ตอนที่82 หย่า
ตนที่82 หย่า
ฉันโยนของในมือลง ถึงปากประตูบ้านเด็กกำพร้า หยิบมือถือที่เพิ่งซ่อมเสร็จออกมา ลังเลอีกครั้ง ก็กดเบอร์โทรศัพท์ของดนุนัยลงไปแล้ว
จนกระทั่งโทร.ติด ฉันพูดเพียงสามคำ “ ฉันถอนฟ้องร้องคดีความ ”
ปลายสายด้านนั้นเริ่มแรกคือความเงียบ หลังจากนั้นไม่นานจึงจะได้ยินเสียงของดนุนัย เขาพูดว่า “ ดี ”
“ แต่ ฉันมีเงื่อนไขสองข้อ ”
“ ว่ามาสิ ”
“ ข้อแรก ห้ามแตะต้องบ้านเด็กกำพร้าและบริษัทเตชิตออกแบบ ”
“ ได้ ”
“ ข้อสอง หย่ากับฉัน ”
ฉันเข้าใจแล้ว ถึงแม้ฉันจะกลับไปรักดนุนัยอีก ในใจดนุนัยมีเพียงจิณณา
อย่างนั้นแล้วฉันก็ไม่ควรเก็บจินตนาการที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเหล่านั้นไว้อย่างไม่มีเหตุผลอีก
ดนุนัยไม่เคยรักฉันเลยสักนิด จากต้นจนปลายเขาล้วนรักจิณณา
แยกความจริงได้อย่างชัดเจนฉันก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว
เดิมทีฉันนึกว่าดนุนัยจะตอบตกลงอย่างไม่อ้อมค้อม แต่ปลายสายด้านนั้นกลับตกสู่ความเงียบ
ผ่านไปนานชายหนุ่มจึงจะพูดว่า “ เงื่อนไขข้อที่สองทำไม่ได้ ”
ฉันประหลาดใจเล็กน้อย ทำใจให้สบาย พูดว่า “ เงื่อนไขสองข้อ ขาดข้อเดียวก็ไม่ได้ เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ประธานดนุนัยพิจารณาให้ชัดเจนว่าช่วยคนรักของตัวเอง หรือแก้แค้นฉันต่อไป ทำให้ฉันทุกข์ทรมานต่อไป ”
“ เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว คุณยังคิดว่าผมกำลังทำให้คุณทุกข์ทรมานอยู่อีกหรือ? ”
ปลายสายโทรศัพท์ เสียงของดนุนัยแหบพร่าเล็กน้อย
ฉันสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขณะหนึ่ง
ใช่ ถ้าไม่มีเรื่องนี้ เขาจะทำให้ฉันทุกข์ทรมานได้อย่างไร?
ทั้งที่เป็นการประคองไว้บนอุ้มมืออย่างจริงใจ
แค่ในเวลานี้ฉันเลอะเลือนอีกแล้ว ฉันหลุบตาลง ตอบกลับว่า “ คุณไม่รักฉัน ดีกับฉัน จากนั้นตอนที่คนที่คุณรักตกระกำลำบากค่อยคุกคามฉัน ทำให้ฉันตกเข้าไปในดินแดนความฝันที่คุณจัดเตรียมไว้ ค่อยฉีกให้ขาดด้วยตัวคุณเอง นี่ก็คือความทุกข์ทรมาน ”
ตอนที่พูด ในใจฉันเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ฉันยอมอยู่ในความฝันนี้ไม่อยากตื่น
แต่ความเป็นจริงโหดร้ายเกินไปแล้ว
ตอนที่ฉันนึกว่าเขาจะพูดอะไร โทรศัพท์วางสายไปแล้ว
ฉันยังไม่จากไป ผู้อำนวยการคนก่อนก็เข้ามาพูด กำหนดการมีการเปลี่ยนแปลง อาจไม่ต้องย้ายบ้านแล้ว ให้พวกเรารออีกสักหน่อย
ด้านหลังเป็นเสียงหัวเราะมีความสุขเป็นพิเศษของเด็กๆ ฉันหันหน้าไป มองดูพวกเขามีความสุข กลับพลันสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อย
คืนนั้นฉันกลับบ้าน ดนุนัยรอฉันอยู่ในบ้านแล้ว
ฉันเห็นว่าเขาไม่มีความสุขเล็กน้อย “ ประธานดนุนัย คุณเข้าบ้านคนอื่นตามใจชอบแบบนี้ เกรงว่าจะไม่ค่อยดีนะคะ ”
ดนุนัยลุกขึ้น กอดฉันไว้ในพริบตา พูดเสียงอ่อนโยนว่า “ ไม่ ผมไม่อยากหย่ากับคุณ ”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนแบบนั้น
แขนที่กอดฉันทั้งที่มีแรง กลับเหมือนกลัวจะทำฉันเจ็บ ก็ไม่กล้าออกแรง
ใจฉันแน่นตึง ดิ้นรน
มือของชายหนุ่มกอดรัดฉันไว้แน่น ฉันออกไปไม่ได้ ทำได้เพียงยืนตรงแล้วพูดว่า “ ประธานดนุนัย อย่าทำให้ตัวเองลำบาก กอดคนที่ไม่รักคนหนึ่ง ใช้น้ำเสียงแบบนี้เอ่ยวาจา คุณไม่คิดว่าขัดกับความรู้สึกของตัวเองหรือคะ? ”
“ ณิชา... ”
“ ประธานดนุนัย โปรดอย่าเรียกฉันว่าณิชา(ต้นฉบับบอกให้เรียกนามสกุลด้วย น่าจะบอกให้พูดเป็นทางการกว่านี้) คุณทำท่าทางสนิทสนมแบบนี้ ฉันยอมรับมันไม่ได้ ”
ฉันพูดอย่างจริงจัง ทำให้ตัวเองไม่อึดอัดเวลาอยู่ต่อหน้าเขาให้มากที่สุด
ดนุนัยก้มศีรษะลง มองฉันแล้วพูดว่า “ ณิชา ผมบอกกับคุณอย่างตั้งใจ แค่ครั้งนี้ คุณปล่อยเธอไป หลังจากนั้น ในโลกของผมมีแค่คุณ นี่เป็นครั้งสุดท้าย ”
มีแรงจูงใจเป็นอย่างมาก
ฉันอ้าปาก เกือบจะตอบตกลงแล้ว แต่ฉันในตอนนี้มีสติครบถ้วนเกินไปแล้ว
ฉันดึงมุมปากขึ้นยิ้มเย็นชา “ ประธานดนุนัย ฉันคิดว่าจิตวิญญาณที่อุทิศตนประเภทนี้ของคุณทำให้คนซาบซึ้งใจอยู่บ้างเสียจริง แต่น่าเศร้า ฉันตื่นแล้ว หมัดเดียวของคุณตีฉันให้ตื่น ตอนนี้ฉันปวดใจเป็นอย่างมาก คุณถักทอฝันหวานอีกฉันก็นอนไม่หลับแล้ว ”
“ ณิชา ”
“ ประธานดนุนัย คุณก็รู้นานแล้วว่าจิณณาจะแก้แค้นฉัน คุณรู้ว่าเธอจะทำความผิดครั้งแล้วครั้งเล่า คุณกลัวว่าความผิดจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินไปจนคุณช่วยไม่ได้ คุณอยู่ข้างกายฉันดีกับฉัน ก็เพื่อรอเวลานี้ไม่ใช่หรือ? ใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของฉันที่มีต่อคุณ ทำให้ฉันยอมแพ้ ”
การแสดงออกของฉันสงบนิ่ง มั่นใจว่าฉันรู้เรื่องทั้งหมดดีแล้ว
“ ณิชา ทำไมคุณต้องดื้อรั้นด้วย ”
ดนุนัยมองฉัน ใบหน้านั้นยังงดงามเย็นชาเช่นนี้ ดูดีแบบนี้
ไม่เสียแรงที่ฉันรักมาสิบกว่าปี
ตอนแรกฉันแต่งงานกับเขาอย่างยินดียิ่ง นึกว่าจะมีผลลัพธ์ที่ดีอย่างหนึ่ง กลับคิดไม่ถึงว่า ตัวเองจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
“ ใช่ ฉันก็เป็นคนดื้อรั้น ถ้าไม่หย่า ฉันก็ไม่ถอนฟ้องร้องคดีความ บ้านเด็กกำพร้าให้คุณรื้อตามใจชอบ ฉันก็ไม่สนใจแล้ว หรือประธานดนุนัยสามารถหาคนมาลอบฆ่าฉันได้ คุณมีเงินแบบนี้ ทักษะการแสดงก็ดี สามารถปิดบังความจริงไว้ได้โดยไม่มีข้อบกพร่องอย่างแน่นอน ”
ฉันพูดจบ ดนุนัยเงียบไปนานมาก นานมาก
ฉันมองเห็นความสับสนในการแสดงออกของเขา ยังมีความเจ็บปวด
ฉันเร่งเขาว่า “ ประธานดนุนัย เลิกเล่นละครสักทีจะได้มั้ย? ทำให้ฉันทุกข์ทรมานไม่ได้ คุณก็จะเจ็บปวดทรมานใช่มั้ย? ”
บางทีคำพูดของฉันในที่สุดก็ยั่วโมโหเขาแล้ว
ครู่ต่อมาสีหน้าของดนุนัยก็อ่อนลงมาแล้ว พูดว่า “ ก็ได้ หย่า วันมะรืนนี้ เก้าโมงเช้า ”
วันมะรืนนี้ก็คือวันจันทร์
พอชายหนุ่มออกไป เส้นกั้นทั้งหมดในใจฉันในที่สุดก็พังทลายลง ฉันไม่ยอมร้องไห้ ฉันทำได้เพียงปล่อยให้น้ำตาไหลเข้าไปในใจ
แต่ส่วนของเกลือในน้ำตามีมากเกินไป ใจที่ถูกดนุนัยทำร้ายจนแตกสลายสาหัสดวงนั้นของฉันถูกน้ำตาสาดเทเข้ามา
เจ็บเหลือเกิน
เจ็บเหลือเกิน
เผลอแป๊บเดียวก็ถึงวันจันทร์แล้ว
ฉันก็ไม่รู้ว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ฉันใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร
แต่เช้าวันจันทร์ ฉันยังใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดรอบตาคล้ำของตัวเอง ใช้แปรงปัดแก้มเพิ่มความมีชีวิตชีวา
จัดผมจนไม่เหลือเส้นที่ยุ่ง เลือกเสื้อผ้าที่ตัวเองพอใจที่สุดตัวหนึ่ง
ไปสำนักกิจการพลเรือนแล้ว
ฉันคิดว่า นี่อาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของฉันกับดนุนัยแล้วจริงๆ
ตอนที่ฉันไปถึงสำนักกิจการพลเรือน ดนุนัยยืนที่ปากประตูแล้ว
สีหน้าของชายหนุ่มดูไม่ดียิ่ง รอบตาคล้ำหนักมาก ที่คางยังมีตอหนวดสีเขียวเล็กๆ ทั้งตัวคนดูเหมือนจะไม่สดใสอยู่บ้าง
นี่เหมือนเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นดนุนัยเป็นแบบนี้
เขาในเวลาปกติมักจะเพอร์เฟ็ค เย่อหยิ่งทะนงตัวแบบนั้น
ฉันเดินเข้าไป ดนุนัยเปิดปากก่อน “ ต้องหย่าให้ได้เลยใช่มั้ย? ต้องการจะคิดใคร่ครวญอีกทีหรือเปล่า? ”
น้ำเสียงของเขาแสดงการอ้อนวอนขอร้องอยู่ส่วนหนึ่ง ฉันนึกว่าตัวเองฟังผิดไป
“ หย่าเถอะ ประธานดนุนัยก็ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมในความเกลียดชังจนออกมาไม่ได้ ต้อนรับชีวิตใหม่เร็วหน่อยถึงจะดี ”
ฉันจงใจทำตัวเป็นอิสระไม่ผูกมัด
ดนุนัยมองฉัน คิ้วขมวดขึ้นเบาๆ “ ณิชา คุณไม่เหลืออาลัยอาวรณ์ต่อผมสักนิดเลยหรือ? ”
“ อาลัยอาวรณ์อะไรหรือคะ? ” ฉันเงยหน้า ประสานตาดำของชายหนุ่ม พูดอย่างห่างเหินว่า “ อาลัยอาวรณ์เท้าเหยียบเรือสองแคมของประธานดนุนัย หรืออาลัยอาวรณ์การใช้ประโยชน์ของประธานดนุนัย? ”
“ ใช้ประโยชน์หรือ? ผมเคยใช้ประโยชน์จากคุณเมื่อไรกัน! ”
“ ประธานดนุนัย ตอนที่พูดประโยคนี้คุณหน้าชามั้ย? ทำไมพวกเราถึงหย่ากันได้ล่ะ? ไม่ใช่เพราะคุณอยากใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของฉันที่มีต่อคุณ ถอนฟ้องร้องคดีความของจิณณาหรือ? ”
“ ณิชา… ”
ฉันเห็นว่าสายตาของดนุนัยเจ็บปวดมาก
แม้กระทั่งเจ็บทรมาน
ก็เหมือนว่าเขาไม่อยากจากฉันไปมากจริงๆ
“ ประธานดนุนัย ไปกันเถอะค่ะ ”
เลิกแสดงได้แล้ว
ไม่อย่างนั้นฉันก็จะคิดว่าเป็นเรื่องจริงแล้ว
ฉันเดินอยู่ข้างหน้า เนิ่นนานก็ไม่ได้ยินเสียงรองเท้าหนังของชายหนุ่ม
หันหน้าไปมองก็เห็นดนุนัยยังยืนอยู่ที่ปากประตู สีหน้าเหมือนกับเมื่อครู่นี้
ตอนนั้นใจฉันก็ลังเลแล้ว
แต่ฉันนึกย้อนเรื่องราวทั้งหมดในอดีตขึ้นทีละรอบ ทำให้ตัวเองมีสติครบถ้วน
ดนุนัยมองฉัน ในที่สุดยกเท้าก็เดินมาทางฉัน
พวกเราล้วนอยู่ในสถานที่ที่ทำเรื่องหย่าด้วยกันแล้ว ตอนที่เจ้าหน้าที่ถามพวกเราถึงวิธีการแบ่งทรัพย์สิน ก็ได้ยินดนุนัยพูดว่า “ เธอออกจากบ้านไปตัวเปล่า ”