ตนที่79เขากำลังอาบน้ำ
หลังจากี่ตาณออกไปแล้วฉันก็ไปหาดนุนัยที่ห้องผู้ป่วย
เขาพักอยู่ที่ห้องผู้ป่วยระดับวีไอพีสูงสุดของโรงพยาบาลโดยหนึ่งห้องมีพื้นที่ห้องมากกว่าหนึ่งร้อยตารางเมตร
ตอนที่ฉันเข้าไปนั้นก็มองเห็นดนุนัยนอนอยู่บนเตียงปรวันอยู่ข้างๆกำลังรายงานการทำงานกับเขา
ฉันรออยู่ข้างนอกเงียบๆ
ผ่านไปซักพักปรวันออกมาแล้วหลังจากที่มองเห็นฉันแววตาของเขาดูแปลกไป
หลังจากที่ฉันเข้าไปในห้องเดินไปยืนอยู่ข้างเตียงของดนุนัยมุมหนึ่งของชุดคนไข้หลุดออกมาสามารถมองเห็นผ้าพันแผลสีขาวและมีหยดน้ำเกลือแขวนอยู่ด้านข้าง
"ขอโทษนะคะ"
ฉันนั่งลง
"เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"
มือของดนุนัยเอื้อมมาจับมือฉัน
ถึงแม้ว่าบาดแผลจะไม่ไปถึงอวัยวะภายในแต่ยังเลือดไหลออกมาจำนวนมากทางโรงพยาบาลจึงแจ้งว่าดนุนัยต้องเข้ารับการรักษาตัวอย่างน้อยเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์จากนั้นจึงสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
ฉันจึงลางานที่ร้านกาแฟแล้วมาดูแลดนุนัยเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
มีสองเหตุผลข้อแรกเขาได้รับบาดเจ็บก็เพราะฉัน
และยังมีเหตุผลอีกข้อเพราะครั้งนี้ฉันต้องการจะทำให้จิณณาติดคุกได้สัมผัสประสบการณ์ที่ฉันมีอีกครั้ง
ในช่วงเวลานั้นฉันหวังเพียงแต่ว่าดนุนัยจะไม่โทษฉัน
ถึงแม้ว่าเขาจะดีกับฉันมากแต่ยังมีความไม่สบายใจอยู่ในใจของฉันเสมอ
ในตอนที่มีเวลาฉันจะติดต่อกับนายตำรวจตาณเสมอเขาได้บอกความคืบหน้าอย่างหนึ่งให้ฉันฟังและมันทำให้ฉันประหลาดใจมากก็คือในวันนั้นที่ฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์แท้ที่จริงคือลูกสาวของเจ๊เอ็ม
ก่อนที่เธอจะเข้าคุกเธอมีลูกกับผู้ชายคนหนึ่งถึงแม้ว่าพ่อเด็กจะไม่ต้องการลูกแต่เจ๊เอ็มก็ยังเลี้ยงดูเด็กมาตลอด
และเพราะเจ๊เอ็มต้องการที่จะได้อยู่ดูแลลูกดังนั้นจึงยอมอธิบายเรื่องราวทั้งหมด
เจ๊เอ็มเข้าไปอยู่ในคุกภายใต้การจัดการของจิณณาในตอนนั้นเธอขาดแคลนเงินในการเลี้ยงดูลูกเป็นเพราะว่าตอนที่จิณณาพบเธอเธอได้สัญญาจะฝากเงินให้เจ๊เอ็มจึงยอมทำเพื่อลูก
ต่อมาในครั้งนี้จิณณาใช้สิ่งล่อใจเพิ่มมากขึ้นก็คือให้เธอได้ชำระล้างตัวเองใหม่จะให้เธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ข้างนอก
เกี่ยวกับสิ่งที่เจ๊เอ็มพูดมาก็เป็นสิ่งยั่วใจขั้นสุดแล้ว
ตอนนี้จิณณาอยู่ในการเฝ้าระวังอย่างเป็นความลับจากพวกเขารอจนหลักฐานแน่ชัดแล้วก็จะเข้าจับกุมได้
ฉันขอบคุณนายตำรวจตาณครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่สีหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา
ในวันที่ดนุนัยกลับบ้านฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากบริษัทรับสร้างบ้านที่ไปสัมภาษณ์เมื่อคราวก่อนโทรมาแจ้งให้ฉันไปเริ่มงานได้ในสัปดาห์หน้า
ฉันกล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก
กลับถึงบ้านฉันก็บอกเรื่องนี้กับดนุนัย
ถึงแม้ดนุนัยจะรู้สึกว่าฉันทำงานหนักแต่ก็ไม่ได้มีความคิดเห็นเพิ่มเติมอะไร
คืนนั้นฉันกลัวว่าตัวเองจะทำให้เขาเจ็บแผลจึงไม่ยอมนอนด้วยในห้องนอนใหญ่แต่ดนุนัยกลับไม่เห็นด้วยและบังคับให้ฉันนอนกับเขา
ในคืนนั้นฉันอยู่ในอ้อมกอดเขาและถามเขาว่า"ดนุนัยคะถ้าหากให้คุณเลือกระหว่างฉันกับจิณณาคุณเลือกใครเหรอคะ?"
"..."
ชายหนุ่มเงียบงัน
ไม่มีคำตอบ
แต่พอเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้ฉันเสียใจมากขึ้น
ฉันลดสายตาลงไม่มองตาชายหนุ่มถามต่อว่า"ถ้าหากต้องเลือกเพียงหนึ่งคนมีเธอไม่มีฉันมีฉันไม่มีเธอคุณต้องเลือกคุณจะเลือกใครคะ?"
ยังคงมีแต่ความเงียบในอากาศ
ฝ่ามือของชายหนุ่มวางไว้บนผมสั้นของฉันและลูบอย่างแผ่วเบาจากนั้นครู่หนึ่งจึงพูดว่า"หลับเถอะ"
เขาไม่สามารถตอบออกมาได้
เขายังทิ้งจิณณาไม่ได้
เขาเคยพูดว่าชีวิตนี้เขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีจิณณา
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองยังหลงโง่อยู่กับอะไรยังดื้อรั้นอะไรอยู่
ฉันหลับตาลงซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มแต่อย่างไรก็นอนไม่หลับ
วันรุ่งขึ้นตาณติดต่อฉัน
เขาบอกฉันว่าทางกำลังตำรวจได้ตรวจพบและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วถึงแม้ว่าคดีความที่ทำให้ฉันต้องติดคุกยังไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าฉันถูกใส่ความว่าทำผิดแต่ว่าเรื่องที่จิณณาหาคนในคุกไปทำร้ายฉันตอนที่ฉันติดคุกนั้นมีหลักฐานสนับสนุนน่าเชื่อถือ
เพราะเจ๊เอ็มต้องการผ่อนปรนจึงอธิบายเรื่องราวทั้งหมดบวกกับคำอธิบายของผู้คุมเรือนจำด้วย
เรื่องนี้ได้พิสูจน์ว่าจิณณาทำผิดจริง
ภายในสามวันก็จะได้หมายจับไปจับกุมเธอ
ฉันขอบคุณเขาครั้งแล้วครั้งเล่าถึงจะวางสาย
ดนุนัยไปทำงานแล้วฉันไปที่ห้างสรรพสินค้าเลือกซื้อชุดกระโปรงสีเปลือกหอยที่สวยงามชุดนี้สวยและเหมาะสมมาก
ถึงแม้ว่าจะแพงแต่ฉันก็ยังกัดฟันซื้อมา
ในตอนเย็นฉันทำอาหารโดยทำสเต๊กเนื้อเองที่บ้านซื้อไวน์แดงมาและยังซื้อดอกลิลลี่มาอีกสองสามช่อ
ฉันต้องการทำให้ดนุนัยรู้สึกดีกับฉันไม่จากฉันไปบางทีเขารู้ว่าฉันทำขนาดนี้แล้วเขาจะได้ไม่โทษฉัน
แต่ว่าเย็นวันนั้นฉันนั่งรอที่โต๊ะอาหารเป็นระยะเวลานาน
ฉันเห็นเข็มนาฬิกาเคลื่อนผ่านเวลาสิบสองนาฬิกา
ท้ายที่สุดฉันทนไม่ไหวโทรหาขา
เสียงรอสายที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ดังขึ้น
ในที่สุดก็มีคนรับสาย
"ฮัลโหล"
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นฉันจำได้ทันทีเป็นเสียงของจิณณา
มือของฉันที่ถือโทรศัพท์อยู่สั่นขึ้นเล็กน้อยผ่านไปนานจึงพูดว่า"โทรศัพท์ของสามีฉันทำไมเป็นเธอที่รับสายได้ล่ะ"
"เขาอาบน้ำน่ะ"
จิณณาพูดโดยไม่ใช้เวลาคิดเลย
ฉันรู้ดีว่าบาดแผลของดนุนัยนั้นทำให้ไม่สามารถอาบน้ำได้ไม่ต้องพูดถึงการอาบน้ำเลยอาการบาดเจ็บของเขาทำให้ทำเรื่องนั้นไม่ได้หรอก
ฉันถือโทรศัพท์แล้วหัวเราะเยาะ"จิณณาเธอคิดว่าเธอพูดไม่กี่คำฉันก็จะสงสัยในตัวสามีของฉันงั้นเหรอ?สามีของฉันบอกฉันไว้นานแล้วว่าเขาจะไม่แตะต้องเธออีกแล้วเพราะภรรยาของเขาคือฉัน"
ฉันใช้คำโกหกเพื่อปกปิดความสัมพันธ์การแต่งงานที่ไม่ดี
แต่อย่างไรก็ตามจิณณายังคงถูกฉันกระตุ้นถูกจุดเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่า"เฮ้!ณิชาแกอย่าคิดนะว่าครั้งนี้แกถูกช่วยชีวิตไว้ได้แล้วแกจะรอดครั้งต่อไปครั้งต่อไปฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างแน่นอน!"
คำพูดของเธอทำให้ฉันแน่ใจว่าตาณยังไม่ได้บอกอะไรกับเธอเลย
และดนุนัยดูเหมือนจะยุ่งกับงานของบริษัทจนไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้
ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอต้องจ่ายให้กับการกระทำของตัวเองแล้วจริงๆ
ฉันไม่พูดอะไรมากแล้วก็วางสาย
ถึงแม้จะรู้ว่าจิณณากำลังเข้าสู่ความหายนะแล้วใจของฉันยังคงรู้สึกเหมือนถูกปิดกั้นไว้
เพราะอันที่จริงการที่เธอรับโทรศัพท์ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าดนุนัยอยู่ที่นั่น
วันต่อมาตาณโทรศัพท์แจ้งว่าตำรวจได้รับหมายจับแล้ว
จิณณาถูกจับในห้องทำงานของเธอในตอนนั้นจิณณาพูดข้อแก้ตัวไร้สาระมากมายต่อหน้าตำรวจแต่เพราะหลักฐานในการจับกุมตรงหน้าไม่สามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้
จิณณาถูกจับกุมตัวและเพราะคดีนั้นมีความรุนแรงจึงไม่สามารถประกันตัวได้
เหตุการณ์ที่แสนคุ้นเคยเช่นนี้สองครั้งก่อนคือฉันครั้งนี้คือเธอ
เมื่อเธอถูกจับในวันรุ่งขึ้นฉันก็ไปเยี่ยมเธอ
ตอนที่จิณณาเห็นฉันยืนอยู่ด้านนอกก็ตรงเข้ามาอย่างตื่นตัวตะโกนด่าบางอย่างเพราะเธอไม่ได้ใช้โทรศัพท์ฉันจึงไม่ได้ยิน
เธอถูกตำรวจสั่งให้หยุดอย่างรวดเร็ว
ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดกับจิณณาว่า"ในตอนนั้นฉันเป็นผู้บริสุทธิ์และเธอสมควรได้รับบาป"
จิณณาสลัดตำรวจที่คุมตัวเธอออกได้คว้าโทรศัพท์แล้วด่าฉันว่า"เฮ้!ณิชาแกมันเป็นอีสารเลว!คนสารเลว!"
ต่อมาตำรวจเข้าควบคุมเธอฉันไม่ได้พูดอะไรมากอีกแล้วจากมาเลย
ฉันคิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นจิณณา
อย่างไรก็ตามดนุนัยไม่กลับมาในคืนวันนั้น
ฉันกลับไปที่บ้านของตัวเอง
วันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์เพื่อนร่วมงานต่างดีกับฉัน
ในวันแรกของการทำงานฉันก็คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแล้วเมื่อถึงเวลาเลิกงานฉันก็ออกมาเลย
เพิ่งจะถึงประตูโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นฉันมองดูเป็นสายจากชวลัย
海量小说享免费阅读