ตอนที่83 สิ้นสุดลงแล้วจริงๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่83 สิ้นสุดลงแล้วจริงๆ
ต๭นที่83 สิ้นสุดลงแล้วจริงๆ ฉันเอียงตามองดนุนัยสักพัก หัวเราะเบาๆ “ ใช่ ฉันออกจากบ้านไปตัวเปล่า ” ในใจฉันในเวลานี้รู้สึกดีใจเล็กน้อยอย่างไม่คาดคิด ที่ฉันดีใจก็คือ ในที่สุดดนุนัยก็เลิกเล่นละครแล้ว แบบนี้แล้วฉันก็ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ แต่คำตอบที่ดนุนัยให้ฉันเหมือนจะน่าประหลาดใจเล็กน้อย “ ณิชา คุณเห็นด้วยหรือ? ” “ ใช่ค่ะ ประธานดนุนัยยังต้องการอะไรอีกหรือคะ? ถ้าคุณชอบบ้านหลังนั้นของฉันที่หมู่บ้านกรีนเฮ้าส์ งั้นฉันก็ยกให้คุณ ” ฉันมองเขา น้ำเสียงห่างเหิน ดนุนัยขมวดคิ้วเป็นร่องลึก เนิ่นนานกว่าจะพูดว่า “ ไม่ต้อง ” ตอนที่เจ้าหน้าที่เขียนหนังสือสัญญา ดนุนัยก็เสริมอีกหนึ่งประโยค “ ช่างเถอะ ผมให้หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นของบริษัทนภากรุ๊ปจำกัดแก่เธอเพื่อเป็นการชดใช้ ” ประโยคนี้ของเขาทำให้ฉันตะลึงงัน แต่ฉันก็ตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว นี่น่าจะเป็นข้อเสนอใหม่ที่ดนุนัยหยิบยื่นให้ฉัน ฉันปฏิเสธทันควัน “ ฉันไม่ต้องการ ” หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นของบริษัทนภากรุ๊ปจำกัด... ราคาอย่างต่ำคิดเป็นหมื่นล้าน เงินมากขนาดนี้ ฉันเอาไปแค่ครั้งเดียว ก็ยังต้องมีความสัมพันธ์ดึงไม่ได้คลายไม่ออกกับดนุนัยต่อไป เจ้าหน้าที่มองฉัน สีหน้าสงสัย ราวกับเพิ่งเคยเห็นคนผลักเงินออกจากตัวเป็นครั้งแรก “ ณิชา ผมให้คุณ คุณต้องรับไว้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดจะหย่า! ” น้ำเสียงของดนุนัยเป็นการออกคำสั่ง ฉันมองเขา แสดงสีหน้าขบขัน “ ประธานดนุนัยมีแผนการอะไรอีกคะ? ทำไมอยู่ดีๆถึงเข้ามาให้เงินล่ะ? ” “ ณิชา... ” “ ฉันไม่ต้องการการชดเชยจากประธานดนุนัย แค่ประธานดนุนัยหย่ากับฉันได้ ฉันก็โล่งใจแล้ว ” พวกเราทำการหย่าร้างในออฟฟิศวีไอพี ด้านในมีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเขียนหนังสือสัญญาหย่าร้างคนหนึ่ง เขามองพวกเราด้วยสีหน้าละอายใจยิ่ง โดยเฉพาะตอนที่มองฉัน เหมือนกำลังมองสิ่งที่หาดูได้ยาก ดนุนัยยิดหยัดอยู่ครู่หนึ่ง ฉันปฏิเสธอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ยอมผ่อนผัน “ ก็ได้ งั้นเอาตามที่คุณต้องการเถอะ ” เจ้าหน้าที่เขียนหนังสือสัญญาเสร็จเรียบร้อย ให้พวกเราดูรอบหนึ่ง พวกเราไม่มีลูก ฉันก็ไม่ต้องการเงินของดนุนัย โดยธรรมชาติก็ไม่มีการข้องเกี่ยวสัมพันธ์ใดๆ ไม่มีปัญหา ฉันก็ยกปากกาเซ็นชื่อตัวเองด้านหลังช่องฝ่ายหญิง ดนุนัยหยิบปากกา มองฉัน ในสายตาเต็มไปด้วยการเสาะหาข้อเท็จจริง ฉันไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร ฉันก็ไม่มีอารมณ์มาขัดเกลา ในที่สุดดนุนัยลดระดับปากกาลง ตอนที่ฉันมองเขาเขียนชื่อตัวเองลงไปด้านหลังช่องฝ่ายชายคือ มุมปากของฉันโค้งขึ้นเล็กน้อย แสร้งว่าตนนั้นสงบนิ่งมาก ที่จริงแล้วใจเจ็บเหมือนถูกคนบีบให้ตาย ดนุนัยเซ็นเสร็จ หันหน้ามองฉัน เห็นว่าฉันกำลังหัวเราะ เดิมทีริมฝีปากอมยิ้มบางๆ พลันยกขึ้นด้านหนึ่ง เผยรอยยิ้มเย็นชา พูดว่า “ ณิชา เป็นไปตามที่คุณต้องการทั้งหมดแล้ว ” “ ใช่ เป็นไปตามที่ฉันต้องการแล้ว ” ฉันพูดอย่างหนักแน่น เจ้าหน้าที่ยืนยันสัญญาเสร็จ หลังจากนั้นแบ่งเป็นสองส่วนแยกวางไว้ตรงหน้าฉันกับเขา จากนั้นก็เก็บทะเบียนสมรสตรงหน้าพวกเราไป ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นใบหย่าสองฉบับ ฉันหยิบของ เดินออกไปข้างนอกด้วยกันกับดนุนัย แต่โถงทางเดินของสำนักงานกิจการพลเรือนเป็นระยะทางสั้นๆเพียงไม่กี่เมตร ฉันกลับปรารถนาอย่างแรงกล้าให้มันยาวขึ้นอีกหน่อย คู่รักวัยใสที่มาจดทะเบียนสมรสเดินเข้ามาทางด้านหน้าพวกเรา ทั้งสองอิงแอบแนบชิดกัน มีความสุขเช่นนั้น นี่ทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ฉันจดทะเบียนสมรสกับดนุนัยขึ้นได้ บางทีความรู้สึกแบบนี้ของพวกเขาจึงจะยาวนาน แต่ฉันกับเขา เป็นเพียงละครชวนหัวฉากหนึ่ง ในที่สุด พวกเขาเดินมาถึงปากประตูแล้ว ฉันหันไปพูดกับดนุนัยว่า “ ประธานดนุนัย อย่าเจอกันอีกเลย ” พูดจบ หันหน้าก็จากไป เก็บความภาคภูมิใจในตอนสุดท้ายไว้กับตัวเอง ฉันไปสถานีตำรวจขอถอนฟ้องร้องคดีความ หลังจากวันนั้นใช้ชีวิตอย่างหมดอาลัยตายอยาก ทั้งร่างล้วนเหม่อลอยสับสน ในการทำงานก็ทำผิดพลาดอยู่บ่อยๆ ขอโทษไปทีละครั้ง แต่ฉันมักจะสติหลุดลอยโดยประมาท ตกดึกก็กลับบ้าน ตอนที่ฉันยืนที่ปากประตูมักจะสูดหายใจลึกๆทีหนึ่ง เข้าประตูก็จะมองซ้ายมองขวา ช่วงเวลานั้น ฉันสิ้นหวังจากที่เคยหวัง ทั้งที่รู้ว่าดนุนัยจะไม่กลับมาอีก ทั้งที่รู้ว่าพวกเราหย่ากันไปแล้ว แต่ฉันยังกอดความหวังไว้ ยังดีที่เขาไม่รู้จักฉันที่น่าขันแบบนี้ เพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมแบบนี้ของตัวเอง ฉันเชิญช่างประจำหมู่บ้านมาเปลี่ยนกลอนประตูทันที ทั้งยังสั่งเป็นพิเศษว่า นอกจาก ตัวฉันแล้ว คนอื่นไม่สามารถหยิบบัตรที่ใช้เข้าบ้านฉันได้ ประชุมประจำเดือนของบริษัท ผู้จัดการผุสดีเรียกชื่อฉัน แต่ฉันสติหลุดลอย นานกว่าจะรับรู้ จนกระทั่งการประชุมประจำเดือนเสร็จสิ้นลง ผู้จัดการเรียกฉันเข้าไปพบในออฟฟิศ พูดกับฉันว่า “ ณิชา เธอคิดว่าพวกเราเต็มใจรับคนที่เคยมีประวัติอาชญากรรมแบบนี้อย่างเธอนักหรือ? ” “ อะไรนะคะ? ” ฉันมองผุสดีอย่างเฉื่อยชา เธอผู้ใจดีมาตลอด วันนี้แตกต่างออกไปเป็นพิเศษ ในดวงตาที่มองฉันก็มีความรู้สึกรังเกียจอยู่หลายส่วน ผุสดีพูดว่า “ ที่พวกเรารับเธอเข้ามาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งของนภทีป์ ในการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจครั้งหนึ่ง เขาทักทายคนมากหน้าหลายตาจากสาขาอาชีพเดียวกัน พูดว่าถ้าเธอมาสมัคร หวังว่าพวกเราจะตกลง ทั้งยังรับรองว่าเธอมีความสามารถมาก ” “ นภทีป์… ” ฉันพึมพำ ผุสดีพูดไปว่า “ เดิมทีตอนที่เธอเพิ่งเข้ามา ความสามารถไม่เลวจริงๆ แต่ช่วงนี้เธอเป็นอะไรไป ทำผิดพลาดมาตลอด ยังโดนลูกค้าร้องเรียนแล้ว ถ้าเธอไม่อยากทำก็ออกไปให้เร็วที่สุด อย่านึกว่าเธอเป็นเพื่อนนภทีป์ ฉันจะไม่กล้าไล่ออก ” ฟังคำพูดของผุสดีแล้ว ใบหน้าของฉันร้อนยิ่ง ฉันนึกว่าตัวเองโชคดีมากตลอด ความสามารถได้รับการยอมรับ กลับคิดไม่ถึงว่าที่แท้เป็นเพราะความช่วยเหลือของนภทีป์ ฉันรีบขอโทษ ทั้งยังบอกกับผุสดีอีกครั้งว่า ตัวเองจะไม่ทำพลาดซ้ำอย่างแน่นอน หลังจากนั้นฉันไปที่เขตก่อสร้างในความรับผิดชอบหลายแห่งเพื่อตรวจดูสถานการณ์ อีกทั้งหลังจากติดต่อกับลูกค้าไม่กี่ท่าน แล้ว แก้ไขความรู้สึกไม่พอใจในจุดที่พวกเขาไม่พอใจในคืนนั้น ตอนที่มองขึ้นไป ท้องฟ้าด้านนอกปรากฏสีขาวของปลาท้องขาวขึ้นอย่างไม่คาดคิด ฉันยังอยู่ที่บริษัท จนกระทั่งเสร็จงานแล้ว ฉันถึงรับรู้ได้ว่าตัวเองหิวจนท้องร้องจ๊อกๆ ไม่ได้กินข้าวมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว ฉันออกไปซื้อโจ๊กชามหนึ่งที่เคเอฟซีเปิดให้บริการยี่สิบสี่ชั่วโมง กินเบอร์เกอร์ชิ้นหนึ่ง เวลานี้กลับบ้านไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน ฉันพาดตัวในร้านเคเอฟซีสักพัก เพื่อทำงานต่อในวันที่สอง เพราะงานเร่งด่วนเมื่อวันก่อน ตอนที่ฉันเลิกงานทำงานใกล้จะเสร็จแล้ว นึกถึงคำพูดเมื่อวานของผุสดีขึ้นได้ ฉันโทร.หานภทีป์เพื่อแสดงความขอบคุณกับเขาเป็นพิเศษ แต่นภทีป์กลับพูดว่า “ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เธอได้มาด้วยตัวเอง ” ฉันวางสายโทรศัพท์ ลังเลสักพักก็ตัดสินใจไม่บอกเขาถึงเรื่องที่ฉันหย่าร้างจะดีกว่า กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด ที่จริงแล้วฉันไม่เคยเจอเขานานมากแล้ว แต่ฉันรู้สึกว่าแบบนี้ก็ดี ทำให้เขามีเวลาได้คลุกคลีกับคนอื่นมากขึ้น บางทีวันหนึ่งก็อาจหาแฟนสาวได้คนหนึ่ง วันที่สองเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันฝังศีรษะอยู่ในบ้านนอนได้สิบสองชั่วโมงแล้ว เดิมที่ยังคิดจะนอนต่ออีกสักพัก เพียงได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากประตูบ้าน ทำให้ครู่ต่อมาฉันก็ตื่นเต็มตาแล้ว! ฉันลุกขึ้นนั่งกับเตียง ได้ยินเสียงประตูเปิดดังแอ๊ดเบาๆเงียบหายไป สิ่งที่ดังขึ้นมาแทนคือเสียงเคาะประตู ดนุนัย ฉันเดาได้ว่าเป็นเขา แต่ฉันยังจงใจถามประโยคหนึ่งไปว่า “ ใคร ” “ ผมเอง ” ดนุนัยตอบ ฉันพิงประตู พูดว่า “ ประธานดนุนัย พวกเราหย่ากันไปแล้ว ไม่ทราบว่าวันนี้คุณมีธุระอะไรคะ? ” ฉันก็ไม่คิดจะให้เขาเข้ามา ที่จริงแล้วฉันก็เพิ่งจะจัดเก็บความรู้สึกของตัวเองเสร็จเรียบร้อย ไม่อยากให้เขาเข้ามาทำให้สับสนโดยที่ไม่ต้องออกแรงอีก 
已经是最新一章了
加载中