาได้ยังไง? ” ปากฉันพูดไปแบบนี้ แต่วันนี้จากที่ฝังศพถึงห้องเก็บศพ ที่ฉันพบเห็นล้วนเป็นของที่เกี่ยวข้องกับคนตาย กลับบ้านมาได้เจอเขากลับรู้สึกอบอุ่นยิ่ง ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย “ เช้านี้ตอนที่ผมออกไป หยิบกุญแจสำรองไปด้วย ” ตอนที่ดนุนัยพูด ดวงตาล้วนไม่ละสายตาจากหน้าจอ กุญแจสำรอง? ฉันก็ไม่รู้ว่ากุญแจสำรองอยู่ที่ไหน! “ คุณค้นบ้านฉันโดยพลการได้ยังไง! ” ฉันมองไปรอบๆ ในบ้านก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอะไร คราวนี้ ในที่สุดดนุนัยวางมือจากการทำงาน เข้ามาใกล้ฉัน ยื่นจมูกออกดม ขมวดคิ้วหลวมๆ ถามว่า “ คุณไปไหนมาเนี่ย? ทำไมถึงมีกลิ่นนี้อยู่บนตัว? ” เขาถามขึ้น ฉันเปลี่ยนรองเท้า ยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างจรดเพดาน มองแสงไฟบ้านหมื่นสาที่อยู่นอกหน้าต่าง บอกเล่าเรื่องราวของวันนี้ให้เขาฟัง พูดจบแล้ว ฉันขมวดคิ้วพูดกับตัวเอง “ คุณว่า ภรรยาของเขายังมีลูกสามคนรู้ว่าพ่อจากโลกนี้ไปแล้ว จะเสียใจแค่ไหน เสาหลักของบ้านไม่อยู่แล้ว ครอบครัวนี้จะทำยังไง? ” แม้เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับฉัน แต่ เหตุการณ์ที่เขาสะอื้นไห้ที่สถานีตำรวจยังประทับอยู่ในหัวสมองของฉัน ฉันพูดไปเรื่อยๆ เพียงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ด้านหลัง ดนุนัยกอดฉันจากด้านหลัง แขนคว้าช่วงเอวฉันไว้ ริมฝีปากจูบเบาๆที่เหนือศีรษะของฉันสักพัก ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนนิดๆพูดว่า “ พวกเราไม่ใช่นักบุญ ไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ แต่ถ้าพบเจอแล้ว พวกเราสามารถช่วยได้ ผมจะช่วยพวกเขาทั้งครอบครัวแทนคุณ ” ฉันมองเงาสะท้อนบนหน้าต่างจรดเพดาน ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวชั่วครู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันพบเห็นการตายรู้สึกโศกเศร้ามากเกินไป ดนุนัยในวันนี้ทำให้ฉันเกลียดไม่ลงเลยสักนิด ฉันสั่นศีรษะ “ ไม่ต้อง ตอนนี้ฉันก็มีเงิน ฉันช่วยพวกเขาเองได้ ” คืนนั้น ดนุนัยอยากนอนกับฉันที่ห้องนอนใหญ่ ฉันไม่ได้ปฏิเสธ พวกเราก็แค่นอนกอดกัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น วันที่สามหลังจากวันนั้น พอฉันไปถึงประตูบริษัท ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งล้อมรอบอยู่หน้าอาคารสำนักงาน ในนั้นยังแว่วเสียงทารกแผดเสียงร้องไห้ ฉันเบียดเข้าไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กสามคน ลูกสาวคนโตคุกเข่าอยู่บนพื้น ทารกที่ยังอยู่ในผ้าอ้อมทั้งสองถูกวางไว้บนพื้นร้องไห้แงๆดังลั่น ด้านหลังของไม่กี่คนนั้นมีแบนเนอร์สีขาวผืนหนึ่งคลี่ออก ในนั้นพิมพ์ตัวหนังสือสีดำ ‘บริษัทเตชิตออกแบบ คืนชีวิตสามีฉันมา!’ สักพักฉันรู้ว่าไม่กี่คนนี้คือใคร! “ ทุกท่านรับผิดชอบต่อฉันเถอะ! บริษัทเตชิตออกแบบ บริษัทผีดูดเลือด เพื่อเร่งงาน สามีของฉันทำงานลืมวันลืมคืน สุดท้ายทั้งร่างก็เหนื่อยล้า เสียชีวิตกะทันหันในเขตก่อสร้าง ศพแข็งหมดแล้วจึงจะถูกพบ! ” “ เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวฉัน ฉันอยู่บ้านคนเดียวเลี้ยงลูกสามคน ออกไปทำงานไม่ได้ เขาเสียแล้ว ฉันจะทำยังไง! ” ภรรยาของชลิตคนงานคนนั้นร้องไห้โวยวายเสียงดัง คนรอบข้างล้วนทอดสายตาเห็นใจไป ก็มีคนหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา ให้เงินเธอ ฉันรู้ว่าบริษัทของพวกเราไม่มีเรื่องเร่งงานกดดันคนงานเลยสักนิด แต่อยู่ที่นี่ไม่สามารถพูดได้ ฉันถอยออกจากกลุ่มคนกลับไปถึงบนอาคารอย่างลับๆล่อๆ พอเข้าไปในห้องทำงาน ก็พบว่าบรรยากาศในห้องทำงานน่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนไม่พูดไม่จา หลายๆคนล้วนมองหน้าจอเหม่อลอย ฉันไปห้องทำงานของนภทีป์ พบว่านภทีป์ก็ไม่อยู่ ต่อมาฉันจึงรู้ว่า เขาติดต่อตำรวจแล้ว คิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้แล้ว ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ภรรยาของชลิต และลูกสามคนล้วนถูกนภทีป์ และตำรวจพาขึ้นมา พอเธอขึ้นมา ก็เริ่มร่ำไห้ร้องตะโกนลั่น ชอกช้ำระกำใจ หญิงสาวที่หน้าฟร้อนท์เคาน์เตอร์รีบเสิร์ฟชาเทน้ำ ทั้งซื้อนมผงขวดนมโดยเฉพาะ ช่วยแฝดคู่นั้นชงนม เริ่มป้อน ตำรวจก็ตามขึ้นมา ไม่กี่คนเริ่มแสดงความเห็นต่อการชดใช้ความไม่พอใจ ภรรยาของชลิตเป็นเหมือนสิงโตเปิดปากกว้าง อ้าปากก็ว่าสามล้าน ที่จริงแล้วราคานี้พวกเราล้วนยอมรับไม่ได้ แต่ภรรยาของชลิตกลับเปลี่ยนคำพูดกะทันหัน ต้องการห้าล้าน! ตำรวจก็รู้สึกว่าจำนวนเงินที่ภรรยาชลิตต้องการมากไปหน่อย ฉันมองดูอยู่ข้างๆ ตอนที่ภรรยาชลิตกำลังพูดเรื่องเงิน สีหน้าดูประหม่า ฉันรู้สึกอยู่รางๆว่า เงินจำนวนนี้เธอไม่ได้ต้องการเอง แต่มีคนบอกเธอให้เรียกร้องมากขนาดนี้ ตำรวจพูดอยู่ข้างๆ แม้จะยื่นคำร้องต่อศาล เรื่องแบบนี้ ค่าชดใช้จะไม่เกินห้าแสน ปกติก็ประมาณสองสามแสน คุณยังต้องไปติดต่อด้านในจ่ายค่าทนาย ภรรยาของชลิตมองตำรวจอย่างสับสน เหมือนว่าครู่ต่อมาก็ไม่มีความคิดอะไรแล้ว หลังจากนั้น เธอพูดว่าจะคิดดูอีกที นภทีป์ก็ควักกระเป๋าคาดเอวเอง ให้ชลิตและลูกๆทั้งสามคน อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งเปิดให้บริการอยู่ใกล้ๆบริษัท ให้พวกเขาอยู่พักอยู่ที่นั่น เวลานั้นภรรยาชลิตรู้สึกขอบพระคุณอย่างสุดซึ้ง เวลานั้นพวกเราล้วนนึกว่าเรื่องนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง กลับคิดไม่ถึงว่าวันที่สองพอภรรยาชลิตมา เดินเข้าไปนั่งบนโซฟา ท่ามกลางผู้คนพบเจอตัวฉันอย่างแม่นยำ พูดว่า “ ห้าล้าน สลึงเดียวก็อย่าให้ขาด! ปีนั้นสามีของฉันทำร้ายคนให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่บริษัทของพวกคุณที่ชื่อณิชา! ไม่แน่อาจเป็นเธอที่ลงมือ ฆ่าสามีของฉัน! ” น้ำเสียงแข็งกร้าว เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวมาดี
已经是最新一章了
加载中